CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    บันทึกลับ..เบื้องหลังนักศึกษาแพทย์ ฉบับ 3

    บันทึกลับ..เบื้องหลังนักศึกษาแพทย์ ฉบับ 1
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4032274/W4032274.html

    บันทึกลับ..เบื้องหลังนักศึกษาแพทย์ ฉบับ 2
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4058746/W4058746.html



    ตอนนี้อยู่ในช่วงอ่านหนังสือสอบเบื่อๆ ก็เลยมาเขียนบันทึกฉบับที่ 3 ต่อ เคยมีใครสงสัยบ้างมั้ยว่า antibiotic เขียนบันทึกนี้เพื่ออะไร (จะเขียนเฉพาะตอนเบื่อๆเครียดๆเท่านั้น เพราะเขียนทีไรอารามณ์ดีทุกที)

    ตอนสมัย antibiotic ยังไม่แก่ (ตอนนี้เริ่มแก่แล้ว) สมัยเรียนที่โรงเรียน คณะที่ทุกคนอยากเข้าก็คือแพทย์ แต่แปลกนะ antibiotic ไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลยที่เกี่ยวกับหมอเลย ว่าเขาใช้ชีวิตกันอย่างไร เรียนกันอย่างไร มีใครรู้สึกเหมือน antibiotic สมัยอยู่โรงเรียนมั้ยว่า ชีวิตหมอหรือนักศึกษาแพทย์นี่ดูลึกลับจัง หรือว่าบางคนมองเพียงว่าคนที่เรียนหมอนี่ต้องเครียดๆแน่เลย แต่หารู้ไม่ว่าหนึ่งในจำนวนคนเครียดๆนั้น ยังคงมีแกะดำเพี้ยนๆอย่าง antibiotic อยู่ด้วย

    ตอนนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเล่าอะไรดี งั้นขอพูดถึงหมอที่กลัวผีละกัน เพราะเคยมีแต่คนพูดว่าหมอไม่น่ากลัวผี เรากำลังจะบอกว่าท่านทั้งหลายคิดผิด

    หลักสูตรหนึ่งที่เป็นไฮไลท์ของนักศึกษาแพทย์ปีที่ 2 ก็คือ gross หรือ anatomy เป็นวิชาที่เรียนเกี่ยวกับกายวิภาคศาสตร์ โดยศึกษาตั้งแต่หัวจรดเท้า ด้วยความอนุเคราะห์ของท่านอาจารย์ใหญ่ที่ได้เสียสละร่างกายให้เหล่านักศึกษาได้เล่าเรียนกันตลอดทั้งปี ซึ่งการเรียนกรอสนั้น นักศึกษาแพทย์ทุกคนจะเรียนด้วยความเคารพ เพราะท่านอาจารย์ใหญ่ได้เสียสละร่างกายอันกอปรด้วยเลือดเนื้อให้พวกเราได้เล่าเรียนกัน

    วันแรกที่เรียนกรอส จำได้ว่าเด็กเพี้ยน (คนเดิม) ซื้อพวงมาลัยมา 1 พวงเพื่อไหว้ทำความเคารพ และขออนุญาตท่านอาจารย์ใหญ่ก่อน ขอให้ท่านให้อภัยกับสิ่งใดๆก็ตามที่เป็นการลบหลู่โดยมิตั้งใจหรือสิ่งใดที่ทำผิดพลาดไป ขอท่านอาจารย์ใหญ่โปรดให้อภัยด้วย ตลอดทั้งขอประสิทธิประสาทวิชาความรู้จากท่าน

    ใครบ้างจะรู้ว่าเด็กเพี้ยนคนนี้กลัวผีแค่ไหน (แค่หนังผีก็ไม่กล้าดู) วันแรกที่เรียนกรอส เด็กเพี้ยนก็ใส่สร้อยพระเต็มคอ เดินขึ้นตึกกายวิภาคด้วยความกล้าๆกลัวๆ จับมือเพื่อนแน่น ในขณะที่มืออีกข้างก็ถือพวงมาลัย เดินขึ้นบันไดด้วยหัวใจเต้นตึกตัก แล้วเพื่อนของเด็กเพี้ยนที่รู้ว่าเด็กเพี้ยนคนนี้กลัวผีหนักหนาก็เข้ามาพูดจา หลอกต่างๆนานาให้เด็กเพี้ยนไม่กล้าเข้าห้องผ่าอาจารย์ใหญ่ ต้องยืนทำใจระงับสติอารมณ์อยู่ชั้นล่างพักหนึ่ง กว่าจะทำใจขึ้นไปชั้น 3 ของตึกได้

    พอก้าวเท้าผ่านชั้น 2 กลิ่นฟอร์มาลินจากชั้น 3 ก็ลอยมาแตะจมูก คราวนี้เด็กเพี้ยนชะงักเท้า ขนลุกซู่ ในใจก็คิดว่าเอาไงดี ไม่อยากเรียนเลย แต่ถ้าโดดไปก็ไม่มีความรู้ จะสอบอะไรล่ะเนี่ย พอเห็นว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ เลยค่อยๆก้าวเท้าขึ้นไปบนชั้น 3

    ภาพที่เห็นครั้งแรก คือเตียงโลหะที่มีท่านอาจารย์ใหญ่นอนอยู่ จัดวางอยู่เต็มห้อง กลิ่นฟอร์มาลินยิ่งโชยแรงขึ้นเรื่อยๆ อาการป๊อดของเด็กเพี้ยนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเช่นเดียวกัน เด็กเพี้ยนเลยไม่กล้าก้าวเท้าเข้าไปในห้อง เพื่อนๆผู้แสนดีเลยจัดการผลักปนลากเด็กเพี้ยนเข้าไปในห้องจนได้ พอเข้าไปในห้องหัวใจแทบหยุดเต้น รีบวิ่งขอมาทำสติที่นอกห้องก่อน เพราะทำใจไม่ได้จริงๆ ตอนนี้หลายๆคนคงคิดว่าเด็กเพี้ยนนี่ท่ามากจริงๆ แต่ไม่เจอกับตัวคงไม่รู้หรอกว่า ภาพที่เห็นกับกลิ่นฟอร์มาลินนั้นยากบรรยายจริงๆ

    หลังจากทำสติ สวดมนต์ไหว้พระในใจเสร็จ เด็กเพี้ยนก็ทำใจสู้เดินก้าวเข้าไปในห้องอีกครั้ง โดยวันแรกจะเรียนเกี่ยวกับ back ซึ่งจะต้องดูตั้งแต่บริเวณด้านหลังสาเหตุหนึ่งที่เรียนด้านหลังก่อนเพราะว่า การเรียนครั้งแรกถ้าเรียนจากด้านหน้าก่อน เห็นหน้าอาจารย์ใหญ่ พวกเราคงกลัวไม่กล้าลงมีดเป็นแน่

    ในที่สุดการจับมีดหมอเป็นครั้งแรกของเด็กเพี้ยนก็มาถึง โดยลงมีดตาม landmark ต่างๆที่ได้เรียนมา แล้วเลาะเอาผิวหนังบางๆ พอเห็นชั้นไขมันก็ต้องหาเส้นประสาท (cuteneous nerve) แต่ใครๆจะรู้ว่าเด็กเพี้ยนคนนี้เก่งแค่ไหน พอลงมีดปุ๊บ ความลึกของปลายมีดก็ลงไปในชั้นไขมันตัดเส้นประสาทที่อาจารย์ให้หาทิ้ง ในขณะที่พวกเพื่อนๆที่เรียนอยู่โต๊ะกรอสเดียวกับเด็กเพี้ยนเริ่มมองกันตาเขียว แล้วใช้มีดอีกเล่มผ่า ทำท่าทางคล้ายๆว่าจะทำเป็นตัวอย่างให้ดู แต่แล้วเพื่อนคนนี้ก็กรีดลึกลงตัดเส้นประสาทหายไปจนเกลี้ยงเหมือนกัน (แล้วโต๊ะนี้จะดูอะไรล่ะเนี่ย ทุกอย่างเกลี้ยง)

    ตอนนี้เพื่อนๆที่ร่วมโต๊ะ กรอสกับเด็กเพี้ยนเริ่มมองหน้ากันเองว่าเอาไงต่อดี แต่ทว่าอะไรๆที่อยู่ชั้นผิวก็หายไปหมดแล้ว ก็ช่างมันเถอะ เดี๋ยวไปดูโต๊ะอื่นแทนแล้วกัน พอคิดได้ดังนั้น ใบมีดก็ทยอยกรีดลงเรื่อยๆ เลาะชั้นกล้ามเนื้อ หาเส้นประสาทที่เลี้ยงในชั้นนี้

    แต่ด้วยความที่โต๊ะนี้ประกอบด้วยเหล่าคนฝีมือดีทั้งนั้น เพื่อนคนหนึ่งใช้ forceps (คีมคีบ) คีบเส้นดำๆเส้นหนึ่งขึ้นมา พอทุกคนหันไปมองก็ยิ้มแหยๆ เพราะเส้นเลือดถูกตัดขาดอีกจนได้ แล้วสรุปว่าโต๊ะนี้จะได้ความรู้กันบ้างมั้ยเนี่ย

    อุปกรณ์ที่ใช้ในกรอสนั้นประกอบด้วย มีดผ่าตัด คีมคีบ และ โพรบ (เป็นแท่งเหล็กปลายแหลมๆไว้ชี้หรือเขี่ย) ซึ่งทุกโต๊ะมีไว้ครอบครอง 4 ชุด คือมีมีดผ่าตัด 4 คีมคีบ 4 และโพรบ 4 หากทว่าเวลาเดินไปดูโต๊ะอื่น (เพราะของที่ต้องที่โต๊ะเด็กเพี้ยนหายไปหมดแล้ว ด้วยฝีมือจอมยุทธใบมีดทั้ง 6 คน) เด็กเพี้ยนก็มักได้อะไรติดไม้ติดมือเป็นของฝากเสมอ เพราะจนจบเทอม เพิ่งรู้ตัวว่ามีมีดผ่าตัดเกือบ 20 เล่ม คีมคีบก็เกือบ 20 และโพรบอีก 20 กว่าๆ ในขณะที่โต๊ะเพื่อนข้างๆเหลือมีดอยู่เพียง 2 เล่ม เลยกลายเป็นว่าอุปกรณ์ใครหายมาที่โต๊ะเด็กเพี้ยนได้ เพราะมีทุกอย่างเกือบ 20 อัน

    ความจริงไม่ได้ตั้งใจหยิบมาหรอกนะ แต่ไม่รู้ทำไมติดมือกลับมาทุกที จนเพื่อนๆร่วมโต๊ะ (จอมยุทธใบมีดอีก 5 คน) จะตั้งโต๊ะขายอุปกรณ์พวกนี้ให้กับคนที่อุปกรณ์หายเลยทีเดียว เพราะมีเกินเยอะมากๆ (คิดดูสิว่าจาก 4 แต่มีจากไหนไม่รู้เป็น 20)

    ความสนุกในห้องกรอสยังไม่จบเท่านี้ แต่ตอนนี้ขอจบเท่านี้ก่อนละกัน ถ้าวันไหนเครียดๆ เบื่อๆจะมาต่อตอนต่อไปของห้องกรอสให้อ่านกัน หรือว่าไม่อยากอ่านเรื่องห้องกรอสแล้วอยากอ่านเรื่องอื่นก็รีเควสมาได้ แล้วไว้จะเขียนมาให้อ่าน

    ปล. เหมือนเคย..... หากใครรู้สึกว่าคุ้นๆกับเจ้าของบันทึกลับนี้แล้วอยากทายล่ะก็ เราไม่มีบ้าน รถ หรือทองให้ชิงโชค ไม่ต้องส่ง SMS มาทายหรอกนะจ๊ะ ^o^

    จากคุณ : antibiotic - [ 5 ก.พ. 49 13:15:05 A:10.90.4.166 X:202.28.181.7 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป