CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ^^^ทะเลฤดูเหงา เรา และหัวใจ^^^

    สายลมจาง ๆ พัดแผ่วโลมไล้ผิวกาย สลับกับไอร้อนของแดดสีทอง ที่ลอดผ่านทางมะพร้าวสองข้างทาง อิฐแผ่นปูเรียงรายทอดทางยาวสุดสายตา รายล้อมด้วยเม็ดทรายละเอียดยิบ สะท้อนแสงล้อกับผืนน้ำทะเลสีฟ้าคราม

    เวิ้งฟ้ายามบ่าย ระบายด้วยเงาเมฆสีเทาหม่นบาง ๆ เคลื่อนตัวตามกระแสลม ก่อเกิดรูปร่างแปลกตา ตามแต่จินตนาการของผู้คนจะคิดฝัน

    หาดทราย สายลม และท้องทะเลในยามฤดูฝน ดูไม่พลุกพล่านมากนัก ไม่เหมือนกับยามฤดูร้อน ที่ผู้คนแออัดยัดเยียด แย่งกันสูดรับกลิ่นไอธรรมชาติ แย่งกันกิน แย่งกันใช้ แย่งกันอยู่ จนท้องทะเลที่แสนจะสงบ อวลด้วยเสน่ห์นานัปการให้ค้นหา กลายสภาพไม่ต่างจากตลาดนัด

    แต่ทั้งหมดที่ว่านี้ ไม่ใช่ “รินลดา” แน่ ๆ

    หญิงสาวในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ รูปร่างสมส่วนผมตรงยาวสลวย สวมแว่นสายตาเล็ก ๆ ที่ถูกผลักขึ้นไปเหนือหน้าผาก เหมือนเป็นที่คาดผม ก้าวลงจากรถเก๋งกลางเก่ากลางใหม่ช้า ๆ หลังจากที่รถคันนั้น จอดสนิทในช่องจอดรถ

    ประตูรถถูกปิดเบา ๆ พร้อมกับเสียงติ๊ดสั้น ๆ จากรีโมทล็อครถ

    หญิงสาวก้าวเดินฉับ ๆ ตัดทางเดินที่ปูด้วยแผ่นอิฐหลากสี มุ่งตรงไปยังหาดทรายและท้องทะเลสีฟ้าคราม

    “สงสัยเมื่อคืนฝนตกหนักแน่เลย ดูสิ น้ำทะเลสีฟ้าถูกเจือด้วยสีขุ่นอีกแล้ว” หญิงสาวรำพึงกับตัวเองเบา ๆ ขณะที่สองเท้ายังก้าวเดินฉับ ๆ ไปยังที่หมาย

    หนุ่มสาวคู่หนึ่ง กำลังหยอกล้อวิ่งไล่กันไปมา อยู่บนหาดทรายละเอียด ที่ชุ่มด้วยน้ำทะเลที่สาดซัดเข้าฝั่ง

    ในที่สุด ชายหนุ่มก็รวบตัวหญิงสาวได้ ก่อนที่ทั้งคู่จะกอดกันล้มกลิ้งไปบนผืนทรายละเอียด พร้อมกับเสียงหัวร่อต่อกระซิกที่เปี่ยมสุข

    หนุ่มสาวอีกคู่หนึ่ง กำลังวักน้ำทะเลสีขุ่น สาดเข้าหากันอย่างสนุกสนาน

    หญิงสาวเอาจริงเอาจัง กับการวักน้ำทะเลใส่ชายหนุ่ม ขณะที่ชายหนุ่ม พยายามที่จะฝ่าม่านกระเซ็นน้ำ เข้าไปหาหญิงสาว

    ในที่สุด ชายหนุ่มก็ทำได้สำเร็จ และหญิงสาวก็ถูกรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร้อมกับการจูบเบา ๆ ที่หน้าผากเพื่อรับขวัญ

    รินลดา มองภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า ราวกับถูกดึงให้เข้าสู่ภวังค์ส่วนตัว

    ภาพความเคลื่อนไหวเบื้องหน้าหญิงสาว คล้ายกับถูกแทนที่ด้วยภาพจากความทรงจำส่วนลึก ระหว่างเธอและชายหนุ่มของเธอ กับทุกอิริยาบทอันอบอุ่น อ่อนหวาน และอ่อนโยน

    หญิงสาวยกสองมือขึ้นเสยผมช้า ๆ เผลอยิ้มเล็ก ๆ อวดเรียวฟันสีขาวแวววาวเป็นระเบียบ ก่อนที่จะสะดุ้งตัวขึ้น เพราะเสียงเข้มที่ดังอยู่ข้างหู

    “คุณ คุณครับ รถสีขาวคันนั้น ของคุณหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ซ่อนตัวเองอยู่ในเสื้อผ้าฝ้ายสีขาวบาง ๆ กับกางเกงชาวเล ส่งเสียงถามขึ้น พร้อมกับชี้มือไปที่ช่องจอดรถตรงหน้า

    “ตกใจหมด อยู่ใกล้ ๆ แค่นี้ ต้องเรียกซะดังเชียว” หญิงสาวต่อว่าเสียงหนัก ๆ ก่อนจะรับคำ “ใช่ รถของชั้นเอง มีอะไรล่ะ”

    “ขอโทษด้วยครับ ผมเรียกคุณตั้งหลายครั้ง แต่คุณไม่ได้ยินซักที” ชายหนุ่มแก้ตัว “สงสัยคิดถึงแฟนอยู่” เขาพูดต่อพร้อมกับยิ้มกว้างทำหน้าทะเล้น

    “พูดว่าไงนะ” หญิงสาวฟังไม่ถนัดนัก แต่ก็ทำเสียงเขียวใส่

    “เปล่า ๆ ๆ ครับ เออ...ตกลงรถคุณนะครับ คือว่า ผมจะรบกวนให้คุณช่วยขยับรถให้นิดนึงน่ะครับ” ชายหนุ่มอธิบายช้า ๆ

    “ผมเอาอาหารทะเลสด มาส่งที่ร้านตรงนั้นน่ะครับ แต่รถคุณจอดขวางน่ะครับ” ชายหนุ่มพูดเนิบ ๆ พร้อมกับชี้มือไปที่ร้านอาหารริมทาง ด้านหน้าช่องจอดรถ

    “เอาของขึ้นไม่ได้น่ะครับ แหะ แหะ” ชายหนุ่มพูดต่อ แล้วหัวเราะอาย ๆ

    “ก็ได้ ๆ เดี๋ยวชั้นไปขยับรถให้” หญิงสาวสะบัดหางเสียง ด้วยรู้สึกไม่ถูกชะตากับชายหนุ่มอย่างบอกไม่ถูก

    “เสียอารมณ์จริง ๆ เลย” หญิงสาวบ่นดัง ๆ แล้วเดินฉับ ๆ ไปที่รถของตัวเอง ขณะที่ชายหนุ่มยิ้มนิด ๆ แล้วก้าวเดินตามไปช้า ๆ

    “อีตาบ้านี่ ดูสิ ยังมาอมยิ้มทำหน้าทะเล้นอีก” หญิงสาวทำตาเขียว เหลือบมองกระจกหลัง เพื่อเห็นชายหนุ่มกำลังค้อมตัวโบกไม้โบกมือ ให้สัญญาณรถถอยหลัง

    “เดี๋ยวแม่จะชนให้จริง ๆ ซะหรอก” หญิงสาวพูดกับตัวเอง แล้วใส่เกียร์เหยียบคันเร่งกระชากรถถอยหลังอย่างรวดเร็ว

    “อิอิ สมน้ำหน้า อยากทำหน้าทะเล้นดีนัก”

    หญิงสาวแลบลิ้นล้อเลียนใส่กระจกมองหลัง ที่สะท้อนภาพชายหนุ่มกระโดดเหยงลงข้างทาง พร้อมกับปากขมุบขมิบ และสองมือที่โบกไปมาตามหลัง

    แสงสีทองอ่อน ๆ ระบายเต็มผืนน้ำทะเลกว้างไกลสุดสายตา ขอบฟ้าจรดขอบน้ำที่โค้งไกลโพ้น ดวงอาทิตย์กลมโตสีหมากสุก กำลังจะลับเหลี่ยมเขา ที่ซ้อนเป็นฉากหลังของเวิ้งทะเล

    สายลมบาง ๆ พัดเคลื่อนกลุ่มเมฆสีเทาหม่นเรียงราย ทบซ้อนกันเป็นชั้น ๆ

    น้ำทะเลสีฟ้าคราม สาดซัดเข้าหาผืนทราย ส่งเสียงซ่าเบา ๆ ก่อนจะม้วนเอาเม็ดทรายละเอียดกลับคืน เพื่อเหลือสีขุ่นจาง ๆ ที่ค่อย ๆ ซึมลงผืนทราย

    หญิงสาวนั่งชันเข่าอยู่กับผืนทราย ปล่อยให้คลื่นน้ำทะเลซัดต้องเรือนกายเป็นระยะ
    กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดสีขาว ถูกกระเซ็นน้ำจนเปียกแนบกับเนื้อกาย

    รินลดา เผลอถอนใจออกมาเบา ๆ ขณะสายตาเหม่อมองท้องทะเลเบื้องหน้า

    เธอจำไม่ได้ว่า กี่ครั้งแล้ว ที่เธอมานั่งอยู่กับท้องทะเลเหว่ว้า สงบเงียบไร้ผู้คน และความพลุกพล่านในยามฤดูฝนเหมือนเช่นครั้งนี้

    นับตั้งแต่ชายหนุ่มของเธอ ที่คบกันมากว่า 2 ปี กล่าวคำอำลา ในวันที่เธอเพิ่งรับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายบุคคลในบริษัทที่ทำอยู่ เพื่อไปแต่งงานกับหญิงสาวที่เขาเลือก
    ถึงวันนี้ เธอก็ยังเก็บการ์ดแต่งงานของเขาไว้ พร้อมกับความทรงจำที่เคยมี

    ที่เปลี่ยนไปก็คงเป็นแค่ความเป็นคนคุ้นเคย ที่หลงเหลือเพียงความเคยคุ้นกัน

    รินลดา ยังจำได้ ถึงถ้อยคำและอากัปกริยาของเขา ในวันที่ชายหนุ่มบอกการตัดสินใจ

    “เราไปด้วยกันไม่ได้ เราไม่มีอะไรคล้ายกันเลย”

    “เป็นเพื่อนกันดีกว่านะ”

    ใช่ เป็นเพื่อนกันดีกว่า ดีกว่าอะไรก็ได้ ที่เคยมีและเป็นอยู่

    หญิงสาวเคยนั่งคิดถึงความทรงจำ ระหว่างเขากับเธอ และก็เห็นจริงด้วยกับสิ่งที่ชายหนุ่มบอกมา

    รินลดา ชอบทะเล โดยเฉพาะทะเลเงียบเหงาในยามฤดูฝน เม็ดน้ำหล่นร่วงจากผืนฟ้า เพื่อตกกระทบท้องน้ำทะเลสีฟ้าคราม ขณะที่เกลียวคลื่นสาดซัดเข้าหาผืนทรายอย่างต่อเนื่อง ระลอกแล้วระลอกเล่า

    แล้วไหนจะท้องทะเลในตอนกลางคืน ที่ดูลึกลับ น่ากลัว แต่ก็มีเสน่ห์แปลกประหลาด รอให้ค้นหาคำตอบมากมาย

    พรายน้ำบนริ้วคลื่นที่สาดซัดเข้าหาเม็ดทราย ล้อแสงระยิบระยับ กับดวงดาวมากมาย ในยามค่ำคืน

    แต่ชายหนุ่มของเธอ ไม่เคยชอบสิ่งเหล่านี้

    คงใช่ เขาและเธอ ไม่มีอะไรคล้ายกัน แต่ที่น่าสงสัยก็คือ ความไม่คล้ายกัน เป็นเหตุผลที่ทำให้ไปด้วยกันไม่ได้จริง ๆ หรือ ?

    (มีต่อค่ะ)

    จากคุณ : คุณน้องนับดาวฯ - [ 20 ก.พ. 49 13:24:32 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป