เสียงดังกุกกักๆจากระเบียงไม้ด้านข้างของตัวบ้านทำให้ศิวะขยับตัวลุกจากเก้าอี้เดินตรงมายังหน้าต่างสอดส่ายสายตาหาต้นตอที่มาของเสียง เขาเปิดประตูห้องทำงานออกมายืนตรงระเบียงไม้เพื่อค้นหาตัวการที่มาของเสียงดังนั่น แต่ก็หาพบไม่
พอหันหลังกลับเข้ามาในห้องตัวการที่มาของเสียงเมื่อสักครู่ก็สวมรอยนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่เขานั่งอยู่เมื่อครู่ซะแล้ว ศิวะเดินสาวเท้าเข้ามาในห้องพร้อมกับคิดหาวิธีการจัดการ สุดท้ายมือยาวก็เลือกคว้าหางม้าที่ทั้งยาวและดกดำของเธอไว้ ก่อนที่เจ้าตัวการจะเจ้ากี้เจ้าการกับการบ้านของเขาซะบ่นปี้เพราะความหวังดีช่วยทำ(ราย) ความแรงของผู้ชายที่ไร้ความนุ่มนวลเป็นปกติทำเอาเจ้าตัวการร้องลั่นห้องของเขา
เจ็บนะเจ้าโอ๊กปล่อยนะ หัวคนนะโว้ยเที่ยวได้มาดึงเล่นอยู่ได้ ดูสิผมฉันร่วงไปกี่สิบกี่ร้อยเส้นแล้วเนี่ย หมดกันๆผมของฉัน ศิวะปล่อยมือจากผมของเธอ แล้วทรุดตัวลงบนโต๊ะตรงหน้าเธอ
เออ...ก็รู้นะสิว่าเป็นหัวคน ถ้าเป็นแมวหรือไอ้ปังปอนวายร้ายพ่อถีบส่งลงหน้าต่างโน้นแล้วแม่คู้ณ เมริสาเผลอค้อนศิวะทีหนึ่ง หนอย....ไอ้ที่เขากระชากผมเธอแทบจะหลุดติดมือเขาเมื่อสักครู่เนี่ยนะ...ถือว่าขั้นเมตตาปราณีของพ่อเจ้าประคุณแล้ว
คิดว่าพูดโอเวอร์ไปมั้ยเนี่ย แล้วคิดบ้างมั้ยเนี่ยว่าคนที่นั่งตรงนี้เป็นผู้หญิง ดูดิหนังหัวแทบหลุดออกมาเป็นชิ้นๆ เมริสาบ่นหน้าคว่ำ แต่ศิวะไม่ได้ว่าอะไรเพียงแต่ยิ้มๆ
มืดค่ำแล้วมาที่นี่ทำไม ปีนขึ้นมาบนนี้ไม่กลัวตกลงไปแข้งขาหักบ้างเหรอ ห้องนี้มันชั้นสองของบ้านนะจะบอกให้แม่คุณรู้ไว้ ศิวะเตือนด้วยความหวังดี คนถูกต่อว่ากลับหันมามองด้วยความไม่พอใจ
ทำเป็นมาดุมาว่า ฉันปีนขึ้นมาห้องนี้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว ครั้งนี้ก็ใช่ว่าเป็นครั้งแรก นายนี่ยิ่งนานวันยิ่งพูดมาก จุกจิกจู้จี้ขี้บ่นทำเหมือนฉันเป็นเด็กทั้งที่อายุก็เท่าๆกัน เดี๋ยวดุเรื่องนั้น เดี๋ยวดุเรื่องนี้ไม่จบไม่สิ้นสักที เฮ้อ......รำคาญกลับบ้านดีกว่าเรา เมริสาหรือเม่น ออกไปยืนตรงระเบียงไม้ซึ่งยื่นออกมาจากตัวบ้านหลังสีฟ้าอ่อนหลังข้างๆบ้านของเธอ ทำท่าจะปีนกลับไปบ้านอีกหลังซึ่งเป็นบ้านไม้สีขาวที่อยู่ฟากหนึ่งซึ่งก็มีระเบียงไม้เหมือนกัน แต่ไม่ทันที่เมริสาจะปีนข้ามไปศิวะรีบห้ามเธอไว้เสียก่อน
เดี๋ยวสิเม่น มาแล้วทำไมรีบกลับ ไม่เอายังไม่ให้กลับ เข้ามาคุยกันก่อนสิ ไหนๆ ก็มาแล้ว นะๆเดี๋ยวจะไปหาขนมมาให้กิน เอาเยอะๆเลยวันนี้ได้ยินว่าแม่จะทำสาคูไส้หมูกับข้าวเปียกลำใยด้วยล่ะ
ศิวะหรือโอ๊กเดินเข้าไปจูงมือเมริสาเข้ามาในห้อง เมริสาทำหน้ามุ่ยอยู่ได้ไม่นานก็ต้องลอบยิ้มออกมา ไม่ใช่เพราะคำเชิญชวนหรอกนะที่ยอมเดินกลับเข้ามาในห้อง แต่เพราะข้อความสุดท้ายนั่นต่างหากที่ทำให้เธอยอมเดินกลับเข้ามาในห้องนี้อีกครั้งอย่างเสียไม่ได้ ไม่ได้เห็นแก่กินหรอกนะ แต่ที่ยอมเดินตามเข้ามาในห้องนี้อีกครั้งเพราะเสียดายของที่แม่นายศิวะทำเอาไว้ต่างหากล่ะ แม่นายศิวะทำกับข้าวอร่อยมากๆ อร่อยทุกอย่าง ยิ่งทำขนมด้วยแล้วยิ่งอร่อยเป็นที่สุด ทำอะไรเธอก็ชอบๆ ชอบกินไปซะทุกอย่าง ชอบจนอยากจะเป็นลูกสาวของแม่นายศิวะซะเองนะล่ะ
งั้นสิ แบบนี้จึงจะถือว่าเป็นเพื่อนกันจริง เคยได้ยินมั้ยบ่อยๆในหนังจีนพวกกำลังภายในนะ ไดอะลอคสุดฮิตที่เขาชอบพูดบ่อยๆ มีสุขร่วมเสพ มีของกินอะไรอร่อยๆก็ต้องแบ่งเพื่อนกิน มันถึงจะคบหากันต่อไปได้ ศิวะให้มะเหงกบนหัวของเมริสาทีหนึ่ง ก่อนจะเดินจากห้องทำงานนั้นไปจัดการหาเสบียงที่ว่ามาให้จอมตะกละ
พอศิวะกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งหลังจากเดินออกไปรับโทรศัพท์จากเพื่อนที่โทร.มา ปรากฏว่าสาคูไส้หมู ข้าวเปียกลำใย และน้ำสมคั้นที่วางอยู่บนโต๊ะซึ่งเป็นของเขาถูกแม่เจ้าประคุณจัดการซะเกือบเรียบแปล้ ศิวะขยับตัวลุกขึ้นเพื่อไปเอามาเพิ่มให้เธออีก เมริสารีบเรียกเอาไว้ก่อน
จะไปไหนน่ะโอ๊ก
ก็จะไปเอามาเพิ่มให้อีก ยังไม่อิ่มไม่ใช่เหรอทุกทีเห็นเบิ้ลสองจาน
เฮ้ย...บ้า เห็นฉันเป็นคนตะกละไปได้ จะอิ่มแล้ว ขอบคุณมาก ศิวะทรุดตัวลงนั่งบนเตียงตามเดิม สายตาจ้องเขม็งมายังเมริสาที่กำลังนั่งทานของว่างอยู่บนพรมใกล้ตู้หนังสือ
ไปตายอดตายยากจากที่ไหนกันมา กินซะแทบไม่เหลือ แต่ก็ต้องขอบใจนะที่เหลือจานไว้ให้แม่ได้ใช้งานต่อไป ไม่งั้นคงแย่ และถ้าจะกรุณาช่วยเลียให้สะอาดก็จะดีมากๆเพราะจะได้ประหยัดน้ำล้างจานไปด้วย ศิวะยักคิ้วล้อเลียน
ไม่ตลกเลยนะเจ้าโอ๊ก รู้มั้ย เนี่ยกว่าฉันจะเอาชีวิตรอดจากค่ายฝึกมหาโหดออกมาได้นี่ปางตายเชียวนะจะบอกให้
ไปเข้าค่ายอะไรมาทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่อง
อ้อ.. ฉันไปเข้าค่ายฝึกวอลเล่ย์บอลของฉัน โค้ชเขาเก็บตัวนักกีฬาวอลเล่ย์บอลกันมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว ฉันไม่ได้บอกนายเพราะมันคงไม่สำคัญอะไร ลืมแล้วเหรอว่าฉันเป็นนักกีฬาวอลเล่ย์บอลของโรงเรียน แล้วนี่ก็ใกล้ช่วงแข่งกีฬาของเขตแล้ว ฉันไปเป็นเดือนพอกลับมาบ้านไม่รู้ที่บ้านไปไหนกันหมด บ้านงี้เงียบเป็นป่าช้าเชียว ที่โหดสุดๆ ก็คือกระเป๋าตังค์ฉันหาย ไม่รู้หายไปตอนไหน นี่ฉันก็ลงทุนเดินตั้งแต่ปากทางยันท้ายบ้านเลยนะ คิดว่าจะโทรศัพท์ให้นายออกไปรับ แต่โทรศัพท์ฉัน ไอ้กระบอกไฟฉายเครื่องนี้มันไม่เหลือตังค์สักสลึง ตอนนี้รับได้ แต่โทร.ออกไม่ได้อะนะ ที่เดินเข้ามาถึงบ้านได้เนี่ยก็เหนื่อยแทบขาดใจแล้วเจ้าโอ๊กเอ้ย เฮ้อ....มีเพื่อนบ้านก็จะโทร.ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันบ้างก็ไม่มี ดูสิคนเรา
อ้าวๆ ฉันจะไปรู้กับเธอเรอะ ตอนดีๆไม่มีนึกถึง พอแย่มาจะเที่ยวมาโทษกันแบบนี้ไม่ได้นะ แล้วที่ไอ้กระบอกไฟฉายของเธอไม่เหลือตังก์นะโทร.คุยกับใครไม่ทราบ คุยกับใครทำไมไม่โทษคนนั้นล่ะ มากล่าวโทษกันแบบนี้ไม่ถูกนะเจ้าเม่น บุญเท่าไรแล้วที่อุตส่าห์เหลือแรงปีนขึ้นมาบ้านฉันได้ ที่มาหานี่ก็เพราะมีธุระแค่หิวใช่มั้ย หมดธุระของเธอแล้วฉันจะได้ทำงานของฉันต่อ ช่วงนี้ยิ่งการบ้านเยอะๆอยู่ด้วย พูดเสร็จศิวะก็ลุกเดินมาประจำที่โต๊ะทำงานของตนเอง
อาจจะยิ่งเยอะหนักเข้าไปอีกก็ได้ ถ้าเพื่อว่าจะ.....รวมการบ้านของฉันเข้าไปอีกหนึ่ง เมริสาพูดทีเล่นทีจริง ศิวะหรี่ตามองอย่างไม่ไว้ใจในพฤติกรรมของเพื่อนสาว
นี่.......นี่คงไม่ได้หมายความว่าจะวานให้ฉันทำงานให้เธอหรอกนะ
ก็.......คงต้องเป็นแบบนั้นละ แหม่.. นายนี่เก่งนะโอ๊ก มิเสียแรงที่เรียนอยู่ห้องคิง ฉันพูดนายก็เข้าใจทะลุปรุโปร่งแล้ว ดีจริงๆงั้นไม่เสียเวลานะนายจะได้ทำการบ้านเสร็จเร็วๆ ช่วยแปลเอกสารภาษาอังกฤษปึกนี่ให้ฉันหน่อย เอาแบบละเอียดหน่อยนะเพราะฉันต้องแนบเอกสารฉบับนี้ไปกับรายงานที่จะส่งอาจารย์วันพุธนี้ ก่อนที่ศิวะจะตอบรับหรือปฏิเสธเมริสาก็รีบวางเอกสารที่เธอถ่ายออกมาจากเจอนัลต่างประเทศที่ต้องการให้ศิวะแปลให้ลงบนโต๊ะทำงานของศิวะ
เอาจริงเหรอเม่น ศิวะทำท่าไม่อยากจะเชื่อว่าเมริสาจะให้เขาช่วยแปลเอกสารให้จริงๆ
ก็เอาจริงนะสิ เรื่องเร่งด่วนแบบนี้ถ้าไม่จวนตัวใครที่ไหนเขาจะมาพูดกันเล่นๆ หรือว่านายจะไม่ช่วยฉัน เพื่อนกันก็ให้มันรู้ไปสิว่าเพื่อนจะไม่ช่วยเพื่อน นี่ถ้าไม่จวนตัวไม่ขอให้ช่วยหรอกนะ ไม่ได้มีแค่รายงานชิ้นนี้ชิ้นเดียวนะที่ต้องรีบทำให้เสร็จ อย่างน้อยก็อีกราวๆสามชิ้น ถ้านายไม่อยากให้ฉันเรียนจบม. 6 พร้อมนาย ไม่ต้องช่วยก็ ได้ เรียนจบช้ากว่าเพื่อนสักเทอมจะเป็นไรไป เมริสานั่งขัดสมาธิตรงกลางห้องมือกอดอกนิ่งไหวติง เหมือนกำลังนั่งประท้วงศิวะอยู่กลายๆ เจอไม้นี้มีเหรอศิวะจะใจแข็งอยู่ได้
ไม่ต้องมานั่งประท้วงกันหรอก ใครบอกกันล่ะว่าจะไม่ช่วย เดี๋ยวจะหาเวลาทำให้ก็แล้วกันนะ ในที่สุดศิวะก็ใจอ่อนจนได้ และนั่นละคือจุดอ่อนของศิวะที่เมริสารู้ดี
ขอบใจนะโอ๊ก อือ....เห็นจะต้องกลับแล้ว ที่บ้านเปิดไฟล่ะคิดว่าพ่อกับแม่คงมากันแล้ว เออ..เกือบลืม ย้ำอีกทีการบ้านนะต้องส่งวันพุธเช้านะ กรุณารีบๆทำให้ด้วยล่ะเดี๋ยวไม่ทันส่งอาจารย์" พูดเสร็จเม่นก็เดินตรงไปที่ประตูอีกประตูหนึ่งซึ่งไม่ใช่บานที่เธอเปิดเข้ามาในคราวแรก
(มีต่อ)
แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 49 14:03:58
แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 49 12:31:40
แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 49 02:20:08
แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 49 02:18:14
แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 49 01:34:08
จากคุณ :
พยาบาลเกเร
- [
3 มี.ค. 49 01:30:36
]