ความคิดเห็นที่ 1 เรื่องเล่า...ของรองเท้าคู่เก่าๆ “ถึงจะเก่าแต่ก็ทรงคุณค่า” เชื่อว่าทุกคนคงจะคุ้นหูกับประโยคนี้ รองเท้าคู่เก่าๆเมื่อวันวานก็มีคุณค่าเหมือนกัน คุณค่าด้านความทรงจำ ลองคิดดูสิ ตั้งแต่เล็กจนโต คุณเปลี่ยนรองเท้าไปกี่คู่แล้ว คำตอบอาจเป็นจำไม่ได้แล้ว เพราะทิ้งมันไปหมดแล้ว คุณเคยคิดอยากเรียงรองเท้าของคุณไหม รองเท้าที่คุณใส่ตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน รองเท้ามันเติบโตมาพร้อมกับคุณเลยใช่ไหม รองเท้าแต่ละคู่ย่อมมีวีรกรรมเป็นของตัวเอง รองเท้าคู่แรกที่ใส่เมื่อเริ่มเดินได้ รองเท้าที่ชอบใส่วิ่งเล่นประจำจนขาด รองเท้าที่ใส่ไปโรงเรียนวันแรก รองเท้าผ้าใบที่เคยใส่ออกค่ายลูกเสือจนเยิน รองเท้าคู่ใจที่ใส่สบาย และมักจะใส่อยู่เสมอ หรือแม้แต่รองเท้าส้นสูงที่มักใส่ไม่สบายนัก แต่ก็อยากใส่เพื่อความสูงและสวย หลากหลายเรื่องราวถูกเล่าผ่านรองเท้า ถูกถ่ายทอดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รองเท้าที่ผ่านช่วงเวลาทุกข์ สุขมาด้วยกัน รองเท้าที่ช่วยพาเราฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆจนถึงจุดหมาย รองเท้าที่อาจไม่มีชีวิต แต่รองเท้าคือส่วนหนึ่งของชีวิตเรา ถนอมรองเท้าของเธอให้ดีนะ เพราะวันไหนที่มันขาดจนใช้ไม่ได้ เธอคงต้องเสียเงินซื้อรองเท้าคู่ใหม่อีกแล้ว รองเท้าคู่ใหม่ที่มาพร้อมเรื่องเล่าใหม่ๆในชีวิต จากคุณ : ละอ่อนแม่อาย - [ 9 ก.พ. 49 16:44:02 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เรื่องเล่า...ของโคมไฟ ถ้าให้เลือกระหว่างดวงไฟดวงใหญ่ที่อยู่บนเพดาน กับโคมไฟ คุณจะเลือกอะไร เชื่อว่าคงมีสักคนที่ตอบว่าโคมไฟ บางทีดวงไฟดวงใหญ่อาจจะไม่จำเป็นสำหรับบางคน ขอแค่มีเพียงโคมไฟก็พอ โคมไฟที่ใช้อ่านหนังสือ โคมไฟที่ใช้ทำงานบนโต๊ะ โคมไฟที่เปรียบเหมือน “โลกส่วนตัว” เวลาที่ไฟทุกดวงดับลง เหลือแต่โคมไฟ และเหลือแต่ตัวเราใต้โคมไฟ เราได้สร้างโลกส่วนตัวน้อยๆขึ้นมา ความสุขเล็กๆที่หาได้รอบตัว โลกกว้างใหญ่ มีอะไรตั้งมากมาย แต่คงมีเพียงไม่กี่อย่างที่จะทำให้เรามีความสุขอย่างแท้จริง ถ้าเราพอใจในสิ่งเล็กๆที่เรามีได้ เราจะไขว่คว้าหาสิ่งที่มันใหญ่กว่าและเกินกว่าความจำเป็นไปทำไม แค่โคมก็คงพอแล้ว ในขณะที่ยังหาตัวเองไม่เจอ คุณคงเลือกดวงไฟดวงใหญ่ ที่ให้แสงสว่างเป็นวงกว้าง ทำให้คุณมองเห็นสิ่งต่างๆรอบตัวได้ไกลขึ้น แต่ถ้าเมื่อใดที่คุณค้นพบตัวเองว่าต้องการสิ่งใดแล้ว แค่โคมไฟดวงเล็กๆที่ส่องสว่างแค่เพียงตัวคุณคงพอแล้วใช่ไหม คนที่มองคุณอยู่ใต้โคมไฟ บางคนอาจมีคำถามอยู่ในใจว่า แสงสว่างแค่นั้น คุณอยู่ไปได้อย่างไร คงไม่มีใครตอบได้ดีไปมากกว่าตัวคุณเองหรอก ว่ามันสว่างแค่ไหน สำหรับคุณ ....หาโคมไฟสำหรับตัวเองได้หรือยัง.... จากคุณ : ละอ่อนแม่อาย - [ 9 ก.พ. 49 16:47:04 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เรื่องเล่า...ในกล่อง กล่องเป็นเพียงแค่วัตถุสี่เหลี่ยมเท่านั้น ไม่น่าจะมีอะไรน่าสนใจพอที่จะเป็นเรื่องเล่าเลยใช่ไหม ลองเปิดกล่องดูสิ มีเรื่องเล่ามากมายเลย กล่องสบู่ หรือกล่องยาสีฟัน ถ้าเปิดออกมา แน่นอนอยู่แล้ว สบู่และยาสีฟันก็ต้องอยู่ในนั้น ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ไม่มีอะไรน่าแปลกใจ แต่ถ้าเราลองได้เปิดกล่องของขวัญดูบ้าง เชื่อไหม ความรู้สึกมันช่างแตกต่างไปจากตอนที่เปิดกล่องสบู่และยาสีฟันซะเหลือเกิน เราไม่มีทางรู้หรอกว่าข้างในเป็นอะไร ให้เราคอยลุ้น คอยดูเองว่าสิ่งที่อยู่ในนั้น มันคืออะไรกันแน่ น่าตื่นเต้น น่าแปลกใจ ถ้าคนเราได้ลองคิด ลองทำ ลองค้นหาสิ่งใหม่ๆ มันก็เหมือนกับเราได้ลองเปิดประตู ไปสู่สิ่งใหม่ๆที่น่าค้นหา ไม่แน่นะ บางทีเธออาจจะเจออะไรที่มันดีกว่าเดิมก็เป็นได้ ถ้ามัวแต่เปิดกล่องสบู่ กล่องยาสีฟัน มันก็คงเป็นเหมือนเดิมทุกวันนั้นแหละ ถ้าไม่ลองเปิดกล่องของขวัญดูบ้าง จะพบ จะเจออะไรที่แปลกไปจากเดิมได้อย่างไร กล่องของขวัญ กล่องลึกลับ กล่องมหัศจรรย์ กล่องที่เปิดแล้วไม่รู้จะเจออะไร กล่องที่อาจจะบรรจุความสุขหรือความทุกข์ไว้ก็ได้ กล่องสี่เหลี่ยมที่มีเรื่องเล่าอยู่มากมาย จากคุณ : ละอ่อนแม่อาย - [ 9 ก.พ. 49 16:49:27 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เรื่องเล่า..ของเก้าอี้(ขาหัก) เก้าอี้ จากเดิมที่เคยมีสี่ขา ถ้ามันหักไปหนึ่งขา เก้าอี้ก็คงไม่สมประกอบ ถ้านั่งก็คงล้มไม่เป็นท่า มันก็เหมือนกับการที่เราทำอะไรซักอย่าง แต่เราเกิดทำพลาด ถ้าพลาดแค่ที่พิงเก้าอี้หัก ก็คงพอที่จะนั่งเก้าอี้ต่อไปได้ แต่ถ้าขาเก้าอี้ของคุณหักล่ะ คุณจะทำอย่างไร จะแก้ปัญหาอย่างไรดี จะดีกว่าไหม ถ้าคุณตัดขาเก้าอี้ที่เหลือออก อย่างน้อยคุณก็ยังมีตัวเก้าอี้ไว้นั่งอยู่ แม้มันจะอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเดิมก็ตาม ยอมลดดีกว่าล้มไม่ใช่เหรอ ในสิ่งที่เราได้ทำพลาดไป ก็ให้ถือว่าเป็นประสบการณ์ แล้วคิดต่อขาเก้าอี้ใหม่ ให้มันแข็งแรงกว่าเดิม จุดสำคัญที่สุดของเก้าอี้ก็คือ ขาเก้าอี้ ถ้าขาเก้าอี้ไม่มั่นคงแล้ว คนนั่งก็คงล้มได้ง่ายๆ ในบางครั้งสิ่งที่สำคัญที่สุด ถูกมองข้ามไป แต่ก็ยังไม่สายไปหรอกนะ ที่เธอจะมองกลับมา จากคุณ : ละอ่อนแม่อาย - [ 9 ก.พ. 49 16:51:53 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เรื่องเล่า...จากเพื่อน ในชีวิตคนเราที่ผ่านมา แต่ละคน ย่อมมีเพื่อนที่แตกต่างกันไป คงไม่มีใครในโลกนี้ไม่มีเพื่อนหรอก จริงไหม และคงมีน้อยคนมากที่จะพูดว่า เราเป็นเพื่อนกันนะ เพราะส่วนมากก็จะรับรู้ด้วยใจทั้งนั้นว่า เราเป็นเพื่อนกัน พูดไปก็น่าตลกดีนะ ถ้าเป็นคนรัก ทุกคนคงอยากให้คนรักพูดว่า เราเป็นแฟนกันนะ เธอคงดีใจจนตัวลอยเชียวล่ะ แต่กับเพื่อนไม่เคยที่จะเรียกร้องที่จะให้เพื่อนพูดว่า เราเป็นเพื่อนกัน ทำไมนะ นั่นสิทำไม เป็นเพราะเพื่อนกับคนรักไม่เหมือนกันใช่ไหม หรือเป็นเพราะเราให้ความสำคัญกับคนรักมากกว่าเพื่อนหรือเปล่า ไม่แปลก แล้วก็ไม่ผิด เคยเล่นชักเย่อไหม ความรักก็เหมือนกับแรงที่ใช้ดึงเส้นเชือกนั่นแหละ รักมาก ให้ความสำคัญมาก ก็ดึงแรงมาก มีแรงเท่าไหร่ ก็ดึงไปหมด เธอคงไม่คิดว่าเชือกจะขาดใช่ไหม แต่ถ้ามันเกิดขาดขึ้นมาล่ะ ยิ่งเธอดึงแรงเท่าไหร่ เส้นเชือกที่ขาดออกจากกัน ก็ยิ่งทิ้งระยะห่างมากเท่านั้น จะกลับมาต่อกันเหมือนเดิมยิ่งยากเข้าไปอีก ใช้แรงดึงมาก โอกาสที่เชือกขากก็มีมาก โอกาสที่ระยะห่างระหว่างคนสองคนก็มากตามไปด้วย ใช้แรงดึงกับคนรักให้พอดีนะ แต่กับเพื่อน เธอไม่ต้องคิดอะไรมากหรอก พวกเขาดีใจมากต่างหาก ที่เพื่อนรักเราน้อยหน่อย ให้ความสำคัญกับเราไม่มาก นั่นหมายความว่า ความสัมพันธ์ของพวกเราจะยาวนานขึ้น จริงไหม เมื่อเส้นเชือกขาด ก็สามารถต่อได้ง่ายกว่า เพราะแรงที่ใช้ ดึงน้อย ระยะห่างย่อมไม่มาก เพื่อนโกรธกันไม่นานก็หาย เพราะเราเป็นเพื่อนกัน เพื่อนที่ไม่อยากเห็นเพื่อน ถือของหนักเกินไป ของที่วางได้ ก็วางบ้างเถอะนะ แต่ถ้ามันวางไม่ได้ หรือถือไม่ไหวยังไง ก็แบ่งให้เพื่อนถือบ้างก็ได้ ไม่เป็นไรนะ เราเป็นเพื่อนกัน เพื่อนที่คุณแสดงความเป็นตัวเองออกมาได้เสมอ โดยไม่ต้องปกปิด ไม่ต้องอายใคร เพื่อนที่ไม่ต้องการเห็นคุณ Perfect ทุกอย่าง แต่เพื่อนแค่ต้องการเห็นคุณมีความสุข เท่านั้นก็พอ “เวลาที่เธอยิ้ม ไม่มีใครยิ้มด้วย บอกฉันนะ ฉันจะยิ้มเป็นเพื่อน” “เวลาที่เธอเหงา ไม่มีใคร บอกฉันนะ ฉันจะไปนั่งเป็นเพื่อน” “เวลาเธอไปเที่ยวไหน ไม่จำเป็นต้องชวนฉันไปหรอก แค่เธอมาบอกกันหน่อยเท่านั้น ฉันเป็นห่วงเธอเท่านั้นเอง” “เวลาที่เธอเสียใจร้องไห้ บอกฉันนะ ฉันคงไม่ร้องไห้เป็น เพื่อนเธอหรอก แต่ฉันจะเป็นคนฉุดเธอให้ลุกขึ้นมาต่อสู้ใหม่” “ไม่เป็นไร แล้วมันจะดีขึ้นนะเพื่อน” เพื่อนที่อาจไม่ใช่คนที่สำคัญที่สุด แต่อย่างน้อยที่สุดเธอก็ต้องมีเพื่อน ขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก หึ หึ หึ . . รักเพื่อนเสมอ . . จากคุณ : ละอ่อนแม่อาย - [ 9 ก.พ. 49 16:56:59 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ชอบเรื่องจากเพื่อน จากคุณ : scottie - [ 9 ก.พ. 49 23:36:59 ]