CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ๏ ๏ ๏ ที่เดิม...... หัวใจ....คนปลายฟ้า ๏ ๏ ๏ ตอนที่ 2 จบแน่ๆค่ะ



    ติดตามตอนที่ 1 ที่นี่นะคะ และขอโทษสำหรับการทำให้เกิดสมาคม " รอ "  แบบไม่ตั้งใจค่ะ (จริงๆค่ะ)

    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4180318/W4180318.html



    ตอนที่ 2  (ตอนจบจ้า)


                       “จะปราบทั้งหมด  หรือจะปราบเฉพาะใครบางคนกันแน่จ๊ะ  “  

                        “ขอคิดดูอีกทีแล้วกันว่าจะเลือกวิธีไหน   ตอนนี้ต้องกลับแล้วเดี๋ยวกลับเข้ากรมไม่ทัน   ผมลานะครับทุกคน “  สิ้นคำอำลาเรืออากาศโทธานิตย์ทำมือทำไม้ในท่าวันทยหัตถ์อำลา  ก่อนเดินขึ้นไปบนรถคันที่มารับและเคลื่อนจากไปในที่สุด




                       “ไงย่ะ...แอบมานอนหลบร้อนตรงนี้เอง    ไม่ยอมลงไปส่งเพื่อนฝูงเลยนะ” อุไรระพีเอ่ยถามหลังจากเดินตามหาจนทั่วบ้านด้วยความเป็นห่วงเพื่อน เกรงว่าจะเป็นอะไรมาก  เธอเคยเห็นระดารัตน์ปวดท้องจากการที่โรคกระเพาะกำเริบอยู่บ่อยๆ    ปวดแต่ครั้งทรมานเป็นชั่วโมงๆ    บางครั้งรับประทานยาไม่หายต้องพึ่งยาฉีดลดกรดในกระเพาะจากหมอในคลีนิคก็มีออกบ่อย    ครั้งนี้ก็เช่นกันถ้าเป็นอะไรมากเธอจะได้นำส่งโรงพยาบาลแถวนี้ได้ทันเวลา

                       “พวกเธอก็ยังอยู่ครบทุกคน   ไม่มีใครกลับก่อนจะให้ฉันไปส่งใคร”     “ใคร”   ที่ระดารัตน์พูดถึงนั้นเธอรู้อยู่เต็มอก   แต่ยังแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไปยังงั้น    จะให้มารับรู้มาอาลัยอาวรณ์กันไปทำไมให้มากความ   เขาไม่ได้อยู่ในความสนใจของเธอมากมายขนาดนั้นสักหน่อย   “กรองแก้ว”   ต่างหากที่เขาสนใจ   ถ้าไม่ใช่กรองแก้วเรียกมีหรือเขาจะยอมกลับเข้ามา......เพราะกรองแก้วต่างหาก....

                      “ก็ส่งธานิตย์ไง   นี่เขายังฝากฉันให้มาบอกลาเธอเลยนะ   เขาพูดแปลกๆด้วยล่ะ  เอ๊...รึจะรู้สึกไปเองคนเดียวก็ไม่รู้นะว่า   เขาพูดทำนองว่าจะได้เจอกันอีกในเวลาไม่ช้าไม่นาน ”

                       “แปลกยังไง “

                       “ก็เขาบอกว่า......ไว้จะมาปราบสาวๆ พยาบาลแถวนี้    เขาไม่ได้เฉพาะเจาะจงลงไปหรอกว่าเป็นใคร   แต่ถ้าเป็นฉันนะ  ฉันยอมให้เขาปราบอย่างเต็มอกและเต็มใจเชียวล่ะ   จะว่าไปแล้วยังนึกโกรธยายนกกระเต็นชะมัด   ตอนทำพิธีบายศรีสู่ขวัญนะไม่ยอมให้ดอกไม้บายศรีกับฉันเลยสักอัน   เธอก็ได้ไม่ใช่หรือระดา   เก็บไว้ให้ดี ๆ นะบางทีอาจจะโชคดี   ไม่แน่นะงานแต่งงานครั้งต่อไปอาจะเป็นเธอก็ได้นะระดาใครจะไปรู้”   ระดารัตน์ยิ้มน้อยๆ   แต่ที่จริงแล้วมันแทบจะยิ้มไม่ออกเอาซะเลย   แฟนก็ยังไม่มีและยังหาไม่ได้สักคนแล้วจะได้แต่งงานเป็นรายต่อไปอย่างที่อุไรระพีพูดได้เหรอ   น่าขำนะสิไม่ว่า

                        “ขอให้เป็นจริงอย่างที่เธอพูดเถอะนะอุไร”

                         “แล้วนี่อาการปวดท้องเป็นยังไงบ้าง  ดีขึ้นมั้ยต้องให้ฉันพาไปหาหมอหรือเปล่า “

                           “ไม่ต้องหรอก  ฉันแค่ฉันไดอะเรียนะ  ไม่ใช่พียูหรอก  “  ระดารัตน์หมายถึง  ท้องร่วง,   ท้องเสีย,   หรืออาการถ่ายเหลวมากกว่า 3 ครั้งขึ้นไปไม่ใช่โรคกระเพาะหรือพียู(เป็บติกอัลเชอร์)

                      “ตอนนี้ยังถ่ายอยู่เหรอ   หายหรือยังล่ะ”

                        “กำลังดูๆอาการอยู่  ตอนนี้ท้องไส้เริ่มปั่นป่วนอยู่เนี่ย   เดี๋ยวสักพักคงได้เรื่องล่ะ”

                        “ถ้าไม่ไหวยังไงก็บอกนะ  ฉันจะได้พาเธอไปหาหมอ    เกิดป่วยเป็นอะไรไปแย่เลยนะ   ตอนเย็นยายนกกระเต็นคงเสียใจถ้าเธอไม่ไปร่วมงานนะ    ธานิตย์ก็ไม่อยู่คนนึงแล้วถ้าขาดเธออีกคนคืนนี้เจ้าสาวหน้างอแน่ๆ  พูดถึงธานิตย์....  ธานิตย์เขาดูเท่ห์มากๆเลย   จริงๆแล้ว ฉันก็ไม่เคยสนใจพวกนายร้อยนายพันอะไรพวกนี้หรอกนะ  ตั้งแต่ได้รู้จักและเจอกับตัวคราวนี้ฉันเชื่อแล้วว่า.....ทำไมผู้หญิงร้อยทั้งร้อยถึงได้ชอบหนุ่มในเครื่องแบบกันนัก   ก็ออกจะเป็นสุภาพบุรุษซะขนาดนั้น  บางทียังนึกอายที่เราเป็นผู้หญิงแท้ๆยังเป็นสุภาพสตรีได้ไม่เท่าเขาเป็นสุภาพบุรุษเลย  อย่างนี้ต้องเรียกว่าโรงเรียนนายร้อยสอนมาดี  ทหารสี่เหล่าทัพนี่ฉันว่าทหารอากาศดูดี  ดูเท่ห์  และสมาร์ทที่สุดเลยเธอว่าเหมือนฉันมั้ยระดา ”  อุไรระพีเปลี่ยนเรื่องคุย   ตรงกันข้ามกับระดารัตน์ที่ตอนนี้ไม่อยากจะคุยถึงใครบางคนในเครื่องแบบสีกรมท่า  หรืออะไรที่เกี่ยวข้องกับเครื่องแบบเลยสักนิด

                       ท่าทางของคนป่วยที่ดูเหมือนว่าไม่อยากจะรับรู้เรื่องอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับหนุ่มในเครื่องแบบ   สีหน้าเฉยไม่แสดงความคิดความรู้สึก    ซ้ำยังหลับตาทำราวกับว่าเหนื่อยและเพลียซะเต็มประดา   เห็นเช่นนั้นอุไรระพีเลยไม่อยากจะรบกวนคนป่วย  เธอลุกเดินไปข้างล่างปล่อยให้ระดารัตน์นอนหลับพักผ่อนอยู่เพียงลำพัง   ที่จริงแล้วระดารัตน์ยังไม่ได้หลับหรอก   แต่แกล้งที่หลับตาเพียงเพราะไม่อยากที่จะรับฟังเรื่องราวต่างๆ ที่ข้องเกี่ยวกับเครื่องแบบสีกรมท่านั้นอีก   แต่จะให้หลับตาลงเพื่อนอนหลับจริงๆนั้นคงยังทำไม่ได้จริง ๆ   เพราะใจของเธอมันสับสนวุ่นวายเกินกว่าจะข่มตาหลับได้อย่างสงบ  

                       ดวงตาเธอจ้องมองท้องฟ้าสีครามอย่างไม่ตั้งใจ   แต่กว่าจะรู้ตัวว่าเธอเผลอจ้องมองท้องฟ้านานเอาก็ตอนที่รู้สึกขัดยอกที่ต้นคอเล็กน้อย   สีฟ้าใสของท้องฟ้าทำให้ใจของเธอรู้สึกเย็นและสงบนิ่งได้อย่างไม่น่าเชื่อ   ดูอบอุ่น  เย็นใจ  สบายตา   รวมๆแล้วแทบจะบอกความรู้สึกตัวเองไม่ถูกเลยว่า  รู้สึกอะไรบ้างจากการมองท้องฟ้า   ถ้าระดารัตน์อยู่ฟากนี้ของขอบฟ้า   เขาคนนั้นคงอยู่ฟ้าฟากกระโน้นสินะ   ตรงปลายขอบฟ้า...คือ...ที่ที่นายคนนั้นอยู่   “นายคนปลายฟ้า”   อยู่ไกลกันลิบลับเลยนะ   แต่มันจะมีประโยชน์อะไรที่ต้องมาคิดถึงอยู่อย่างนี้   ระดารัตน์ไม่ได้ชอบเขาซะหน่อย  ก็แค่...รัศมีของดาวมันบังเอิญสะท้อนแสงมากระทบเข้าตาเธอแค่นั้นเอง   ทำไมต้องรู้สึกอะไรมากมาย  แสงมันสะท้อนมาแล้วมันก็จางหายไป    ท่าจะบ้าใหญ่แล้วระดารัตน์เอ๊ย   เธอเตือนสติตัวเองพร้อมกับสะบัดหัวไปมาเพื่อที่จะขับไล่ความคิดต่าง ๆที่สั่งสุมเข้ามาให้จางหายไปเสียที



                      “คุยอะไรกันอยู่”   ระดารัตน์ทรุดตัวลงนั่งบนเสื่อที่ปูเอาไว้แล้วซึ่งบัดนี้เพื่อนของเธอบางคนใช้เป็นที่เติมแต่งความสวยกันอยู่คงเตรียมที่จะไปงานเลี้ยงในตอนเย็นของวันนี้

                        “หายแล้วหรือระดา”   รุ่งรุจิราเอ่ยถามหลังจากที่แต่งหน้าตัวเองเสร็จ

                        “หายแล้วจ๊ะขอบใจที่เป็นห่วง”

                         “รุ้งก็ชอบห่วงชาวบ้านอย่างนี้ล่ะ   ก็มันไม่มีใครมาคอยห่วงรุ้งเหมือนเจ้าสาววันนี้นี่นา   ไม่เหมือนเพื่อนเราบางคนหรอก  ไม่ห่วงเพื่อนแล้วยังทำท่าจะตามเขากลับกรุงเทพด้วยนะ   ใครก็ไม่รู้ทำตาระห้อยเชียว   นี่ถ้าเขาชวนคงทิ้งงานทางนี้ตามไปส่งเขาถึงกรุงเทพฯล่ะ ”  

                       “ไม่ต้องมาแซวกันเลย   ฉันบอกเหรอว่าอยากตามไปส่ง  ฉันบอกเหรอว่าถ้าเขาชวนฉันจะไป”

                        “โดยเฉพาะกับเรืออากาศโทธานิตย์หรือเปล่าจะกรองแก้ว”   อุไรระพีกระเซ้าให้อย่างรู้ทัน   กรองแก้วเผลอค้อนให้เธอวงใหญ่ในความรู้เท่าทันของเพื่อน

                         “อุไรเธอเนี่ยนะ   บทเธอจะไม่พูดฉันก็ว่าเธอเรียบร้อยดี  แต่บทเธอจะพูดออกมางี้เล่นเอาฉันอึ้งไปเลยนะแม่อุไรระพีจ๋า”

                           “ก็...นี่ล่ะอุไรล่ะ”   พูดยิ้ม ๆ ก่อนจะหันไปเติมแต่งความสวยบนใบหน้าของตัวเองต่อ   บางทีคืนนี้สาว ๆ อย่างพวกเธออาจจะได้พบเนื้อคู่ของตัวเองแบบปัจจุบันทันด่วนกลางงานแต่งงานนี้ก็ได้ใครจะไปรู้  

                        ระดารัตน์มองท่าทีแปลกๆของกรองแก้วแล้วรู้สึกขัดใจยังไงไม่รู้  แต่ไหนแต่ไรไม่เคยเห็นกรองแก้วเป็นแบบนี้สักที  ถึงเธอจะมีหนุ่มแวะเวียนมาทักทายและทำความรู้จักอยู่เรื่อยๆ  แต่ก็ไม่เคยเห็นหนุ่มที่ไหนมีอิทธิพลต่อกรองแก้วมากมายขนาดนี้   อะไรกันรู้จักกันแค่วันสองวัน  เขาทำเอากรองแก้วเพื่อนของเธอรู้สึกดีกับเขาได้มากขนาดนี้เชียวเหรอ  กรองแก้วชอบเรืออากาศโทธานิตย์จริงๆนะเหรอ  เขาจะหว่านเสน่ห์กับเพื่อนเธอมากเกินไปแล้วนะ  นี่ละผู้ชายเจ้าชู้  ไปที่ไหนทำให้คนรักคนหลงที่นั่น......

                        กว่าที่จะกลับจากงานเลี้ยงฉลองสมรสก็ล่วงเลยเข้าห้าทุ่มเศษ   เพื่อนแต่ละคนต่างก็หมดเรี่ยวแรงไปตาม ๆ กัน   คงหมดตอนที่ออกไปสวิงกันกลางฟลอร์ตอนนั้นแน่ ๆ  บางคนก็เหนื่อยจนสาบถสาบานออกมาว่า  จะไม่มีวันแต่งงานแน่ๆเพราะรู้สึกถึงความเหน็ดเหนื่อยในการต้อนรับแขกเหรื่อของเจ้าสาว-เจ้าบ่าว


    (มีต่อ)

    แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 49 10:07:58

    จากคุณ : พยาบาลเกเร - [ 16 มี.ค. 49 02:03:01 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป