ติดตามตอนที่ 1 ที่นี่นะคะ และขอโทษสำหรับการทำให้เกิดสมาคม " รอ " แบบไม่ตั้งใจค่ะ (จริงๆค่ะ)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4180318/W4180318.html
ตอนที่ 2 (ตอนจบจ้า)
จะปราบทั้งหมด หรือจะปราบเฉพาะใครบางคนกันแน่จ๊ะ
ขอคิดดูอีกทีแล้วกันว่าจะเลือกวิธีไหน ตอนนี้ต้องกลับแล้วเดี๋ยวกลับเข้ากรมไม่ทัน ผมลานะครับทุกคน สิ้นคำอำลาเรืออากาศโทธานิตย์ทำมือทำไม้ในท่าวันทยหัตถ์อำลา ก่อนเดินขึ้นไปบนรถคันที่มารับและเคลื่อนจากไปในที่สุด
ไงย่ะ...แอบมานอนหลบร้อนตรงนี้เอง ไม่ยอมลงไปส่งเพื่อนฝูงเลยนะ อุไรระพีเอ่ยถามหลังจากเดินตามหาจนทั่วบ้านด้วยความเป็นห่วงเพื่อน เกรงว่าจะเป็นอะไรมาก เธอเคยเห็นระดารัตน์ปวดท้องจากการที่โรคกระเพาะกำเริบอยู่บ่อยๆ ปวดแต่ครั้งทรมานเป็นชั่วโมงๆ บางครั้งรับประทานยาไม่หายต้องพึ่งยาฉีดลดกรดในกระเพาะจากหมอในคลีนิคก็มีออกบ่อย ครั้งนี้ก็เช่นกันถ้าเป็นอะไรมากเธอจะได้นำส่งโรงพยาบาลแถวนี้ได้ทันเวลา
พวกเธอก็ยังอยู่ครบทุกคน ไม่มีใครกลับก่อนจะให้ฉันไปส่งใคร ใคร ที่ระดารัตน์พูดถึงนั้นเธอรู้อยู่เต็มอก แต่ยังแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไปยังงั้น จะให้มารับรู้มาอาลัยอาวรณ์กันไปทำไมให้มากความ เขาไม่ได้อยู่ในความสนใจของเธอมากมายขนาดนั้นสักหน่อย กรองแก้ว ต่างหากที่เขาสนใจ ถ้าไม่ใช่กรองแก้วเรียกมีหรือเขาจะยอมกลับเข้ามา......เพราะกรองแก้วต่างหาก....
ก็ส่งธานิตย์ไง นี่เขายังฝากฉันให้มาบอกลาเธอเลยนะ เขาพูดแปลกๆด้วยล่ะ เอ๊...รึจะรู้สึกไปเองคนเดียวก็ไม่รู้นะว่า เขาพูดทำนองว่าจะได้เจอกันอีกในเวลาไม่ช้าไม่นาน
แปลกยังไง
ก็เขาบอกว่า......ไว้จะมาปราบสาวๆ พยาบาลแถวนี้ เขาไม่ได้เฉพาะเจาะจงลงไปหรอกว่าเป็นใคร แต่ถ้าเป็นฉันนะ ฉันยอมให้เขาปราบอย่างเต็มอกและเต็มใจเชียวล่ะ จะว่าไปแล้วยังนึกโกรธยายนกกระเต็นชะมัด ตอนทำพิธีบายศรีสู่ขวัญนะไม่ยอมให้ดอกไม้บายศรีกับฉันเลยสักอัน เธอก็ได้ไม่ใช่หรือระดา เก็บไว้ให้ดี ๆ นะบางทีอาจจะโชคดี ไม่แน่นะงานแต่งงานครั้งต่อไปอาจะเป็นเธอก็ได้นะระดาใครจะไปรู้ ระดารัตน์ยิ้มน้อยๆ แต่ที่จริงแล้วมันแทบจะยิ้มไม่ออกเอาซะเลย แฟนก็ยังไม่มีและยังหาไม่ได้สักคนแล้วจะได้แต่งงานเป็นรายต่อไปอย่างที่อุไรระพีพูดได้เหรอ น่าขำนะสิไม่ว่า
ขอให้เป็นจริงอย่างที่เธอพูดเถอะนะอุไร
แล้วนี่อาการปวดท้องเป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นมั้ยต้องให้ฉันพาไปหาหมอหรือเปล่า
ไม่ต้องหรอก ฉันแค่ฉันไดอะเรียนะ ไม่ใช่พียูหรอก ระดารัตน์หมายถึง ท้องร่วง, ท้องเสีย, หรืออาการถ่ายเหลวมากกว่า 3 ครั้งขึ้นไปไม่ใช่โรคกระเพาะหรือพียู(เป็บติกอัลเชอร์)
ตอนนี้ยังถ่ายอยู่เหรอ หายหรือยังล่ะ
กำลังดูๆอาการอยู่ ตอนนี้ท้องไส้เริ่มปั่นป่วนอยู่เนี่ย เดี๋ยวสักพักคงได้เรื่องล่ะ
ถ้าไม่ไหวยังไงก็บอกนะ ฉันจะได้พาเธอไปหาหมอ เกิดป่วยเป็นอะไรไปแย่เลยนะ ตอนเย็นยายนกกระเต็นคงเสียใจถ้าเธอไม่ไปร่วมงานนะ ธานิตย์ก็ไม่อยู่คนนึงแล้วถ้าขาดเธออีกคนคืนนี้เจ้าสาวหน้างอแน่ๆ พูดถึงธานิตย์.... ธานิตย์เขาดูเท่ห์มากๆเลย จริงๆแล้ว ฉันก็ไม่เคยสนใจพวกนายร้อยนายพันอะไรพวกนี้หรอกนะ ตั้งแต่ได้รู้จักและเจอกับตัวคราวนี้ฉันเชื่อแล้วว่า.....ทำไมผู้หญิงร้อยทั้งร้อยถึงได้ชอบหนุ่มในเครื่องแบบกันนัก ก็ออกจะเป็นสุภาพบุรุษซะขนาดนั้น บางทียังนึกอายที่เราเป็นผู้หญิงแท้ๆยังเป็นสุภาพสตรีได้ไม่เท่าเขาเป็นสุภาพบุรุษเลย อย่างนี้ต้องเรียกว่าโรงเรียนนายร้อยสอนมาดี ทหารสี่เหล่าทัพนี่ฉันว่าทหารอากาศดูดี ดูเท่ห์ และสมาร์ทที่สุดเลยเธอว่าเหมือนฉันมั้ยระดา อุไรระพีเปลี่ยนเรื่องคุย ตรงกันข้ามกับระดารัตน์ที่ตอนนี้ไม่อยากจะคุยถึงใครบางคนในเครื่องแบบสีกรมท่า หรืออะไรที่เกี่ยวข้องกับเครื่องแบบเลยสักนิด
ท่าทางของคนป่วยที่ดูเหมือนว่าไม่อยากจะรับรู้เรื่องอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับหนุ่มในเครื่องแบบ สีหน้าเฉยไม่แสดงความคิดความรู้สึก ซ้ำยังหลับตาทำราวกับว่าเหนื่อยและเพลียซะเต็มประดา เห็นเช่นนั้นอุไรระพีเลยไม่อยากจะรบกวนคนป่วย เธอลุกเดินไปข้างล่างปล่อยให้ระดารัตน์นอนหลับพักผ่อนอยู่เพียงลำพัง ที่จริงแล้วระดารัตน์ยังไม่ได้หลับหรอก แต่แกล้งที่หลับตาเพียงเพราะไม่อยากที่จะรับฟังเรื่องราวต่างๆ ที่ข้องเกี่ยวกับเครื่องแบบสีกรมท่านั้นอีก แต่จะให้หลับตาลงเพื่อนอนหลับจริงๆนั้นคงยังทำไม่ได้จริง ๆ เพราะใจของเธอมันสับสนวุ่นวายเกินกว่าจะข่มตาหลับได้อย่างสงบ
ดวงตาเธอจ้องมองท้องฟ้าสีครามอย่างไม่ตั้งใจ แต่กว่าจะรู้ตัวว่าเธอเผลอจ้องมองท้องฟ้านานเอาก็ตอนที่รู้สึกขัดยอกที่ต้นคอเล็กน้อย สีฟ้าใสของท้องฟ้าทำให้ใจของเธอรู้สึกเย็นและสงบนิ่งได้อย่างไม่น่าเชื่อ ดูอบอุ่น เย็นใจ สบายตา รวมๆแล้วแทบจะบอกความรู้สึกตัวเองไม่ถูกเลยว่า รู้สึกอะไรบ้างจากการมองท้องฟ้า ถ้าระดารัตน์อยู่ฟากนี้ของขอบฟ้า เขาคนนั้นคงอยู่ฟ้าฟากกระโน้นสินะ ตรงปลายขอบฟ้า...คือ...ที่ที่นายคนนั้นอยู่ นายคนปลายฟ้า อยู่ไกลกันลิบลับเลยนะ แต่มันจะมีประโยชน์อะไรที่ต้องมาคิดถึงอยู่อย่างนี้ ระดารัตน์ไม่ได้ชอบเขาซะหน่อย ก็แค่...รัศมีของดาวมันบังเอิญสะท้อนแสงมากระทบเข้าตาเธอแค่นั้นเอง ทำไมต้องรู้สึกอะไรมากมาย แสงมันสะท้อนมาแล้วมันก็จางหายไป ท่าจะบ้าใหญ่แล้วระดารัตน์เอ๊ย เธอเตือนสติตัวเองพร้อมกับสะบัดหัวไปมาเพื่อที่จะขับไล่ความคิดต่าง ๆที่สั่งสุมเข้ามาให้จางหายไปเสียที
คุยอะไรกันอยู่ ระดารัตน์ทรุดตัวลงนั่งบนเสื่อที่ปูเอาไว้แล้วซึ่งบัดนี้เพื่อนของเธอบางคนใช้เป็นที่เติมแต่งความสวยกันอยู่คงเตรียมที่จะไปงานเลี้ยงในตอนเย็นของวันนี้
หายแล้วหรือระดา รุ่งรุจิราเอ่ยถามหลังจากที่แต่งหน้าตัวเองเสร็จ
หายแล้วจ๊ะขอบใจที่เป็นห่วง
รุ้งก็ชอบห่วงชาวบ้านอย่างนี้ล่ะ ก็มันไม่มีใครมาคอยห่วงรุ้งเหมือนเจ้าสาววันนี้นี่นา ไม่เหมือนเพื่อนเราบางคนหรอก ไม่ห่วงเพื่อนแล้วยังทำท่าจะตามเขากลับกรุงเทพด้วยนะ ใครก็ไม่รู้ทำตาระห้อยเชียว นี่ถ้าเขาชวนคงทิ้งงานทางนี้ตามไปส่งเขาถึงกรุงเทพฯล่ะ
ไม่ต้องมาแซวกันเลย ฉันบอกเหรอว่าอยากตามไปส่ง ฉันบอกเหรอว่าถ้าเขาชวนฉันจะไป
โดยเฉพาะกับเรืออากาศโทธานิตย์หรือเปล่าจะกรองแก้ว อุไรระพีกระเซ้าให้อย่างรู้ทัน กรองแก้วเผลอค้อนให้เธอวงใหญ่ในความรู้เท่าทันของเพื่อน
อุไรเธอเนี่ยนะ บทเธอจะไม่พูดฉันก็ว่าเธอเรียบร้อยดี แต่บทเธอจะพูดออกมางี้เล่นเอาฉันอึ้งไปเลยนะแม่อุไรระพีจ๋า
ก็...นี่ล่ะอุไรล่ะ พูดยิ้ม ๆ ก่อนจะหันไปเติมแต่งความสวยบนใบหน้าของตัวเองต่อ บางทีคืนนี้สาว ๆ อย่างพวกเธออาจจะได้พบเนื้อคู่ของตัวเองแบบปัจจุบันทันด่วนกลางงานแต่งงานนี้ก็ได้ใครจะไปรู้
ระดารัตน์มองท่าทีแปลกๆของกรองแก้วแล้วรู้สึกขัดใจยังไงไม่รู้ แต่ไหนแต่ไรไม่เคยเห็นกรองแก้วเป็นแบบนี้สักที ถึงเธอจะมีหนุ่มแวะเวียนมาทักทายและทำความรู้จักอยู่เรื่อยๆ แต่ก็ไม่เคยเห็นหนุ่มที่ไหนมีอิทธิพลต่อกรองแก้วมากมายขนาดนี้ อะไรกันรู้จักกันแค่วันสองวัน เขาทำเอากรองแก้วเพื่อนของเธอรู้สึกดีกับเขาได้มากขนาดนี้เชียวเหรอ กรองแก้วชอบเรืออากาศโทธานิตย์จริงๆนะเหรอ เขาจะหว่านเสน่ห์กับเพื่อนเธอมากเกินไปแล้วนะ นี่ละผู้ชายเจ้าชู้ ไปที่ไหนทำให้คนรักคนหลงที่นั่น......
กว่าที่จะกลับจากงานเลี้ยงฉลองสมรสก็ล่วงเลยเข้าห้าทุ่มเศษ เพื่อนแต่ละคนต่างก็หมดเรี่ยวแรงไปตาม ๆ กัน คงหมดตอนที่ออกไปสวิงกันกลางฟลอร์ตอนนั้นแน่ ๆ บางคนก็เหนื่อยจนสาบถสาบานออกมาว่า จะไม่มีวันแต่งงานแน่ๆเพราะรู้สึกถึงความเหน็ดเหนื่อยในการต้อนรับแขกเหรื่อของเจ้าสาว-เจ้าบ่าว
(มีต่อ)
แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 49 10:07:58
จากคุณ :
พยาบาลเกเร
- [
16 มี.ค. 49 02:03:01
]