ช่วงนี้เป็นไรไม่รู้ค่ะ ฟังเพลงแล้วอยากเขียนเรื่องสั้นอยู่เรื่อยเลย แหะๆๆๆ ^^" (ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้ค่ายเพลงป่าวคะเนี่ย ใช้มาหลายเพลงเต็มที.. - -")
วันนี้(เมื่อวานดิ) นั่งฟังเพลงนี้แล้วก็อยากเขียนขึ้นมา..ซะงั้น เลยเขียนเอามาฝากเพื่อนๆ ช่วยกันอ่านและติชมเช่นเคยค่า ^^
วันนี้..คุณดูแลรักแท้ของคุณดีพอหรือยังคะ..?
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
มีรักแท้อยู่..ดูแลไม่ได้
"แค่นี้นะ จะอ่านหนังสือสอบ"
ผมกระแทกเสียงใส่กระบอกโทรศัพท์ ก่อนจะวางมันลงอย่างรำคาญใจ ออกจะหงุดหงิดอยู่ไม่น้อยที่รู้สึกราวกับถูกโทร. "จิก" อยู่หลายต่อหลายครั้งในช่วงนี้ ทั้งที่ผมก็บอกกับเธอแล้วว่าผมไม่ว่างคุยโทรศัพท์กับใครนานๆ แต่ดูเหมือนเธอจะไม่สนใจฟัง ยังคงโทร.มาหาผมอย่างเสมอต้นเสมอปลายอยู่เช่นเคย
ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม "เธอ" ..ที่ในวันวานเคยเป็นผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุด และรักผมมากที่สุดเช่นกัน จึงกลายเป็นคนที่ผมรำคาญที่สุดไปได้..ในวันนี้
ผมเบื่อ กับการที่จะต้องมานั่งตอบคำถามเดิมๆ ที่ซ้ำซากของเธอ อย่างคำถามที่ว่า สบายดีไหม กินข้าวหรือยัง อาบน้ำหรือยัง พรุ่งนี้จะไปไหน กลับดึกหรือเปล่า ฯลฯ ซึ่งเธอถามอยู่ได้ทุกวัน ซ้ำๆ กันโดยที่ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงไม่รู้จักเบื่อมันเสียบ้าง ทั้งที่คนถูกถามอย่างผมนั้นเบื่อเสียจนไม่รู้จะพูดยังไง
อย่างวันนี้ เธอเฝ้าโทร.เข้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผมนับสิบครั้ง ตั้งแต่เวลาค่ำจนถึงเวลาเกือบตีหนึ่งอย่างตอนนี้ โดยให้เหตุผลว่าเป็นห่วง กลัวว่าผมจะไม่สบายไป เพราะเห็นผมไม่ยอมรับโทรศัพท์เสียที ทั้งที่ผมบอกไปแล้วว่าผมกำลังอ่านหนังสือสอบ และกำลังต้องการสมาธิอย่างมาก
ในที่สุดเธอก็โทร.เข้าเบอร์หอพัก จนผมต้องรับ เพราะไม่อาจทนให้เสียงโทรศัพท์ดังระรัวอยู่อย่างนั้นได้ แต่ก็เพียงเพื่อที่จะตอบคำถามเดิมๆ ที่เธอถามอยู่ทุกวัน และลงท้ายด้วยการกำชับให้ผมไปหาเธอบ้าง ถ้าหากว่าสอบเสร็จแล้ว
ผมรับคำไปตามเรื่อง เพื่อที่จะตัดบทและจบบทสนทนาลงโดยเร็วที่สุด ก่อนที่ผมจะหงุดหงิดและพูดจารุนแรงใส่เธอมากไปกว่านี้
แต่จะให้บอกได้อย่างไรว่าผมไม่คิดจะกลับไปหาเธอ และไม่ได้กำลังอ่านหนังสือสอบอย่างที่บอกไป เพราะบัดนี้ข้างกายผมมีผู้หญิงอีกคนหนึ่ง..คนที่กำลังนอนหลับตาพริ้ม ระบายลมหายใจแผ่วๆ จนทรวงอกภายใต้เสื้อนอนบางเบาสะท้อนขึ้นลงเป็นจังหวะ
ผมมองเธออย่างรักใคร่.. ผู้หญิงคนนี้แหละ ที่ผมจะอยู่ด้วยไปตลอดชีวิต ไม่ว่าอะไรก็ไม่อาจมาพรากเราจากกันได้
แม้แต่เธอ.. คนที่ผม "เคยคิด" ว่ารักมากที่สุด
แต่วันนี้.. ผมคงโตขึ้นกว่าเด็กชายคนเดิมในวันเก่าก่อนเสียแล้ว ความรักและความผูกพันที่มีให้เธอมันจึงจืดจางไปตามกาลเวลา ทั้งที่ใครๆ ต่างก็บอกว่ามันคือรักแท้ หากวันนี้..วันเวลาและระยะทางที่ห่างไกลก็บอกกับผมแล้วว่า.. มันไม่ใช่เลย
ผมคิดว่าผมโตขึ้นมาก และรู้จักตัวเองมากขึ้นด้วยเช่นกัน ในเวลาไม่ถึงปีที่ผมย้ายจากจังหวัดเล็กๆ ทางภาคเหนือที่เป็นบ้านเกิด เข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ สังคมและโลกทัศน์ของผมกว้างขึ้น สิ่งแวดล้อมในเมืองกรุงบอกให้ผมรู้ว่า ชีวิต..ยังมีอะไรอีกมากมายนอกจากห้องเรียนและตำหรับตำรา ทำให้ผมรู้ว่า "ความบันเทิง" ที่ผมปฏิเสธมาตลอดในฐานะ "เด็กเรียน" นั้นหอมหวานแค่ไหน..
แม้จะต้องแลกกับผลการเรียน ที่ผมเคยกวาด 4.00 มาตลอดสมัยเรียนชั้นมัธยมที่โรงเรียนประจำอำเภอ แต่บัดนี้กลายมาเป็นเกรดลุ่มๆ ดอนๆ และถึงกับปล่อยตกในหลายกลุ่มวิชา
ผมถอนหายใจหนักๆ พลางลุกขึ้นจากท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง จนคนข้างๆ ผมพลิกตัว ลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย ก่อนจะถามเสียงไม่พอใจนัก
"ใครโทร.มา ดึกป่านนี้แล้ว"
ผมถอนใจอีกครั้ง จะว่าไปความจริงมันก็ไม่ได้ "ดึก" เท่าไหร่เลยในความรู้สึกผม เพราะปกติแล้วถ้าเป็นทุกวัน ผมและเธอคนนี้ก็คงยังดิ้นอยู่ตามเธคที่ไหนสักแห่ง หรือนั่งเฮฮาอยู่ตามบ้านเพื่อนคนไหนสักคน..ที่เปิดบ้านจัด "ปาร์ตี้ลับเฉพาะ" ด้วยกันในหมู่เพื่อนฝูง ปาร์ตี้ที่แน่ใจได้ว่าจะต้องมีครบทุกอบายมุข ทั้งสุรา นารี กีฬาบัตร และที่ขาดไม่ได้คือ "ยา" ชนิดต่างๆ ที่กำลังระบาดในหมู่วัยรุ่น ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ผมขาดไม่ได้เลยหลังจากมีเธอเข้ามาในชีวิต เพราะถ้าผมไม่ไปทำกิจกรรมเหล่านี้เสียบ้าง เธอก็จะค่อนผมอย่างดูหมิ่นว่า เป็น "เด็กเรียนที่น่าเบื่อที่สุด" ทุกครั้งไป
"ช่างเถอะ กิ๊กนอนต่อเถอะ ผมจะไปอ่านหนังสือสอบ" ผมบอกแค่นั้น เพราะถ้าบอกว่าใครเป็นคนโทร.มา ก็คงไม่แคล้วต้องเป็นเรื่องให้เธอกระทบกระเทียบเปรียบเปรยเอาอีก
"เบื่อจริงๆ เลย จะขยันไปถึงไหน" เธอย่นจมูก ทำเสียงบางอย่างในลำคออย่างจะให้รู้ว่าไม่สบอารมณ์นัก ก่อนจะลุกขึ้น ยกท่อนแขนกลมกลึงขึ้นโอบรอบตัวผมเอาไว้ กระซิบเบาๆ ที่ริมหู
"เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยอ่านไม่ได้เหรอ คืนนี้ทำอย่างอื่นก่อนดีกว่านะ.." น้ำเสียงนั้นเชิญชวน และกลิ่นหอมที่กรุ่นอยู่รอบตัวเธอก็ทำให้ผมคลายความเคร่งเครียดลงอย่างไม่รู้ตัว
"อีกแล้ว พูดอย่างนี้ทุกวันเลย เมื่อวานก็พูดอย่างนี้ แล้ววันนี้ผมก็ไม่ได้อ่านอยู่ดี" ผมต่อว่าเธออย่างไม่จริงจังนัก ใช้นิ้วคีบจมูกรั้นๆ นั้นไว้อย่างหมั่นเขี้ยว
เธอไม่ตอบ หากประทับริมฝีปากร้อนระอุของเธอลงบนริมฝีปากผม หยุดทุกคำพูดที่มีต่อกันอย่างไม่สนใจอะไรอีก..
และก็เป็นอีกคืนหนึ่งที่ผมไม่ได้อ่านหนังสือ..
ทั้งที่จะนับกันจริงๆ ก็เหลืออีกไม่ถึงสองอาทิตย์ การสอบปลายภาคเรียนของภาคเรียนที่สองของปีนี้ก็จะมาถึง และผมก็ยังไม่ได้เริ่มเตรียมตัวอะไรแม้แต่นิดเดียว ทั้งที่ในใบแจ้งผลการเรียน จะบอกชัดว่าผลการเรียนในภาคเรียนแรกของผมไม่ถึง 2.00 ซึ่งหมายความว่า ถ้าครั้งนี้ผมยังทำเกรดได้ไม่ดีขึ้น คำว่า รีไทร์ ก็จะประทับลงในกระดาษใบนั้นทันที..
แต่ผมก็ไม่สนใจ.. ในเมื่อผมมี "เธอ" คนที่ผมรักที่สุดในเวลานี้อยู่ข้างๆ พร้อมจะก้าวเดินไปด้วยกัน ชีวิตนี้ผมจะต้องการอะไรอีกเล่า..
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
จากคุณ :
โยษิตา
- [
18 ก.พ. 49 03:41:36
]