Meenas Kitchen : Chapter 5.
-----------------------------------------------------------------------------------
2-3 วันในชีวิตแม่ครัวฝึกหัดผ่านไป
.
ผลของการกระทำมาแสดงอย่างชัดเจนเอาไว้วันนี้ วันที่ฉันปวดระบมกล้ามเนื้อไหล่ แขนตลอดไปจนถึงแผ่นหลังจนแทบไม่อยากขยับ ตามฝ่ามือบวมพอง มีตุ่มน้ำใส ๆ ผุดขึ้นมา และเนื้อตัวมีรอยม่วงช้ำเป็นจ้ำหลายที่ มีรอยบาดและแผลประปรายทั่วตัวแต่พองามจากความซุ่มซ่ามของฉันเอง
เอ้านี่ เค้าเตอร์เพนท์ แอลกอฮอล์ เดี๋ยวจะไปเอาน้ำแข็งจากในครัวมาให้ ณัชเปิดล๊อกเกอร์พนักงานหยิบยามาให้เรียงเป็นตับ
ฮือ ออ ฉันจะตายม้าย ย
. (TT^TT ) ฉันมองณัชตาละห้อย ปาดน้ำตาที่รินไหลไม่ขาดสาย
ณัชกอดอกพิงผนัง จ้องมองฉันอย่างกลุ้มใจ
อย่าพูดอย่างงี้สิ ฉันเลยรู้สึกผิดเลยที่พามี่มาร้าน
งานนี้มันโหดหินทมิฬชาติกว่าที่ฉันจินตนาการไว้ซะอีก ฉันทำงานอาทิตย์ละสี่วัน เลือกกะดึกก็คือตั้งแต่สี่โมงเย็นยันเที่ยงคืน หน้าที่ของแม่ครัวมือใหม่อย่างฉันคือ เตรียมวัตถุดิบสำหรับทำอาหาร เป็นลูกมือช่วยปลายไม้ รวมถึงทำอาหารง่าย ๆ อย่างสลัด หรือผัดสปาเก็ตตี้
ซึ่งขอสารภาพอย่างหนึ่งเลยว่า
ความต้องการที่อยากจะช่วยทางบ้านของฉันได้เลือนลางหายไปอย่างรวดเร็วตั้งแต่เห็นรายนามงานที่ต้องทำแล้ว ที่ยังสามารถทนทู่ซี่อยู่ได้ก็เพราะต้องการอยู่ใกล้สุดเลิฟล้วน ๆ
ก๊อก ก๊อก
ปลายไม้เปิดประตูเข้ามา หยิบเจลเย็นสำหรับประคบติดมือมาด้วย
เอามือมาดูซิ ไม้ถามเสียงเข้ม
พอเห็นมือที่เคย นุ่ม ขาวสะอาด บนปลายเล็บเพ้นท์สีอย่างสวยงาม ต้องยับเยินจากรอยบาด แผลช้ำและตุ่มน้ำใส ๆ นายไม้ก็ท่าทีอ่อนลง พูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย
พี่เข้มงวดกับมี่ไปรึเปล่า เหนื่อยมั้ย
ไม่เลยค่า แหมแค่นี้สบายมาก เดี๋ยวมือมี่ก็ด้านไม่บวมพองอย่างงี้แล้ว
ฉันรีบเช็ดน้ำตาออกพยายามพูดปั้นหน้าร่าเริง
ไม้ยิ้มให้กำลังใจ ( ลดอาการหายเหนื่อยไปได้ 50 เปอร์เซ็นต์ ) ขยี้หัวฉันอย่างเอ็นดู
มี่มีหัวทางด้านนี้นะ ฝึกอีกหน่อยก็เก่งกว่าพี่แล้ว
ถึงจะรู้ว่าพี่ไม้พูดให้กำลังใจไปอย่างงั้นเองแต่ฉันก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมา ปลายไม้ช่วยฉันทำแผล เอาเจลเย็นมาประคบแผลบวมช้ำแล้วขอตัวกลับไปทำงานตามเดิม
ทำเป็นปากดี เดี๋ยววันพรุ่งนี้นายนั่นเคี่ยวหนักกว่าเดิมแล้วจะรู้สึก ณัชพูดประชดหลังจากชายหนุ่มเดินออกไปจากห้อง ส่วนฉันได้แต่ถอนหายใจแรง ๆ อย่างหนักใจ ทำตัวลีบหน้าจ๋อยตามเดิม
นายปลายไม้ดูใจดีน่ารักนักหนา เอาเข้าจริง ๆ ปรากฏว่าดุ เข้มงวดในการทำงานมากผิดกับเวลาที่พูดคุยเล่นกับรุ่นน้อง แต่ฉันไม่เคยปริปากบ่น กลับเห็นว่ามันเท่น่าชื่นชมซะเหลือเกิน
เพียงแต่สงสัยว่าฉันจะทนกับความหนักหนาของงานนี้ไปได้ซักเท่าไหร่
แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 49 14:48:01
จากคุณ :
อันปังแนน
- [
4 มี.ค. 49 14:36:24
]