CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    เลี้ยง(ลูก)ไป....นินทาไป #8 : ต่อสู้ คัดเลือก แข่งขัน...อยู่กับมันให้ได้นะ

    -1-

    “พ่อ วันนี้มีคัดตัวนักฟุตบอลด้วยนะ” ลูกชายบอกเมื่อรถเคลื่อนตัวออกจากโรงเรียน

    “เป็นยังไงละครับ” ผมถามรายละเอียด

    ลูกไม่เคยเล่าให้ฟังเรื่องการคัดตัวนักกีฬาฟุตบอล รู้แต่ว่าเขาสนใจกีฬาชนิดนี้ถึงขั้น
    สมัครเรียนพิเศษช่วงปิดเทอมเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โชคไม่เข้าข้าง...ทั้งโรงเรียนมี
    คนสนใจสมัครเพียงสองคน คอร์สฟุตบอลจึงถูกยกเลิก ยังความปลื้มใจแก่ผมเป็น
    อย่างมาก เพราะได้เงินค่าเรียนคืนมา ส่วนคุณลูกชายอาศัยกำแพงที่บ้านเป็นคู่ซ้อม
    ด้วยลีลาของ เดวิด แบคแฮม ฟุตบอลข้ามกำแพง หายไปอย่างไร้ร่องรอย การ
    ซ้อมจึงยุติไป

    “เมื่อเช้าคุณครูหาคนสมัครใจไปซ้อม เรียกตามเลขที่ พอถึงเลขที่ 12 หนูยืนขึ้นตอบว่า
    ไปครับ อย่างมั่นใจเลยนะพ่อ แต่เจ้าอารีนะคุณครูบอกให้ไปเลยละ จะได้ลดความอ้วน”
    ลูกชายเล่าละเอียดมาก

    เรื่องราวต่อมาก็คือ

    หลังอาหารกลางวัน เหล่าผู้สมัครใจจากห้อง ป.1/2จำนวนแปดคนจับมือกัน...
    (หรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่เพื่อความตื่นเต้นและอย่าลืม...ดนตรีประกอบด้วย ขอแบบ
    เร้าใจๆ) ...เดินทางสู่โรงยิม รวมกับคนอื่นๆ แล้วถูกจัดแบ่งเป็นทีมสีแดงและทีมสี
    เหลือง ตามเสื้อคลุมที่ได้รับแจก แต่ละสีแบ่งเป็นทีมย่อยทีมละสามคนลงสู่สนาม

    จากแปดคน เป็นที่ถูกตาต้องใจ ได้รับการทาบทามสองคน คุณลูกชายอยู่ในกลุ่ม
    หกคนที่เหลือ

    “ลูกได้เตะลูกบอลบ้างมั๊ย” ผมถามคำถามบาดใจอาสาสมัครพอสมควร

    “ได้เตะซิพ่อ” คุณลูกชายตอบเสียงดัง คำถามคงบาดใจมาก

    “แต่ไม่เป็นไรนะ อย่างน้อยลูกก็อยู่ในกลุ่มคนส่วนใหญ่ละ” ผมพยายามหาทางออก
    แม้จะผิดทางไปบ้าง

    “ไม่เป็นไรพ่อ ปีหน้าอยู่ ป2 หนูจะไปคัดตัวอีกที ต้องดีกว่านี้แน่ๆ” เออ...เข้าใจหาทาง
    ออกให้ตัวเอง ดีกว่าทางออกที่ผมเลือกให้มากเชียวละ

    “พ่อรู้มั๊ย วันนี้นะมันตื่นเต้นไปหน่อย เลยเตะไม่ค่อยดี” ลูกชายกระซิบบอก...เริ่มจะ
    ออกทางหน้าต่างแล้วละครับ


    -2-

    เมื่อเทอมที่แล้ว.....

    “มีคนเขามาคัดตัวนักแสดงที่ห้องหนูด้วยละพ่อ” น้ำเสียงเฉยมาก

    “โอ ลูกก็จะได้เป็นดาราแล้วซิ แล้วเขาจะให้แสดงเป็นอะไรละครับ” ผมถามด้วย
    ความสนใจ เผื่อคุณลูกชายจะได้โกอินเตอร์

    “ไม่รู้ เขาไม่บอก แค่ให้ออกมายืนเข้าแถวหน้าห้องเฉยๆ” แสดงว่าคนคัดตัวต้อง
    ตาถึงและลึกซึ้งมาก แค่ยืนเฉยก็แยกแยะได้

    “เขาจะให้แสดงเป็นต้นไม้เหรอครับ” ผมแกล้งถาม

    “ไม่ใช่พ่อ เป็นโฆษณาสุกี้ เขาเลือกไปห้าคนไม่เลือกหนูด้วย ดีใจจัง”

    “อ้าว!! แล้วเขาเลือกยังไงละครับ” ผมชักอยากรู้เหตุผลที่ทำให้ลูกชายไม่มีโอกาส
    โกอินเตอร์

    “เค้าเลือกคนอ้วนๆ กับคนที่ขาวๆนะครับ” คงคัดตัวแสดงเป็นลูกชิ้นแน่ๆเลย ผม
    เสนอความคิดเห็น

    “แล้วทำไมเค้าไม่เลือกลูกไปด้วยละ” ผมคิดว่าลูกชิ้นผอมๆก็ดูน่ากินเหมือนกัน

    “โธ่พ่อ ก็หนูตัวดำขนาดนี้ เค้าจะเลือกได้ไงเล่า” น้ำเสียงภาคภูมิใจในสีผิวมาก

    ผมชักจะเห็นด้วยกับคนที่คัดตัวแสดง ลูกชิ้นที่ทั้งผอมทั้งดำไม่น่าจะช่วยเรื่องยอด
    ขายสุกี้ได้มากนัก

    “แล้วลูกไม่เสียใจเหรอ อดเป็นดาราเลยนะเนี่ย” ผมถามอย่างสำนึกผิด เป็น
    ความรับผิดชอบของผมแต่ผู้เดียว ที่ทำให้คุณลูกชายตัวดำ คุณแม่...ขาว..หมวย
    สวยมาก ที่ผมเลือกมาเพื่อปรับปรุงสีผิวไม่สามารถช่วยได้เลยละ

    “ไม่หรอกพ่อ บอกแล้วไง ไม่อยากเป็นดารา” โอ...นอกจากดำแล้วท่านยังเล่นตัว
    อีกต่างหาก


    คุณแม่แสนสวยได้ฟังเรื่องนี้แล้ว หัวเราะไม่หยุดทีเดียว ไม่แน่ใจว่าสำนึกผิดร่วมกับ
    ผม หรือสงสารคุณลูกชาย

    “รอวันที่เขาคัดตัวแสดงเป็นถ่านซิลูก อย่าลืมชวนพ่อไปด้วยละ” คุณแม่แสนสวย
    ปลุกความหวังสู่การโกอินเตอร์ของเรา...สองพ่อลูก ให้ลุกโชนอีกครั้ง


    - 3-

    ลูกชายสนใจศิลปะ โดยเฉพาะการวาดรูป เป็นวิชาเดียวที่ขอเรียนพิเศษเพิ่มเติม
    ในทุกๆวันพฤหัสบดี

    เย็นวันหนึ่ง หลังจากเรียนพิเศษแล้วคุณลูกชายเดินมาขึ้นรถกลับบ้าน พร้อมจด
    หมายเชิญร่วมประลองวิทยายุทธ์ด้านการวาดภาพและระบายสี ตามประสาผู้ร้อน
    วิชา คุณลูกชายรอคอยการมาถึงของวันประลองอย่างใจจดใจจ่อ

    บ่ายสองโมง ณ สนามประลอง(ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง) กระดาษวาดภาพสีขาว
    ขนาดเอ 3 วางอยู่ตรงหน้าพร้อมกับดินสอ ยางลบ และสีทุกประเภท เลือกใช้ได้
    ตามอัธยาศัย ขอให้กระดาษขาว ดินสอดำ ยางลบ สีต่างๆ รวมกับพลังจินตนาการ
    ของสมองแล้วออกมาตอบโจทย์ “โรงเรียนในฝันของฉัน”

    “สู้ไหวไหมลูก” ผมกระซิบถามเมื่อเห็นเขาทำท่าไม่คุ้นเคยกับกระดาษที่อยู่ตรงหน้า

    “ไหวอยู่แล้วพ่อ แต่ทำไม...กระดาษมันใหญ่จัง”

    คุณลูกชายยิ้มสู้พร้อมกับนั่งลูปคลำกระดาษขนาดเอ 3 อยู่ครู่หนึ่ง คาดว่าเพื่อสร้าง
    ความคุ้นเคย ผมเดินออกจากบริเวณโต๊ะแข่งขัน เมื่อเห็นคุณศิลปินน้อยๆทั้งหลาย
    รวมทั้งคุณลูกชายเริ่มลงมือก่อสร้างโรงเรียนในฝัน บางคนเลือกใช้สีเทียน หลายคน
    ใช้สีไม้ มีบ้างที่ใช้สีไม้ระบายน้ำ

    สองชั่วโมงแห่งการสร้างสรรค์ผ่านไป แต่ช่วงเวลาที่ยาวนานมากกว่าคืออีกครึ่งชั่วโมง
    ที่รอผลตัดสินจากคณะกรรมการ คุณลูกชายนั่งตัวเกร็งระหว่างการประกาศผล ที่ตัว
    เขาไม่ได้รางวัลอะไรเลย ผมเห็นแววตาเสียใจปรากฏออกมาบ้าง จึงบอกเขาไปว่า
    รางวัลที่แท้จริงคือโอกาสที่เราได้มาฝึกฝีมือ ทำให้เขากล้าวิ่งไปรวมกับอีกหลายคนที่
    หน้าเวทีเพื่อฟังคำวิจารณ์แต่ละรูปที่ได้รับรางวัล

    ก่อนกลับบ้าน ผมชวนคุณลูกชายถือผลงานของเขาเดินไปพบกรรมการเพื่อขอคำแนะนำ
    ท่ามกลางความกล้าๆกลัวๆ ของผู้สร้างผลงาน

    “ทำไมลูกไม่ระบายสีท้องฟ้าละครับ” กรรมการท่าทางใจดีถามเมื่อได้เห็นภาพโรงเรียน
    ของฉันเป็นตึกสีเหลืองสี่ชั้นสวยงาม หน้าตึกมีสนามหญ้าสีเขียว บนสนามหญ้ามีเสาธง
    มีสนามแบดที่มีเด็กสองคนกำลังเล่นอย่างสนุกสนาน แต่ครึ่งบนของกระดาษเป็นท้อง
    ฟ้าที่ขาวโพน

    “กลัวเปลืองสีครับ” คุณลูกชายตอบ โอ้...ช่างเป็นเด็กที่มีมารยาทดีมาก ไม่กล้าใช้สีคนอื่น

    “วาดรูปไม่ต้องกลัวเปลืองสีนะลูก มีจินตนาการดีแล้วแต่ต้องให้สีเต็มที่นะ”

    “ครับ” คุณลูกชายตอบพร้อมกับรับภาพคืนมาจากกรรมการใจดี ก่อนจะหันมายิ้ม
    หน้าบานยิ่งกว่าได้รางวัล




    -4-

    การแข่งขัน...การคัดเลือก...อยู่คู่กับการดำรงชีวิต
    ผมพยายามคุยกับลูกชายเสมอๆเมื่อมีโอกาส บางครั้งก็ลืมไปว่าเขายังเป็นเด็ก สูง
    หนึ่งร้อยยี่สิบเซนติเมตร หนักประมาณยี่สิบสามกิโลกรัม และเรียนอยู่แค่ ป.1

    การคัดตัวนักแสดง...ทำให้รู้ว่าผิวดำไม่เหมาะกับบทลูกชิ้น รอวันที่ต้องการตัวแสดง
    เป็น...ถ่าน...ก่อนเถอะ เจอกันแน่

    การคัดตัวนักฟุตบอล...ทำให้รู้ว่าโอกาสยังมี ป. 2 ป.3 ป.4.....รอได้แน่นอน

    การประกวดวาดรูป แม้จะได้เพียงดินสอปลอบใจสองสามแท่ง แต่เราได้คำแนะนำ
    ที่เป็นประโยชน์จากกรรมการ

    การ ............................. ทำให้รู้ว่า.......
    การ ............................. ทำให้รู้ว่า.......





    -5-

    ลูกเอ๋ย....กว่าจะเติบโต
    ลูกคงต้องผ่านการคัดเลือก การคัดออก การแข่งขัน การแพ้ชนะ...อีกมากนัก

    เสียใจ เจ็บปวด ร้องให้ หัวเราะ สมหวัง ดีใจ ล้วนมีส่วนเติมให้ชีวิตเต็มขึ้น...โตขึ้น

    พ่อกับแม่อาจจะเคียงข้างลูกไม่ได้ในทุกช่วงเวลาของชีวิต
    อาจจะมีเวลาที่คุยกันไม่เข้าใจ

    หวังเพียงว่า...ลูกจะได้อ่านเรื่องราวเหล่านี้อีกครั้ง

    ชีวิต...ยังมีบทที่เหมาะสมกับเรา...หามันให้พบ
    ชีวิต...ยังมีโอกาส ป.2 ป. 3 ป.4 ...อดทนและรอคอย ผ่านวันนี้ไปให้ได้
    ชีวิต...ยังมีคำปลอบใจ ยังมีคำแนะนำ จากผู้รู้...อย่าผ่านมันไปโดยไม่เก็บเกี่ยว

    แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 49 06:29:41

    จากคุณ : ใบไม้ในทางช้างเผือก - [ 10 ก.พ. 49 01:26:24 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป