CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    สามก๊ก ฉบับหัดเขียน 7

    ปี 197 AD
    ปี Jian’an ที่ 2 197 AD
    (17 กุมภาพันธ์ 197 – 25 มกราคม 198)

    ในฤดูใบไม้ผลิ เดือนแรก โจโฉโจมตีเตียวสิ้ว ทันทีที่กองทัพเขามาถึงแม่น้ำ Yu เตียวสิ้วก็นำกองทัพเขามายอมแพ้

    โจโฉนำตัวเมียของเตียวเจไปเป็นเมียน้อยของเขา เตียวสิ้วจึงโกรธมาก และโจโฉยังมอบทองคำให้แก่ Hu Cheer แม่ทัพที่เก่งกาจของเตียวสิ้ว เมื่อเตียวสิ้วรู้เรื่องจึงสงสัยและเกิดระแวง เขาโจมตีกองทัพโจโฉอย่างฉับพลัน โจงั่งลูกคนโตโจโฉถูกฆ่าตาย โจโฉยังถูกธนูบาดเจ็บ พ่ายแพ้และหนีไป

    เตียนอุยต่อสู้ต้านทัพเตียวสิ้ว คนของเขาล้มตายเกือบหมด ตัวเขาเองก็ได้รับบาดแผลหลายสิบแห่งทั่วร่าง ทหารของเตียวสิ้วพยายามจับตัวเขา แต่เตียนอุยจับตัวทั้งสองและฆ่าเขาทั้งคู่ แต่ในที่สุดเตียนอุยก็ตายด้วยสายตาที่เคียดแค้นและด่าทอศัตรูจนตาย

    โจโฉรวบรวมทัพที่แตกพ่ายและกลับไป Wuyin เตียวสิ้วนำทัพม้าไล่โจมตี แต่โจโฉเข้าโจมตีเขาพ่ายแพ้ไป เตียวสิ้วกลับไปเมือง Rang รับใช้เล่าเปียว

    กองทัพโจโฉในเวลาน้นสับสนวุ่นวาย อิกิ๋ม เป็นแม่ทัพคนเดียวที่รวบรวมทหารและออกคำสั่งถอย ในระหว่างทางกลับ ทหารบางคนในกองทัพ Qingzhou (ทหารที่มาจากแคว้นเฉงจิ๋วของโจโฉ) เข้าปล้นชาวบ้าน อิกิ๋ม ด่าการกระทำพวกเขาและเข้าโจมตี ทหาร Qingzhou จึงวิ่งไปหาโจโฉ

    เมื่อ อิกิ๋ม มาถึงค่าย เขาเตรียมค่ายสำหรับการป้องกันก่อนที่จะเข้าหาโจโฉ บางคนบอกเขาว่า กองทัพ Qingzhou ได้กล่าวหาท่าน ท่านควรจะไปพบท่านโจโฉทันทีเพื่อแก้ข้อกล่าวหา

    อิกิ๋ม บอกว่า ข้าศึกประชิดอยู่ด้านหลังของเรา พวกเขาอาจโจมตีเราเมื่อไหร่ก็ได้ เราจะรับมือพวกเขาได้อย่างไรถ้าไม่เตรียมตัวให้ดี นายท่านนั้นฉลาดเกินกว่าที่จะเชื่อการใส่ร้ายป้ายสี

    เขาคุมการขุดคูค่ายและเมื่อการเตรียมพร้อมป้องกันค่ายเสร็จแล้ว เขาจึงไปหาโจโฉเพื่อรายงาน โจโฉยินดีมากและพูดกับเขาว่า ด้วยโชคร้ายที่แม่น้ำ Yu แม้แต่ข้าเองก็ยังสิ้นหวังและสับสน แต่ท่านกลับควบคุมทัพได้ในความสับสน และยังลงโทษทหารที่ทำการปล้นอย่างโหดร้าย ท่านยังเตรียมการป้องกันของเราให้แข็งแรง ท่านประพฤติดีและคงคุณธรรม จะมีแม่ทัพมีชื่อเสียงในอดีตคนไหนทำได้ดีกว่าท่านอีก ด้วยสำนึกในความดีของ อิกิ๋ม โจโฉแต่งตั้ง อิกิ๋ม เป็น Marquis แห่งหมู่บ้าน Yishou

    หลังจากนั้นโจโฉนำทหารเขากลับไปเมือง ฮูโต๋

    อ้วนเสี้ยวเขียนจดหมายไปหาโจโฉ คำพูดของเขาเย่อหยิ่งอวดดีและดูถูกเขา โจโฉพูดกับซุนฮิวและกุยแกว่า เวลานี้ข้าตั้งใจที่จะโจมตีขุนนางชั่ว แต่ข้าเองยังไม่แข็งแกร่งเพียงพอ ข้าจะทำอย่างไร ทั้งสองตอบว่า ท่านรู้ดีว่า พระเจ้าฮั่นโกโจนั้นไม่สามารถเทียบกับเซี่ยงหวี่ได้ แต่พระเจ้าฮั่นโกโจฉลาดกว่าเซี่ยงหวี่ ดังนั้นแม้ว่าเซี่ยงหวี่จะแข็งแกร่งกว่า เขาก็สามารถเอาชนะเซี่ยงหวี่ได้ในที่สุด

    มีอยู่สิบประการที่อ้วนเสี้ยวด้อยและท่านเหนือกว่า ดังนั้นแม้ว่าอ้วนเสี้ยวจะมีอำนาจเหนือกว่าท่านแต่เขาไม่มีทางได้รับความสำเร็จ
    อ้วนเสี้ยวชื่นชมพิธีการใหญ่โตและธรรมเนียมที่ดี ท่านกลับตัดสินใจและปฏิบัติอย่างเป็นธรรมชาติ นี่คือข้อเหนือกว่าของท่านในเรื่องศีลธรรมการปฏิบัติที่ดี

    อ้วนเสี้ยวประพฤติตัวเหมือนกบฏ ท่านรับใช้และเชื่อฟังคำสั่งฮ่องเต้และคำสั่งของแผ่นดิน ท่านเหนือกว่าเขาในความจงรักภักดี

    ตั้งแต่สมัยฮ่องเต้ Huan และ Ling ราชสำนักได้ตกต่ำลง จากการกระทำตามใจมากเกินไป อ้วนเสี้ยวไม่มีความตั้งใจและไม่ใส่ใจที่จะรักษากฏหมายบ้านเมือง แต่ท่านเอาใจใส่ผู้คนของท่าน ดังนั้นทุกคนไม่ว่าฐานะใด จึงปฏิบัติตามกฏอย่างดี นี่เป็นข้อได้เปรียบในการปกครอง

    อ้วนเสี้ยวนั้นภายนอกดูเหมือนเป็นคนใจกว้าง แต่ที่จริงแล้วอิจฉาริษยาผู้อื่น เขามีลูกน้องดีมีฝีมือมากมายแต่กลับไม่ไว้ใจใคร แต่งตั้งตำแหน่งสำคัญให้แก่ลูกเขาและเครือญาติ นิสัยท่านภายนอกนั้นธรรมดาและเรียบง่าย แต่จริง ๆ แล้วท่านฉลาดหลักแหลม ท่านรู้จักใช้ผู้คนและไว้ใจในลูกน้อง ท่านให้ความสนใจในความสามารถของคนมากกว่าการเกี่ยวข้องทางสายเลือด นี่เป็นข้อได้เปรียบเรื่องความใจกว้างต่อผู้อื่น

    อ้วนเสี้ยวมีแผนการมากมายแต่แทบไม่เคยลงมือปฏิบัติ เขาปล่อยโอกาสให้ผ่านไปและกระทำการช้าเกินไป เมื่อท่านวางแผนการ ท่านลงมือทำในทันที และท่านสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปได้ดี นี่เป็นข้อได้เปรียบเรื่องกลยุทธ์

    อ้วนเสี้ยวใช้การสนทนาที่ดีและพิธีรีตองดึงดูดคนที่มีชื่อเสียง บัณฑิตมากมายที่ชื่นชอบในการพูดเล่นคำและพิธีการที่หรูหราพากันรับใช้เขา ท่านปฏิบัติต่อผู้คนอย่างตรงไปตรงมา ท่านไม่แต่งกายอย่างหรูหราฟุ่มเฟือย ดังนั้นบัณฑิตที่มีใจสัตย์ซื่อ ผู้มองเห็นสิ่งต่าง ๆ อย่างชัดเจน เห็นความจริงใจของท่านและอยากรับใช้ท่าน นี่คือข้อได้เปรียบด้านความดีของท่าน

    ถ้าอ้วนเสี้ยวพบผู้คนที่หิวโหยและเหน็บหนาว เขาจะรู้สึกสงสารผู้นั้น แต่อ้วนเสี้ยวรับรู้ปัญหาได้จากสิ่งที่เขามองเห็นเท่านั้น ท่านเอง บางเวลาก็มองข้ามสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นกัน แต่เมื่อไรที่เป็นเรื่องของบ้านเมืองและประชาชนทั้งแผ่นดิน ความเมตตากรุณาของท่านนั้นเหนือกว่าที่คนทั่วไปคาดคิดนัก ท่านอาจจะมองไม่เห็นทุกสิ่ง แต่การตัดสินใจของท่านนั้นคำนึงถึงปัญหาของทุกคน นี่คือข้อได้เปรียบเรื่องความรู้สึกด้านจิตใจ

    เหล่าขุนนางของอ้วนเสี้ยวต่างต่อสู้แข่งขันกัน กล่าวหา ใส่ร้ายโจมตีซึ่งกันและกัน แต่ท่านปฏิบัติต่อลูกน้องอย่างดี และไม่สนใจคำนินทาหรือใส่ร้าย นี่คือข้อได้เปรียบเรื่องความเข้าใจ

    ไม่มีใครรู้ว่าอ้วนเสี้ยวต้องการอะไร แต่ตัวท่านใช้ธรรมเนียมปฏิบัติกับสุภาพชน และใช้กฏหมายบ้านเมืองกำหราบคนพาล นี่คือข้อได้เปรียบเรื่องการบริหารจัดการ

    อ้วนเสี้ยว ไม่ใส่ใจเรื่องกองทัพ แต่ท่านสามารถใช้คนน้อยพิชิตคนมาก ทหารของท่านล้วนเชื่อในตัวท่าน ในขณะที่ศัตรูต่างก็เกรงกลัวท่าน นี่คือข้อได้เปรียบเรื่องการบริหารกองทัพ

    โจโฉหัวเราะตอบว่า ข้ามีความสามารถขนาดนั้นเชียวหรือ

    กุยแกพูดว่า อ้วนเสี้ยวเดินทางขึ้นเหนือเพื่อโจมตีกองซุนจ้าน ท่านควรใช้ประโยชน์ตอนที่กองทัพของอ้วนเสี้ยวไม่อยู่เดินทัพไปตะวันออกจัดการลิโป้ เพราะถ้าอ้วนเสี้ยวหันมาเป็นศัตรูกับเรา และลิโป้ให้ความช่วยเหลือเขา เราต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากแน่

    ซุนฮิวจึงว่า เว้นแต่ท่านจะจัดการกับลิโป้ก่อน ไม่งั้นแผนการพิชิตภาคเหนือคงไม่ง่าย

    โจโฉว่า ถูกต้อง แต่ถ้าอ้วนเสี้ยวยกทัพมาภาคกลางและใช้ให้เผ่า Qiang และพวกชนเผ่าบุกจากตะวันตก Shu และ Han จากภาคใต้ กลายเป็นว่าข้าต้องรับศึกจากกองทัพห้าในหกส่วนของแผ่นดิน โดยมีแค่มณฑล Yan และ Yu เป็นที่มั่น ข้าจะทำอย่างไร

    ซุนฮิวจึงว่า เหล่าผู้นำภายในด่าน ล้วนแต่ต่างจิตใจ ไม่มีใครสามารถเป็นผู้นำพวกเขาได้เด็ดขาด ในจำนวนผู้นำเหล่านี้ หันซุยและม้าเท้งถือเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งที่สุด ถ้าพวกเขาเห็นว่าฝั่งตะวันออกมมีการสู้รบเกิดขึ้น พวกเขาต้องเกณฑ์ทหารเตรียมพร้อมรับสงคราม ให้ท่านจงปฏิบัติต่อเขาอย่างดี สร้างความสัมพันธ์ และส่งคนไปเสนอเป็นพันธมิตร แม้ว่าจะเป็นการหวังผลระยะสั้น แต่ก็น่าจะเพียงพอให้ทั้งสองคนสงบอยู่ได้ในขณะที่ท่านโจมตีตะวันออก

    จงฮิวเป็นคนที่ฉลาดและนักวางกลยุทธชั้นเยี่ยม จงใช้เขาไปจัดการกับทางตะวันตก แล้วท่านจะไม่มีสิ่งใดต้องกังวล

    ดังนั้นโจโฉจึงเสนอให้แต่งตั้งจงฮิวเป็นขุนพลถือสัญลักษณ์แทนพระองค์ มีอำนาจควบคุมกองทัพภายในด่าน เขายังได้รับคำสั่งให้สามารถจัดการบริหารทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง เมื่อจงฮิวมาถึงเตียงอั๋น เขาส่งจดหมายไปถึงม้าเท้ง หันซุยและคนอื่น อธิบายเหตุการณ์ให้เขาเข้าใจ ม้าเท้งและหันซุยส่งบุตรชายของเขาเข้าเฝ้าองค์ฮ่องเต้

    อ้วนสุดสถาปนาตัวเองขึ้นเป็นฮ่องเต้ที่ฉิวฉุน เรียกราชวงศ์ของเขาว่า ราชวงศ์ Zhong เขา แต่งตั้งเมืองจิวเจียง เป็นเมืองหลวง แต่งตั้งตัวเองเป็นฮ่องเต้และตั้งขุนนางชั้นสูง และยังได้ทำพิธีบวงสรวงบูชา

    ตันกุ๋ย หลานของ Chen Qiu เป็นเพื่อนของอ้วนสุดตั้งแต่ยังเด็ก อ้วนสุดส่งจดหมายไปเชิญตัวเขามาร่วมงาน และจับตัวบุตรชายเขาไว้เป็นตัวประกัน เพื่อความมั่นใจ แต่ ตันกุ๋ย ตอบว่า แม่ทัพโจนั้นรักษากฏหมายบ้านเมือง และจะขับไล่และทำลายพวกชั่วช้าทั้งหลาย ในความคิดของข้า ท่านควรจะช่วยเหลือเขา และคิดกอบกู้ราชสำนักฮั่นจะดีกว่า การคิดก่อกบฏจะนำความหายนะมาสู่ตัวท่านเอง ท่านต้องการให้ข้าไปประจบสอพลอท่าน แต่ข้ายอมตามเสียดีกว่าที่จะทำแบบนั้น

    จากคุณ : kazama - [ 10 ก.พ. 49 10:45:54 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป