CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ภัยจากคนพิการ (บันทึกของคนเดินเท้า)

    บันทึกของคนเดินเท้า

    ภัยจากคนพิการ


    คดีเรื่องนี้เป็นภัยที่น่ากลัวที่สุดของผู้หญิง ไม่ว่าจะในยุคสายเดี่ยว หรือยุคผ้าแถบก็ตามเหตุได้เกิดขึ้นเมื่อหนังสือพิมพ์รายวันประจำวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๒๕ ฉบับหนึ่ง  พาดหัวว่า              

    ฆ่าข่มขืน นศ.สาวในโรงหนัง
    และหัวรองขยายความว่า
    ตามเข้าห้องน้ำรัดคอดับ

    เนื้อหาของข่าวมีอยู่ว่า เมื่อ ๑๓ กรกฎาคมนี้ เวลา ๑๖.๐๐ น. นายร้อยเวรสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ได้รับแจ้งว่ามีหญิงสาวถูกข่มขืน แล้วฆ่าทิ้งอยู่ในห้องน้ำของโรงภาพยนตร์ชื่อดังย่านสะพานควาย แขวงสามเสนใน เขตพญาไท จึงได้รุดไปยังที่เกิดเหตุ

    ก็ได้พบร่างของหญิงสาวคนหนึ่งอยู่ในสภาพหงายพาดกับโถส้วม ในชุดนักศึกษาเสื้อขาวกระโปรงน้ำเงิน โดยกระโปรงร่นขึ้นมาอยู่เหนือเอว  และกางเกงในสีเนื้อถูกกระชากขาดทิ้งกองอยู่กับพื้น ใกล้ศพยังพบมีดปอกผลไม้ตกอยู่เล่มหนึ่ง ที่คอมีผ้ารัดอยู่

    จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่าผู้ตายชื่อ น.ส.กลิ่น (นามสมมุติ) เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง คณะบริหารธุรกิจปีที่ ๔ มีบ้านพักอยู่ซอยเทศบาลนฤมิตรใต้ ถนนประชาชื่น แขวงลาดยาว

    และจากการสอบสวน นายมงคล อายุ ๒๔ ปี ซึ่งมีบ้านอยู่ทางถนนพระรามที่ ๕ แขวง บางซื่อ เขตดุสิต แฟนของผู้ตายจึงทราบว่าในวันเกิดเหตุทั้งสองได้ชวนกันไปดูหนังที่โรงหนังนั้น โดยมีชายผู้หนึ่งส่อพิรุธติดตามเข้าไปดูด้วย โดยนั่งอยู่ด้านหน้า พร้อมกับมองความเคลื่อนไหวของตนเองกับแฟนสาว ตลอดเวลาที่กำลังดูหนัง
    ชายดังกล่าวไว้หนวดหนา หลังค่อม ผมหยิก หน้าสี่เหลี่ยม

    เมื่อดูหนังจนจบแล้วตนกับแฟนสาวก็ออกจากโรงหนัง โดยแฟนสาวขอเข้าห้องน้ำก่อน ตนจึงยืนคอยอยู่ข้างนอก แต่จนกระทั่งโรงหนังเลิกแล้ว แฟนก็ยังไม่ออกมา จึงได้เดินเข้าไปดู แต่ไม่เห็นมีในห้องน้ำผู้หญิง

    จนสักครู่ต่อมาได้มีแม่ค้าผลไม้ในโรงหนังร้องเอะอะโวยวายว่ามีคนตายอยู่ในห้องน้ำ ตนจึงได้เข้าไปดู และพบว่าเป็นแฟนของตนเอง

    ต่อมาในวันที่ ๑๔ กรกฎาคม หนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวได้เสนอข่าวคืบหน้าว่า สารวัตรใหญ่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ  ได้นำนายมงคล เดินทางไปที่กองทะเบียนประวัติ อาชญากรรม กรมตำรวจ พร้อมกับนำรูปคนร้ายในคดีต่าง ๆ ซึ่งมีประวัติเก็บไว้ มาให้นายมงคลดู

    ปรากฏว่าทันทีที่เห็นภาพนายลือ (นามสมมุติ) คนร้ายซึ่งต้องโทษในคดีฆ่าคนตายเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๖ ในเขตสถานีตำรวจห้วยขวาง ก็ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่าเป็นชายคนที่ตามเข้าไปในโรงภาพยนตร์อย่างแน่นอน

    เจ้าหน้าที่คาดว่า นายลือคงจะเพิ่งพ้นโทษในคราวอภัยโทษฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี แล้วมาก่อพฤติกรรมโหดขึ้น และมีพยานบางคนให้ปากคำว่า นายลือได้เคยมาคุมรถสองแถว เป็นนักเลงเกะกะอยู่ที่หน้าโรงภาพยนตร์แห่งนี้ เป็นประจำ และมีความสนิทสนมคุ้นเคยกับพวกพนักงานเก็บตั๋วของโรงภาพยนตร์บางคน เป็นอย่างดี

    ส่วนทางสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจได้พิสูจน์บาดแผลจากการกระทำของ      ฆาตกรแล้วเปิดเผยว่า ผู้ตายไม่ได้ถูกข่มขืนแต่อย่างใด แต่บาดแผลที่บริเวณอวัยวะเพศมีร่องรอยว่าถูกของแข็งทลวงเข้าไปทำความเจ็บปวดก่อน ผู้ตายคงจะขัดขืนและร้องขอความช่วยเหลือ จึงถูกรัดคอตาย

    ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้พยายาม
    คลี่คลายคดี จนได้ทราบจากประจักษ์พยานว่า ฆาตกรโหดรายนี้เป็นชายพิการขาเป๋ ซึ่งมาดูภาพยนตร์เป็นประจำ และพยายามป้วนเปี้ยนอยู่แถวหน้าห้องน้ำสตรี  และชุดสืบสวนของ สน.บางซื่อเปิดเผยว่า ฆาตกรรายนี้ถ้าถูกจับตัวเมื่อไหร่ จะสามารถยืนยันได้ทันทีว่าไม่มีการจับผิดตัว ทั้งนี้เพราะเจ้าหน้าที่ได้พบลายนิ้วมือของคนร้ายซึ่งเปื้อนเลือดของสาวผู้ตาย ไปเช็ดอยู่ตามฝาผนังของห้องน้ำดังกล่าวเต็มไปหมด ซึ่งทางกองพิสูจน์หลักฐานกรมตำรวจ ได้เก็บเอาไว้เรียบร้อยและสมบูรณ์ที่สุด

    นอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่า ลักษณะของฆาตกรรายนี้พอประมวลได้ว่า อาจเป็นพวกจิตวิปริต ประเภทชอบชำเราศพหรือทำทารุณแก่เหยื่อก่อนที่จะข่มขืน ทั้งนี้จากสภาพศพสาวผู้ตาย แสดงว่าได้รับการทารุณก่อนและสาวพยายามขัดขืนจึงถูกฆ่าปิดปาก

    แต่เนื่องจากระยะเวลาที่ประกอบกรรมชั่วยาวนาน จนฆาตกรหวั่นใจว่าจะมีผู้มาพบเห็น จึงยังไม่ทันชำเราก็หลบหนีไปเสียก่อน โดยเพียงแต่ปลดทรัพย์สินในตัวคนตายติดมือไปด้วยเท่านั้น

    ถึงวันที่ ๑๙ กรกฎาคม หนังสือพิมพ์ฉบับเดิมได้พาดหัวตัวยักษ์ว่า รวบ ๘ ไอ้เป๋
    หัวรองลงมาว่า  ใคร “อกไก่”เอามาสอบหมด
    รายล่าสุดเป็นคนขาย นสพ. และร่ายข่าวต่อไปว่า

    สวญ.สน.บางซื่อ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ว่าตอนนี้ได้ตัวผู้ต้องสงสัยมาอีกรายหนึ่ง และรู้สึกว่าจะมีเค้ามากกว่ารายอื่น ไม่ว่าจะเป็นลักษณะรูปพรรณตรงกับที่พยานให้ปากคำ และนำตัวมาจากโรงภาพยนตร์อีกโรงหนึ่งในย่านเดียวกัน ชื่อนายหน่อย (นามสมมุติ) มีอาชีพขายหนังสือพิมพ์ และหลับนอนไม่เป็นที่ เคยแสดงหนังเป็นตัวประกอบในภาพยนตร์เรื่อง “เมืองขอทาน” มาแล้ว

    เจ้าหน้าที่ได้นำหนังเรื่องเมืองขอทานมาฉายดูที่ห้องประชุม สน.บางซื่อ และตัดหนังบางตอนมาฉายเป็นสไลด์ เนื่องจากนายหน่อยได้เคยมาทำงานเป็นคนเฝ้ารถหน้าโรงหนังโดยไม่เอาเงินเดือน ได้แต่ทิปที่มีเจ้าของรถให้

    ต่อมาได้ก่อคดีปลุกปล้ำผู้หญิงในโรงหนัง จึงถูกไล่ออก และหันมายึดอาชีพขายหนังสือพิมพ์ ตอนนี้ก็ควบคุมตัวไว้ก่อน เพื่อทำการสอบสวน

    ลักษณะของนายหน่อยนั้น แขนซ้ายพิการ จึงทำการพิมพ์มือไว้เพื่อประกอบกับรูปคดีนำไปเปรียบเทียบกับลายนิ้วมือคนร้าย ที่เจ้าหน้าที่เก็บไว้ได้จากที่เกิดเหตุ และขณะนี้มีผู้ต้องสงสัยที่ควบคุมตัวไว้รวม ๘ คน

    แต่พอถึงวันที่ ๒๐ กรกฎาคม เรื่องราวกลับเปลี่ยนแปลงไป โดยหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกันได้พาดหัวว่า ตร.งง! ฆ่า นศ.ฯ หญิงหรือชาย ลายนิ้วมือพิสูจน์ดูไม่ออก อาจเป็นเลสเบี้ยน        เนื้อข่าวมีอยู่ว่า

    จากผลของการสืบสวน เกิดการขัดแย้งกันขึ้นจนไม่สามารถตกลงใจได้ บางกระแสก็ตั้งมั่นว่าเป็นผู้ชายมีลักษณะตามคำบอกเล่าของพยาน แต่เมื่อนำมาสอบก็ไม่พบพุธ

    อีกกระแสหนึ่งก็ว่าอาจจะเป็นพวกเลสเบี้ยน มีความหึงหวงอาจจะติดตามมาฆ่าด้วยอารมณ์ชั่ววูบ

    โดยได้มีการประมวลเรื่องราวในที่ประชุมเป็นหลายประเด็น มีการตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดผู้หญิงจึงเข้าไปในห้องน้ำตอนที่หนังเลิก และเมื่อเข้าไปแล้วพบผู้ชายอยู่ในห้องน้ำผู้หญิง ทำไมจึงไม่วิ่งหนีออกมา หรือร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ หรืออาจจะรู้ก็ได้ว่ามีคนนัดให้เข้าไปพุดคุยกัน แต่เมื่อตกลงไม่ได้จึงบีบคอฆ่า

    มีดที่พบเห็นก็เป็นมีดปอกผลไม้ ซึ่งจะเป็นไปได้หรือไม่ว่าผู้ชายคงจะไม่ใช้พกติดตัว  ผู้ชายที่เข้าไปรออยู่ในห้องน้ำถือว่าเป็นการเสี่ยงมาก เพราะอาจจะมีการร้องโวยวาย แต่ก็เงียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ลักษณะการป้ายเลือดที่ฝาผนัง เป็นนิสัยของผู้ชายหรือผู้หญิง ทั้งที่มีกระดาษชำระอยู่ในห้องน้ำ ลักษณะของสาวที่เป็นเลสเบี้ยนนั้น  มีกำลังเหมือนผู้ชาย มีความหึงหวงเมื่อคนรักตีตัวออกห่าง

    คดีนี้จึงเป็นไปด้วยความลำบาก เพราะยิ่งสอบก็ยิ่งมีความเห็นแตกต่างกันออกไป ทำให้ประเด็นการฆ่ากว้างออกยิ่งขึ้น ไม่สามารถสรุปให้แคบลงได้ ทำความลำบากใจให้แก่พนักงานสอบสวนชุดนี้เป็นอันมาก

    จนถึงวันที่ ๒๒ กรกฎาคม จึงมีข่าวพาดหัวตัวโตว่า “ไอ้ค่อม” ยอมรับ “รัดคอ”              คามือ แค่หวังชิงทรัพย์

    คดีฆ่านักศึกษาสาวที่เกิดเหตุเมื่อ ๑๓ กรกฎาคม นั้น เจ้าหน้าที่ได้พยายามสืบจับคนร้ายตลอดเวลาที่ผ่านมา จนกระทั่งคนขาเป๋หวาดผวากันเป็นแถว เพราะฆาตกรรายนี้เจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นชายอกไก่ ขาเป๋

    และในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จับคนร้ายตัวจริงได้ โดยเจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังออกเป็นสองชุด ให้ชุดแรกไปแอบซุ่มอยู่ที่ซอยวัดเขมาภิรตาราม นนทบุรี เพราะทราบมาว่าในซอยนั้นมีเจ้าของร้านเสริมสวยเป็นเมียของผู้ต้องสงสัย แต่เจ้าหน้าที่ซุ่มอยู่สามวันก็ไม่พบตัวเลย

    ชุดที่สองไปซุ่มอยู่แถวทรงวาด เจ้าหน้าที่จึงพบตัวผู้ต้องสงสัย และได้ควบคุมตัวมา         ทำการสอบสวน พร้อมด้วยของกลางอันประกอบด้วยนาฬิกาข้อมือหญิงเรือนทองหนึ่งเรือน ที่ได้มาจากบ้านเพื่อนของผู้ต้องหานำไปฝากไว้ กับ นาฬิกาข้อมือหญิงเรือนทอง กำไลข้อมือหนึ่งอัน สร้อยคอนาคหนักสองสลึงหนึ่งเส้น ต่างหูทองคำหนึ่งคู่ ซึ่งยึดมาจากร้านทองที่ผู้ต้องหาเอาไปขายไว้ และพระหลวงพ่อโตเลี่ยมทองหนึ่งองค์ ที่เอาไปขายไว้กับเพื่อนอีกคนหนึ่ง

    จากการสอบสวนนายเล็ก (นามสมมุติ) ผู้ต้องหาที่จับมาได้เป็นคนสุดท้ายนี้ ได้ยอมรับสารภาพว่า ในวันเกิดเหตุตนได้ไปดูหนังดังกล่าว ขณะที่หนังกำลังฉายอยู่นั้น ตนได้ออกมาสูบบุหรี่ข้างนอก  ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้ตายเดินออกมาเพื่อเข้าห้องน้ำพอดี ตนจึงไปยืนคอยหน้าห้องน้ำ เมื่อผู้ตายเดินออกมาจึงได้ใช้มีดจี้บังคับให้กลับเข้าไปในห้องน้ำ พร้อมกับล็อคประตูและทำการปลดทรัพย์สิน แต่ผู้ตายขัดขืน จึงได้ใช้เศษผ้าขี้ริ้วมัดปาก แต่ผู้ตายยังดิ้นรนต่อสู้ขัดขืนอีก จึงใช้เศษผ้านั้นรัดคอจนผู้ตายรูดกับฝาห้องน้ำลงกองกับพื้น จากนั้นจึงทำการปลดทรัพย์สินทั้งหมด  แล้วเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำ

    ขณะที่เดินออกมาได้พบกับพนักงานเดินตั๋วของโรงหนังคนหนึ่ง ซึ่งเป็นพยานปากเอกในคดีนี้ ที่พนักงานเดินตั๋วจำได้แม่นยำก็เพราะนายเล็กเคยมาดูหนังที่โรงนี้บ่อย และวันที่เกิดเหตุก็มานั่งเก้าอี้เสริมจนกระทั่งเกิดการทะเลาะกัน นายเล็กจึงได้เดินไปนั่งด้านหน้าของผู้ตาย

    นายเล็กบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าตนไม่ได้ตั้งใจจะข่มขืน แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อเพราะกางเกงในมีรอยถูกมีดกรีดจนขาด แต่ขณะที่กำลังจะข่มขืนคงจะมีคนเข้ามาในห้อง หรือไม่ก็เพราะห้องน้ำนั้นแคบจึงข่มขืนไม่ได้

    นายเล็กผู้นี้เป็นแขกปาทาน เมื่อยังเล็กถูกรถชนจนร่างกายพิการ เป็นนักพนันและนักเที่ยวตัวยง มีเมียมากมายหลายคน เคยต้องคดีฆ่าคนตายมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่พยานหลักฐานไม่พอจึงหลุด และเคยเป็นความขึ้นโรงพักบางซื่อเกี่ยวกับคดีทำร้ายผู้อื่นด้วย

    ในเรื่องนี้หนังสือพิมพ์ฉบับที่เสนอข่าว ได้เขียนบทความวิจารณ์ว่า

    ..........มาวันหนึ่ง ก็หลังจากที่สาวผู้น่าสงสาร เหยื่อของเดนนรกกลายเป็นศพไปแล้ว ท่านติดตามควานหาตัวคนร้ายกันอย่างจ้าระหวั่น  หลายคนต่อหลายคน ท่านจับกันมา สอบกันไป จับกันคนแล้วคนเล่า และคนที่ถูกจับตามรูปพรรณสันฐานแห่งคดี ยืนยันว่าฆาตกรบ้ากามคนนี้ เป็นบุรุษพิการ..........! ? !

    เมื่อดูจากที่ หนุ่มพิการ อาชีพขายหนังสือพิมพ์ ถูกท่านหิ้วไปสอบ ภาพที่ออกมานอกจากน่าสมเพชแล้ว ยังทรมานจิตใจคนที่เขาเห็นอย่างบอกไม่ถูก  ขอเรียนกับท่านผู้เจริญว่า ถ้าเขาผิดจริง ทำจริง ยิงเป้าหรือตัดคอประจานก็ยังไม่สาสม แต่นี่เขาไม่ผิด เขาเป็นมนุษย์เหมือนท่านนั่นแหละ............

    แต่ถึงอย่างไร เรื่องนี้ก็เป็นอันสิ้นสุดลงแล้ว ด้วยความโล่งอกของชายขาเป๋ทั้งหลาย         ที่ได้ถูกสงสัยมาเป็นเวลากว่าสัปดาห์ รวมทั้งผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้งแปดคนนั้นด้วย.

    ##########

    จากคุณ : เจียวต้าย - [ 18 มี.ค. 49 06:12:15 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป