ที่บ้านยายฉันเป็นสวน.................
เมื่อก่อนตอนที่วิ่งเล่นอยู่ปลายสวนเวลาเหนื่อย
มักจะนอนแผ่หราอยู่ริมตลิ่งแล้วมองท้องฟ้า
ไกลสุดลูกหูลูกตาที่เห็นอยู่ลิบ ๆ นั่นเป็นว่าวจุฬา
กำลังหยอกล้อกับสายลมหางว่าวที่โบกสะบัด
คล้ายกับคลื่นน้ำยามเรือวิ่งผ่านแล้วซัดมากระทบฝั่ง
ฉันสูดหายใจลึก ๆ แล้วลากสายตาลดระดับลงมา
เป้าหมายใหม่ที่ฉันคิดถึงคือลูกกลม ๆ สีเขียว
ที่รวมตัวกันเป็นทลายใหญ่อยู่บนเกือบยอดสูงนั่น
ลูกพี่ลูกน้องที่กำลังตะโกนวิ่งไล่มาแต่ไกลถือไม้มาด้วย
สองสามคนที่โตกว่าปีนขึ้นไปแล้วเอาไม้กระตุกมัน
"ปุ๊" เสียงลูกมะพร้าวตกลงมาแล้วมีดพร้าอันใหญ่
ก็กลายเป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะทำให้เราลิ้มรส
ความหอมหวาน และแสนอร่อยของเนื้อผลไม้นั้น
ตอนเด็ก ๆ บ้านยายฉันเป็นสวน ฉันมีลูกพี่ลูกน้องมากมาย
ที่คอยวิ่งไล่กวดกันตรงริมตลิ่ง พวกผู้ชายชอบทอดแห
พวกผู้หญิงก็คอยกรี๊ดกร๊าดเมื่อจับได้ปลาตัวใหญ่มา
โยนใส่กระป๋องพอเราเหนื่อยเราจะนอนเรียงกัน
มองท้องฟ้าที่เมฆลอยอยู่เกลื่อนกลาดพอเราหิว
เราจะเก็บกล้วย มะม่วง กะท้อน และอีกสารพัด
มาปอกกิน พออยากกระหายน้ำเราจะมองขึ้นด้านบน
มะพร้าวช่วยชีวิตเราได้ เราขลุกตัวอยู่ตามตลิ่งอยู่นาน
จนกว่าจะได้ยินเสียงป้า ๆ น้า ๆ เรียกกลับไป
เราไม่อยากกลับแต่เสียงตะโกนแล้วคำขู่คำโตนั่น
ได้ผลกับพวกเรา ๆ เสมอ เรารีบเก็บของกันแล้ววิ่ง
ไปทางบ้านไม้หลังใหญ่ที่ตั้งอยู่ในสวนหลายร้อยไร่
ที่นี่เป็นอาณาจักรของพวกเรา ไม่เป็นไรหรอกวันนี้
ผู้ใหญ่เรียกกลับบ้านแล้วพรุ่งนี้เราก็ออกมาวิ่งได้อีก
สวนอยู่แค่นี้เองพวกพี่ ๆ จะบอกน้อง ๆ แบบนั้น
เวลาน้อง ๆ งอแงไม่อยากกลับเพราะติดเล่น
นั่งคิดถึงความหลัง....พรุ่งนี้ของฉันไม่มีสวนแล้ว
ไม่มีมะพร้าว ไม่มีมะม่วงหลังสวน ไม่มีก้อนเมฆโต ๆ
ให้นอนมองนาน ๆ แต่ฉันก็ไม่เสียใจเพราะยังไง
เมื่อสายลมพัดผ่าน ความทรงจำอันหอมหวานยาม
เยาว์วัยก็กลับมาทักทายฉันเสมอมา......
จากคุณ :
ทะเลกับความมืด
- [
19 มี.ค. 49 11:06:50
]