CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    +*^*+."มีใครอยู่ไหมครับ...(ผมเอาความรักมาส่ง)"ตอนที่ ๒.+*^*+(ความรักไม่ใช่พิซซ่า ถึงจะส่งช้าแต่ส่งตรงจากใจ ช้าแต่ชัวร์)

    "มีใครอยู่ไหมครับ...(ผมเอาความรักมาส่ง)" ตอนที่ 1

    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4070583/W4070583.html

    -- 2 --

    เสียงนั้นคงจะดังมาก อย่างน้อยก็ดังพอที่จะทำให้ใครคนหนึ่งเดินออกจากบ้านมาหยุดยืนดูอยู่ที่หน้าระเบียง  ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยเสียงเรียบๆ


    “เกิดอะไรขึ้นล่ะ ผิง เสียงดังเชียว”


    ทั้งสองคนที่ยืนทะเลาะกันอยู่หันมามอง ก็เห็นหญิงชราวัยประมาณเจ็ดสิบกำลังมองมาด้วยแววตาสงสัย หญิงสาวที่คุณยายเรียกว่า ผิง เห็นแล้วรีบเข้าไปหาทันที


    “คุณยาย...”ร้องเรียกแล้วเข้าไปกอดแขนไว้ คุณยายหันมายิ้มให้ ก่อนจะนิ่วหน้า


    “ทำไมมันมอมแมมอย่างนี้ล่ะ ไปทำอะไรมาเรา” ผิงก้มมองตัวเองแล้วยิ้มแหยๆให้คุณยาย “ผิงทำงานค่ะ  พอดีงานยังไม่เสร็จ แต่คุณยายดูค่ะดู...” ก่อนจะหันหน้ามาทางชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า


    “นายคนนี้บุกรุกเข้ามาในบ้านเราค่ะ  แถมยังทำเสียงดัง ดูสิ คุณยายตื่นเลย” ผิงฟ้องแล้วโยนความผิดทั้งหมดไปที่ปรัชญ์ซะอย่างนั้น ได้ยังไงๆ ชายหนุ่มนึกอยู่ในใจก่อนจะสวนขึ้นมาทันที


    “อ้าวๆ พูดงี้ได้ไง คุณนั่นแหละเสียงดัง แล้วเรื่องที่หมาคุณทำลายข้าวของผมล่ะ ทำไมไม่พูด คิดจะเบี้ยวกันหรอ”


    “ก็ชั้นพูดความจริงนี่ แล้วเรื่องที่คุณบุกรุกเข้ามาล่ะ จะว่าไง” หญิงสาวสวนทันทีเหมือนกัน แต่ถูกผู้เป็นยายเอื้อมมือมาแตะแขนเบาๆ


    คุณยายรำเพยมองหนุ่มสาวทั้งสองคนแล้วส่ายหน้า มองหลานสาวตัวเองก็ดูท่าจะไม่ยอมแพ้ มองชายหนุ่มก็ดูท่าจะไม่ยอมแพ้เหมือนกัน


    ว่าแต่ พ่อหนุ่มคนนี้ อยู่ดีๆ เข้ามาในบ้านได้ยังไง คุณยายมองอย่างพิจารณา ดูท่าทางก็ไม่ใช่คนเลวเกวอะไร  แต่การเข้ามาในบ้านที่ไม่มีผู้ชายอยู่ด้วยก็เป็นเรื่องที่อันตรายและก็น่าระวังอยู่ไม่น้อย คุณยายรำเพยคิดพลางขยับแว่น หันมาบอกหลานสาวเบาๆ


    “อย่าเพิ่งตะโกนสิ ผิง เดี๋ยวไม่รู้เรื่องกันพอดี” บอกหลานสาวแล้วหันไปหาชายหนุ่ม


    “ว่าไงพ่อหนุ่ม ไหน เข้าบ้านยายมาได้ยังไง” คุณยายถามด้วยน้ำเสียงแสดงความใจดี


    ปรัชญ์มองคุณยาย เห็นสายตาที่แสดงความปราณีนั้นแล้วก็เสียงอ่อนลง


    “ผมไม่ได้ตั้งใจจะบุกรุกเข้ามาหรอกครับ แต่ผมเรียกแล้ว ก็ไม่มีใครออกมา หากริ่งก็ไม่มี เดินไปเห็นรั้วบานบุรีมันหักเป็นช่องโหว่อยู่ ผมก็เลยเข้ามา”


    ผิงฟังแล้วอดหัวเราะออกมาไม่ได้ แต่เมื่อเห็นคุณยายมองมาก็หยุดอมยิ้มเฉยๆ


    “นั่นมันช่องทางประจำของเจ้าหมูแดงนะ”ยิ้มแล้วพูดขึ้นมาลอยๆ ปรัชญ์ฟังแล้วเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน หนอย หาว่าเราใช้ช่องทางหมา อดไม่ได้ก็พูดขึ้นมา


    “ ก็ถ้าบ้านคุณมีกริ่งเหมือนบ้านคนธรรมดาๆเขา ผมก็คงไม่ต้องเข้าช่องนั้นหรอก”


    “บ้านชั้นก็มีกริ่ง ทำไมจะไม่มี หาไม่เจอเองนี่นา” ผิงสวนทันควัน ปรัชญ์ทำหน้าไม่เชื่อ “มีจริงหรอ ผมหาไม่เห็นมีเลย”


    “กริ่งบ้านยายอยู่ข้างๆ ซุ้มประตูไงจ๊ะ สงสัยพ่อหนุ่มจะมองไม่เห็นเพราะเถาพวงชมพูมันบังอยู่ละมั้ง”คุณยายพูดขึ้นมาแล้วยิ้มน้อยๆ


    “สงสัยผมจะมองไม่เห็นน่ะครับ แต่เมื่อกี้ผมพยายามหาแล้ว” ปรัชญ์ตอบอย่างสุภาพ มองคุณยายอย่างนับถือในความใจเย็น ไม่รู้ว่าทนหลานสาวอย่างยายคนนี้ได้อย่างไร กวนโมโหขนาดนั้น


    “แต่ที่ผมเข้าบ้านคุณยายมา ผมไม่ได้มีเจตนาร้ายครับ ผมมาทำงาน” ขาดคำชายหนุ่ม ผิงก็หัวเราะออกมาทันที


    “งานอะไร จะมาขายประกันหรือจะมาขายเครื่องกรองน้ำ” คุณยายส่ายหน้าแล้วหันมาปรามเบาๆ


    “ผิง ฟังเขาก่อน” หญิงสาวเงียบลงทันที คุณยายจึงหันมาหาปรัชญ์อีกครั้ง แล้วพยักหน้าให้พูดต่อ


    “ผมเอาพัสดุมาส่งครับ” ชายหนุ่มพูดจบ หญิงสาวก็ทำตาโตด้วยความตื่นเต้น หันไปยิ้มกับคุณยาย ทำท่าจะพูดอะไร แต่ก็ชะงัก หันกลับมามองหน้าชายหนุ่มอีกที แล้วเอ่ยออกมาอย่างไม่แน่ใจ


    “เดี๋ยวก่อนนะ  เมื่อกี้บอกว่าไง  เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า” ชายหนุ่มฟังคนตรงหน้าขัดแล้วส่ายหัวอย่างขัดใจ เอ่ยเสียงดุขึ้นมา


    “นี่ฟังให้จบก่อนได้ไหม อย่าเพิ่งขัด” เขาเอ่ยเสียงขึงขังแล้วรีบพูดต่ออย่างกลัวจะโดนขัดขึ้นมาอีก


    “ผมเอาพัสดุมาส่ง ผมเป็นบุรุษไปรษณีย์ครับ...”

    จากคุณ : ชมเช้า - [ 3 ก.พ. 49 00:47:28 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป