CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ~•~โซลเมท…สัมผัสรักจากหัวใจ~•~[จบ]

    [บทนำ]
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4078435/W4078435.html


    กริ๊งงงงงงงงง!!!

    เสียงโทรศัพท์เครื่องเล็กบนโต๊ะทำงานที่ระเกะระกะไปด้วยม้วนกระดาษสี
    และอุปกรณ์ในการวาดรูป   กรีดร้องขึ้นท่ามกลางความสงัดเงียบ
    ของบรรยากาศยามค่ำคืน

    มือเรียวบางที่กำลังควบคุมเมาส์บรรจงหยดสีลงในช่องเล็กๆ  
    ของลายฉลุเรือนไทยสีน้ำตาลในจอสี่เหลี่ยมตรงหน้ากระตุกวูบ!  
    สีที่บรรจงหยอดหยดกระจายออกมาบนพื้นภาพที่ทำเสร็จไปแล้วเกือบครึ่ง  
    อารามรีบร้อนจะแก้ไขทำให้มือบางกระตุกคลิกซ้ำๆ ลงไปบนคำสั่งบางอย่าง
    ที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร  ภาพบนหน้าจอจึงค้างเติ่งแน่นิ่งอยู่เช่นนั้น

    เสียงโทรศัพท์เจ้ากรรมยังคงดังกวนประสาทอย่างต่อเนื่อง  หญิงสาวร่างบาง
    ถอนใจเฮือกใหญ่ พึมพำสบถอะไรบางอย่างในลำคอพร้อมกับปรายตามอง
    หน้าจอโทรศัพท์มือถือที่ปรากฏข้อความ 20 มิสคอลจากคนเพียงคนเดียว!

    มือเรียวละจากเมาส์เอื้อมไปคว้ากระบอกโทรศัพท์จบเกือบเป็นกระชาก
    ขึ้นมาแนบหู กรอกเสียง(ที่เคย)ใส  แต่..ทว่าบัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นขุ่นคลั่ก
    ยิ่งกว่ากาแฟดำแก่ๆ ในแก้วใบโตตรงหน้าเสียอีก

    "ขวัญ! ขอบอกเป็นรอบที่หนึ่งร้อยเก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้านะว่า...ยังไงฉัน
    ก็ไม่มีวันชอบพี่ชายแก  เลิกจับคู่ฉันกับพี่ชายแกสักทีเหอะ!"

    เสียงทางปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะมีเสียงคล้ายโทรศัพท์ถูกเปลี่ยนมือ
    แล้วเสียงใสๆ ของเพื่อนสาวก็ดังมาตามสายแบบน้ำไหลไฟดับ  

    "แม่คู้ณ...กว่าจะรับได้  รู้มั้ยนัทธ์…นี่ฉันกดหาแกจนนิ้วชี้มือบวมเท่านิ้วโป้งเท้า
    แล้วนะ  แล้วดูดิ..พอให้พี่จีโทรให้  กดปุ๊บ..ติดปั๊บ  แบบนี้พอจะเรียกว่า
    บุพเพสันนิวาสแบบที่แกชอบนักชอบหนาได้หรือยังจ๊า..า…า"  เสียงเล็กๆ แบบเด็ก
    ของคนพูดลากยาวอย่างจงใจเสียงล้อเลียนในท้ายประโยค

    หญิงสาวที่ถูกเรียกว่า 'นัทธ์' ชะงักไปนิดนึง นึกรู้ได้ทันทีว่าประโยคหมัดตรง
    เสยปลายคางนั้น 'ใคร' จะเป็นคนรับไปเต็มๆ

    'ใคร'  คนที่ยายตัวยุ่งทางปลายสายด้านโน้น พยายามอย่างเหลือเกิน
    ที่จะจับคู่ให้กับเธอ
    "ฮัลโหล..นัทธ์ ยังอยู่หรือเปล่า ทำไมเงียบไปล่ะ"  เช่นเคย..โดยไม่รอให้เธอได้ตอบ  
    คนถามก็ชิงพูดขึ้นก่อน

    "ว่าแต่แกพูดอะไรกับพี่จีวะนัทธ์  พี่จีถึงได้อึ้งตะลึงงัน  ออกไปยืนมองฟ้าคิดถึง
    หน้าแกอยู่น่ะ" พูดจบประโยค เสียงทางปลายสายก็หัวเราะคิกคักด้วยความชอบใจ
    แหงล่ะ...ต้องอึ้งสิ ก็ประโยคที่ได้ยินน่ะมีผลในทางทำลายล้างอย่างสมบูรณ์แบบ
    ยุติความสัมพันธ์ใดๆ ที่เคยมีและอาจจะมีลงอย่างสิ้นเชิงเลยนี่นา

    …อดรู้สึกผิดวูบขึ้นมาไม่ได้…อย่างไรซะก็ 'พี่ชาย' เพื่อน…

    เสียงจึงอ่อนลงนิดนึง  เมื่อเบี่ยงประเด็นออกไปจากบุคคลที่สามที่กำลังถูกพาดพิง
    ไปถึงวัตถุประสงค์ในการโทรมาของเพื่อนสาว    "โทรมามีอะไรหรือเปล่าขวัญ"
    "ก็เรื่องไปกินข้าวกับพี่จีพรุ่งนี้ไง โอเคใช่รึเปล่า" ดูเหมือนคนทางปลายสายด้านโน้น
    ยังไม่ยอมรับรู้ว่าเธอต้องการจะออกจากเรื่องอะไร

    "ไปไม่ได้หรอกขวัญ พรุ่งนี้ฉันต้องบรีฟงานกับลูกค้าแทนพี่เจน"

    เจิมขวัญคงไม่มีวันรู้หรอกว่าคนพูดแอบไขว้นิ้วและนึกขอโทษเพื่อนสาวอยู่ในใจที่โกหก  
    พูดกับเจ้าตัวไปขนาดนั้นเธอคงไม่กล้าเสนอหน้าไปให้เขาเห็นหรอก..ไม่ว่าจะในฐานะ
    เพื่อนของน้องสาวหรือในฐานะอื่นใดก็ตาม

    "โห..นัทธ์  แต่พี่จีรับปากว่าจะไปกินข้าวกับแกแล้วนะ  แกรู้มั้ยว่ามันยากแค่ไหน
    กว่าจะทำให้พี่จีรับปากได้.."  เสียงใสเจื้อยแจ้วตัดพ้อต่อว่ามาตามสาย   และเมื่อเธอ
    ยังยืนยันว่าไปไม่ได้  แม่เพื่อนสาวก็เปลี่ยนแนวเป็นบีบบังคับกึ่งข่มขู่แกมออดอ้อน
    สลับกันวุ่นไปหมด

    คนฟังได้แต่ส่ายหัวให้กับความเจ้าบทบาทของอีกฝ่าย    จนพักใหญ่นั่นแหละ  
    กว่าเจิมขวัญจะยอมวางสายไปในที่สุด  โดยมีอาการ 'งอน'  แถมเพิ่มเติมไปด้วย

    นัทธ์หันกลับไปมอง 'งาน' ในหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วต้องถอนหายใจเฮือกออกมาอีกครั้ง  
    ตัดสินใจลุกเดินออกไปที่ระเบียง  สายลมแห่งรัตติกาลโชยเอื่อยหอบเอากลิ่นหอมหวาน
    ของดอกไม้กลางคืนเคล้าคลอมากับสายลม   นึกถึงความพยายามในการจับคู่ของเจิมขวัญ
    แล้วก็อดที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ ไม่ได้  ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี  ความพยายามของเพื่อนเธอคนนี้
    ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง

    ยายขวัญเอ๋ย..ยายขวัญ..เสียแรงเปล่า..

    เธออยากจะบอกแม่เพื่อนสาวจอมยุ่งเหลือเกินว่า..ไม่ว่าการจับคู่หรือจัดฉากใดๆ
    ก็จะไม่มีผลทั้งนั้น    มีแต่เธอเองเท่านั้นที่รู้ว่า..เธอกำลังเฝ้ารอ 'ใคร' อยู่

    ใคร..คนที่มาพร้อมกับบางสิ่งพิเศษที่เธอเองก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าจะเป็นแบบไหน
    ..อย่างไร..

    'บางสิ่ง'  ที่ไม่ใช่คฑาวิเศษ..หรือ..ไม้เท้ากายสิทธิ์

    หากแต่เป็น 'บางสิ่ง' ที่ 'หัวใจ' เท่านันจะสัมผัสได้!

    O๐O๐๐O๐O๐๐O๐O๐๐O๐O๐๐O๐O๐๐O๐O๐๐O๐O๐๐O๐O๐๐O๐O๐๐O๐O๐๐O๐O

    นัทธ์หวนคิดถึงเหตุการณ์เมื่อเจอกับจีรัณครั้งแรก  แล้วเบ้หน้าทันที!
    ...เด็กหนุ่มร่างสูงโย่งในชุดนักศึกษาวิชาทหารสีเข้มซึ่งขับเน้นผิวขาวซีดให้ซีดเผือดลง
    ไปยิ่งกว่าเดิม มองดูคล้ายจิ้งจกที่เป็นโรคโลหิตจางไม่มีผิด!

    แขนลีบๆ ทั้งสองข้างโอบกอดหนังสือเกือบสิบเล่มไว้แนบอกราวกับเป็นสมบัติล้ำค่า  
    ก้มหน้าก้มตาเดินตรงไปยังศาลาท่าน้ำที่เห็นอยู่ลิบๆ  ตรงดงเตย

    เด็กสาวสองคนบนกิ่งชมพู่เหนือทางเดินสบตากันชั่วแวบ..รอยยิ้มชั่วร้ายผุดขึ้นที่ริมฝีปาก  
    ก่อนมือเล็กๆ จะช่วยกันขย่มกิ่งชมพู่ที่มีลูกดกพราวเต็มต้น ลูกชมพู่สีชมพูจัดปลิดปลิว
    ออกจากกิ่งร่วงกราวลงสู่พื้นเบื้องล่างราวกับฝนโปรย  

    นั่น! ยังไม่ทำให้ร่างสูงที่เดินตรงมามีปฏิกริยาตอบสนองแต่อย่างใด  สองขายังคงก้าวเดิน
    ตรงแน่วไปยังศาลาท่าน้ำด้วยความมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง

    ไวเท่าความคิด..เมื่อเด็กสาวที่นั่งอยู่เกือบปลายกิ่งชมพู่ใช้เท้าทั้งสองข้างกระหวัดเกี่ยวกิ่ง
    ก่อนจะตวัดตัวห้อยศีรษะลงมาเบื้องล่าง

    ได้ผล!  คราวนี้ผู้ที่กำลังก้าวเดินตรงไปยังศาลาท่าน้ำชะงักนิ่งไปทันที ดวงตาดำสนิท
    ใต้แว่นสายตาหนาเตอะเบิกกว้างขึ้นนิดนึง หากชั่ววินาทีก็กลับสงบลงเช่นเดิม

    นัทธ์ยังจำได้ดีว่าตอนนั้น เธอรู้สึก 'เสียเซลฟ์' แค่ไหนที่ไม่ได้เห็นอาการกรีดร้องอย่างเสียสติ
    หรือผงะถอยหนีอย่างที่อยากจะเห็นจากพี่ชายผู้แสนจะเงียบขรึมของเพื่อนรัก

    หากยังไม่ทันคิดอะไรต่อจากนั้น  เสียงไม้ลั่นดัง 'เปรี๊ยะ' เบาๆ ด้านบนก็ดึงความรู้สึก
    ทั้งหมดทั้งมวลกลับไปที่กิ่งชมพู่ที่ขาทั้งสองข้างของเธอเกี่ยวกระหวัดอยู่
    จากปลายหางตาเธอเห็นเจิมขวัญยันตัวเปลี่ยนกิ่งอย่างรวดเร็ว และผลจากการสั่นสะเทือน
    เพียงเล็กน้อยก็ทำให้เนื้อไม้ที่ปริแตกฉีกตัวออกจากกัน!

    เหตุการณ์ต่อจากนั้นเป็นอย่างไรเธอแทบไม่อยากจะนึกถึงอีกเลย...
    …จีรัณทิ้งหนังสือในมือลง  แลคล้ายจะวิ่งหลบออกไปจาก 'ดาวตก' ที่เดินทางพุ่งตรง
    มาจากด้านบนด้วยความเร็วยิ่งกว่าอัตราความเร็วเสียง

    แต่..อนิจจา ช้าไปเสียแล้ว

    เด็กสาวตวัดแขนทั้งสองข้างเข้าที่คอเด็กหนุ่มรุ่นพี่  แขนลีบๆ ที่ปล่อยหนังสือทิ้งไป
    ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้นั้นก็กลับตวัดรวบเอวของเธอไว้เช่นกัน...คงเป็นสัญชาติญาณกระมัง
    ที่สั่งให้เด็กหนุ่มทำเช่นนั้น!

    สบตากันเพียงวินาที..ก่อนที่ร่างของเธอและเขาจะเซถลาล้มลงและกลิ้งหลุนๆ ไปตามแนวตลิ่ง  
    สุดท้าย…หล่นตูมลงในลำคลองหน้าบ้าน
    หญิงสาวกระตุกมุมปากเป็นรอยยิ้มให้กับดวงดาราสีชมพูใสกระจ่างที่กะพริบวิบวับ
    ราวกับจะยั่วล้อในการณ์ที่เกิด  ริมฝีปากหยักได้รูปพึมพำเบาๆ

    ..พิเศษ..จนยากจะลืม!

    ถ้า…นะ…ถ้า…เจิมขวัญจะไม่ตั้งตัวเป็นแม่สื่อแม่ชักลุ้นพี่ชายซะจนตัวโก่ง  เธอกับจีรัณก็คงคบหา
    เป็นพี่เป็นน้องกันได้อย่างสบายใจมากกว่านี้  ไม่ใช่คอยแต่หลบกันไปเลี่ยงกันมา…เช่นที่เป็น

    กี่ปีแล้วนะที่ไม่ได้เจอกัน…

    O๐O๐๐O๐O๐๐O๐O๐๐O๐O๐๐O๐O๐๐O๐O๐๐O๐O๐๐O๐O๐๐O๐O๐๐O๐O๐๐O๐O

    แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 49 20:30:39

    จากคุณ : R^oy_kam - [ 19 ก.พ. 49 20:15:16 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป