CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ซาก...........(ตอนที่ 4)

    ตอนที่ 1
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4050473/W4050473.html

    ตอนที่ 2
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4062432/W4062432.html

    ตอนที่ 3
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4097054/W4097054.html

    +++

    ซาก  4

    ประตูห้องครัวเปิดอ้า ราวกับมีใครบางคนเปิดรอรับ กว่าสุดาจะฉุกใจคิดว่าแสงสว่างนั่นมาจากไหน ก็พอดีได้รับคำตอบก่อนที่จะตั้งคำถามในใจเสียด้วยซ้ำ

    ผนังด้านหนึ่งของห้องส่องสว่างราวกับมีหลอดไฟฝังอยู่ในพื้นโปร่งแสง  ใครบางคนในชุดขาวกำลังเคลื่อนไหวอยู่ในผนัง คนๆนั้นเป็นผู้หญิงผมยาวที่คุ้นหน้าคุ้นตาเหลือเกิน แน่ล่ะ ใครบ้างจะไม่คุ้นหน้าตาของตัวเอง  

    สุดากรีดร้องออกมาคำหนึ่ง เท้าทั้งคู่เหมือนถูกตอกตรึงลงไปบนพื้น สายตาจับจ้องมองภาพเบื้องหน้าอย่างตกตะลึงและขนลุกขนพองสยองเกล้า  ภาพหญิงสาวในผนังทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างหลายประโยค แต่สุดาไม่ได้ยินเสียงนั้นเลยเพราะสองหูกำลังอื้อเหมือนคนจะเป็นลม ดาวนับร้อยแตกเปรี๊ยะกระจายเต็มหน้า มือของร่างนั้นไขว่คว้าไปมาราวกับจะพยายามตะกายออกมาจากผนัง  

    ก่อนที่สุดาจะเป็นลมล้มพบลง ร่างนั้นก็ค่อยจางหายไป ความมืดครอบคลุมอีกครั้ง

    หญิงสาวซวนเซไปชนกับโต๊ะแทบจะเสียหลักล้มฟาดพื้น เคราะห์ดีที่มือคว้าขอบโต๊ะไว้ทัน และทันใดนั้น เธอก็นึกว่าในลิ้นชักโต๊ะตัวนั้นมีไฟฉายกระบอกหนึ่งเก็บเอาไว้เสมอ เผื่อในกรณีไฟดับบ่อยๆ  พอนึกถึงไฟฉาย ขวัญกำลังใจที่กำลังโบยบินก็กลับมาอีกครั้ง แม้จะไม่มากนักก็ตาม แต่อย่างน้อยมันก็ไม่ทำให้หวาดกลัวจนสติแตกหรือเป็นลมล้มพับลงไป ซึ่งไกล้าทำนายผลจะเกิดตามมาได้เลย เพราะความน่าจะเป็นล้วนแต่ออกไปในทางน่ากลัวทั้งนั้น

    เอื้อมมือสั่นเทาควานไปในความมืด และสำหรับคนซึ่งคุ้นเคยกับสถานที่ก็ไม่ยากนักที่จะหาลิ้นชักและเปิดมันออกมาเพื่อหยิบกระบอกไฟฉายซึ่งเปรียบเสมือนแสงสว่างนำทางของพระเจ้าเพื่อให้หลุดพินจากความมืดดำอันน่าสะพรึงกลัว

    พอแสงไฟฉายส่องสว่างเป็นลำยาว สิ่งแรกที่ทำคือตรวจดูผนังซึ่งมีภาพประหลาดเกิดขึ้นเมื่อครู่อย่างสงสัยแกมหวาดกลัว จะว่าตาฝาดก็ไม่ใช่เพราะมันชัดเจนติดตาติดใจเหลือเกิน แต่ตอนนี้สิ่งที่พบก็เป็นเพียงผนังปูนทาสีขาวธรรมดาเท่านั้นเอง หญิงสาวลองเอามือแตะดูก็รู้สึกถึงความเย็นชืดอย่างประหลาดชนิดหนึ่ง  บางครั้งผนังให้ความรู้สึกเหมือนผิวหนังซึ่งลึกลงไปคือเลือดเนื้อของคนที่ตายไปแล้ว แต่ยังไม่ยอมตายอย่างแท้จริง...บางครั้งมันยังเคลื่อนไหวแผ่วๆ ราวกับจะหลีกเลี่ยงหยอกล้ออย่างปราศจากอารมณ์ขัน หากเต็มไปด้วยความมุ่งร้ายหมายขวัญ

    มันคืนนรกอะไรกันนี่.... แล้วสิ่งที่ปรากฏเมื่อครู่สื่อถึงอะไรกันแน่...หญิงสาวสะอื้นน้ำตาคลอ ทำไมต้องมาเผชิญกับความน่ากลัวโดดเดี่ยวลำพังแบบนี้...อย่าลืมสิ....อาวุธสักอย่างเพื่อป้องกันตัว....สุดาบอกกับตัวเองและส่องไฟฉายไผมาหาอาวุธสักอย่าง....มีดทำครัวเล่มยาวนั่นก็ไม่เลว

    พอได้อาวุธแม้จะไม่ร้ายแรงปืนหรือลูกระเบิดมือ หญิงสาวก็ใจชื้นขึ้นมาอีกหน่อย  มือซ้ายถือไฟฉาย มือขวากำด้ามมีดเล่มยาวแน่น พร้อมที่จะกระโจนเข้าแทงหรือฟันอะไรก็ได้ที่จะโผล่ออกมาจากความมืด

    แสงสว่างวาบผ่านช่องลมเหนือหน้าต่างเข้ามา ติดคามด้วยเสียงกัมปนาทกึกก้องจนบ้านสะเทือน สุดารู้ว่าฟ้าได้ผ่าลงมาที่บ้านอีกครั้ง และครั้งนี้ดูเหมือนจะรุนแรงกว่าทุกครั้ง มันคงเป็นอาถรรพ์อะไรสักอย่างที่ยังนึกไม่ออกและไม่อยากจะนึก

    หญิงสาวมองเห็นลูกไฟขนาดลูกมะพร้าวกลิ้งกระโดดไปในความมืดเหมือนหนูติดจั่น ก่อนจะระเบิดกระจายหายไปบริเวณหนึ่งบริเวณใดของบ้าน  เสียงดังเหมือนมีเศษไม้ระเบิดฉีกขาดออก และมีกลิ่นเหม็นไหม้ตะลบอบอวลอยู่ครู่หนึ่ง สุดาสูดลมหายใจลึกๆ พยายามทำใจให้เข้มแข็งแม้ประสาทกำลังสั่นคลอนเต็มทีแล้วก็ตาม ค่อยๆก้าวตรงไปยังจุดที่ลูกไฟระเบิดออกมาอย่างระมัดระวัง กำมีดในมือแน่น

    แสงสว่างจากไฟฉายส่องให้เห็นประตูบานหนึ่งพังพินาศหลุดร่องแร่งราวกับโดนระเบิด ประตูบานนี้ปกติจะปิดตายด้วยกุญแจดอกใหญ่ ซึ่งตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ สุดายังไม่เคยเห็นประตูบานนี้เปิดออกเลยสักครั้ง

    “ลูกกุญแจอยู่กับนายผู้ชาย”
    คนใช้เก่าแก่ของบ้านบอกอย่างไม่เต็มใจนักเมื่อสุดาเคยซักถามอย่างสงสัย
    “ปกติท่านจะไม่ให้ใครเข้าไปหรอก ห้องนี้เก็บงานของท่านเอาไว้และไม่อยากให้ใครเข้าไปวุ่นวาย”

    “แม้แต่ฉันเหรอ”
    สุดาเคยใช้ความเป็นนายเข้าข่มอยู่ในที แต่ดูเหมือนจะไม่มีผล เพราะคำตอบของคนใช้เก่าแก่มีเพียงพยางค์เดียว แต่ความหมายชัดเจนเหลือเกิน

    “ใช่”

    ประโยคนั้นตอกปิดตายห้องอันน่าสงสัยนั่นโดยสิ้นเชิง เพราะแม้แต่จะพยายามถามผู้เป็นสามีปานใดก็ตามก็ไม่เคยได้คำตอบชัดเจนสักครั้ง และถึงจะพยายามแอบค้นหาลูกกุญแจขนาดไหนก็ไม่เคยพบ

    แต่ตอนนี้ห้องเปิดออกแล้ว ด้วยฝีมือของใครหรืออะไรสักอย่างที่มากับลูกไฟประหลาดนั่น เพียงแต่ก้าวเข้าไปเท่านั้น ความสงสัยที่เนิ่นนานมาหลายๆปีคงจะคลี่คลาย แต่พอถึงโอกาสจริง ๆ หญิงสาวกลับลังเลอันเนื่องมาจากสถานการณ์ในตอนนี้มันไม่เป็นใจให้เลย จนบัดนี้ซากสยองของผู้ที่เคยเป็นสามีจะอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ วูบนั้นสุดานึกถึงชาติขึ้นมาได้อีกครั้ง บันไดซึ่งลงมาจากชั้นบนที่จริงไม่ได้อยู่ไกลอะไรเลยแม้ว่าบ้านหลังนี้จะใหญ่โตราวปราสาทผีดิบก็ตาม

    ไฟฉายมี  อาวุธพร้อม บ้านชั้นล่างไม่ได้ตกอยู่ในความมืดอีกแล้ว ต้องกลับไปหาชู้รักรุ่นน้อง และภาวนาขออย่าให้เขาเป็นอะไรไปเลย ถ้าชาติอยู่เคียงข้าง อย่างน้อยคงทำให้เข้มแข็งมากขึ้น ดีกว่างมโลกอยู่เพียงลำพัง

    สุดาเริ่มต้นเดินย้อนกลับอีกครั้ง โดยมีไฟฉายส่องนำทางไป ผ่านโต๊ะเก้าอี้และเครื่องเรือนราคาแพงซึ่งล้มระเนระนาด ผ่านห้องโถงอันกว้างใหญ่ เลี้ยวมุมห้องด้านหน้า ถัดออกไปอีกไม่ไกลนักก็จะเป็นบันใดซึ่งทอดยาวขึ้นไปบนชั้นสอง  

    พอถึงเชิงบันใดหญิงสาวก็ใจหายวาบทั้งที่ทำใจไว้แล้ว ไม่มีร่างชองชาติอยู่แถวนั้นเลย มีแต่กองเลือดเป็นหย่อมๆ อยู่บนพื้น เลือดอะไรกัน,,,,,ชาติตกบันใดขาหัก ไม่ได้หัวแตกจนเลือดนองพื้นขนาดนี้ เกิดอะไรขึ้นกับเขา และร่างเจ้าผีนรกนั่นหายไปไหน

    ภาพจากสยองผีซึ่งเคยดูปรากฏขึ้นมาในห้วงแห่งความคิดอีกครั้ง เพียงแต่ตอนนี้เป็นภาพของชาตินอนกองอยู่กับพื้นซึ่งเนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดและเศษเนื้อขาดวิ่น บางส่วนเห็นกระดูกขาวโพลน ร่างซากสยองของอดีตสามีกำลังนั่งยองๆ อยู่ใกล้ๆ ใช้มือดึงตับไตและเนื้อหนังออกมากินอย่างช้าๆ และเอร็ดอร่อยราวกับเป็นอาหารมื้อสำคัญ แค่นึกขึ้นมาหญิงสาวก็รู้สึกเหมือนจะอาเจียนออกมาด้วยความสยดสยองและความหวาดกลัวที่ประทุขึ้นมาอีกครั้ง

    ไม่,,,มันต้องไม่เป็นแบบนั้น ไม่มีทางเป็นไปได้ ชาติอย่างไรก็เป็นคนแข็งแรง บางทีเขาอาจจะเป็นฝ่ายจัดการกับซากสยองนั่นได้,,, มันเป็นร่างผุพังเก่าแก่เท่านั้น จะมาสู้ชายวัยหนุ่มที่เต็มไปด้วยพละกำลังได้อย่างไร บางทีเขาอาจจะเอาซากนรกนั่นไปฝังอยู่ หรือจัดการอะไรสักอย่างเพื่อทำลายมันก็เป็นได้
    “ชาติ,,,,,,อยู่ไหน”
    หญิงสาวลองร้องเรียกเสียงดัง

    นอกจากเสียงที่ก้องสะท้อนไปมา  ดูเหมือนจะมีเสียงแปลกๆ ตอบมาจากมุมหนึ่งมุมใดของบ้าน  แต่เป็นเสียงที่ไม่ชัดเจนและจับใจความไม่ได้ สุดาแน่ใจว่าเสียงนั่นจะเป็นเสียงอะไรก็ตาม แต่ต้องไม่ใช่เสียงของชาติแน่นอน

    ไอ้ผีนรก แน่จริงออกมาเจอกันเลย”

    สุดาร้องท้าทายออกไปสุดเสียง  ความรู้สึกที่ว่าผีนรกความจริงก็คือสามีหายไปหมด เธอกลัวจนกล้าแบบบ้าเลือดจนแทบบ้าไปแล้ว สถานการณ์บีบคั้นความรู้สึกคนได้ขนาดนี้จริงๆ เธอไม่คิดอะไรอีก นอกจากให้เรื่องนรกนี้จบลงเสียที

    แต่สิ่งที่ตอบกลับการท้าทายมีเพียงเสียงฟ้าคำรามด้านนอกเท่านั้น พายุฝนกระหน่ำแรงขึ้นอีกแล้ว และแล้วเสียงอสนีบาตก็ฟาดครืนลงมายังตัวบ้านอีกครั้งราวกับว่าบ้านหลังนี้ประพฤติตัวเป็นสายล่อฟ้าชั้นดี  สุดาแทบจะไม่แปลกใจเลยว่าสักวันหนึ่งข้างหน้าบ้านหลังนี้คงถูกฟ้าผ่าจนวายวอดทั้งหลัง แต่เธอจะยังมีชีวิตรอดอยู่ถึงวันนั้นหรือเปล่าก็ไม่อาจทราบได้

    ถ้าจะมีอะไรทำจริงๆ ก็คงเป็นการกลับไปยังห้องประหลาดนั่น ดูให้รู้แจ้งว่ามีอะไรกันแน่อยู่ข้างไหน

    หญิงสาวผู้เผชิญกับความน่ากลัวอย่างโดดเดี่ยวค่อยเดินกลับไปยังห้องต้องห้ามอีกครั้งห้องซึ่งบางทีอาจมีคนไม่กี่คนเท่านั้นจะมีโอกาสเข้าไปข้างใน


    อากาศตอนนี้จัดว่าเย็นอยู่แล้ว แต่พอมายืนอยู่หน้าห้องลึกลับอากาศดูเหมือนจะหนาวเย็นมากขึ้นไปอีกและดูเหมือนจะมีลมแผ่วๆ พัดออกมาเสียด้วยซ้ำซึ่งไม่น่าเป็นไปได้เลย สุดาได้แต่หวังว่าห้องนี้จะมีเส้นทางหรือหน้าต่างซึ่งสามารถเปิดออกไปสู่โลกภายนอกได้

    ค่อย ๆ เดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง ไฟฉายสาดแสงสว่างพอให้มองเห็นสภาพในห้องได้ชัดเจน มันก็ไม่มีอะไรแปลกประหลาดจนน่าจะปิดตายไว้ตลอดเวลาแบบนี้ ตามพื้นกลับดูไม่ค่อยมีฝุ่นจับมากมายอย่างที่ควรจะเป็น แสดงว่าจะต้องมีใครบางคนแอบเข้ามาทำความสะอาดแม้จะไม่บ่อย ในห้องไม่มีโต๊ะ เก้าอี้ มันดูกว้างโล่งอย่างประหลาด

    ผนังห้องมีรูปวาดขนาดใหญ่แขวนติดตามผนัง ด้านข้างๆมีชั้นไม้เก่าแก่ซึ่งปราศจากสิ่งของมีค่าอันใดวางอยู่ สุดารู้สึกผิดหวังนิดๆ เพราะคาดหวังไว้มากกับห้องนี้ มันน่าจะมีของมีค่าอะไรที่มีราคาดีๆ จะได้เก็บขายเอาเงินให้หมด มันถึงเวลาแล้วที่จะเผ่นหนีออกให้ไกลแสนไกลจากบ้านนรก

    รูปภาพซึ่งแขวนบนผนังดูเผินๆ ก็ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นพิสดาร แต่อะไรบางอย่างทำให้หญิงสาวหันไปพิจารณาดูอีกที  และพอมองให้ดีก็ทำเอาใจหายวาบ ขนลุกซู่

    ภาพผู้หญิงซึ่งอยู่ในภาพเหล่านั้นทุกภาพ เป็นภาพของสุดา,,,,,,ไม่ใช่  เป็นภาพของใครบางคนซึ่งหน้าตาคล้ายกับสุดาต่างหาก ภาพภรรยาคนก่อนของประมุขบ้านหลังนี้ซึ่งเสียชีวิตไปนานแล้วนั่นเอง.... และเป็นคนเดียวกับผู้หญิงซึ่งปรากฏตัวขึ้นในผนังห้องครัว ซึ่งตอนแรกสุดายังคิดว่าเป็นตัวเธอเอง แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่,,,ความคิดที่ว่าคนซึ่งตายไปแล้ว เพิ่งปรากฏตัวให้เห็นทำให้ความหวาดกลัวประทุขึ้นมาอีกครั้ง หญิงสาวกรีดร้องออกมาดังๆ อย่างไม่ต้องเกรงใจมนุษย์หรือผีตนไหน   การได้มายืนดูภาพคนตายในคืนอันน่ากลัวเพียงลำพังมันชวนให้ขวัญหนีดีฝ่อสติแตกเอาง่ายๆ

    ไม่,,,ต้องไม่มอง ถ้ามองไปเกิดว่าภาพเหล่านั้นยิ้มให้หรือเคลื่อนไหวขึ้นมา อาจทำให้กลัวจนเป็นบ้าเป็นหลังไปได้  สุดาพยายามบังคับใจตนเองไม่ให้สติแตกและกำลังจะกลับออกไปจากห้อง ถ้าไม่สังเกตเห็นพื้นบริเวณกลางห้องมีแผ่นไม้ขนาดใหญ่วางอยู่ ด้านหนึ่งมีห่วงเหล็กติดอยู่ ซึ่งพิจารณาให้ดีมันเหมือนกับเป็นประตูบานหนึ่ง ประตูซึ่งปิดซ่อนห้องใต้ดิน

    หัวใจเต้นระรัวแรงขึ้นมาอีกครั้ง เธอไม่ทราบมาก่อนเลยว่าบ้านหลังนี้มีห้องใต้ดินและไม่เคยมีใครบอกมาก่อน อีกประการหนึ่งเธอเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้หลังจากสร้างเสร็จแล้ว  คนใช้ก็เปลี่ยนไปหลายครั้ง ยกเว้นคนใช้เก่าแก่ไม่มีคนเท่านั้นที่ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน และคนเหล่านี้ดูจะเก็บงำความลับอะไรหลายๆ อย่างของบ้านหลังนี้เอาไว้ โดยไม่ยอมบอกข้อมูลอะไรที่อยากรู้ให้ทราบเลย

    จากคุณ : Psycho man - [ 26 ก.พ. 49 15:49:37 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป