[ตอนที่ 1]
สนุกมากมั้ยฮ่ะที่ทำผมเจ็บปวดที่สุดอย่างที่ผมกำลังเป็นอยู่ตอนนี้ได้ สนุกมากสินะฮ่ะ
การ์ดสีแดงสดตัวหนังสือสีทองลวดลายวิจิตรบรรจงถูกเปิดออกอ่านหลังจากที่เธอเก็บมันเอาไว้ในโต๊ะทำงานมานานหลายวัน วันพรุ่งนี้แล้วสินะที่จะถึงวันนั้น วันที่เจ้าของการ์ดคู่ที่ร่วมกันปลูกต้นรักกันมาตั้งแต่เป็นต้นกล้าต้นอ่อนเติบโตเป็นลำต้นสูงใหญ่พร้อมจะลงหลักปักฐานสร้างลำต้นและกิ่งใบเล็กๆร่วมกัน และไม่นานเกินรอ....สักวันคงแตกหน่อเล็กหน่อน้อยออกมาให้ชื่นชมในเร็ววันแน่ๆ
การ์ดเชิญใบที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ เท่าที่นับได้เธอก็ไปร่วมงานเหล่านั้นมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ทั้งที่เชิญมาอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ทั้งงานคนที่รักมากและคนที่ไม่รัก แรกๆก็แอบอิจฉาที่ใครๆที่ต่างลงเอยกันเป็นคู่ๆ แอบหวังว่าสักวันหนึ่ง...คู่แท้ของเธอ...คงจะเดินทางมาพบเจอเธอและลงเอยกันเหมือนเช่นที่คู่อื่นๆที่เขามีความสุขกัน แต่..จนป่านนี้อายุก็ล่วงเลยใกล้เลขสามเข้ามาอีกไม่กี่ปีแล้ว คนที่ว่า...ใช่...และเป็นคู่แท้ของเธอก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมาสักที
ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีน้ำเงินเข้มยืนกำลังยืนมองอะไรบางอย่างอย่างสนใจจากกระจกบานใสด้านหน้าโรงแรมระดับห้าดาวประจำจังหวัด บางอย่างที่เขากำลังสนใจอยู่นั้นเป็นหญิงสาวร่างโปร่งบางของในชุดราตรีเปลือยไหล่สีฟ้าอ่อน ที่ลำคอระหงส์มีผ้าคล้องคอเอาไว้อย่างดูเก๋ไก๋และหน้ามองมากยิ่งขึ้นกับเครื่องประดับมุกทั้งลำคอและใบหู ผมสีน้ำตาลอ่อนที่ยาวถึงกลางหลังนั้นถูกจับลอนเอาไว้เพิ่มความน่าดูและน่ามองยิ่งขึ้นไปอีก เธอเดินเข้ามาในห้องบอลรูมของโรงแรมเพียงลำพังนั่นยิ่งสร้างความแปลกใจให้เขามากยิ่งขึ้นไปอีก
เธอไม่ใช่หญิงสาวที่นิสัยใจคอไม่ดี ไม่น่าคบหาหรือไร้เสน่ห์ที่ใครๆจะไม่อยากควงคู่ ตรงกันข้ามแม้เธอเป็นคนที่ไม่จัดว่าสวยมากแต่จัดว่าน่ามอง อีกทั้งนิสัยใจคอก็ดีน่าคบหามากคนหนึ่ง เขารู้เพราะเขารู้จักเธอแม้จะนานมาแล้วก็ตามที เธอเป็นเพื่อนสนิทสาวของพี่สาวของเขา หญิงสาวผู้เป็นเจ้าสาวของงานในคืนนี้ เขารู้ว่าค่ำคืนนี้เขาจะต้องเจอเธอแม้ว่าจะไม่ได้เจอกันมานานแล้ว แต่ไม่ว่านานเท่าไรเจอเธอที่ไหนเขาก็จำได้ เธออยู่ในลมหายใจของเขาเสมอ แม้ว่าครั้งหนึ่งที่ผ่านมาเธอจะเคยปฏิเสธ เด็ก อย่างเขาก็ตามที แต่นั่นไม่ทำให้เขาเลิกล้มความคิดของตัวเอง แม้ว่าจะต้องจากไปเรียนไกลถึงเกาะอังกฤษก็ตาม
รอจนกระทั่งเธอเขียนคำอวยพรคู่บ่าวสาวในสมุด รับของชำร่วยบัตรขอบคุณที่มาร่วมงานเสร็จ และกำลังจะเดินเข้าไปในงานหลังจากพนักงานต้อนรับที่อยู่ด้านหน้าของงานผายมือเชื้อเชิญเธอให้เดินตามเข้าไปในงานอย่างสุภาพ นั่นล่ะเขาจึงโผล่ออกจากมุมที่ตัวเองอยู่ซะที
มางานคนเดียวหรือครับ เท้าที่กำลังเดินตามพนักงานต้อนรับเข้าไปในงานชะงัก และหยุดมองชายหนุ่มที่เดินปรี่เข้ามาทักอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ราวกับรู้จักเธอดี น้ำเสียงก็คุ้นหูแต่พอมองหน้าคนที่ปรี่มาทักนั้นให้ชัดๆ คราวนี้นฎาก้าวเท้าไม่ออก บอกตัวเองไม่ถูกเอาดื้อๆ ไม่รู้ตัวแม้กระทั่งตอบอะไรออกไปด้วยซ้ำ
ค่ะ กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่เห็นยายอ้อมบอกว่าเธอจะกลับมา นฎา หมายถึง รจเลข หรือ ยายอ้อม เพื่อนของเธอเจ้าสาวของงานในวันนี้
พี่อ้อมไม่รู้หรอกว่าผมจะกลับเมื่อไหร่ เพราะผมไม่ได้บอก จริงๆก็คือพี่อ้อมเพิ่งเจอผมเมื่อเช้าที่งานต่างหากล่ะ คงจะบอกนฎาไม่ทันว่าผมมามั้งฮะ หรือล่วงหน้าว่าผมกลับมาแล้วงานเลี้ยงคืนนี้คุณจะไม่มางั้นสินฎา รุ่งโรจน์ถามเสียงแปร่งๆ นฎาทำท่าสาวเท้าเดินหนีเพราะไม่อยากฟังถ้อยคำประชดประชันจากเขาซึ่งเป็นเด็กอายุน้อยกว่าเธอถึง 3 ปี แต่ไม่เคยเรียกเธอว่าพี่คนนี้อีกต่อไป
ผมพูดอะไรไม่ถูกใจหรือฮะ ทำไมต้องเดินหนีผม รุ่งโรจน์เลื่อนตัวเข้ามาขวางทางที่นฎากำลังจะเดินเลี่ยงไป
ฉันจะพูดกับเธอก็ต่อเมื่อเธอมีสัมมาคราวะมากกว่านี้ ฉันเป็นเพื่อนของอ้อม เป็นพี่เธอตั้ง 3 ปีเธอควรจะเรียกฉันว่าพี่นฎาไม่ใช่เรียกว่า นฎา เฉยๆนะอั้ม นฎาต่อว่าเพราะแต่ไหนแต่ไร รุ่งโรจน์ หรือ อั้ม ซึ่งเป็นน้องชายแท้ๆของรจเลขเจ้าสาวของงาน ไม่เคยเรียกเธอว่า พี่ สักครั้ง
แค่ 3 ปีต่างหากนฎา แค่ 3 ปีสำหรับผมไม่เรียกว่าพี่ คุณบังคับผมไม่ได้หรอกนฎา ผมจะเรียกแบบนี้เพราะผมเรียกของผมแบบนี้มาตั้งนานนฎาก็รู้
ดื้อจริง เด็กอะไรพูดไม่รู้ฟัง นฎาเอ็ด
ทีผมพูด นฎาฟังผมบ้างหรือเปล่าล่ะ นฎาก็ดื้อเหมือนกันไม่ใช่เฉพาะผมหรอกนะ
เอ๊ะ................เกเรจริง
ถึงผมไม่เกเร นฎาก็ไม่รักผมอยู่ดี ฉะนั้นผมจะเป็นแบบที่ผมพอใจ แล้วผมก็ไม่สนใจด้วยว่านฎาจะคิดยังไง ผมโตพอและเป็นผู้ใหญ่พอที่จะตัดสินใจเรื่องของตัวเองได้แล้ว จะเดินเข้าไปในงานดีๆหรือให้ผมใช้วิธีของผมพานฎาเข้าไปดี ผมเรียนที่อังกฤษมานานหลายปีอาจจะติดวัฒนธรรมแบบตลาดๆของผู้ดีอังกฤษมาบ้าง ถ้านฎายังดื้อพูดไม่รู้เรื่อง อาจจะต้องใช้วัฒนธรรมตลาดๆแบบนั้นกับนฎาบ้าง รึจะลองว่าผมกล้าจริงหรือเปล่า รุ่งโรจน์ หรือ อั้ม ขู่
นั่นยังไม่กล้าดีเท่า ก่อนกำหนดการเดินทางไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรีและโทสาขาวิศวกรรมเคมีที่ประเทศอังกฤษเขาสารภาพความในใจกับเธอในขณะที่เธอเรียนอยู่ชั้นปีที่ 3 ของคณะพยาบาลศาสตร์
ผมชอบนฎา นฎาคบกับผมได้มั้ย
นฎาไม่รู้หรอกว่า วันนั้นกว่าที่เขาจะตัดสินใจสารภาพความในใจออกไป เขาต้องรวบรวมความกล้านานกี่วันกี่ปี ทุกข์ทรมานใจแค่ไหนกับการที่ต้องเก็บมันเอาไว้ในใจและไม่ได้แพร่งพรายให้เธอรู้ และหอบมันไปประเทศอังกฤษด้วย ไหนๆก็จะไปแล้วสู้อุตส่าห์สารภาพความรู้สึกที่ตัวเองมีหรือได้รับรู้ แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่า..เธอต้องปฏิเสธเขาแน่ๆก็ตามที แต่..เธอไม่ยอมที่จะรับฟังคำสารภาพความในใจของเขาให้จบ เพียงเพราะเขาอายุน้อยกว่าเธอแค่ 3 ปี และอยู่ในตำแหน่งน้องชายของพี่อ้อม เพื่อนที่รักของเธอ
ถ้าเธอเป็นเด็กที่มีสัมมาคารวะ รู้จักเด็ก รู้จักผู้ใหญ่ เธอจะไม่มาพูดกับฉันแบบนี้ ฉันเสียใจที่เห็นเธอเป็นน้อง แต่เธอคิดกับฉันแบบนี้นะอั้ม จะไปไหนก็ไปเด็กไม่รักดีฉันไม่ชอบ
เขาเจ็บปวดแค่ไหนวันนั้นเขารู้ รู้พอๆกับการที่ไม่สามารถทนอยู่สู้หน้าเธอได้อีก ฉะนั้นเขาจึงเลื่อนกำหนดการเดินทางเข้ามาอีก 1 เดือนอ้างว่าจะไปเรียนภาษาและหาหอพักก่อนเปิดเทอม ทั้งที่จริงๆแล้วเด็กเรียนดีแบบเขาเรื่องภาษาเป็นเรื่องเล็กน้อยมากๆเรื่องหนึ่ง ที่เขาทนอยู่ไม่ได้คือท่าทีหมางเมินที่นฎามีให้เขานับจากวันที่เขาสารภาพกับเธอนั่นต่างหาก
(มีต่อ)
แก้ไขเมื่อ 24 มี.ค. 49 11:04:32
แก้ไขเมื่อ 24 มี.ค. 49 10:53:08
แก้ไขเมื่อ 19 มี.ค. 49 20:09:51
จากคุณ :
พยาบาลเกเร
- [
19 มี.ค. 49 19:23:54
]