ปี 199 AD
ปี Jian’an ที่ 4 199 AD
(14 กุมภาพันธ์ 199 – 2 กุมภาพันธ์ 200)
ในฤดูใบไม้ผลิ เดือนที่สาม เตียวเอี๋ยน หัวหน้าโจรภูเขา เข้าร่วมกับ Gongsun Xu เขานำทหารแสนคน ยกทัพเป็นสามทางมาช่วยกองซุนจ้าน
ก่อนหน้าที่เขาจะมาถึง กองซุนจ้านส่งสารลับไปหา Gongsun Xu บอกเขาให้นำทหารม้าหุ้มเกราะห้าพันนายไปซุ่มที่หนองน้ำทางเหนือแล้วจุดไฟเป็นสัญญาณ แล้วกองซุนจ้านจะนำทัพฝ่าออกไปจากภายในเมือง
ทหารลาดตระเวนคนหนึ่งของอ้วนเสี้ยวยึดสารลับนั้นได้ เมื่อถึงเวลานัดหมาย กองทัพอ้วนเสี้ยวได้แกล้งจุดไฟขึ้น กองซุนจ้านเชื่อว่ากองทัพหนุนมาถึงแล้ว จึงนำทัพออกมาต่อสู้ แต่โดนทัพอ้วนเสี้ยวที่ซุ่มอยู่โจมตี กองทัพกองซุนจ้านเสียหายอย่างมาก ต้องหนีร่นเข้าไปในเมือง
อ้วนเสี้ยวสั่งให้ขุดอุโมงค์ โดยใช้ไม้ช่วยพยุงอุโมงค์ ขุดไปใต้หอคอยหนึ่งของกองซุนจ้าน พอทหารอ้วนเสี้ยวคิดว่าขุดมาถึงใจกลางป้อม พวกเขาก็ก่อกองไฟเผาจนหอคอยพังทลาย บางป้อมล้มลงโดนป้อมใจกลาง กองซุนจ้านรู้ว่าวาระสุดท้ายของเขามาถึง จึงรัดคอน้องสาว ภรรยาและบุตรของเขา และเตรียมฟืนสำหรับเผาศพตัวเอง อ้วนเสี้ยวสั่งทหารปีนเข้าไปในป้อม พวกเขาตัดศีรษะกองซุนจ้าน เต็งไก๋ก็ตายในศึกนี้ด้วย
Guan Jing ร่ำไห้พูดว่า ถ้าข้าไม่แนะนำให้นายท่านอยู่ที่ป้อมนี่ ท่านก็อาจจะยังไม่ถึงที่ตาย ข้าเคยได้ยินว่า สุภาพชนที่นำความหายนะมาสู่ผู้อื่น เขาควรที่จะร่วมในความยากลำบากนั้นด้วย แล้วข้าจะเป็นคนที่รอดตายเพียงคนเดียวได้อย่างไร เขาจึงควบม้าเข้าสู่ทัพอ้วนเสี้ยวและถูกฆ่าตาย
Gongsun Xu ถูกฆ่าตายโดย Chuge (ชนเผ่า Xiongnu)
Tian Yu พูดกับ Xianyu Fu เจ้าเมืองของเขา โจโฉสนับสนุนฮ่องเต้และออกคำสั่งแก่เหล่าเจ้าเมือง ในที่สุดเขาจะรวบรวมแผ่นดินได้ ท่านควรเป็นขุนนางพวกแรกที่ไปรับใช้เขา ดังนั้น Xianyu Fu และขุนนางของเขาจึงเขียนจดหมายแสดงความภักดีกับโจโฉ หลังจากนั้นจึงมีราชโองการแต่งตั้งให้เขาเป็นแม่ทัพผู้สร้างความจงรักภักดี และผู้ปกครองหกหัวเมืองในมณฑล You
ก่อนหน้านั้น อ๋อง Qiuliju แห่ง Wuhuan ได้เสียชีวิต ลูกชายของเขา Louban ยังเยาว์วัย ดังนั้นหลานของเขา Tadun ชายหนุ่มที่ชอบสงครามจึงได้สืบทอดอำนาจควบคุม Nanlou จาก Shanggu Supuyan จาก Liaodong และ Wuyan จาก Youbeiping เมื่ออ้วนเสี้ยวโจมตีกองซุนจ้าน Tadun นำทัพ Wuhuan ไปช่วยเขา และเมื่อกองซุนจ้านตายไป อ้วนเสี้ยวจึงใช้โอกาสนี้ทำตราตั้งตำแหน่ง Shanyu มอบให้ Tadun Nanlou Supuyan และ Wuyan
อ้วนเสี้ยวรู้ว่า Yan Rou นั้นได้การเคารพจาก Wuhuan เขาจึงมอบรางวัลและปฏิบัติต่อเขาอย่างดี เพื่อที่เขาจะได้รักษาสันติสุขทางตอนเหนือ ต่อมา Nanlou และ Supuyan ได้แต่งตั้งให้ Louban เป็น Shanyu และ Tadun เป็นอ๋อง แต่ Tadun ก็ยังครองอำนาจการปกครอง
Sui Gu นำทัพไปตั้งค่ายที่ Shequan ในฤดูร้อน เดือนที่สี่ โจโฉนำทัพของเขามุ่งหน้าไปแม่น้ำเหลือ และส่งแม่ทัพ สูหวนและโจหยิน ลูกพี่ลูกน้องเขาข้ามแม่น้ำไปโจมตี Sui Gu
Sui Gu นำทหารบางส่วนขึ้นเหนือไปหาอ้วนเสี้ยวขอความช่วยเหลือ แต่ สูหวน และโจหยินมาพบกับเขาที่ Quancheng ทั้งสองโจมตีกองทัพเขาและตัดหัวเขาเสีย โจโฉจึงข้ามแม่น้ำเหลืองไปปิดล้อม Shequan Shequan ยอมแพ้ โจโฉนำทัพเขากลับไป Ao Granary
ก่อนหน้านั้น เมื่อโจโฉยังอยู่ที่ Yan เขาได้แนะนำให้แต่งตั้ง Wei Chong เป็นบุตรกตัญญู เมื่อมณฑล Yan ก่อกบฏต่อโจโฉ โจโฉพูดว่า Wei Chong เป็นหนึ่งในคนที่จะไม่ทอดทิ้งข้าแน่นอน เมื่อเขารู้ว่า Wei Chong หลบหนีไป โจโฉโกรธมากพูดว่า Wei Chong ถ้าเจ้าไม่หนีไปไกลถึงเผ่า Yue ทางตอนใต้ หรือชนเผ่า Hu ทางตอนเหนือ ข้าจะตามล่าเจ้าให้จงได้
เมื่อโจโฉยึดเมือง Shequan Wei Chong ถูกจับได้ โจโฉพูดว่า เขามีค่าเกินกว่าที่ข้าจะฆ่าทิ้ง เขาจึงแก้มัดและแต่งตั้ง Wei Chong เป็นเจ้าเมืองโห้ลาย พร้อมอำนาจปกครองแม่น้ำเหลืองตอนเหนือ
แม่ทัพตังสินถูกแต่งตั้งเป็นแม่ทัพราชรถและทหารม้า
หลังจากที่อ้วนสุดตั้งตัวเองเป็นฮ่องเต้ เขาก็ใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายมาก เขามีมเหสีและนางสนมหลายร้อยคน พวกเขาแต่งกายด้วยผ้าไหมและกินอยู่อย่างดี ประชาชนต่างทุกข์ร้อนและหิวโหย แต่อ้วนสุดก็ไม่ใยดีพวกเขา ไม่นานทรัพย์สมบัติของอ้วนสุดก็หมดลง เขาจึงไม่สามารถรักษาตำแหน่งเขาได้ เขาจึงเผาวังหลวงและหนีไปหา Chen Jian และ ลุยป๊ก ลูกน้องเขาที่ภูเขา Qian แต่พวกเขาก็ทอดทิ้งอ้วนสุด
เมื่อทรัพย์สมบัติเขาหมดสิ้น กองทัพก็แตกแยกกระจัดกระจาย อ้วนสุดเสียใจและหดหู่มาก เขาไม่รู้ว่าจะทำสิ่งใด อ้วนสุดส่งฑูตไปเสนอมอบตราหยกฮ่องเต้ให้กับอ้วนเสี้ยว บอกว่า สวรรค์ได้ละทิ้งราชวงศ์ฮั่นแล้ว ตระกูลอ้วนได้ถูกมอบหมายให้ปกครองแทน บัดนี้ถึงเวลา ฤกษ์งามยามดีนั้นแล้ว ตัวท่านปกครองถึงสี่มณฑล มีประชาชนกว่าล้านครัวเรือน ข้าขอมอบตราหยกฮ่องเต้ให้แก่ท่าน ขอให้ท่านจงใช้มันเพื่อทำตามลิขิตสวรรค์
อ้วนถำ เดินทางจากมณฑล Qing มารับตัวอ้วนสุด วางแผนที่จะนำตัวเขาขึ้นเหนือไปทางเมือง แห้ฝือ โจโฉ ส่งเล่าปี่และ Zhu Ling เข้าขัดขวาง อ้วนสุดไม่สามารถเดินทางไปต่อได้ เขาหนีเดินทางกลับไปยังฉิวฉุน
ในเดือนที่หก อ้วนสุดมาถึง Jiangting เขานั่งแคร่หามและร้องไห้พูดว่า แล้วข้า อ้วนสุดก็มีวันนี้ เขาแค้นเคือง เศร้าโศกจนล้มป่วย กระอักเลือดและเสียชีวิตในที่สุด
ด้วยความกลัวโจโฉ อ้วนอิ๋นลูกพี่ลูกน้องอ้วนสุดไม่กล้าอยู่ที่ฉิวฉุน เขากับลูกน้องนำศพอ้วนสุดและครอบครัวหนีไปหา Liu Xun เจ้าเมือง โลกั๋ง ในเมือง Huan
Xu Qiu เจ้าเมืองกองเหลงคนเก่า ค้นพบตราหยกฮ่องเต้ จึงนำขึ้นทูลเกล้ามอบให้แก่ฮ่องเต้
เมื่ออ้วนเสี้ยวปราบกองซุนจ้านได้ เขาจึงยิ่งทวีความหยิ่งยโส เขาส่งบรรณาการให้ทางการไม่สม่ำเสมอและจำนวนน้อยลง Geng Bao ลูกน้องเขาลอบแนะนำให้เขาอาศัยโองการสวรรค์และความต้องการประชาชนสถาปนาตัวเองเป็นฮ่องเต้ อ้วนเสี้ยวนำความคิดของเขามาพูดหารือกับลูกน้องเขา แต่ทุกคนพากันบอกว่า Geng Bao เสียสติไปแล้ว และควรจะถูกลงโทษ อ้วนเสี้ยวจึงถูกบังคับให้ฆ่า Geng Bao เพื่อลบข้อครหาว่าเขาไม่ได้คิดเช่นนั้น
อ้วนเสี้ยวเลือกทหารอย่างดีแสนคน และทหารม้าหมื่นนายเข้าโจมตีเมืองฮูโต๋ แต่ชีสิวค้านว่า นายท่านเพิ่งจะเสร็จการศึกกับกองซุนจ้าน กองทัพไม่กลับบ้านเมืองเป็นเวลาหลายปี ผู้คนต่างอ่อนล้าและเป็นโศกเศร้า ยุ้งฉางเสบียงก็ว่างเปล่า ท่านไม่ควรคิดการใดในตอนนี้ ควรจะสนใจการเพาะปลูกสร้างเสบียงอาหารและให้ประชาชนได้พักบ้าง
ตอนนี้ควรจะส่งฑูตไปยังราชสำนัก ถ้าเขาไม่สามารถเข้าเฝ้าได้ ก็ให้รายงานว่าโจโฉขัดขวางการติดต่อของเรากับองค์ฮ่องเต้ แล้วจึงยกทัพไปตั้งค่ายที่ ลิหยง พัฒนาป้อมปราการทางตอนใต้ของแม่น้ำเหลืองให้แข็งแกร่ง สร้างเรือศึกเพิ่ม ซ่อมแซมอาวุธและเครื่องมือต่าง ๆ ส่งทัพทหารม้าชั้นดีขนาดเล็กเข้าโจมตีเร็วทางชายแดนอยู่เสมอ เท่านี้ดินแดนของศัตรูก็จะไม่สงบสุขในขณะที่คนของเราได้พักผ่อน วิธีนี้เราจะสามารถเอาชนะศึกได้อย่างง่ายดาย
กัวเต๋าและสิมโพยคัดค้านพูดว่า ด้วยความสามารถทางการรบของนายท่าน ถ้าท่านนำกองทัพภาคเหนือที่เกรียงไกรของเราข้ามแม่น้ำเหลืองไปโจมตีโจโฉ การเอาชนะก็หมายเหมือนพลิกฝ่ามือ เหตุใดนายท่านต้องทำตามคำแนะนำชีสิว
ชีสิวจึงพูดต่อว่า กองทัพที่ปราบปรามกบฏและลงโทษเจ้าเมืองที่ชั่วร้าย ก็คือกองทัพธรรม กองทัพที่อาศัยเพียงจำนวนและความแข็งแกร่ง ก็คือคนที่หยิ่งยโส กองทัพธรรมนั้นไร้คู่ต่อสู้ แต่กองทัพที่หยิ่งยโสนั้นไม่ช้าก็จะพ่ายแพ้ เวลานี้โจโฉอาศัยฮ่องเต้ออกคำสั่งแก่ทั่วแผ่นดิน ถ้าท่านยกทัพบุกโจมตี ก็เท่ากับท่านเป็นศัตรูกับทางการ
การวางแผนเพื่อนั้น ต้องการมากกว่าการใช้จำนวนทหารที่เหนือกว่าเอาชัยชนะ โจโฉนั้นควบคุมกองทัพอย่างเคร่งครัด ทหารก็กล้าแกร่งและถูกฝึกมาอย่างดี ไม่ใช่คู่ต่อสู้อย่างกองซุนจ้านที่เอาแต่นั่งรอการโจมตีของเรา ถ้านายท่านเพิกเฉยการวางแผนอย่างรอบคอบและปลอดภัย และนำทัพโจมตีโดยไม่มีเหตุผล ข้าก็เป็นห่วงว่านายท่านจะไม่ได้ชัยชนะ
กัวเต๋าและสิมโพยพูดว่า เมื่ออ๋อง Wu ราชวงศ์ Zhou โจมตี Zhou ราชวงศ์ Shang นั่นก็ไม่ถือว่าเป็นการไม่ภักดีแต่อย่างไร (อ๋อง Zhou แห่งราชวงศ์ Shang เป็นผู้ปกครองที่ชั่วร้าย ถูกอ๋อง Wu ราชวงศ์ Zhou ฆ่าตายและยึดอำนาจ แต่ในประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ Zhou ก็บันทึกไว้ว่า อ๋อง Wu ฆ่าสามัญชนคนหนึ่ง ไม่ได้ระบุว่าฆ่าท่านอ๋องแต่อย่างไรในที่สุด ประมาณว่าผู้ชนะเป็นเจ้า) การสู้กับโจโฉก็ถือว่าเป็นเยี่ยงนั้น ใยท่านจึงอ้างว่าไม่มีเหตุผลอันดี
อีกอย่าง นายท่านของเรามีความสามารถในการรบ ทหารเราก็มีขวัญกำลังใจดี ถ้าเราไม่ฉวยโอกาสในตอนนี้ ก็ถือว่าสวรรค์ได้ประทานโอกาสมาให้เรา แต่เราไม่คว้าโอกาสนั้นไว้ นั่นล่ะความหายนะจะมาสู่เรา นี่คือเวลาที่ Yue ขึ้นเป็น Hegemon และ Wu ถูกทำลาย ท่านชีสิวนั้นคิดการไม่รอบคอบ เลยมองไม่เห็นโอกาสอันดี เขาไม่สามารถที่จะตัดสินใจได้ว่าควรจะทำอะไร
อ้วนเสี้ยวยอมรับในคำแนะนำของกัวเต๋า
เพราะว่าเรื่องนี้ ทำให้กัวเต๋าและพวกพูดต่อต้านชีสิว บอกว่า ชีสิวนั้นควบคุมทุกอย่าง มีทั้งอำนาจภายในและภายนอก รวมทั้งอำนาจเหนือกองทัพ ถ้าชีสิวมีอำนาจมากเกินไป นายท่านจะควบคุมเขาได้อย่างไร เมื่อขุนนางมีอำนาจเท่าฮ่องเต้ ความหายนะย่อมบังเกิด นี่คือสิ่งที่หนังสือหินสีเหลือง ได้เตือนไว้ ยิ่งกว่านั้นคนที่ควบคุมกองทัพภายนอกไม่ควรเกี่ยวข้องกับการบริหารบ้านเมืองภายใน
ดังนั้นอ้วนเสี้ยวจึงลดอำนาจของชีสิวลง โดยแต่งตั้งผู้ควบคุมกองทัพสามคน ได้แก่ ชีสิว กัวเต๋า และอิเขง ต่างคนต่างมีอำนาจควบคุมทัพของตัวเอง
ซุนต่ำ ขุนพลทหารม้า ได้คัดค้านว่า โอรสสวรรค์อยู่ที่เมืองฮูโต๋ และประชาชนต่างก็จงรักภักดี ท่านไม่ควรโจมตีเมืองฮูโต๋ แต่อ้วนเสี้ยวไม่เห็นด้วย
เมื่อเหล่าขุนนางในเมืองฮูโต๋รู้ว่าอ้วนเสี้ยวกำลังยกทัพมาโจมตี พวกเขาต่างหวาดกลัว แต่โจโฉกลับพูดว่า ข้ารู้ถึงสันดานคนอย่างอ้วนเสี้ยวดี แม้ว่าอ้วนเสี้ยวจะคิดการใหญ่โต แต่เขากลับมีความฉลาดน้อยนิด แม้ว่าภายนอกอ้วนเสี้ยวจะดูเคร่งครัด แต่กลับมีความกล้าหาญเพียงน้อยนิด อ้วนเสี้ยวนั้นขี้อิจฉาและปองร้ายผู้อื่นและมีอำนาจเพียงน้อยนิด แม้ว่าจะมีทหารมากมาย แต่แผนการรบกลับสับสน เหล่าขุนนางเขาต่างถือดีในความสามารถของตัวเอง แต่การปกครองกลับไม่สมัครสามัคคีกัน แม้ว่าอ้วนเสี้ยวจะครองพื้นที่กว้างใหญ่และมีเสบียงอาหารสมบูรณ์ แต่นั่นทำให้การปราบอ้วนเสี้ยวมีผลตอบที่คุ้มค่า
ขงหยงพูดกับซุนฮิวว่า อ้วนเสี้ยวนั้นมีดินแดนกว้างใหญ่และกองทัพก็แข็งแกร่ง เตียนห้องและ เขาฮิว ก็เป็นคนฉลาดที่คิดหาแผนการดีเยี่ยมให้เขาได้ สิมโพยและ ฮองกี๋เป็นขุนนางที่ภักดีและมีความสามารถในหน้าที่ของตัวเอง งันเหลียงและบุนทิวเป็นแม่ทัพที่กล้าหาญในการบัญชากองทัพ นี่ถือเป็นปัญหาใหญ่ของเรา
ซุนฮิวตอบว่า อ้วนเสี้ยวมีทหารมากมาย แต่การปกครองกลับหย่อนหยาน เตียนห้องนั้นหัวดื้อและไม่ฟังความเห็นคนอื่น เขาฮิว ก็เป็นคนละโมภและชอบละเมิดกฏ สิมโพยยึดความเห็นตัวเองเป็นใหญ่และไม่เคยคิดอะไรได้เอง ฮองกี๋ นั้นชอบเสี่ยงและไม่สนใจใคร คนเหล่านี้นั้นยากที่จะร่วมมือกันได้ ความไม่ลงรอยของพวกเขาจะต้องทำลายอ้วนเสี้ยวอย่างแน่นอน งันเหลียงและบุนทิวนั้นแข็งแกร่งไม่มากไปกว่าแม่ทัพธรรมดา การรบเพียงครั้งเดียวก็สามารถจัดการพวกเขาได้
ในฤดูหนาวเดือนที่แปด โจโฉนำกองทัพไป ลิหยง ส่ง จงป้า และคนอื่นนำทหารที่คัดแล้วไปยังมณฑล Qing เพื่อป้องกันตะวันออก เขาสั้งให้ อิกิ๋ม ตั้งค่ายที่แม่น้ำเหลือง ในเดือนที่เก้า โจโฉทิ้งทหารกองหนึ่งไว้รักษาการณ์ที่ Guandu แล้วเขาก็ยกทัพกลับฮูโต๋
อ้วนเสี้ยวส่งฑูตไปหาเตียวสิ้ว และกาเซี่ยงเพื่อเสนอการเป็นพันธมิตร เตียวสิ้วเตรียมที่จะตกลง แต่กาเซี่ยงขวางเตียวสิ้วไว้และพูดกับฑูตของอ้วนเสี้ยวว่า ท่านจงกลับไปเถิดและได้โปรดนำคำขอโทษของพวกเราให้ท่านอ้วนเสี้ยวรับรู้ด้วย ถ้าเขาไม่สามารถญาติดีกับลูกพี่ลูกน้องของตัวเองได้ แล้วเขาจะสู้กับเจ้าเมืองต่าง ๆ ได้อย่างไร
จากคุณ :
kazama
- [
17 ก.พ. 49 18:39:11
]