สวัสดีค่ะ เอาเรื่องมาลงอีกครั้งหนึ่ง ขอบคุณทุกท่านที่เคยอ่านและติชมไว้ในเรื่องก่อนๆ นะคะ :D
จะเขียนเรื่องสั้นๆ แต่ออกมายาวววววทุกทีเลย แงๆ T_Tเรื่องนี้คงจะสองตอนจบค่ะ เขียนใกล้จบแล้ว แต่เอามาลงครึ่งเดียวก่อนนะคะ ^^
เคยไหมคะที่รักใครคนหนึ่งเสียเหลือเกิน ทั้งๆ ที่ถ้าจะถามว่า รักเค้าเพราะอะไร? หรือเค้ามีอะไรดีๆ ที่ทำให้เรารักนะ? ก็ตอบไม่ได้ หรือตอบได้ด้วยซ้ำว่า ไม่เห็นมีเลย อะไรดีๆ ที่ว่า มีแต่นิสัยเสียๆ เต็มไปหมด..
แต่ก็รักจังเลย.. ทำไมหนอ..
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คำว่ารักคงยังไม่พอ
ฟ้ามืดแล้ว แต่สายฝนภายนอกที่ตกติดต่อกันมาตั้งแต่บ่ายยังไม่ขาดเม็ด พราวนั่งจ้องมองมันอยู่อย่างนั้น ผ่านบานหน้าต่างที่เปิดแง้มไว้ เนิ่นนาน จนละไอเย็นบางส่วนผ่านเข้ามากระทบผิวกาย หนาวเหน็บจนไม่น่าเชื่อว่า สายฝนกลางเดือนมิถุนายนจะหนาวได้ถึงขนาดนี้..
หรือเพราะความหนาวนั้นมันมาจากภายในกันนะ..
เสียงโทรศัพท์ที่กรีดก้องขึ้นในความเงียบปลุกให้พราวตื่นจากภวังค์ความคิด ดวงตาหม่นมัวสดใสขึ้นแวบหนึ่งเมื่อผวาไปรับ ก่อนที่จะนั่งลงอย่างหมดแรงตามเดิม เมื่อได้ยินเสียงปลายสายชัดเจน
"แฮปปี้เบิร์ทเดย์นะพราว ไม่ออกมาสนุกกับเพื่อนๆ แน่เหรอ" เป็นเสียงสดใสของเพื่อนคนหนึ่งของพราว ที่ปลายสายมีเสียงหัวเราะเฮฮา และเสียงดนตรีสนุกสนานแว่วเข้ามาชัดเจน คงจะในผับหรือคาราโอเกะที่ไหนสักแห่ง ที่เพื่อนๆ ชอบไปรวมตัวกันนั่นแหละ ยิ่งวันนี้เป็นวันเสาร์ การรวมตัวจึงเร็วกว่าปกติ
พราวมองนาฬิกา อย่างที่มองมันมาหลายชั่วโมงติดต่อกันแล้วในวันนี้ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้สดใสที่สุด
"ไม่ไปละจ้า พราวปวดหัวจริงๆ ขอโทษด้วยนะ แต่บอกทุกคนสนุกกันให้เต็มที่เถอะ ไม่ต้องห่วงพราว "
"พราวออกมาเถอะ อย่าอยู่คนเดียวเลย ให้เราไปรับไหม" อีกฝ่ายยังถามย้ำอย่างกังวลใจ และเข้าอกเข้าใจดีว่าการ "ปวดหัว" ของพราวหมายถึงอะไร
"ไม่ต้องหรอกจ้ะ ไม่เป็นไรจริงๆ" พราวพยายามทำน้ำเสียงให้แจ่มใสขึ้นอีก "เดี๋ยวพราวจะกลับไปค้างที่บ้าน นี่เก็บของอยู่"
"แน่ใจนะ" ฝ่ายนั้นยังเป็นกังวล "ขับรถเองได้เหรอ ฝนตกหนักขนาดนี้"
พราวหัวเราะเบาๆ หากก็ยังฟังดูปร่าแปร่งแม้แต่กับตัวเอง
"พราวน่ะขับเองมาตั้งหลายปีแล้วนะจ๊ะ ไม่ได้มีคนขับให้นั่งเหมือนจิ๊บนี่นา" เมื่อได้จังหวะล้อเลียนเพื่อน เสียงพราวจึงสดใสขึ้น
"โอเค โอเค" ฝ่ายนั้นยอมแพ้ หากยังสำทับ "ถ้ามีอะไรรีบโทร.เข้ามือถือเรานะ หรือถ้าเปลี่ยนใจอยากออกมาเจอเพื่อนๆ ก็มาได้เลยนะจ๊ะ ทุกคนรอฉลองวันเกิดให้พราวทั้งนั้น"
ถ้อยคำง่ายๆ แต่จริงใจนั้นทำให้หยดน้ำอุ่นๆ เอ่อท้นขึ้นมาจนพราวต้องปาดมันทิ้ง อย่างน้อย.. ในวันที่หนาวเหน็บอย่างวันนี้ มิตรภาพและความห่วงใยในน้ำเนื้อแท้ระหว่างเพื่อน ก็ยังคงเป็นความอบอุ่นให้พราวได้เสมอ แม้ว่าความเหงาลึกๆ..ที่พราวรู้ดีว่าเกิดจากอะไร.. นั้นจะยังไม่หมดไปก็ตาม
พราววางโทรศัพท์ลงอย่างอ่อนล้า จ้องมองนาฬิกาอีกครั้งราวกับจะเร่งให้มันเดินไปเร็วๆ ให้พราวผ่านค่ำคืนนี้ไปเสียที
ค่ำคืนที่พราวรู้ดีว่า พราวจะต้องอยู่คนเดียว..
แล้วนี่พราวจะมานั่งอยู่คนเดียวทำไมกันหนอ.. พราวถามตัวเองเป็นครั้งที่ร้อย ในเมื่อพราวมีบ้านที่อบอุ่น มีพ่อและแม่ที่คงกำลังเตรียมทำกับข้าวอร่อยๆ ฉลองวันเกิดให้ลูกสาวคนเดียว มีเพื่อนๆ ที่กำลังเตรียมจัดงานเลี้ยงให้พราว เพียงแต่พราวจะขับรถออกไป ไปเจอกับแสงสีและความอบอุ่นภายนอก เจอกับความรักความห่วงใยของทุกคน..
หากพราวก็ยังนั่งอยู่ตรงนี้ อย่างที่นั่งมาตั้งแต่บ่าย บอกตัวเองว่าพราวเหนื่อยเหลือเกิน จนอยากจะอยู่เงียบๆ คนเดียวสักพัก และเมื่อหายเหนื่อย พราวก็คงพร้อมจะก้าวออกไปสู่โลกภายนอก เพื่อสนุกสนานกับใครๆ อย่างที่พราวเคยเป็น
แต่สุดท้ายพราวก็ต้องยอมแพ้ เมื่อบอกตัวเองได้ว่า พราวไม่พร้อมจะออกไปเจอใครทั้งนั้น ในเมื่อพราวกำลังรอคอยคนที่พราวอยากเจอที่สุด คนที่เคยฉลองวันเกิดด้วยกันเงียบๆ ในห้องนี้เมื่อปีที่แล้ว.. คนที่ทำให้พราวนั่งรออยู่จนเย็นย่ำ ทั้งที่พราวเองก็แน่ใจ.. ว่ามันเป็นการรอคอยที่เปล่าประโยชน์..
ภัทร.. ตอนนี้ภัทรอยู่ที่ไหนกันนะ.. ภัทรจะยังจำพราว.. จำวันเกิดพราวได้ไหม จำแผ่นซีดีเพลงอะคูสติกกีตาร์ที่ภัทรทำให้พราวเป็นของขวัญเมื่อปีก่อนได้ไหม นี่พราวยังนั่งฟังมันอยู่เลยนะ.. ฟังเพราะคิดถึงภัทรเหลือเกิน..
หยดน้ำอุ่นๆ ไหลรินลงมาอีก จนพราวต้องหลับตาลง ภาพดวงหน้าใส ระบายด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เหมือนเด็กซนๆ กับดวงตาพราวระยับนั้นยังชัดเจนในความทรงจำ ดูเหมือนเมื่อวานนี้เองที่ภัทรยังเดินไปเดินมาอยู่ในห้องนี้ ตะโกนโหวกเหวกให้พราวเข้าครัวไปช่วยภัทรทำกับข้าว ก่อนจะดุแหวๆ เมื่อพราวหั่นผักไม่ได้ดั่งใจภัทร
ก่อนจะกลายเป็นการทะเลาะกันอย่างเอาเป็นเอาตาย และประนีประนอมสงบศึกกันเมื่ออาหารทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เอร็ดอร่อยสมความตั้งใจของพ่อครัวเอก
แต่หากว่าไม่อร่อย ก็จะมีเรื่องมาทะเลาะกันต่อไปอีก ว่าไม่อร่อยเพราะใคร.. เพราะยังไงกี่ทีๆ ภัทรก็ยืนยันคอเป็นเอ็นว่า มันไม่อร่อยเพราะพราวล้างผักนานเกินไป หรือไม่ก็หั่นผักชิ้นเล็กเกินไป
พราวยิ้มขันๆ ให้กับความทรงจำรำลึกนั้น บางครั้ง.. ห้องที่มีทั้งหยดน้ำตาและเสียงทะเลาะ ก็ยังเป็นสุขกว่าห้องที่เงียบจนได้ยินเสียงฝนอย่างในวันนี้
แต่พราวก็รู้ ว่าสายเกินไปเสียแล้ว ที่จะเรียกวันคืนเก่าๆ ให้กลับมา..
ก็พราวเองไม่ใช่หรือ.. ที่เป็นฝ่ายทำให้ภัทรจากไป..
ไปจากชีวิตพราว.. นับถึงวันนี้ก็ร่วมสี่เดือนแล้วสินะ..
พราวนึกถึงเช้าวันนั้น เช้าวันเสาร์ที่แสนธรรมดาวันหนึ่ง.. วันที่ฟ้าใส แดดจ้า อย่างที่เคยเป็นอยู่ทุกวัน ไม่มีอะไรบอกกับพราวเลยว่า จะเป็นวันสุดท้ายของพราวและภัทร..
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
จากคุณ :
โยษิตา
- [
1 ก.พ. 49 13:40:25
]