CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ดาราราย............(เรื่องสั้นตอนเดียวจบ)

    ดาราราย

    ++++++

    อากาศอรุณรุ่งเย็นฉ่ำ น้ำค้างเกาะพร่างพราวยอดไม้ใบหญ้าสดชื่นเหลือเกิน

    แต่หัวใจของผมกลับรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก เพราะเช้านี้ผมมีนัดกับสาวสวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ที่จริงเราเพิ่งจะรู้จักกันเมื่อวานนี่เอง  แต่กับบางคู่ ความรักบางทีมันก็ไม่ต้องการเวลาพิสูจน์อะไรมากมาย เพียงแต่หัวใจตรงกันเท่านั้น ไม่ต้องเสียเวลาอันมีค่าในการจะตกลงใจรักกันและกันอย่างแนบแน่น

    ตอนแรกผมเห็นหน้าเธอ  ผมเขินอายอย่างบอกไม่ถูก จนแทบจะเอาหัวมุดลงไปในดินเสียให้รู้แล้วรู้รอด จะว่าไร้เดียงสาบริสุทธ์ดุจหยาดน้ำค้างก็ไม่ใช่  เพราะผมเองก็เคยผ่านความรักมาพอสมควร แต่ไม่เหมือนเธอคนนี้ เธอผู้ซึ่งเปรียบเสมือนนางฟ้าจุติลงมาเกิดกลางทุ่งหญ้าในยามเช้าอันแสนสดชื่น  ผู้ซึ่งทำให้ขุนเขา แมกไม้ สายลม  แสงแดด  และฟากฟ้าสวยสดงดงามกระจ่างสดใสเหลือพรรณนา การที่ได้รักใครสักคนทำให้หัวใจพองโตเบิกบานจนแทบโบยบินขึ้นบนฟากฟ้า ยิ่งได้รับความรักตอบ   ยิ่งทำให้หัวใจแทบระเบิดความรักออกมาเป็นรูปดอกไม้สีชมพูโรยรายปรายโปรยไปทั่วปฐพี

    ผมยังจำคำที่ทักทายเธอเป็นครั้งแรก หลังจากใช้ความพยายามอย่างสุดแสนในการง้างปากตัวเอง ให้คายคำพูดออกมา

    “อ่า.......สวัสดี...ครับ.......เอ่อ..คือว่า..แบบว่า....คือว่า.....คุณอยากตายไหมครับ”

    พูดจบ ผมก็แทบหักคอตัวเองตายเสียเอง ทำไมต้องหลุดคำพูดที่พิลึกโลกออกมาขนาดนั้น แต่อย่างว่าล่ะครับ... เวลาอยู่ต่อหน้าคนที่แสนรักแรกๆ อะไรๆ มันก็ประหม่าถูกๆ ผิด ๆ ไปหมด มือไม้ที่เคยรู้สึกพอดี ก็เกะกะเก้งก้างเกินความพอดี จนไม่รู้จะซุกไว้ที่ไหน

    เธอคนนั้นทำตาโต มองหน้าผมแล้วหัวเราะ  เสียงของเธอสดใสบาดใจเหลือเกิน

    “ทำไมถามแบบนั้นล่ะคะ....ใครบางที่อยากตาย....เอ๊ะ..หรือว่าคุณอยากตาย”

    “เปล่าครับ...คือว่า..”
    ผมคิดว่าตัวเองคงหน้าแดงก่ำไปหมดแล้ว
    “คือว่าผมไม่รู้จะทักทายอย่างไร...แบบว่ามันเขินครับ แฮ่ะๆๆ....เลยนึกคำพูดไม่ออกครับ”

    เธออมยิ้ม มองหน้าผมอยู่เช่นนั้น จนทำให้ผมต้องหลุดปากเอ่ยขึ้นก่อนอีกว่า

    “เอ่อ.....คือว่า คุณป่วยไหมครับ.....”

    “อะไรนะคะ......”

    “เอ่อ.....ผมหมายถึงว่า คุณสบายดีไหมครับ.... แฮ่ะๆๆ.....”

    พูดแล้วก็อยากกระโดดเตะปากตัวเองสักที ฐานที่พูดจาออกมาแต่ละประโยคน่าถีบทั้งนั้น นี่ต้องเป็นผลมาจากรักแรกพบแน่นอน คนดีๆอย่างผมถึงได้พูดจาปัญญาอ่อนขนาดนั้น

    “คุณกินข้าวหรือยังครับ มีแฟนหรือยัง แล้วชื่ออะไรครับ”
    ผมตัดสินใจถามแหลกเป็นการกลบเกลื่อนความเขิน เธอหัวเราะให้กับความเปิ่นเชยของผมแล้วบอกด้วยเสียงสดใสว่า

    “กินข้าวแล้วค่ะ ยังไม่มีแฟนค่ะ ชื่อดารารายค่ะ”

    “ไชโย......”

    ผมแหกปากร้องสุดเสียง ด้วยความปรีดาปราโมทย์เป็นที่สุด  ดาราราย เป็นชื่อที่เพราะที่สุดในโลกเท่าที่เคยฟังมา  ใครบ้างจะคิดว่าสาวสวยหน้าตาดีจะยังไม่มีแฟน แบบนี้ผมก็ยังคงพอมีหวัง....ตอนนั้นถ้าเธอตอบว่าเธอมีแฟนแล้ว ผมคงเป็นลมล้มลง สลบคาที่แน่นอน

    และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความรักอันแสนหวาน ไม่นานหลังจากที่เราคุยกันเรื่องเปะปะไปตามเรื่องตามราว   รู้ว่าเรามีหัวใจตรงกัน จวบจนตะวันโผล่สูงเลยแนวไม้  จึงจากกันอย่างอ้อยสร้อยอ้อยอิ่ง โดยมีสัญญาใจว่าจะกลับมาเจอกันใหม่ในเช้าของวันต่อมา ความรักเป็นธรรมชาติของเผ่าพันธุ์ทั้งหลายทั้งปวงที่ยังไม่หลุดพ้นหรือบรรลุถึงสัจจะอะไรสักอย่าง   ผมยังเชื่อมั่นว่าความรักเป็นสิ่งที่ดีเสมอ แม้ว่าอีกด้านหนึ่งจะคือความโศกเศร้าก็ตาม  แต่ถ้าใช้ความรักอย่างระมัดระวังมันคงพอที่จะประคับประคองความรู้สึกและหัวใจให้สดใสเบิกบานไม่โดดเดี่ยวเงียบเหงาต่อไป  และคือแหล่งสร้างพลังงานขับเคลื่อนกระตุ้นชั้นดีที่สุดอย่างหนึ่ง

    +++++

    ผมรอเธอไม่นานนัก เธอก็มาถึงสถานที่นัดพบ   แต่วันนี้ใบหน้าของเธอไม่สดใสเอาเสียเลย ทำให้ความรักที่เบ่งบานในหัวใจห่อเหี่ยวลงไปหลายส่วน

    “ดาราราย...มีอะไรหรือครับ วันนี้หน้าตาไม่สบายเลย”
    ผมถามด้วยความเป็นห่วง รู้สึกถึงลางสังหรณ์อัปมงคลอะไรบางอย่าง

    “เมื่อคืนมีพวกเรามากมายหลายคนถูกจับตัวไป...”
    เธอบอกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
    “พวกเราไปเที่ยวลานแห่งแสงจันทร์ ที่ซึ่งพวกเราเคยคิดว่าปลอดภัย แต่เมื่อคืนนี้......”

    “มีอะไรเกิดขึ้นหรือครับ”
    ผมผมเสียงเร็วปรื๋อ เมื่อเห็นเธอหยุดพูด และทำท่าจะร้องไห้

    “มันเป็นปีศาจ....”  สีหน้าของดารารายเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
    “ปีศาจร้ายที่ตัวใหญ่มหึมา เงาของมันแทบจะบดบังแสงจันทร์ กว่าจะรู้ตัวพวกเราก็หายไปหลายสิบคน ได้ยินแต่เสียงร้องโหยหวนของพวกเราที่หายไปกับความมืด ฉันเองก็เผ่นหนีออกมาสุดชีวิต นึกว่าจะไม่รอดเสียแล้ว”

    “ปีศาจเหรอ.....”
    ผมอุทานด้วยความพิศวงงงงัน   ปีศาจมันเป็นเรื่องในนิทานหลอกเด็กเท่านั้นไม่ใช่หรือ จะออกมาอาละวาดไล่จับผู้คนได้อย่างไร และลานแห่งแสงจันทร์นั่นผมเองก็เคยไปหลายครั้ง  มันไม่น่าจะใช่สถานที่อันตรายเลยสักนิด ตรงข้ามกลับเป็นพื้นที่ให้หนุ่มสาวทั้งหลายมีโอกาสพบปะพูดคุยกันเป็นอย่างดี รวมทั้งเป็นแหล่งสังสรรค์แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในเรื่องราวมากมาย

    “มันเป็นปีศาจจริงๆ..”
    ดารารายยืนยันหนักแน่น
    “มันไม่ใช่ฝันร้าย.....ลานแสงจันทร์กลายเป็นสถานที่อันตรายเสียแล้ว พวกเราต้องหนีไปให้ห่างจากลานแสงจันทร์”

    “เราจะไปด้วยกัน”
    ผมบอกเธอด้วยน้ำเสียงปลอบประโลมและให้กำลังใจ
    “แต่ผมอยากดูให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่.....คืนนี้ผมจะไปดู คุณรอผมอยู่ที่นี่”

    “อย่าไปเลยค่ะ...มันอันตราย”
    เธอรีบคัดค้านความคิดของผมอย่างเป็นห่วงและวิตกกังวล

    “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมจะกลับมาหาคุณ ผมไม่มีวันทิ้งคุณไปได้ คุณรอผมที่นี่ รู้ความจริงแล้วผมจะกลับมาทันที ผมให้สัญญา...ดารารายสุดที่รักของผม....ผมจะกลับมาหาคุณแน่นอน”

    ใช่แล้ว...ถ้าจะมีอย่างหนึ่งที่มีพลานุภาพมากกว่าความรัก บางทีก็คงเป็นสัญชาตญาณและศักดิ์ศรีของความเป็นลูกผู้ชายนี่เอง ผมคงตัดช่องน้อยแต่พอตัว และจากไปโดยไม่รู้ปัญหาไม่ได้  ถ้าไม่รู้ความจริงว่าอะไรเกิดขึ้นที่ลานแสงจันทร์ ถึงจะผละจากไปได้ในขณะนี้ ความกังวลคงติดตามหลอกหลอนผมไปตลอดชีวิต

    ดังนั้นผมจึงต้องไป แม้ว่าจะต้องทำใจกับความรักความห่วงใยของดารารายปานใดก็ตาม

    ลานแสงจันทร์เป็นบริเวณที่มีมนต์ขลัง มีเสน่ห์อย่างล้ำลึก เป็นสถานที่สว่างไสวกว่าบริเวณอื่นทำให้พวกเราชอบไปที่นั่น ไปอาบแสงจันทร์ ไปหาคนรัก ไปหาเพื่อนพูดคุยพบปะเสวนากันตามประสาพวกเรา  หากคุณจะไปตามหาใครสักคน คุณต้องไปที่ลานแสงจันทร์ สักแห่ง  ไม่มีใครคิดว่าจะมีอันตรายมหันต์เกิดขึ้นเลย

    ที่รัก ผมไปแล้วจะรีบกลับมา....

    เมื่อความมืดมาเยือน ผมมาสังเกตการณ์อยู่แถวๆ ขอบนอกของลานแสงจันทร์อย่างระมัดระวัง ข่าวปีศาจเมื่อคืนดูเหมือนจะไม่มีผลอะไรมากมาย  ยังคงพบพวกเราหลายคนอยู่ที่นั่น แม้ว่าบางคนจะมีท่าทางหวาดระแวงอยู่บ้างก็ตาม

    ศรรามศักดิ์ หนุ่มมาดเท่ห์ควงสิเรียมศรี สาวสวย ผ่านผมไปพอดี เขาหันมาบอกกับผมอย่างคนมีไมตรีจิต

    “ไปที่ลานแสงจันทร์กันเถอะ มายืนเหงาอยู่ทำไม”

    “ขอบใจ แต่ได้ข่าวว่ามีปีศาจมาจับพวกเราไปเมื่อคืน”

    “เหรอ...”

    เขาทำตาโต มองหน้าสิเรียมศรีแล้วพากันหัวเราะ พลางบอกว่า

    “พวกเราได้ข่าวเหมือนกัน แต่ใครจะไปเชื่อ โลกเรามีปีศาจที่ไหนกัน ไปเถอะน่า... สาวๆสวยๆ หลายคนยังไม่มีคู่เลยนะเพื่อน”

    ผมบอกขอบใจและปฏิเสธความหวังดีของพวกเขา... แน่ล่ะ...ก็ผมสอดแนม มาหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่บนลานแสงจันทร์ ไม่ใช่มาหาคู่หรือมาจับกลุ่มเพื่อเหตุผลทางการเมือง

    พระจันทร์วันนี้หม่นมัว บางครั้งก็ลาลับดับหายไปกับกลุ่มเมฆหมอง แต่ลานแสงจันทร์คืนนี้ยังมีสมาชิกมากมายหลายกลุ่มและหลายจุดประสงค์ บางคนมาหาคู่ บางคนมาจับกลุ่มคุยกันเกี่ยวกับการบ้านการเมืองหรือความเป็นไปของสังคม ไม่มีทีท่าว่าพวกเขาเหล่านั้นจะหวาดกลัวอะไรเลย บางทีอาจเป็นเพราะมนต์ขลังแห่งแสงจันทร์ที่สว่างนวลใยกว่าที่อื่นก็เป็นไปได้

    สายลมคืนนี้ค่อนข้างอบอ้าวเป็นพิเศษ ลานเสียงจันทร์ยังคงมีพวกเราทยอยมามากขึ้นเรื่อย ๆ เสียงหัวเราะเสียงพูดเสียงคุยดังมาให้ได้ยินเป็นระยะ จนผมเองเกิดความรู้สึกอยากเข้าไปพบปะพูดคุยอย่างสนุกสนานแบบนั้นบ้าง แต่ยังก่อน........ผมพยายามบอกกับตัวเอง ..อย่าให้มนต์ขลังของลานแสงจันทร์ชักจูงจนเคลิบเคลิ้ม.....ดารารายรออยู่....



    และก่อนที่จะรู้ตัวและต่อหน้าต่อตาโลกทั้งใบเหมือนพลิกถล่มครืน โลกที่สุขสงบเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ  เงาทะมืนมหึมาสูงเสียดฟ้าก็ปรากฏขึ้นอย่างกะหันหัน บดบังแสงจันทร์มืดดำลงไปซีกหนึ่ง มันเคลื่อนไหวรวดเร็วราวปีศาจ พวกที่อยู่บนลานเริ่มกรีดร้องแตกตื่น เมื่อเงาทะมึนพุ่งลงมา และกระชากพวกเขาเหล่านั้นหายวูบขึ้นไปในม่านดำอันน่าสะพรึงกลัวและสยดสยอง หลายคนพยายามวิ่งหนีออกจากจุดอันตราย แต่ความเคลื่อนไหวของพวกเขาช้าเหลือเกินเมื่อเทียบกับอสุรกายปีศาจ

    นั่นมันชัดเจนที่สุดกับภาพที่ปรากฏต่อหน้าต่อตา มันไม่ใช่ฝันร้าย แต่เป็นความจริง ผมตะลึงมองเหตุการณ์นรกแตกเบื้องหน้าเหมือนถูกสะกดวิญญาณ จนได้ยินเสียงร้องคุ้นหูดังมาจากด้านข้าง

    “หนีเร็ว....”

    หันไปมอง ดารารายที่รักของผมนั่นเองที่ส่งเสียงร้องเตือน อะไรกัน...ก็บอกให้รออยู่ที่อื่นแล้วเธอมาทำไมที่นี่ แต่ยังไม่ทันจะทำอะไร เงาดำมืดก็ทาบผ่านลงมาจากด้านหลัง พระเจ้าช่วย.... อสุรกายปีศาจไม่ได้มีแค่ตัวเดียว มันมีสองตัว ราวกับว่าต้องการจัดการพวกเราให้หมดสิ้น

    ผมหนีมันไม่พ้น และที่รักของผมก็คงหนีไม่พ้นเหมือนกัน ร่างของผมถูกพลังอำนาจของมันบีบรัดและกระชากจนหลุดลอยขึ้นไปในอากาศ ได้ยินเสียงเสียงโหยหวนดังลั่นไปหมดในตอนนั้น ผมดิ้นรนไปมาอย่างสิ้นหวัง ในความคิดตอนนั้นมีแต่คำว่าดาราราย..ดาราราย...

    +++

    “คืนนี้เราโชคดีนะหลานยาย.....”

    คุณยายวัยเจ็ดสิบกว่า พูดกับหลานชายวัยไม่ถึงสิบขวบอย่างยินดี  ขณะพากันเดินฝ่าความมืดไปตามถนนสายเก่าๆ มุ่งหน้ากลับบ้าน ในข้องใบน้อย (อุปกรณ์กักขังสัตว์ขนาดเล็กชนิดหนึ่ง) มีจิ้งหรีดนับร้อยกำลังวิ่งพล่านหนีตายกันอลหม่าน  ยังไม่ดึกมากนัก สองยายหลานก็จับพวกมันได้มากมายตามบริเวณเสาไฟฟ้าซึ่งเหลือให้แสงสว่างไม่กี่ต้นในดินแดนทุรกันดารนี้  ประสบการณ์บ้านป่าสอนให้รู้ว่าสัตว์เหล่านี้ชอบที่จะมาชุมนุมกันตามบริเวณที่มีแสงไฟฟ้า และนั่นคือกับดักมรณะ

    “คงขายได้หลายบาทนะยาย”
    เด็กน้อยพูดขึ้นด้วยใบหน้าแววตาสดใส มองเห็นสมุดเล่มใหม่ลอยมาตรงหน้า เขาอยากได้มาหลายวันแล้วเพราะเล่มเก่ากำลังจะหมด ทั้งที่พยายามเขียนแบบประหยัดเต็มที่ จนครูบ่นว่าทำไมต้องเขียนตัวหนังสือเล็กและผอมขนาดนั้น เขารู้ว่ายายไม่ได้ร่ำรวยมาจากไหน กว่าจะหาเงินได้ครบยี่สิบบาทเพื่อซื้อสมุด ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

    “พรุ่งนี้เช้า ยายจะเอามันลงหม้อ คั่วไฟร้อนๆ ใส่เกลือ เอาไปขายคงได้ถึงสามสิบบาท  เงินที่เหลือคงพอที่จะซื้อเศษเนื้อสักนิด มาต้มใส่ผักกินกันให้อร่อยเลยล่ะ”

    ยายบอกกับหลานรัก ซึ่งคืนนี้มาช่วยจับจิ้งหรีดอีกแรงหนึ่ง   คุณยายไม่ได้สนใจถึงเสียงจิ้งหรีดซึ่งวิ่งพล่านในหม้อใบเก่า ๆ เพื่อหนีตายและหนีให้พ้นความทรมาน  ไม่ได้ยินเสียงกรีดร้องอย่างทุกข์ทรมานแสนสาหัสก่อนตาย ไม่ได้กลิ่นแห่งความหวาดกลัวแตกตื่นสุดขีดของสัตว์ตัวน้อยๆ เหล่านั้น  แต่ได้ยินเสียงร้องคร่ำครวญของท้องคอดกิ่วซึ่งต้องการอาหาร  คำว่าหิวโหย อดอยาก มันมาบดบังเสียงหนีตายของสัตว์พวกนั้นซึ่งกำลังจะถูกฆาตกรรมหมู่อันสยดสยองโดยการถูกเผาบนเหล็กที่ร้อนจัดจนตายทั้งเป็น ...  หรือบางทีคุณยายอาจคิด แต่ไม่มีทางเลือก กฎแห่งการอยู่รอดบางครั้งก็เจ็บปวดและโหดร้าย  

    คืนนั้นยายหลานหลับอย่างค่อนข้างเป็นสุข  เด็กชายฝันเห็นสมุดเล่มใหม่เอี่ยม หน้าปกเป็นการ์ตูนสวยงาม ลอยมาในความฝัน ทีนี้เพื่อน ๆ ในห้องจะได้เลิกล้อกันเสียทีว่าใช้สมุดเก่าๆ สมัยพระเจ้าเหาที่หนึ่ง  ส่วนคุณยายนอนยิ้มน้อย ๆ พรุ่งนี้จะซื้อสมุดเล่มใหม่ให้หลานรักเสียที

    +++++++

    แก้ไขเมื่อ 21 ก.พ. 49 20:31:50

    จากคุณ : GTW - [ 16 ก.พ. 49 14:33:59 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป