คุณเคยคิดไหมว่า....
เราเจอกันครั้งแรก....เมื่อใด?.........
และ...
อะไร... ทำให้เราได้มาพบกัน....
_______ ความทรงจำในหัวใจ _______
ตุลา เหวี่ยงกระเป๋าเป้ใบใหญ่ของตัวเองขึ้นไปบนหลัง มืออีกด้านจับกล้องถ่ายรูปไว้แน่น สะพายขาตั้งกล้องเข้ากับแขน แล้วออกเดินด้วยเท้า ตรงเข้าไปยังรีสอร์ทใหญ่
ที่นี่คือจุดหมายล่าสุดที่เขาจะใช้เป็นโลเคชั่นสำหรับรูปถ่ายชุดต่อไปเพื่อสะสมในแกลลอรี่ รวมกับภาพเก่าอีกมากมายมหาศาลที่เจ้าตัวออกเดินทางไปแทบทั่วทุกทิศอย่างเรื่อยเปื่อยไร้จุดหมาย สุดแต่จะหยุดลงที่ใดแล้วยกกล้องคู่ใจขึ้นมาบันทึกภาพ
รูปเหล่านั้นอาจขายได้หรือไม่ได้ ตุลาไม่เคยใส่ใจ
ใครอยากได้ ... ยินดียกให้
แม้นใครถามว่า เหตุใด ถึงเลือกใช้ชีวิตเช่นนี้ เขาก็ไม่สามารถให้คำตอบ เพียงรู้แต่ในใจลึกๆ มีบางอย่างที่เรียกร้องให้ก้าวเดินต่อไป
และบางอย่าง.... ที่ขาดหายไป
อะไรหนอ ที่ทำให้ชีวิตเขาต้องโลดแล่นมาตามทางนี้ เพื่อค้นหา ตามสิ่งบางอย่างที่ดลใจกระซิบบอกอยู่ลึกๆ ในความรู้สึก
แม้ในความฝัน ก็เหมือนเห็นจิ๊กซอว์ภาพหนึ่งที่ยังต่อไม่จบสิ้น ชิ้นส่วนอีกหลายชิ้นยังกระจัดกระจายยากที่จะหยิบมาจัด มาต่อ เรียงให้เกิดเป็นเรื่องเป็นราว
พนักงานบนเค้าเตอร์เช็คอินพนมมือไหว้ คลี่ยิ้มอ่อนหวานยิ่งนักยามลูกค้าคนใหม่แต่ละคนเดินเข้าไปหา เช่นเดียวกับช่างภาพคนใหม่ ที่นึกนิยมชมชอบอยู่เงียบๆในใจยามเมื่อสาวเท้าเข้าไปถึง
ห้องเดี่ยว หนึ่งห้องครับ
พักกี่คืนคะ?
สาม เขาตอบ และเสริม พักคนเดียวครับ
สักครู่นะคะ
สิ้นคำบอกของรีเซฟชั่นสาว แขกก็เพียงยิ้ม แล้วหันไปสำรวจตรวจตราทั่วโรงแรมที่กำลังจะเข้าพัก งานตกแต่งเล็กน้อยละเอียดที่สวยสะกิดตาทำให้ประหลาดใจ ภาพแกะสลักไม้เป็นรูปนางอัปสราบนฝาผนังอ่อนช้อยเคลื่อนไหวดุจมีชีวิตจนเจ้าตัวนึกอยากเก็บภาพความสวยงามเหล่านั้นขึ้นมาตะหงิด
และไวเท่าความคิด มือหนาหยิบกล้องถ่ายรูปออกมาจากในซองกระเป๋าที่สะพายคล้องคอ ปรับหน้ากล้องและเล็งแสงเงาอย่างเชี่ยวชาญแล้วกดชัตเตอร์อย่างรวดเร็วหลายครั้งติดต่อกัน
คุณอุดมศักดิ์เป็นคนออกแบบค่ะ เสียงพนักงานรีเซฟชั่นอธิบาย
อ๋อครับ
เขาตอบโดยไม่ละสายตาจากเลนส์ในกล้อง หากแล้วพลันมือที่กำลังจะกดชัตเตอร์เก็บรูปต่อไปก็ชะงัก เมื่อเงาร่างของใครคนหนึ่งพาดผ่านเข้ามาในกล้อง
ตุลาลดอุปกรณ์คู่ใจของตัวเองลง เขม้นมองเจ้าของเงานั้นให้แน่ชัด
หล่อนเป็นผู้หญิงผิวขาว ... ขาวจนเกือบเรียกได้ว่าเป็นผิวสีซีด ลำแขนเรียวเล็กโผล่พ้นแขนเสื้อเชิ้ตสั้นกลมกลึงเช่นเดียวกับเอวที่คอดกิ่วบาง และใบหน้า....
ใบหน้านั้นต่างหากเล่าที่สะกิดอยู่ด้านในใจของผู้ที่กำลังจ้องมองอย่างเผลอตน...มิใช่เพราะสวยหยาดฟ้ามาดินเหมือนนางอัปสราบนสวรรค์ หากใบหน้านั้นกลับเหมือนมีบางสิ่งบางอย่างที่ซ่านลึกเข้าไปในหัวใจ และลึกยิ่งลงไปถึง...
....ความทรงจำ....
แปลกนักที่ตุลาบอกตัวเองได้ว่าไม่เคยเจอสตรีผู้นี้มาก่อน หากอะไรหนอที่กลับทำให้เขารู้สึกว่าไม่ใช่...หล่อนไม่ใช่คนไม่คุ้นเคย
ขอโทษ...
เสียงนั้นปลุกช่างภาพหนุ่มขึ้นจากภวังค์ และตีสีหน้าเก้อ
เอ้อ...
ขอโทษนะคะ หล่อนผู้นั้นยังพูดต่อ ด้วยน้ำเสียงอันอ่อนทุ้ม นุ่มนวล ฉันไม่ได้ตั้งใจจะเดินผ่านตอนที่คุณถ่ายรูป
ครับ ครับ น่าขันนัก เหตุใดเขาตอบได้เพียงเท่านี้
ฟิล์มเสียหรือเปล่าคะ?
เปล่า
งั้นขอโทษด้วยนะคะ ที่ทำให้คุณเสียสมาธิไป
ดวงตากลมสีดำขลับหลุบลงอย่างลุแก่โทษ เรียวปากบางแย้มเพียงนิดก่อนที่เจ้าตัวจะค่อยๆ ถอยห่างออกไป ทิ้งให้ตุลายังคงยืนอยู่ที่เดิมด้วยมืออันชื้นเหงื่อกำกล้องแน่น
แม้จนเมื่อเข้ามาอยู่ภายในห้องพักของตัวเองเรียบร้อยแล้ว ภาพใบหน้าเรียวรูปไข่ล้อมไปด้วยกรอบเส้นผมหยักศกน้อยๆ สีดำสนิทเหมือนขนนกกาน้ำก็ยังคงเด่นกระจ่างอยู่ในความคิด
พิศวาสหรือ?.... รักแรกพบ?...
มิใช่
ตอบตัวเองได้ในทันใด ไม่ใช่ ความต้องตาต้องใจเมื่อเห็นหน้า หรือความรักตั้งแต่แรกเห็น ...หาก ...อะไรบางอย่างที่ติดค้างอยู่ในหัวใจต่างหากคือปัญหาที่ขบคิดไม่ออกสำหรับตัวเขา
หล่อนเป็นใคร...เพียงผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งที่เดินผ่านไปเท่านั้นเอง...
ดวงอาทิตย์ดวงใหญ่ลอยเด่นอยู่ใกล้ริมขอบฟ้า แสงสีส้มเข้มสาดส่องเป็นลำอาบไปบนก้อนเมฆ และสะท้อนเป็นประกายวิบวับในน้ำทะเล เป็นเวลาเดียวกับที่ตุลาเซ็ตขาตั้งกล้องเสร็จเรียบร้อย และลงมือกดชัตเตอร์เก็บภาพที่สวยงามไปด้วยสีของแสงและเงาเก็บไปบนแผ่นฟิล์ม
คอลเล็คชั่นต่อไปอาจจะต้องเป็นภาพพระอาทิตย์ตกจากรอบทิศอันดามัน หลังจากที่เขาเคยได้เก็บรูปภาพพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพไว้เมื่อหลายปีก่อน และเริ่มสะสมรูปจากชายหาดอื่นเรื่อยมาจนกระทั่งถึงชายหาดแห่งล่าสุด
ใครอาจบอกว่าพระอาทิตย์ก็เป็นดวงเดิม เวลาตกก็ตกใส่ทะเลผืนเดียวกัน ตุลาก็ไม่เถียง หากคลี่ยิ้มยามเอาภาพถ่ายที่ล้างเสร็จเรียบร้อยแล้วออกมาวางเรียงกันในอัลบั้ม
ใช่ พระอาทิตย์ดวงเดิม...และดวงเดิมดวงเดียวนั้นก็ยังสดสวยไม่เสื่อมคลาย
เสร็จจากเก็บภาพชายหาดและท้องทะเลที่กว้างใหญ่แล้ว ช่างภาพหนุ่มก็เดินลากขาไปเรื่อยบนผืนทราย สะพายกล้องและขาตั้งไว้กับไหล่ เอื่อยเรื่อยไป หากใครจะรู้เล่าว่าเพราะความจริงแล้ว ในส่วนลึกของใจกำลังแอบคิดว่า เธอ ผู้นั้นอาจลงมาเดินเล่นรับลมทะเลยามเย็นด้วยกัน
หากเดินผ่านชาวต่างชาตินับสิบ คนไทยอีกหลายคนแล้ว ก็ยังไม่เห็นเจ้าของร่างนั้นแม้แต่เงา
เธอคงไม่มา....
ร่างสูงหยุดลงที่ร้านขายมะพร้าวน้ำหอมของแม่ค้าชาวพื้นเมือง เลือกซื้อลูกขนาดพอเหมาะมือแล้วเดินต่อมาอีกนิดเพื่อทอดกายลงนั่งบนผืนผ้าใบที่รีสอร์ทจัดไว้เพื่อบริการลูกค้า ลมเย็นแล่นเข้ามาปะทะหน้า ปนกับกระไอเค็มของทะเลให้ความรู้สึกเหนียวเหนอะ หากความเคยชินก็ทำให้เขานอนได้อย่างไม่เดือดร้อน เปิดหนังสือนำเที่ยวที่พกติดมือมาเพื่อศึกษาเส้นทางใหม่ที่จะเลือกเดินทางต่อไป
แสงไฟจากตะเกียงดวงเล็กๆที่อยู่บนยอดต้นสนเตี้ยให้ความสว่างสลัว ตุลาปิดหนังสือ เก็บกลับคืนใส่กระเป๋าแล้วผ่อนลมหายใจคลายความเมื่อยล้า ไขว้สองมือประสานเหนือศีรษะพลางมองกลุ่มดาวที่เริ่มปรากฏขึ้นมาบนท้องฟ้าอย่างสนอกสนใจ
แต่แล้ว.... ใจก็กลับกระหวัดนึกถึงเจ้าของใบหน้าสวย หาก ปนโศก นั้นโดยไม่รู้ตน
แปลกไหมที่รู้สึกกระวนกระวาย แปลกไหมที่รู้สึกค้างคาโดยที่ไม่รู้แม้แต่เหตุผล เพราะแม้แต่จะเคยเจอเมื่อก่อนหน้า ก็ยังไม่เคยแม้สักครั้ง
ทำไมหนอ?
เมื่อยิ่งคิดแล้วใจยิ่งร้อนรุ่ม ชายหนุ่มจึงเลือกที่จะลุกขึ้น ปัดเศษทรายที่ติดอยู่ตามร่างกายให้หลุดออกสองสามครั้งแล้วเริ่มออกเดินเลียบไปตามชายหาด ฟองคลื่นสีขาวม้วนตัวเข้ามากระทบหาดทราย ที่บัดนี้ทุกเม็ดเย็นเฉียบเพราะคลายความร้อนอย่างรวดเร็วกลับไปสู่อากาศ
ช่วยด้วย
ฝีเท้าที่กำลังจะก้าวต่อไปหยุดชะงักลง
ช่วยด้วย
ตุลาเงี่ยหูฟังให้ถนัด เสียงผู้หญิงร้องหาความช่วยเหลือดังมาจากในเงามืดของโขดหิน ไม่ห่างไกลมากนัก และไวเท่าความคิดที่เขาหยิบเศษไม้ใหญ่ที่พอจะหาได้จากบริเวณนั้นขึ้นมาในมือ แล้วรีบวิ่งตามเสียงเข้าไปอย่างรวดเร็ว
เฮ้ย หยุดนะ
ไม้ท่อนใหญ่เหวี่ยงไปบนศีรษะของชายชาวต่างชาติร่างสูงหนาผมสีทอง ฝ่ายนั้นสบถออกมาเป็นภาษาบ้านเกิดเพียงหนึ่งคำ ก่อนจะวิ่งหนีหายไปท่ามกลางความมืด ทิ้งไว้เพียงแต่ร่างของเหยื่อที่พับลงไปกองอยู่แทบเท้า
คุณ เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ มือหนาเอื้อมเข้าไปใกล้หมายจะเข้าไปช่วยเหลือ คุณลุกขึ้นไหวหรือเปล่า?
ไหวค่ะ เจ้าของเสียงนั้นตอบ แล้วเงยหน้าขึ้นยิ้มปากคอสั่น ใบหน้าเรียวซีดเผือดขาว
อ้าว.... คุณ
ดวงตาสีดำขลับคู่สวยก็เบิกกว้างขึ้นทันใดเมื่อเห็นใบหน้าของผู้ที่มาช่วยเหลือตัวเองได้ถนัด
คุณช่างกล้องนี่เอง
ผมเอง เขาตอบ ยื่นมือให้หล่อนจับเพื่อพยุงตัวเองขึ้นมาจากอาการนั่งอยู่กับพื้น นี่เกิดอะไรขึ้นกัน?
โชคดีที่คุณช่วยฉันไว้ เสียงตอบยังคงสั่น ฉันเดินลงมานั่งที่ชายหาด แล้วฝรั่งคนนั้นเดินมาจากไหนก็ไม่รู้ เข้ามาฉุดข้อมือฉัน
คุณเดินไหวไหม?
ไหวค่ะ ยืนยันเช่นนั้นแล้วเดินด้วยขาตัวเองแม้จะซวนเซ ค่อยๆ ก้าวไปบนผืนทรายพลางสูดลมหายใจลึกเพื่อเรียกขวัญและสติกลับคืนมา
วันหลังกลางค่ำกลางคืนอย่างนี้ คุณอย่าลงมาเดินตามลำพังเลย มันอันตราย
ค่ะ
ทำไมคุณไม่ลงมาพร้อมกับเพื่อนล่ะ?
ฉันมาคนเดียวค่ะ
ตุลาขมวดคิ้ว เอียงหน้า
ผู้หญิงอย่างคุณไม่ควรเดินทางคนเดียว
ผู้หญิง ที่เขาว่า เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า หัวเราะในลำคอเป็นเสียงเจือความสดใส
ฉันชอบเดินทางคนเดียว ชอบไปไหนมาไหนคนเดียว
ผมก็ชอบ ร่างสูงก้าวเดินขึ้นไปตามบันไดอิฐที่ลาดเป็นทางเข้าสู่ตัวรีสอร์ท แต่ผมเป็นผู้ชาย ไม่เหมือนคุณ
ฉันกำลังเดินเตะฝุ่นอยู่ด้วยกระมังคะ เพิ่งเรียบจบ ถ้าได้มีงานทำก็คงจะไม่มีเวลาว่างให้เดินทางเล่นคนเดียวแบบนี้อีก
คุณชื่ออะไร?
อ๋อ เจ้าหล่อนคลี่เรียวปากยิ้ม ฉันชื่อเกนหลงค่ะ...เกนหลง
ชื่อไม่ค่อยคุ้นเลย
แม่ฉันตั้งตามชื่อเพื่อนของพระเอกในนวนิยายที่แม่ของดิฉันชอบ คุณเคยอ่านไหม เรื่อง อย่าลืมฉัน ของคุณทมยันตี
ตุลาส่ายหน้า
ถ้าเป็นนิยายผู้หญิงผมคงต้องขอบาย แต่ผมเคยอ่านเพชรพระอุมาของพนมเทียน
สนุกมาก เสียงเสริมดังพร้อมกันตามด้วยเสียงหัวเราะคิกของหญิงสาวเจ้าของนามเกนหลง ถ้ามีผู้ชายอย่างรพินทร์ ไพรวัลย์ อยู่ในโลกนี้จริงก็คงดี
ไม่มีผู้ชายคนไหนสมบูรณ์แบบเหมือนในนิยายหรอกครับ
นั่นสิคะ
การสนทนานั้นสิ้นสุดลงเมื่อทั้งคู่ต่างเดินมาถึงห้องล็อบบี้ของรีสอร์ท เกนหลงหยุดเดินและหันกลับมายังชายหนุ่มที่เพิ่งเป็นหนี้บุญคุณไปหมาด พลางค้อมศีรษะ
ขอบคุณมากนะคะ ที่ช่วยฉันไว้
ไม่เป็นไรหรอกครับ
ตุลาตอบ และโบกมือร่ำลา ก่อนที่อนุสติหนึ่งของตัวเองจะบอกให้รีบวิ่งตามร่างที่กำลังจะเดินไปกดลิฟท์ เพื่อจะถาม
ผมขอถ่ายรูปคุณได้ไหม?
เจ้าของใบหน้าสะสวยหันกลับมา เลิกคิ้ว ครุ่นคิดเพียงชั่วอึดใจก่อนจะถาม
เมื่อไหร่คะ?
เมื่อไหร่ก็ได้ครับ ที่คุณว่าง
ได้สิคะ เป็นพรุ่งนี้ตอนเช้าได้ไหม เพราะว่าฉันจะเช็คเอาท์กลับกรุงเทพพรุ่งนี้แล้ว
ที่คอฟฟี่ชอปนะครับ
รอยยิ้มละไมปรากฏขึ้นบนใบหน้าแทนคำตอบตกลง ก่อนที่ลิฟต์จะลงมาถึงและประตูอัตโนมัติเปิดออกให้หญิงสาวเดินเข้าไปด้านใน
พรุ่งนี้เจอกันค่ะ
(มีต่อ)
จากคุณ :
พิณณ์อวี
- [
5 มี.ค. 49 14:01:18
]