"มีใครอยู่ไหมครับ...(ผมเอาความรักมาส่ง)" ตอนที่ 1
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4070583/W4070583.html
"มีใครอยู่ไหมครับ...(ผมเอาความรักมาส่ง)" ตอนที่ 2
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4073747/W4073747.html
"มีใครอยู่ไหมครับ...(ผมเอาความรักมาส่ง)" ตอนที่ 3
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4076716/W4076716.html
"มีใครอยู่ไหมครับ...(ผมเอาความรักมาส่ง)" ตอนที่ 4
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4081744/W4081744.html
"มีใครอยู่ไหมครับ...(ผมเอาความรักมาส่ง)" ตอนที่ 5
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4087903/W4087903.html
"มีใครอยู่ไหมครับ...(ผมเอาความรักมาส่ง)" ตอนที่ 6
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4096879/W4096879.html
"มีใครอยู่ไหมครับ...(ผมเอาความรักมาส่ง)" ตอนที่ 7
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4107424/W4107424.html
"มีใครอยู่ไหมครับ...(ผมเอาความรักมาส่ง)" ตอนที่ 8
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4115284/W4115284.html
"มีใครอยู่ไหมครับ...(ผมเอาความรักมาส่ง)" ตอนที่ 9
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4118579/W4118579.html
"มีใครอยู่ไหมครับ...(ผมเอาความรักมาส่ง)" ตอนที่ 10
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4132835/W4132835.html
"มีใครอยู่ไหมครับ...(ผมเอาความรักมาส่ง)" ตอนที่ 11
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4139410/W4139410.html
"มีใครอยู่ไหมครับ...(ผมเอาความรักมาส่ง)" ตอนที่ 12
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4148520/W4148520.html
-- 13 --
เมื่อหนุ่มสาวทั้งสองเดินเข้าบ้านไปได้สักครู่ รถยุโรปคันใหญ่ของพี่บอสก็เคลื่อนเข้ามาจอดที่หน้าบ้านสีฟ้าของลิ้นจี่ เมื่อจอดรถแล้ว ลิ้นจี่ก็ลงมาจากรถ หันไปมองพี่บอสที่เปิดประตูลงมาเช่นกัน
ขอบคุณมากนะคะที่พาไปเลี้ยงข้าว บอกกับพี่บอสอย่างเสียไม่ได้ แอบเบ้ปากเล็กน้อยในความมืดไม่ให้พี่บอสเห็น
โอ้ย ไม่เป็นไร ก็เฮียบอกแล้ว วันนี้ให้น้องจี่ เอ้ย น้องลิ้นจี่ทั้งวันเลย พี่บอสว่าแล้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
ค่ะ ทั้งวันเลยค่ะ พูดอย่างกัดฟันนิดๆ พลางคิด วันนี้ทั้งวัน พี่บอสไม่เคยออกห่างจากธุรกิจร้อยพันล้านเลยสักขณะจิตเดียว เริ่มตั้งแต่ไปกินข้าวที่เยาวราช ก็คุยโทรศัพท์เรื่องงานตลอด แถมตอนท้ายมีงานด่วน ให้ไปดูงานก่อสร้างสาขาร้านทองที่กำลังสร้างใหม่อีก สุดท้ายก็ต้องตามไปที่ไซค์งานกับพี่แกด้วย กว่าจะเสร็จงานก็มืดค่ำ สรุป วันนี้ลิ้นจี่เหนื่อยมากกว่าวันทำงานอีก แล้วอย่างนี้เขาเรียกไปเที่ยวตรงไหนเนี่ย
ยังดีนะที่มีนายต้นคอยอยู่เป็นเพื่อน แม้ว่าเป็นเพื่อนคุยที่ไม่ค่อยได้ดั่งใจลิ้นจี่นักก็ตาม แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีเพื่อนคุย แล้วต้องมานั่งเหงาฟังพี่บอสคุยเรื่องธุรกิจละน่า นี่ยังอุตส่าห์บังคับต้นให้ไปดูไซค์งานพี่บอสด้วยกันอีก เห็นต้นอิดๆออดๆ แล้วขำ อยากหลวมตัวมาเองนี่นา ช่วยไม่ได้
คิดแล้วยิ้มนิดๆ ก่อนจะก้มมองดอกกุหลาบของต้นที่ถือติดมือมาด้วย แล้วหันไปมองพี่บอส พี่บอสก็น่าจะไปส่งต้นให้ถึงบ้านสักหน่อย
ก็ต้นเขาบอกเขาลงตรงนั้นได้นี่ แค่นั้นก็ใกล้บ้านเขาแล้วล่ะ เฮียมีเวลาไม่มาก เดี๋ยวต้องไปทำงานต่อด้วยนะเนี่ย ว่าแล้วยกมือขึ้นดูนาฬิกา
เฮียไปก่อนดีกว่า ฝากลาป่าป๊า หม่าม้าน้องลิ้นจี่ด้วยนะ
ค่ะ ไปเถอะค่ะ เดี๋ยวธุรกิจจะเสียหายหมด ลิ้นจี่พูดประชด แต่พี่บอสเข้าใจไปว่าลิ้นจี่เป็นห่วง จึงส่งยิ้มกว้างขวางมาให้ แล้วรีบเดินไปขึ้นรถ ขับออกไปทันที
ลิ้นจี่มองตามแล้วถอนหายใจอย่างโล่งอก กำลังจะกดกริ่งที่รั้วบ้านของตัวเอง สายตาก็บังเอิญไปปะทะกับรถช็อบเปอร์ที่จอดพิงอยู่ที่รั้วบานบุรีนั่นอย่างจัง ลิ้นจี่ขมวดคิ้ว เดินมาพิจารณาอย่างถี่ถ้วน แม้ที่ตรงนั้นจะค่อนข้างมืด แต่ลิ้นจี่ก็จำได้ดีว่า รถช็อบเปอร์คันนี้เป็นของใคร
รถคุณปรัชญ์ทำไมมาจอดอยู่ที่นี่ ก็เมื่อกลางวันคุณปรัชญ์เอารถยนต์มาไม่ใช่หรอ แล้วทำไมตอนนี้กลายเป็นรถช็อบเปอร์ไปได้ล่ะ
ลิ้นจี่ครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว
ตามองไปที่บ้านสีชาวของผิงที่ตอนนี้เปิดไฟสว่างที่ระเบียงบ้าน
แล้วลิ้นจี่ก็ต้องขยี้ตาเมื่อเห็นว่าที่ระเบียงนั้น มีคน 2 คนนั่งอยู่ ไม่ใช่ผิงกับคุณยาย แต่เป็น
ผิงกับผู้ชาย
ตายแล้ว ยายผิงนัดผู้ชายมาหาที่บ้านดึกๆดื่นๆ แล้วผู้ชายคนนั้น
.ก็คือคุณปรัชญ์นั่นเอง
คุณยายหายไปไหนเนี่ย ไม่เห็นออกมา ปล่อยให้อยู่กันสองคนได้ไง หรือว่า
ลิ้นจี่คิดอะไรออกแล้วเบิกตาเล็กๆของตัวเองให้กว้างมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
หรือว่า ยายผิงรอให้คุณยายหลับก่อน แล้วถึงได้นัดคุณปรัชญ์มาหา
ตายแล้ว
ลิ้นจี่พยายามเขม้นมองคนทั้งสองที่นั่งอยู่ที่ระเบียงนั่นอีก เห็นพูดอะไรกันเบาๆก็ขัดใจ แหม คุยเรื่องอะไรกันนะ อยากรู้จริงๆ ทำยังไงถึงจะรู้น้า
.นิ่งคิดก่อนจะยิ้มเมื่อนึกอะไรออก รีบเดินไปกดกริ่งที่บ้านตัวเองทันที
เสียงกริ่งดังขึ้น สักพักคุณนายละไมก็เดินออกมา มองเห็นลูกสาวยืนรออยู่ก็ยิ้มให้
เป็นไงลูก ไปกินข้าวกับเฮียเค้าสนุกไหม พูดแล้วมองไปที่ดอกกุหลาบที่ลูกสาวถืออยู่ แหม เฮียเค้าน่ารักนะ เอาดอกไม้มาให้ลิ้นจี่ด้วย
ลิ้นจี่มองกุหลาบในมือแล้วเบ้หน้า ก่อนจะบอกคุณนายว่า สนุกอะไรล่ะ หม่าม้า เบื่อจะตาย แล้วกุหลาบนี่ก็
เฮ้อ ช่างเถอะ เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน แต่หม่าม้าดูนั่นสิ
ว่าแล้วจูงมือคุณนายละไมมาดูรถช็อบเปอร์ที่จอดอยู่ข้างรั้วบานบุรี คุณนายมองแล้วขมวดคิ้วอย่างงงๆ กำลังจะหันมาถามลูกสาว ก็พอดีลิ้นจี่ชี้มือให้ดูอะไรซะก่อน
คุณนายมองตามมือชี้ แล้วทำหน้างงหนักขึ้นไปอีก เอีะ นั่นใครมาอยู่ที่ระเบียงบ้านกับผิงเนี่ย
จะใครละคะหม่าม้า ก็คุณปรัชญ์ บุรุษไปรษณีย์ที่เราแอบมองวันนั้นไงคะ ลิ้นจี่รีบหันมาตอบทันที
อ๋อ หรอ มารดาพยักหน้ารับรู้ แล้วเขามาอยู่ที่บ้านผิงได้ยังไง คุณยายไปไหนล่ะ
ก็นี่ไงคะ หม่าม้าที่ลิ้นจี่สงสัย ไม่รู้ยายผิงแอบนัดผู้ชายมาที่บ้านตอนกลางคืนทำไม คุณยายก็ไม่ออกมาอยู่ด้วย อยู่กันสองต่อสองกับผู้ชาย น่าเกลียดจะตาย จริงไหมหม่าม้า เมื่อลูกสาวถาม คุณนายก็พยักหน้ารับทันที
นั่นสิ ใครมาเห็นเข้า ต้องโดนนินทาไม่มีดีแน่เลย
ใช่ หม่าม้า
แย่จริงๆเลย ยายผิงเนี่ย ว่าแต่ ลิ้นจี่อยากรู้จังเลย ว่าเค้าคุยอะไรกันอ่ะ อยากเห็นให้มันชัดกว่านี้ด้วย ลิ้นจี่ว่าแล้วมองไปรอบๆ หันมาถามความเห็นคุณนายละไม
เราไปแอบดูตรงไหนดี ที่มันใกล้ๆ
คุณนายละไมนิ่งไปนิด ก่อนจะร้องออกมา หม่าม้านึกออกแล้ว โธ่ จะไปคิดมากทำไม ก็รั้วบ้านเราติดกับรั้วบ้านเขาอยู่แล้ว เราเข้าไปในบ้านแล้วไปแอบดูที่รั้วก็ได้นี่ ตรงนั้นก็ไม่ไกลจากระเบียงบ้านเท่าไหร่นี่ลูก
ลิ้นจี่คิดตามก่อนจะยิ้มออกมา มองผู้เป็นมารดาด้วยความปลื้มใจ จริงด้วย แหม หม่าม้าของลิ้นจี่นี่ฉลาดจริงๆ เลย งั้นเราไปกันเหอะหม่าม้า
ว่าแล้วรีบจูงมือคุณนายละไมเข้าบ้าน ไปเดินหาที่เหมาะๆ แถวริมรั้วจนได้ที่ปักหลักแอบดูสมใจสองแม่ลูก ที่ตรงนั้นไม่ห่างจากระเบียงบ้านผิงมากนัก มองเห็นคนที่ระเบียงได้ชัดหน่อย แต่ก็ไกลเกินไปที่จะได้ยินว่าพูดอะไรกัน ลิ้นจี่หันมายิ้มกับคุณนายละไม
เอาตรงนี้แล้วกันหม่าม้า ค่อยมองเห็นชัดหน่อย เสียดายไกลเกินไป ไม่ได้ยินว่าเค้าคุยอะไรกัน
นั่นสิลูก แต่ไม่เป็นไร เราเดาท่าทางเอาก็ได้ คุณนายละไมว่า ลูกสาวหันมาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย แล้วทั้งสองแม่ลูกก็พากับเงียบ จอจ่ออยู่กับคนสองคนที่ระเบียงบ้านราวกับเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ก็ไม่ปาน
จากคุณ :
ชมเช้า
- [
3 มี.ค. 49 10:25:24
]