บัญชีสูญ

หลังจากที่รอคอยวัตถุดิบ - เรื่องราวต่างให้มากระทบต่อมอิมเพรสอยู่นานสองนาน  กับเวลาเพียงแค่ 4-5 วันในสัปดาห์นั้นรู้สึกว่าช่างเนิ่นนานเสียนี่กระไร  ผมทุรนทุรายแทบลงแดงตายเฉกเช่นเดียวกับผู้ติดยาเสพติดเพียงเพราะไม่มีเรื่องราวจะให้ขีดเขียน

จนเมื่อสองวันก่อนคุณผู้หญิงของบ้านเธอบ่นสนทนากับผมเกี่ยวกับเรื่องเงินๆทองๆของเธอให้ฟัง

ที่ว่าเธอบ่นเพราะค่อนข้างแน่ใจว่าเธอไม่ต้องการความช่วยเหลือหรือความคิดเห็นใดๆจากผมซึ่งในขณะนั้นกำลังนั่งทำหน้าเมื่อยเป็นไอ้เบื้อกอยู่หน้าเครื่องพิมพ์ดีดที่แพงที่สุดในโลก (ของผม)

และการที่เธอพูดอย่างไม่เว้นวรรคเปิดช่องไฟให้ผมได้เอื้อนเอ่ยถ้อยคำใดๆได้นั้นอีกเช่นกัน  ยิ่งทำให้ผมนั่งทำหน้าเป็นไอ้เบื้อกต่อไป--เพื่อฟังเรื่องของเธอ

พี่สาวของเธออยากให้เธอใช้บัตรเครดิตผ่อนสินค้าให้  นั่นก็ไม่ต่างกับการขอยืมเงินกลายๆอีกรูปแบบหนึ่ง  พี่สาวของเธอให้คำมั่นสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะผ่อนชำระให้ตรงเวลา--ไม่ต้องห่วง  

หัวคิ้วของผมขมวดเข้าหากันแน่น แต่เธอไม่ได้สนใจสังเกตเห็นแต่อย่างใด  เธอจึงเริ่มเล่าต่อหลังจากหยุดหายใจเพียงเสี้ยววินาที

พี่สาวต้องการได้โทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่!  ผมก้มหน้าแอบแสยะยิ้มซึ่งเชื่อแน่ว่าหากเธอได้เห็นมีหวังเรื่องที่เล่าต้องค้างคาไป--เปลี่ยนมาเป็นเอาเรื่องผมแทน

พี่เธอจะซื้อให้สามีเธอใช้แทนเครื่องเก่า  ผมรีบพูดสวนขึ้นไปในทันทีว่าเครื่องเก่ามันพังใช่มั้ยล่ะ?  แถมยังมีความจำเป็นที่จะต้องใช้อีกเสียด้วยใช่มั้ย?  เธอบอกว่าเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกัน  ถึงมันจะใช่หรือไม่ใช่ก็เถอะ  ใครเขาจะบอกเหตุผลที่แท้จริง  ก็อ้างว่ามีความจำเป็นเท่านั้นเท่านี้  ไอ้เราก็ไม่กล้าทู่ซี้หาความมาก--แล้วเธอก็ถอนลมหายใจเสียงดังพร้อมกับขอตัวไปอาบน้ำ  ผมร้องตะโกนไล่หลังว่าให้คิดให้ดี  ระวังเอาไว้ให้มากๆ  เรื่องเงินทองน่ะมันไม่เข้าใครออกใครหรอกนะ

เธอเงียบเสียงไป  ผมจึงฉวยเอาโอกาสระหว่างนี้ยกตัวอย่างของการกู้ยืมเงินให้กับคนอื่นโดยยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเพื่อนสนิทของผมเองมาบอกกล่าว


*    *    *

เขา - เพื่อนผมเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ทำเรื่องยื่นกู้เงินสดจากสถาบันการเงิน 'เงินสดด่วน' แต่เขาไม่เคยคิดอยากจะทำกระทั่งเมื่อเพื่อนเก่าสมัยเรียนเดือดร้อนขอความช่วยเหลือ  มีหรือคนอย่างเขาจะใจจืดใจดำ  เขายินดีทำเรื่องกู้ให้ในนามของเขาเป็นจำนวนเงินหลักหมื่น!

ผมเคยนึกอยากทัดทานเขา  แต่ก็ต้องจำใจไม่พูดเพียงเพราะเขาให้เหตุผลว่า 'เพื่อน' มันเดือดร้อนจริงๆ  และเขาก็มั่นใจในคำมั่นสัญญาที่เพื่อนจะผ่อนชำระอย่างตรงเวลา

เพื่อนของเขาส่งเงินผ่อนชำระให้เขาได้เพียงเกือบครึ่งหนึ่งของยอดเงินทั้งหมด  จากนั้นก็เริ่มส่งช้าไม่ตรงกำหนดเวลาที่ต้องส่งยอดชำระ และเมื่อมีครั้งที่หนึ่งครั้งที่สองย่อมมีตามมา  กระทั่งหลบลี้หนีหน้าขาดการติดต่อ!

'เงินสดด่วน' ส่งใบแจ้งเตือนต่อเขาหากยังไม่ชำระหนี้ที่ค้างเหลือจะถูกฟ้องดำเนินคดีตามกฎหมาย  สุดท้ายเขาก็ต้องเป็นผู้ชำระเงินกู้ที่ตนเองไม่ได้เป็นผู้ใช้--แต่เป็นผู้ก่อ

ใครบอกว่า 'เงิน' ซื้อหาสิ่งใดไปไม่ได้หมดทุกอย่าง?  ก็แล้วเงินจำนวนหลักหมื่นที่เพื่อนผมต้องจ่ายไปนี่ล่ะ  มัน 'ซื้อใจ' ของผู้ที่เขามอบ 'ความเป็นเพื่อน' ให้อย่างสนิทใจได้หรือไม่

เขาได้ระบายความอัดอั้นที่สุมอยู่ในอกให้ผมฟังวันหนึ่งว่า  เขาจะไม่ติดใจอะไรมากไปกว่านี้เลยหากว่าเพื่อนคนนั้นจะหายตายจากไปจากชีวิตของเขา  แต่การณ์กลับว่าเป็นเขายังได้ข่าวของเพื่อนคนนี้ยังคงอยู่ดีมีสุข  ออกรถจักรยานยนต์คันใหม่  โทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่...เขาระบายลมหายใจเสียงดัง  ทำให้ผมนึกเห็นใจภาระทั้งส่วนตัวและครอบครัวของเขาเป็นอย่างยิ่ง  แต่ก็ทำได้เพียงนั่งคุยให้เขาได้ปรับทุกข์--ระบายมันออกมา

พึงคิดเอาไว้เสมอเลยว่า ก่อนที่จะให้เงินใครยืมนั้น  ให้แทงเป็นบัญชีสูญ  ไม่ต้องไปตามทวง  ไม่ต้องวิตกกังวลว่าเมื่อใดผู้ที่ตกเป็น 'ลูกหนี้' ของเราจะนำเงินมาคืนชดใช้  หากเขาผู้นั้นให้ความสำคัญกับคำมั่นสัญญา เงินของเรามันก็กลับมาเอง แต่ถ้ามัน 'เบี้ยว' ก็คิดเสียว่านั่นคือการ 'ซื้อใจคน'!--เขาบอกบทสรุปจากประสบการณ์ตรงของเขาให้ผมฟัง


*    *    *

เสียงคุณผู้หญิงของบ้านตะโกนโหวกเหวกเล็ดลอดออกมาจากห้องน้ำ  เธอร้องบอกว่านี่มันไม่ใช่เพื่อนแต่ฉันเป็น 'พี่น้องกันนะยะ'!

ผมตีความหมายจากคำพูดของเธอ  พร้อมกับโพล่งสวนตอบกลับไปโดยเร็วเทียบเท่าที่ใจคิด...

เตรียมแทงบัญชีสูญกับราคาที่ต้องจ่ายเอาไว้ล่วงหน้าหรือยังเล่า  คุณผู้หญิง!


ด้วยมิตรภาพ
28 มกราคม 2549