CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ก็แค่ความเข้าใจ (รับวาเลนไทน์คะ)

    วันนี้แวปเอา เรื่องสั้นวันวาเลนไทน์ มาส่งให้นะคะ ไม่รู้ว่าเพื่อนๆจะชอบกันหรือเปล่า ยังไงก็เสนอแนะ ติชมกันได้นะคะ ลาเวนเดอร์น้อมรับแล้วจะนำไปปรับปรุงในเรื่องต่อๆไปคะ
    --------------------------
    ‘ให้เรา เลิกกันเถอะ เลิกกันเถอะ เลิกกัน เลิกกันเถอะ เลิกกันเถอะ เลิกกับฉันไม่ทนอีกแล้วพอนะคนดี ทิ้งความสุขเมื่อวันก่อน ลืมเรื่องราวจบกับซะที ก็คิดซะว่าฉันโชคไม่ดี ที่ได้มาพบเธอ’

    เสียงทำนองเพลงดังมาจาก โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุด

    “สวัสดีคะ” เสียงกึ่งกระแทกหลุดออกจากปากของหญิงสาวที่นั่งอยู่ในร้านอาหาร

    “ไม่ต้องมาแล้วก็ได้ ขี้เกียจรอแล้ว” เธอวางสายลงแล้ว เดินออกจากร้านอาหารทันที แทบจะไม่สนใจเลยว่า โทรศัพท์จะดังตามมาอีกซักกี่รอบ Missed call อีกกี่สาย ตอนนี้เธอไม่สนใจแล้ว ความเฉยชาของเขา คนที่เธอเรียกได้เต็มปากว่า คนพิเศษ แต่ตอนนี้เธอเริ่มจะไม่แน่ใจนักว่าเขาใช่คนพิเศษของเธอ

    เวลาผ่านไป จากตอนเย็นถึงกลางดึก ชายหนุ่มยังคงเพียรพยายามที่จะโทรหาคนพิเศษของเขา แต่ผลที่เขาได้รับกลับมานั้นในตอนสุดท้ายคือ ‘กรุณาฝากข้อความหรือหมายเลขโทรกลับหลังจากได้ยินเสียงสัญญาณ’

    เขาไม่แน่ใจว่าเธอคนนั้นโกรธเขาในเรื่องไหน การที่เธอแสดงออกมานั้น เขาเองพอจะเข้าใจอยู่บ้างว่า เธอคงจะงอนเขา แต่ว่าครั้งนี้มันช่างแตกต่างออกไป เขากลัวเหลือเกินที่จะเสียเธอไป

    เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะไปหาเธอสาย เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะให้เป็นอย่างนี้เลย เขานั่งอยู่ในรถ Mazda 3 สีดำ อย่างรอคอยเธอผู้นั้นจะมองลงมาเห็นว่า เขายังคงคอบเธออยู่ตรงนี้

    ‘รัก รักที่เราต่างหา รักที่เราศรัทธา รักที่เราไขว่คว้าที่นานแค่ไหน เมื่อวันที่พบ พบว่าใครคนนั้น เหมือนว่าเคยผูกพันมานาน เธอคิดเหมือนฉันหรือเปล่า’

    เสียงเพลงดังแผ่วเบาออกมาจากเครื่องเสียงติดรถชั้นดี เขาตัดใจโทรหาเธออีกครั้ง เผื่อว่าในครั้งนี้ เธอจะยอมรับสายของเขา และในครั้งนี้ เสียงหวานของเธอดังเข้ามาในโสตประสาทของเขา เขายิ้มอย่างยินดี

    “กุล ฟังผมก่อนได้ไหม” เสียงของเขาอ้อนวอนแกมขอร้อง

    “คะ แต่ยุ้ยคงมีเวลาไม่มากหรอกนะค่ะ เพราะกุลไม่อยากจะฟังอีกแล้ว ยุ้ยรู้ไหมว่ากี่ครั้งแล้วที่ยุ้ยเป็นแบบนี้ ยุ้ยสนใจกุลบ้างไหม ว่ากุลจะต้องรอยุ้ยนานเท่าไร ยุ้ยเคยสนใจไหมว่ากุลกำลังทำอะไร ยุ้ยคะ กุลว่าเราห่างกันสักพักจะดีไหม เราต่างสำรวจหัวใจกันอีกครั้งหนึ่ง ไม่ใช่กุลไม่ได้รักคุณนะคะ แต่ยุ้ยต้องเข้าใจกุลบ้าง ว่าบ้างครั้งที่ยุ้ยเฉยชา กุลรู้สึกนะคะ ว่าบ้างครั้งยุ้ยไม่ได้สนใจกุลเลย” เสียงของหญิงสาวที่ผ่านเข้ามานั้น เจือไปด้วยเสียงสะอื้นไห้ เขาทราบโดยทันทีว่า ตอนนี้ตาของเธอจะต้องแดงช้ำขนาดไหน

    “ครับ ไม่เป็นไรกุล ผมเข้าใจ” เขากดตัดสายโทรศัพท์ลง ทั้งที่ในใจของเขาร้อนรุ่ม ราวกับมีไฟกำลังแผดเผาอยู่ในตอนนี้

    ไม่ใช่ว่าเขาไม่สนใจเธอ เธอเองก็รู้ว่าการที่เขาเงียบ ขรึม มันเป็นบุคลิกของเขา ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากจะสนใจเธอ แต่การเฉยชาของเขา มันก็อาจจะทำให้เธอน้อยใจ เขาพอจะเข้าใจ บ้างครั้งการที่เขาแสดงออกมันคงจะยังไม่ชัดเจนพอสำหรับเธอ

    เวลาผ่านไป จาก 2 วัน เป็น 2 อาทิตย์ ความทรมานในใจของเขาก็มีเพิ่มขึ้น ไม่ต่างอะไรจากเธอเลย เธอรู้ว่าเธอไม่ควรจะทำแบบนี้ แต่เขาจะเคยสังเกตไหมว่า บ้างครั้ง เธอต้องการให้ใครสักคนมายืนอยู่เคียงข้างแล้วเดินร่วมทางไปพร้อมกับเธอ ช่วยเธอบ้างในบ้างครั้ง แต่เขากลับทำให้เธอรู้สึกถึงความหวาดกลัว เพราะท่าทางเฉยชาของเขานี้แหละ

    เธอตั้งใจไว้แล้วว่าอย่างไร วันนี้เธอจะจัดการปัญหาในจุดๆนี้ ให้เรียบร้อยซะที เธอไม่น่าจะปล่อยให้มันคาราคาซังอยู่แบบนี้

    สัญญาณรอสายดังอยู่สักพัก ก่อนที่จะมีคนรับโทรศัพท์

    “สวัสดีครับ” เสียงปลายทางยังคงเคร่งขรึม

    “ยุ้ย กุลนะ” เสียงของเธอสั่นเล็กน้อยเพราะไม่แน่ในใจว่าเธอทำถูกแล้วใช่ไหมที่โทรหาเขาในวันนี้

    “ครับ กุลมีธุระอะไรด่วน หรือเปล่า ถ้าไม่มี ไว้ค่อยคุยกันตอนเลิกงานนะครับ” น้ำเสียงเรียบบ่งบอกได้ถึง อำนาจในตัวเอง ทำให้เธอนั้นไม่กล้าที่จะพูดความในใจ

    “คะ ไม่เป็นไร ไว้ค่อยคุยกันก็ได้ค่ะ” เธอวางสายลงอย่างแผ่วเบา

    คงไม่เคยเลยสินะ ไม่เคยแคร์กันเลยใช่ไหม ที่ผ่านมามีแต่เธอหลงไปคนเดียวใช่ไหม เขาเองคงไม่สนใจเธออีกต่อไปแล้ว คงเป็นความผิดของเธอเองจริงๆ เธอไม่น่าที่จะทำแบบนี้เลย

    เธอเองไม่รู้เลยว่าคนที่วางสายหลังจากเธอนั้น รู้สึกยินดีแค่ไหน เมื่อได้เห็นชื่อของเธอผ่านทางหน้าจอ และได้ยินเสียงของเธอ แต่การที่จะพูดคุยกับในที่ทำงานนั้นคงจะไม่สะดวกเท่าไรนัก เขาเองไม่รู้เลยว่าเสียงที่เขาพูดออกไปนั้นมันห้วนขนาดไหน

    เขาตั้งใจว่าวันนี้เขาจะไปรับเธอจากที่ทำงานแล้วพูดปรับความเข้าใจกันเสียที เขาเองก็ทรมานไม่ต่างจากที่เธอเป็นอยู่สักเท่าไร

    “ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าคุณรมิตา กลับหรือยังครับ” ชายหนุ่มถามคนที่นั่งประจำอยู่ที่เคาเตอร์หน้าบริษัทที่คนรักของเขาทำงานอยู่

    “เพิ่งออกไปสักครู่เองคะ ไม่ทราบว่ามีธุระด่วนหรือเปล่าค่ะ” ประชาสัมพันธ์สาวถามเขา ในขณะที่เขาทำหน้ากระอักกระอวกใจเป็นอย่างมาก

    “อ้าว ยุ้ยมารับ ยัยกุลเหรอ กุลเขาเพิ่งออกไปเอง สงสัยจะคลาดกับบนลิฟต์ละสิ” เสียงหัวหน้างานของเธอดังออกมาทางประตู

    “ครับพี่มล แล้วพี่มลกับพลพรรคจะไปไหนกันหรือครับ” เขาเอ่ยถามอย่างเป็นกันเอง เพราะพี่มลเป็นรุ่นพี่ที่กุลค่อนข้างสนิทมากคนหนึ่ง

    “วันนี้นัดทานข้าวเย็นกันตามปกตินั้นแหละ ยุ้ยไปด้วยกันสิ กุลเขาก็ไปด้วย” ชายหนุ่มยิ้มให้แทนคำตอบ อย่างที่เข้าใจกันดีว่า คงไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน

    “เอาอย่างนี้ ยุ้ยขับไปที่ร้านนาจ เลยแล้วกัน ยายกุลคงไปถึงก่อนแล้วแหละ แต่ทะเลาะอะไรกันหรือเปล่ายุ้ย พี่เห็นกุลทำหน้าเศร้ามาหลายอาทิตย์แล้ว” สาวใหญ่ถามอย่างไม่เกรงใจ เพราะว่าคนทั้งคู่คบกันอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่เสมอ

    “ไม่มีอะไรมากหรอกครับ เข้าใจผิดกันนิดหน่อย งั้นผมไปก่อนนะครับ แล้วเจอกันที่ร้าน” เขารีบออกไปทันทีตามหัวใจที่เรียกร้องอยากจะพบเธอให้เร็วที่สุด

    จากสถานที่ทำงานของเธอกับร้านอาหารนั้น อยู่ไม่ไกลกันเท่าไร เพราะเขาสามารถใช้เวลาแค่ 10 นาทีก็มาถึงร้านอาหารได้อย่างปลอดภัย บริกรหนุ่มเปิดประตูให้อย่างนอบน้อม

    สายตาของเขามองหาผู้หญิงคนเดียวที่อยู่ในใจเขา เขาเห็นเธอนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวยาวติดผนัง เขาเดินเข้าไปหาอย่างหวาดหวั่น เขากลัวเธอจะยังไม่หายโกรธเขา แต่สองขาของเขากำลังพาเขาไปใกล้เธอยิ่งขึ้น และใกล้ขึ้นจนมาหยุดที่หลังเก้าอี้ตัวที่เธอนั่งอยู่

    “จะรังเกียจไหมครับถ้าผมจะนั่งข้างๆคุณ” เสียงที่คุ้นหูทำให้เธอหันไปตามเสียงนั้น เธอบอกไม่ได้ว่า เธอเองรู้สึกตกตะลึง หรือดีใจที่ได้เจอเขา แต่ที่รู้ในตอนนี้คือน้ำในตาของเธอมันไหลออกมาเอง โดนที่เธอไม่ได้ตั้งใจ

    “กุล” เขารีบทรุดตัวลงไปเช็ดน้ำตาให้กับเธอ เขากรีดน้ำตาออกอย่างแผ่วเบา “ผมขอโทษ” คำพูดง่ายๆ ที่ออกจากปากของเขา ทำกลีบปากบางแย้มรอยยิ้มที่อ่อนหวานที่สุดในความคิดของเขา

    “ผมรู้ว่าผม อาจจะไม่ใช่คนที่ดีพร้อม อย่างที่กุลรู้ ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงออก อย่างที่กุลเห็น ผมเป็นคนที่พูดไม่เก่ง อย่างที่กุลเคยบอกเอาไว้ แต่กุลรู้ไหมว่า กุลคือคนเดียวที่ผมให้ความสำคัญ รองจากครอบครัวของผม” เขาส่งยิ้มให้เธอ เป็นรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุข

    “พี่กุล มาแอบทำซึ้ง อะไรแถวนี้คะ ดูสิมดเดินเต็มหมดแล้ว” รุ่นน้องที่ทำงาน คนหนึ่งเดินเข้ามาทันเห็นเหตุการณ์พอดี โดยมีสายตาคาดโทษมาจากหัวหน้างานของพวกเธอ

    “มานั่งทานข้าวกันก่อน แล้วมีอะไรค่อยคุยกันที่หลัง” พี่ใหญ่นั่งลงตามด้วยน้องๆ ทั้งหลายที่ใคร่อยากรู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ระหว่างหนุ่มสาวคู่นี้ แหมแต่หนุ่มหล่ออีกคนที่เพิ่งย้ายหัวหน้างานมาที่งานนี้เหมือนกัน

    “กุลจะไม่แนะนำ ผู้ชายคนนี้ให้ผมรู้จักหรือครับ ว่าใครจะเป็นคู่แข่งของเขา” เสียงห้าวดังมาจากอีกนานของโต๊ะ เป็นชายหนุ่มที่แม้นั่งอยู่ก็รู้ได้ว่าดูภูมิฐานขนาดไหน ใบหน้าเข้ม ริมฝีปากเหยียดตรง ทำให้ชายหนึ่งที่นั่งข้างหญิงสาวหันมาพิจารณา

    “ผมเจตดิลก เรียกผมว่าเจตก็ได้ครับ แล้วแต่จะสะดวก ที่จริงผมมาที่นี้พร้อมกุล คุณคงไม่ทันสังเกต” เสียงของเขาบ่งบอกได้ถึงความเอาแต่ใจ

    “ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณเจต ผมคงไม่ทันได้สังเกตคุณจริงๆ ผมโกศลครับ จะเรียกว่า ยุ้ย เหมือนที่กุลหรือพี่มลเรียกก็ได้” เสียงของเขาตอนนี้ไม่ได้แสดงอาการอะไร นอกจากสายตาที่มองตรงไปยังบุรุษคนนั้นอย่างสำรวจ

    กุลมองเขาอย่างเข้าใจ เพราะเจตที่เพิ่งย้ายมาอยู่ในสายของเธอเมื่ออาทิตย์ก่อนนั้น และที่สำคัญเขาคือเพื่อนของเธอ เขารู้ว่าตอนนี้เธอมีปัญหากับคนพิเศษ ทำให้เจตดิลกถึงพูดอะไรแบบนี้ลงไป

    “วันนี้มาเลี้ยงรับน้องใหม่กันนะยุ้ย พี่ว่ามาสั่งอาหารกินกันเถอะ คงจะหิวกันแล้ว” เธอหันไปเรียกบริกรแล้วเลือกสั่งอาหารไม่กี้อย่างก่อนที่จะให้คนที่เหลือสั่งคนละอย่างสองอย่างมาแบ่งกัน

    บรรยากาศบนโต๊ะอาหารนี้เป็นไปอย่างเหมือนจะสนุกสนาน เพราะว่า มี 2 หนุ่มนั่งประชัดหน้ากันอยู่นั้นเอง แต่เมื่อยุ้ยนั่งสังเกตอย่างรอบคอบแล้ว ที่จริงชายหนุ่มอีกคนก็ไม่ได้มีท่าทีอะไรที่ชัดเจนกับผู้หญิงของเขามากนัก เพราะแววตาเวลาที่เขามองเธอ มันไม่เหมือนเขาที่มองแก้วที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ความเอื้ออาทร

    “กุลเดี่ยวยุ้ยไปส่งกุลที่บ้านนะ” ชายหนุ่มหันมาบอกกับคนรักของเขา หลังจากที่ออกมาจากร้านอาหาร

    “ผมกับกุลขอตัวกลับเลยนะครับ” ชายหนุ่มพนมมือสวัสดีแล้วโบกมือ ก่อนที่จะจับมือหญิงสาวเดินไปที่รถ โดยทิ้งให้คนที่เหลือต่างพากันอิจฉาคู่รักคู่นี้

    “พี่ว่า เจตอย่าไปยุ่งกับกุลเลยนะ ก็เห็นว่ากุลกับแฟนเขารักกันขนาดไหน” เจตหันมาสบตากับเจ้านายของเขาก่อนส่งยิ้มกวนประสาทแบบปกติ
    ======================
    มีต่อ

    แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 49 22:54:17

    จากคุณ : ลาเวนเดอร์สีม่วงอ่อน - [ 14 ก.พ. 49 00:07:58 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป