ปี 192 AD
ปี Chuping ที่ 3 : 192 AD (1 กุมภาพันธ์ 192 – 18 กุมภาพันธ์ 193)
ในฤดูใบไม้ผลิ เดือนแรก มีการประกาศนิรโทษกรรมจากราชสำนัก
ตั๋งโต๊ะส่งงิวฮูนำทัพไปตั้งค่ายที่ Shan งิวฮูแบ่งทัพของเขาให้ ลิฉุย กุยกี เตียวเจ คุมทัพคนละหลายหมื่นเข้าโจมตีจูฮีที่ Zhongmou และเอาชนะจูฮีที่นั่น พวกเขาออกปล้นชาวบ้านตามตำบลต่าง ๆ ของเมืองตันหลิวและ Yingchuan ที่ที่พวกเขาเดินทัพผ่านไป ชาวบ้านถูกเข่นฆ่าและจับเป็นนักโทษ โดยไม่เหลือทรัพย์สมบัติมีค่าทิ้งไว้
ก่อนหน้านั้น Xun Zhu (บัณฑิตที่มีชื่อเสียงของราชวงศ์ฮั่นสมัยก่อน) มีหลานชื่อซุนฮิว ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังจากความสามารถของเขาตั้งแต่ยังเด็ก โหหยอง ได้พบเขาและประทับใจในความสามารถของเขามากถึงกับพูดว่า นี่คืออัจฉริยะผู้เกิดมาช่วยเหลือคนเป็นอ๋อง
เมื่อราชสำนักเกิดความวุ่นวาย ซุนฮิวได้พูดกับผู้เฒ่าของเมืองว่า Yingchuan เป็นเมืองที่อาจถูกโจมตีได้จากทุกทิศทาง เราควรจะหลบหนีไปก่อนที่เมืองจะถูกโจมตี แต่ผู้คนมากมายมีความรักในถิ่นกำเนิดจึงปฏิเสธที่จะละทิ้งถิ่นฐาน ดังนั้นซุนฮิวจึงนำครอบครัวของเขาหนีมาเพียงลำพังและไปรับใช้ฮันฮก
ในเวลานั้น อ้วนเสี้ยวได้ครองตำแหน่งของฮันฮก เขาปฏิบัติต่อซุนฮิวดังเช่นแขกผู้มีเกียรติ แต่ซุนฮิวรู้สึกว่าอ้วนเสี้ยวไม่มีความสามารถที่จะกอบกู้ราชสำนักได้
เมื่อเขาได้ยินข่าวของโจโฉว่าเป็นคนกล้าหาญและเฉลียวฉลาด ดังนั้นจึงตีจากอ้วนเสี้ยวและไปรับใช้โจโฉ เมื่อโจโฉได้พูดคุยกับซุนฮิว เขาถึงกับกล่าวว่า ท่านคือ Zifang (Zhang Liang ไจเสี่ยงของฮ่องเต้ Gao)ของข้า เขาแต่งตั้งให้ซุนฮิวเป็นแม่ทัพคนหนึ่งของเขา
ชาวบ้านหลายคนในหมู่บ้านเดียวกับซุนฮิวที่เลือกที่จะอยู่ในบ้านเกิดไม่อพยพถูกฆ่าตายโดยลิฉุยและกุยกี
อ้วนเสี้ยวได้สั่งการให้โจมตีกองซุนจ้าน พวกเขาต่อสู้กันห่างจากสะพาน Jie 20 ลี้ กองซุนจ้านนำทหารสามหมื่นคนเข้าโจมตี ทหารของกองซุนจ้านล้วนแต่เป็นทหารที่ผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี อ้วนเสี้ยวส่งจ๊กยี่นำทหารแปดพันคนเข้าต่อสู้ พร้อมด้วยพลธนูอีกพันคนคอยยิงสนับสนุนจากอีกฝั่ง กองซุนจ้านเห็นทหารของจ๊กยี่มีจำนวนน้อย จึงสั่งให้ทหารม้าพุ่งเข้าโจมตี ทหารของจ๊กยี่หลบอยู่หลังโล่พวกเขาไม่เคลื่อนที่ จนทหารกองซุนจ้านเข้าใกล้มาในระยะสิบยี่สิบหลา จ๊กยี่สั่งทหารให้กระโดดขึ้นพร้อมกันและตระโกนพร้อมกัน เสียงดังกึกก้อง ทำให้ทัพม้าของกองซุนจ้านตกใจ และจ๊กยี่สามารถเอาชนะทัพกองซุนจ้านได้ในที่สุด
จ๊กยี่ตัดหัว ยำก๋ง ที่กองซุนจ้านแต่งตั้งเป็นผู้ตรวจการมณฑลอิจิ๋ว และฆ่าทหารกองซุนจ้านกว่าพันคน ทัพอ้วนเสี้ยวบุกคืบหน้าไปยังสะพาน Jie กองซุนจ้านรวบรวมทัพที่พ่ายแพ้เข้าสู้อีกครั้ง แต่จ๊กยี่ก็เอาชนะได้อีกครา พวกเขาบุกมาถึงค่ายของกองซุนจ้าน ยึดธงประจำตัวของกองซุนจ้าน จนทัพที่เหลือของกองซุนจ้านต้องหลบหนีไป
ก่อนหน้านั้น เล่าต้ายผู้ตรวจการมณฑลกุนจิ๋ว มีสัมพันธ์อันดีกับอ้วนเสี้ยวและกองซุนจ้าน อ้วนเสี้ยวเคยส่งภรรยาและบุตรชายของตนไปพักอยู่กับ เล่าต้าย และกองซุนจ้านเคยส่งแม่ทัพ Fan Fang นำทหารม้าไปช่วยเหลือเขา หลังจากที่กองซุนจ้านโจมตีและเอาชนะทัพอ้วนเสี้ยว กองซุนจ้านบอกให้ เล่าต้าย ส่งภรรยาและบุตรชายอ้วนเสี้ยวกลับบ้าน เขาสั่งกับ Fan Fang ว่า ถ้า เล่าต้าย ไม่ส่งครอบครัวของอ้วนเสี้ยวกลับ ให้นำทหารม้ากลับมาทันที ข้าจะเปิดศึกกับอ้วนเสี้ยวและส่งทัพไปโจมตี เล่าต้าย
เล่าต้าย หารือเรื่องนี้กับขุนนางของเขา หลายวันผ่านไป เขาก็ยังไม่ได้ตัดสินใจ พวกเขารู้มาว่า เทียหยกแห่ง Dong นั้นเป็นคนเฉลียวฉลาดในการวางแผน พวกเขาจึงเรียกเทียหยกเพื่อขอคำแนะนำ เทียหยกว่า ถ้าท่านยอมเป็นพันธมิตรกับอ้วนเสี้ยวผู้ซึ่งครองเมืองติดกับท่านดีกว่าจะขอความช่วยเหลือจากกองซุนจ้านที่มีฐานกำลังไกลจากเมืองท่าน เหมือนกับการขอความช่วยเหลือจากคนในเมือง Yue ในขณะที่ลูกชายท่านกำลังจมน้ำ(คนในดินแดน Yue เป็นคนที่ว่ายน้ำได้คล่องแคล่วเพราะอาศัยทางตอนใต้ของเมืองจีนซึ่งติดกับแม่น้ำ แต่การรอความช่วยเหลือที่ห่ายไกลในขณะเผชิญอันตรายเฉพาะหน้าไร้ประโยชน์) กองซุนจ้านไม่อาจเทียบได้กับอ้วนเสี้ยว แม้ว่าเขาจะสามารถเอาชนะทัพอ้วนเสี้ยวได้ครั้งหนึ่ง แต่ในที่สุดอ้วนเสี้ยวต้องเป็นฝ่ายมีชัย
เล่าต้าย ทำตามคำแนะนำของเขา Fan Fang จึงนำทหารกลับ แต่ก่อนที่เขาจะกลับไปหากองซุนจ้าน กองซุนจ้านก็พ่ายแพ้แก่อ้วนเสี้ยว
โจโฉตั้งค่ายอยู่ที่ Dunqui เมื่อ Poison Yu และโจรภูเขาคนอื่นโจมตี Dongwuyang โจโฉนำทัพเขามุ่งสู่ตะวันตกเข้าโจมตีค่ายของ Poison แต่ลูกน้องของโจโฉต่างแย้งว่าเขาควรจะไปยึด Dongwuyang คืนก่อน แต่โจโฉว่า ถ้าข้าศึกรู้ว่าข้ามุ่งหน้าไปตะวันตกไม่ได้กลับไป พวกเขาก็จะออกจาก Wuyang เอง ถ้าพวกมันไม่กลับ ข้าก็จะทำลายฐานที่มั่นของพวกมัน ทีนี้พวกโจรก็ไม่สามารถที่จะยึด Wuyang ได้ต่อไป เขาจึงเดินทัพต่อ เมื่อ Poison Yu ได้รู้ข่าวก็ละทิ้ง Dongwuyang ถอยทัพกลับทันที
หลังจากนั้นโจโฉก็โจมตี Sui Gu และ Yufuluo ที่ Neihuang และเอาชนะทัพพวกเขา
ตั๋งโต๊ะแต่งตั้งน้องชายของเขา Dong Min เป็นแม่ทัพซ้าย และหลานชายเขา Dong Huang เป็นขุนพลของกองทัพกลาง ทั้งสองคนควบคุมกิจการทหารทั้งหมด
ทุกคนในตระกูลตั๋งหรือคนที่เป็นญาติได้รับแต่งตั้งเป็นขุนนาง ลูกชายของตั๋งโต๊ะทุกคนได้รับตำแหน่ง Marquis ไม่ว่าจะเป็นลูกที่เกิดจากภรรยาน้อยหรือคนใช้ รถม้าของตั๋งโต๊ะนั้นตกแต่งเหมือนดั่งรถของฮ่องเต้
ตั๋งโต๊ะประชุมขุนนางทั้งสามระดับ ขุนนางตั้งแต่ระดับ Master of Writing และระดับต่ำลงมา ต้องมารายงานที่ทำการของตั๋งโต๊ะและรับคำสั่ง (ทั้งสามระดับประกอบด้วย ขุนนางระดับ Master of Writing ราชเลขาธิการ the Attendant Imperial Clerks และ Office of Seals and Credential) การเรียกประชุมและออกคำสั่งขุนนางสามระดับเป็นอำนาจของฮ่องเต้ หมายถึงตั๋งโต๊ะใช้ละเมิดอำนาจฮ่องเต้เรียกประชุมขุนนางตามใจชอบ
ตั๋งโต๊ะยังสร้างป้อมปราการที่ Mei สูงและกว้างเจ็ดสิบฟุต ภายในเก็บเสบียงอาหารสำหรับอยู่ได้ถึงสามสิบปี ตั๋งโต๊ะพูดว่า ถ้าสิ่งต่าง ๆ เป็นไปด้วยดี ข้าจะกลายเป็นผู้นำราชสำนัก แต่ถ้าข้าล้มเหลว ข้ายังสามารถอยู่อย่างสบายจนแก่เฒ่า
ตั๋งโต๊ะลงโทษผู้คนโดยไม่ปราณี ถ้าขุนนางคนใดทำผิด ตั๋งโต๊ะจะฆ่าคนผู้นั้นในทันที เหล่าขุนนางต่างรู้สึกว่าชีวิตตัวเองไม่ปลอดภัย อ๋องอุ้น อุยอ๋วน ซุนซุย และ Yang Zan จึงร่วมกันวางแผนอย่างลับ ๆ เพื่อฆ่าตั๋งโต๊ะ
ลิโป้ แม่ทัพที่เก่งกาจในเรื่องธนู การขี่ม้า และมีชื่อว่าแข็งแรงกว่าคนทั่วไป ตั๋งโต๊ะปกครองคนอย่างโหดร้าย และเขารู้ตัวดีว่าผู้คนต่างโกรธแค้นตัวเขา ดังนั้นเขาจึงให้ลิโป้ติดสอยห้อยตามเขาไปทุกที่ ทำหน้าที่เป็นองครักษ์ ตั๋งโต๊ะรักและเชื่อใจในตัวลิโป้มาก พวกเขายังเป็นบิดาและบุตรร่วมสาบาน
แต่ตั๋งโต๊ะนั้นเป็นคนดื้อดึงและเผด็จการ ครั้งหนึ่งลิโป้มีเรื่องไม่เห็นด้วยกับเขาเพียงเล็กน้อย ตั๋งโต๊ะคว้าเอาขวานสั้นขว้างใส่ลิโป้ ลิโป้หลบด้วยความว่องไวแล้วเปลี่ยนน้ำเสียงพร้อมขอโทษตั๋งโต๊ะ ตั๋งโต๊ะจึงหายโกรธ แต่ลิโป้นั้นเกิดความไม่พอใจในตัวตั๋งโต๊ะ
นอกจากตั๋งโต๊ะใช้ให้ลิโป้ไปเฝ้าประตูวังหลวง แต่ลิโป้กลับใช้โอกาสนั้นไปเกี้ยวพาราสีหญิงรับใช้ ทำให้ลิโป้กลัวว่าตัวเองจะมีความผิดถ้าตั๋งโต๊ะรู้เรื่องเข้า
อ๋องอุ้นนั้นมีความสัมพันธ์อันดีกับลิโป้ เมื่อลิโป้เล่าให้ฟังว่าตั๋งโต๊ะเกือบจะฆ่าเขา อ๋องอุ้นจึงบอกแผนการต่อต้านตั๊งโต๊ะ และขอร้องให้เขาร่วมแผนการนี้ด้วย
แต่ข้ากับตั๋งโต๊ะเป็นเหมือนพ่อลูกกัน ลิโป้ตอบ
ท่านเองใช้แซ่ลิ อ๋องอุ้นว่า และตั๋งโต๊ะเองก็ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับท่าน เวลานี้ท่านเองก็อยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงว่าจะถูกตั๋งโต๊ะฆ่าตาย ท่านยังจะพูดถึงเรื่องพ่อลูกได้อีก เมื่อตอนที่ตั๋งโต๊ะขว้างขวานใส่ท่าน ความเป็นพ่อลูกกันหายไปอยู่ที่ไหน ลิโป้เห็นด้วยกับอ๋องอุ้นในที่สุด
ในหน้าร้อนเดือนที่สี่ เมื่อฮ่องเต้ทรงประชวรและเพิ่งหายดีไม่นาน มีการประชุมใหญ่ที่ วังWeiyang ตั๋งโต๊ะสวมเสื้อคลุมยาวคล้ายฉลองพระองค์ เดินทางโดยราชรถ ทหารของเขายืนอยู่สองข้างระหว่างทางไปตั้งแต่ค่ายทหารจนถึงวังหลวง ทหารเดินเท้าอยู่ทางฝั่งซ้าย ทหารม้าอยู่ฝั่งขวาและ เพื่อป้องกันอารักขา ลิโป้และแม่ทัพคนอื่นทำหน้าที่คุ้มครอง
อ๋องอุ้นสั่งให้ซุนซุยเขียนราชโองการปลอมส่งกับลิโป้ ลิโป้สั่งให้ลิซกพร้อมกับ Qin Yi Chen Wei และทหารอีกสิบสองคนเฝ้าซุ่มอยู่ที่ประตูทางทิศเหนือรอคอยตั๋งโต๊ะ เมื่อตั๋งโต๊ะมาถึง ลิซกแทงเขาด้วยทวน
ตั๋งโต๊ะนั้นสวมเกราะใต้เสื้อผ้า ดังนั้นจึงไม่ได้รับบาดแผลแต่แขนเขาก็บาดเจ็บและตกลงจากราชรถ ตั๋งโต๊ะมองไปรอบ ๆ ร้องว่า ลิโป้อยู่ไหน
ลิโป้พูดว่า ข้าได้รับคำสั่งให้ฆ่าทรราชย์
ตั๋งโต๊ะได้ยินจึงด่าเขา ไอ้สุนัขชั่ว เจ้ากล้ารึ แทนคำตอบ ลิโป้แทงเขาด้วยทวนของเขา และสั่งให้ทหารตัดหัวตั๋งโต๊ะ
Tian Yi และหัวหน้าดูแลยุ้งฉางของตั๋งโต๊ะมาถึงที่ศพของตั๋งโต๊ะ ลิโป้ก็ฆ่าพวกเขาด้วยเช่นกัน ในเวลาไม่นานสามคนถูกสังหาร
ลิโป้นำราชโองการออกมาจากอกเสื้อ และใช้มันสั่งการกองทัพ พูดว่า ฮ่องเต้มีรับสั่งให้ประหารชีวิตตั๋งโต๊ะ ห้ามผู้ใดถามไถ่สาเหตุ เหล่าทหารพากันลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ยืนตัวตรงแสดงความเคารพ ร้องตะโกนว่า ทรงพระเจริญ หมื่นปี
จากคุณ :
kazama
- [
4 ก.พ. 49 21:53:45
]