CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ความในใจของชาว Blue Sky (ถึงคนทั่วไป) 4 : เรื่องเล่าของคุณ Maxx

    ก็ คงไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะว่ามองตาก็รู้ใจ จริงมั้ยครับ..
    สำหรับกระทู้บทใหม่นี้ จะเป็นเรื่องราวของคุณ Maxx ผู้ซึ่งผมประทับใจในการเขียน ความคิด การกระทำ และความดีของเขา ซึ่งส่งผลให้บทจบของเรื่องนี้เป็นไปได้ด้วยดีในที่สุด

    ขอเชิญติดตามเรื่องราวอันน่าประทับใจนี้(อีกครั้ง)ครับ


    ------------------------------


    Maxx // On the way of love

    ก่อนอิ่นต้องขออกตัวก่อนว่าผมอาจจะเล่าเรื่องไม่ค่อยเก่งนักนะครับ แถมยังไม่ค่อยจะจดจำรายละเอียดอะไรได้มากนัก คงไว้แต่เนื้อหาหลักแทรกด้วยช่วงประทับใจในชีวิตของผมบ้างบางช่วง ยังไงก็ฝากเรื่องนี้ให้เพื่อนๆอ่านด้วยนะครับ

    ตอนที่หนึ่ง When love begins

    เปิดเทอม ม 5 วันแรก อะไรๆก็ดูแปลกตาไปหมดสำหรับผม ย้ายมาเรียนตึกใหม่ เพื่อนในห้องก็ใหม่เกือบหมด มีเพื่อนตอน ม 4 ติดมาด้วยไม่กี่คนเอง ที่โรงเรียนผมจะจัดห้องตามคะแนนที่สอบได้ในแต่ละปี ปีที่ผ่านมาผมทำคะแนนได้ดีพอสมควรเลยได้อยู่ห้องที่พอใช้ได้ เพื่อนๆห้องใหม่นี่ดูโอเคแฮะแต่ละคนดูเด็กเรียนกันทั้งนั้นจะสู้เค้าได้มั้ยเนี่ย ผมนึกในใจ ยังไม่เข้าเรียนเลย มาซะเช้าเลยตรู
    ผมออกมายืนรับลมเย็นๆที่หน้าระเบียงห้อง ทอดสายตาออกไปที่สนามบอลกว้างหน้าตึก มีเด็กนักเรียนเตะบอลกันอยู่เป็นกลุ่ม กำลังดูเพลินๆ มีเสียงดังมาจากข้างหลังผม ทำเอาสะดุ้ง
    “เฮ้ยไอ้แบงค์ ไปเตะบอลกะกรูหน่อยดิวะ ขาดคนอยู่พอดี” ไอ้ จิวเพื่อนห้องเก่าผมที่มาอยู่ห้องเดียวกันอีกชวนลงไปเตะบอลที่สนามข้างตึก ลงไปมีคนเล่นอยู่หลายคน ผมไม่ค่อยจะชอบเตะบอลเท่าไหร่ ตัวเท่าลูกหมาจะไปแย่งอะไรกะเค้าทัน อีกฝ่ายเป็นเพื่อนห้องข้างๆมาร่วมเตะบอลด้วย มีไอ้หน้าขาวตัวเล็กๆอยู่คนนึง มันเตะบอลเก่งดีแฮะ เลี้ยงลูกอย่างคล่องเลย ทั้งๆที่ตัวพอๆกะผมแต่เหมือนฝีมือจะคนละชั้นเลย
    หลังเตะบอลเสร็จอากาศเดือนมิถุนาร้อนระอุ ..ผมมานั่งให้เหงื่อแห้งตรงระเบียงหน้าห้องก่อนเข้าแถว ไอ้หน้าขาวตัวเล็กนั่งเล่นอยู่ก่อนแล้ว ห้องมันติดๆกะห้องผม “เฮ้ยไง นายมาจากห้องไหนอ่ะไม่เคยเห็นหน้าเลย” ไอ้หน้าขาวทักผม
    “44 แล้วนายอ่ะ”
    “เออว่ะคงเห็นกันอยู่หรอก เรามาจากห้อง 12 น่ะ ชั้นล่างเลย เรา กอล์ฟนะ นายชื่อไรล่ะ”
    “เราชื่อแบงค์ ห้องนายนี่ดูน่าสนุกดีนะ ผมมองเข้าไปในห้องเรียนของนายกอล์ฟ ดูนักเรียนในห้องนั้นจะสนิทสนมกว่าเพื่อนๆใหม่ในห้องผม ”
    “อ๋อ...ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนๆเก่าห้องเดิมน่ะ มันสอบได้คะแนนใกล้ๆกันเลยยกโขยงมาเยอะ” นายกอล์ฟตอบพร้อมกับยิ้ม
    เสียงออดเรียกเคารพธงชาติดังลั่นตึกเป็นสัญญานสิ้นสุดการสนทนา
    “เฮ้ยต้องไปเข้าแถวก่อน แล้วเจอกันใหม่นะ”กอล์ฟตะโกนแข่งกะเสียงออด พร้อมกับเดินไปหน้าห้องตัวเองรวมกับกลุ่มเพื่อนๆทีห้อง
    ชีวิตการเรียนใน ม 5 ก็เริ่มบรรยากาศการเรียนในห้องผมค่อนข้างจะเคร่งเครียด ผิดกับห้องข้างๆที่มีเสียงเฮฮาดังมาเป็นระยะๆ ทั้งๆที่ระดับของเกรดของสองห้องนี้ก็พอๆกัน คงเป็นเพราะว่าเพื่อนๆห้องนั้นเคยเรียนด้วยกันมาก่อนมั้ง ผิดกะห้องผมที่ค่อนข้างจะกระจัดกระจายมาจากหลายห้อง เลยไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่ เลยทำให้ผมไปสนิทกะห้องข้างๆแทนโดยเฉพาะกะไอ้กอล์ฟและเพื่อนๆในกลุ่มมัน
    กับการเรียนเริ่มจะหนักขึ้นเรื่อยๆ อีกปีกว่าๆผมต้องสอบเข้ามหาลัยแล้ว นอกจากเรียนที่โรงเรียนแล้วยังต้องเดินไปเรียนพิเศษอีก ระหว่างรอเรียน ถ้าไม่อ่านหนังสือ ก็จะไปเตะบอลกับเพื่อนๆหรือเดินเที่ยวไปตามประสาเด็กวัยรุ่น
    เฮ้ย แบงค์ ไปสมัครเรียนพิเศษกะเราหน่อยดิ กอล์ฟชวนผมไปลงเรียน ภาษาอังกฤษกะมัน กอล์ฟเป็นคนเก่งภาษาพอตัว มันชอบฟังเพลงฝรั่ง และศึกษาภาษาจากในเพลงอย่างจริงจัง ผิดกะผมที่ชอบทางพวกชีวะมากกว่า พวกจับตัวอะไรแปลกๆมาส่องดูละชอบนัก ถึงแม้เราสองคนจะชอบอะไรกันคนละอย่างแต่ก็เข้ากันได้ ผมกะกอล์ฟผลัดกันติววิชาที่ ต่างคนต่างไม่เก่ง ไปเตะบอลด้วยกัน เรียนพิเศษด้วยกัน เริ่มจะสนิทกันมากขึ้น ตัวเล็กๆพอๆกัน จนบางทีเพื่อนๆก็ล้อเฮ้ยไอ้คู่แฝดมาแล้ว ผมก็ยังไม่ได้คิดอะไรมากได้แต่หัวเราะไปกับคำเรียกผมกะมัน ชีวิตดำเนินต่อไปเรื่อยๆ
    วันประกาศผลสอบพร้อมกับห้องใหม่ที่ผมต้องไปอยู่ตอน ม 6 ผมเดินไปดูที่กระดานหน้าห้องประชุม คนยังไม่เยอะนักเพราะยังเช้าอยู่ ผมไล่สายตาไปตามรายชื่อ ห้องที่ผมต้องไปอยู่ใหม่ เหลือคนอยู่ไม่ถึงยี่สิบคนดี ที่เหลือสอบเทียบแล้วเอ็นเข้ามหาลัยไปก่อนแล้วตามแฟชั่น ส่วนผม มัวแต่ทำอะไรอยู่ไม่รู้เลยสอบเทียบไม่ทันอยู่ ม 6 ต่อก็ได้ฟะจะได้ใช้ชีวิตนักเรียนให้คุ้มหน่อย ไอ้กอล์ฟเดินมา เฮ้ยไอ้แบงค์ มรึงได้ห้องไหนวะมันถาม ผมอ่านชื่อต่อ มีรายชื่อมันอยู่ในสิบกว่าคนในห้องผมด้วยนี่หว่า
    มรึงอยู่ห้องเดียวกะกรูหว่ะไอ้กอล์ฟ ผมบอกไปตายังมองบอร์ดอยู่ ไม่ได้หันไปมองหน้ามัน รู้สึกดีใจอยู่ลึกๆ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

    เออดีหว่ะ กรูจะได้มีเพื่อน คนยิ่งน้อยๆอยู่ด้วย ไปเว้ยไอ้แบงค์ไปกินข้าวกันกรูหิวแล้ว มันลากผมไปโรงอาหาร วันนี้ดูเป็นวันที่สดใสของผมจริงๆ

    หลังจากนั้นไม่กี่วันก็เปิดเทอม ปีสุดท้ายของชีวิตนักเรียนแล้วซินะ ผมคิดอนาคตข้างหน้าจะเป็นไงยังไม่รู้เลย
    ห้องใหม่ของผม มีโต๊ะเก้าอี้อยู่น้อยตัวเพราะมีกันสิบกว่าคน อาจารย์ให้เลือกที่นั่งกันได้ตามสบาย ผมกะไอ้กอล์ฟเลือกที่นั่งหลังห้องริมหน้าต่างคู่กัน
    บรรยากาศการเรียนในปีสุดท้าย มันผสมกันไประหว่างความเคร่งเครียดของเด็กที่กำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย กับความสนุกสนานเฮฮาของการทำกิจกรรม ห้องที่ผมอยู่ไม่ค่อยจะได้เรียนกันซักเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าไม่ตั้งใจเรียนกันนะครับ แต่เป็นเพราะห้องผมค่อนข้างจะเรียนดี อาจารย์เลยสอนได้เร็ว หมดเนื้อหาก่อนเวลาที่กำหนด เลยมีชั่วโมงเหลือให้ไปทำกิจกรรมต่างๆกันได้อย่างเต็มที่
    ความสนิทสนมในการเรียนและการทำกิจกรรมต่างๆกับเพื่อนๆ ทำให้ช่วงเวลานั้นเป็นอีกช่วงหนึ่งในชีวิตผมที่มีความสุขมากจริงๆ

    เฮ้ยไอ้กอล์ฟมรึงเป็นไรวะ หน้ามุ่ยมาแต่เช้าเลย ผมทัก เมื่อเห็นมันเดินหน้าตูดมาวางกระเป๋าที่โต๊ะ
    มันถอนใจก่อนจะระบายออกมา
    กรูอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องเลยหว่ะอยู่ที่บ้านพี่กรูแมร่งเปิดเพลงดังชิบ เมื่อคืนเลยทะเลาะกะมันเลยแมร่งโคดเซ็ง
    เออ..งั้นมามาอ่านหนังสื้อบ้านกรูก็ได้ กรูจะได้มีเพื่อนอ่านด้วย ผมชวน
    เอ่อ..ดีเหมือนกันหว่ะ งั้นศุกร์นี้กรูไปค้างบ้านมรึงเลยนะ มันยิ้มดูหน้าค่อยหายเซ็งหน่อย
    ได้เลยเพื่อน ผมตอบรับพร้อมกับกอดคอมัน ไปหายเซ้งแล้วไปกินข้าวกันเถอะ.....

    ตั้งแต่นั้นไอ้กอล์ฟก็มาอ่านหนังสือ ที่บ้านผมในวันหยุด กลางวันก็ไปเรียนพิเศษด้วยกัน ไปหาที่อ่านหนึงสือ ตามที่ต่างๆบ้าง
    จนตัวแทบจะติดกัน เวลานอนมันก็มานอนห้องผม เป็นห้องเล็กๆ ต้องนอนเตียงเดียวแคบๆ แต่ในตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดอะไร แค่รู้สึกดีที่มีมันมาอยู่เป็นเพื่อนเวลาที่ผมเหงา แต่ความรู้สึกแบบนั้นมันก่อตัวขึ้นเมื่อไหร่ ผมหรือมันก็ไม่อาจจะรู้ได้
    จนวันนึง ไอ้กอล์ฟมาที่บ้านผม เฮ้ยมรึงเป็นไรไปอีกวะ หน้าตาไม่ดีเลย ผมทักมัน
    มันเดินขึ้นห้องผม ไม่พูดไม่จา ผมตามขึ้นไป มันนั่งอยู่บนเตียง หน้าตาเบื่อโลกเต็มที่
    ทะเลาะกะพี่มรึงมาอีกเหรอวะ ผมถาม
    เออดิ .แมร่งมาหาเรื่องกรูอีกแล้ว..หาว่ากรูไม่ช่วยมันทำงานบ้าน......ไอ้กอล์ฟระบายความในใจออกมาอีกยาว
    ก่อนจะทำตาแดงๆ (เกิดมาผมก็เคยเจอผู้ชายมาร้องให้ตรงหน้าก็วันนี้หละ) ผมเข้าไปจับไหล่มันด้วยมือสองข้าง
    เฮ้ย..มรึงใจเย็นๆ ไม่สบายใจก็มาอยู่บ้านกรูได้นะ ที่นี่ต้อนรับมรึงเสมอ
    มันยิ่งร้องให้ใหญ่ ผมไม่รู้ดึงตัวมันเข้าไปกอดตั้งแต่เมื่อไหร่
    รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ผมจับมันนอนลงให้พักผ่อน เราสองคนหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
    ลืมตาตื่นมาตอนเย็น....ผมยังนอนกอดมันอยู่เลย..ไอ้กอล์ฟตื่นแล้ว ผมมองหน้ามันที่แทบจะติดกับหน้าผม มองเข้าไปในดวงตาคู่นั้น
    มันเหมือนมีแรงดึงดูดที่มองไม่เห็น ให้ริมฝีปากของเราเข้ามาสัมผัสกัน

    ช่วงเวลานั้นผมอยากให้มันยาวนานไปชั่วนิรันดร์ เมื่อใบหน้าของเราสองคนแยกออกจากกัน ผมนิ่งอึ้ง รู้สึกผิดกับสิ่งที่ผ่านไปเมื่อครู่ มองเข้าไปในแววตาของคนที่อยู่ตรงหน้า พยายามค้นหาความรู้สึกในดวงตาคู่นั้น

    เอ่อ....ไอ้กอล์ฟกรูขอโทษนะ ...กรู..เอ่อ .. มันมองหน้าผมนิ่ง
    ไม่เป็นไรหรอก มรึงไม่ได้ทำคนเดียวนิหว่า
    ผมพูดไม่ออก ได้แต่มองหน้ามัน..(นึกในใจ งั้นกรูขอจูบมรึงอีกครั้งละกัน....)
    หลังจากรอบสองผ่านไป.....เราถึงได้มาพูดถึงความในใจกัน
    เอ่อ..ไอ้กอล์ฟ มรึงคิดไงกะกรูวะ..ผมถามมัน
    มันมองหน้าผม...ไม่รู้ดิ ตอนแรกๆกรูก็เฉยๆหว่ะ แต่พออยู่ๆไป..ไม่รู้ทำไม..กรูถึงรู้สึกกับมรึงมากกว่าเพื่อนคนอื่นๆ มันบอกไม่ถูกหว่ะ

    ผมหน้าแดง...เอ่อ..กรูก็รู้สึกดีกะมรึงหว่ะ..
    กรูก็เหมือนกัน...ไอ้กอล์ฟตอบ มองตาผมเหมือนอยากจะค้นหาอะไรในนั้น..
    ตั้งแต่วันนั้นผมก็กอล์ฟก็ยิ่งสนิทกันมากขึ้น จนบางทีโดนเพื่อนๆล้อว่าเราเป็นแฟนกัน แต่ผมก็เฉยๆ เพราะภายนอกแล้วผมกะไอ้กอล์ฟก็ไม่ได้ต่างอะไรจากเด็กผู้ชายทั่วๆไป มีซ่าส์ มีลุยบ้างเป็นบางเวลา ทำให้เราเข้ากับเพื่อนๆคนอื่นได้อย่างไม่มีปัญหา

    จากคุณ : Spirit of Blue Sky - [ 9 มี.ค. 49 16:37:39 A:10.177.112.99 X:202.12.97.119 TicketID:116351 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป