รักแรก
กิ๊บ ๆ ๆๆ เสียงร้องของเหล่าลูกเป็ดตัวกลม อันแออัดกันอยู่ ในคอกตาข่าย หน้าร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ ซึ่งอยู่ติดกับบ้านของเพื่อนร่วมชั้น ป. 6 ที่เปิดเป็นร้านตัวแทนขายรถมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อหนึ่ง ในเขตเทศบาลเมืองของจังหวัดใหญ่ทางภาคใต้แห่งหนึ่ง
เด็กชายร่างผอมเพรียว แขนขายาว เก้งก้าง ไม่ค่อยจะสมกับตัว หยุดแวะดูเหล่าลูกเป็ดขนฟูนุ่มสีน้ำตาลปนเหลืองนั้นอย่างสนใจ
"จ๊ะเอ๋ ชอบลูกเป็ดเหรอ" เสียงแหลม ๆ ของเอี้ยง เพื่อนนักเรียนหญิง เอ่ยทักขึ้น
เธอเดินย้อนกลับมายังจุดที่เด็กผู้ชายยืนอยู่ เมื่อไม่เห็นว่าเพื่อนที่ชวนมาทำรายงานด้วยกัน ไม่เดินตามเข้าไปในบ้าน
เสียง จ๊ะเอ๋ นั้น ไม่ได้เป็นคำอุทาน แกล้งเพื่อนซึ่งกำลังจดจ่ออยู่กับลูกเป็ดตัวน้อยให้ตกใจ แต่อย่างใด หากเป็นชื่อเล่นของเด็กผู้ชายคนดังกล่าว แม่กับพ่อไปดูหนังจีน เรื่องจ๊ะเอ๋เบบี้ ด้วยกัน ขณะแม่ตั้งท้องได้ 6 เดือน และฉากจบของเรื่องที่ทารกน้อย ฉี่พุ่งขึ้นไปเป็นสายในอากาศ ทักทายผู้เป็นพ่อนั้น สร้างความประทับใจให้กับพ่อกับแม่ในอนาคตทั้งคู่มาก ครั้นลูกตัวเองลืมตาออกมาดูโลก พ่อกับแม่จึงพร้อมใจกันตั้งชื่อว่าจ๊ะเอ๋ โดยลืมคิดไปว่า ชื่อนี้ออกจะหวานจิ้มลิ้มเกินไปสำหรับเด็กผู้ชาย ซึ่งพอเจ้าหนูน้อยโตขึ้นก็ถามแม่ว่า ทำไมถึงตั้งชื่อเขาอย่างนี้ แม่ยิ้ม พลางขยี้ผมของเจ้าคนถามด้วยความเอ็นดู ก่อนจะตอบว่า แม่คิดว่า จ๊ะเอ๋ ดูเท่ห์ กว่าชื่อเบบี้นะลูก
"ลูกเป็ดน่ารักจัง" เด็กผู้ชายพูดกับเด็กผู้หญิง โดยไม่ได้หันหน้าไปมอง เพราะสายตาจับจ้องอยู่ที่ดวงกลมรีแป๋ว ๆ สีดำของเจ้าของเสียงกิ๊บ ๆ ระงมในคอกตาข่าย
"อือ แต่แม่เราบอกว่า เป็ดสกปรกน่ะ" เด็กผู้หญิงตอบ
"ขอผมลูบขนลูกเป็ดหน่อยได้ไหมครับ" ประโยคนี้ เด็กผู้ชายพูดกับเจ้าของร้าน ซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานติดผนังหลังสุดของห้อง ข้าง ๆ โต๊ะเป็นแท่นบูชาเจ้าที่จีนติดพื้นสีแดง ตัวร้านซึ่งเป็นอาคารปูน ภายในทาสีฟ้าทึม ๆ นั้น มีคราบดำ อยู่ตรงโน้นตรงนี้ทั่วผนัง ตรงพื้นเต็มไปด้วยกระสอบอาหารสัตว์ซึ่งวางซ้อนกันจนเกือบถึงเพดาน ตราบนกระสอบสีน้ำตาลซึ่งเขียนด้วยสีแดงบ้าง เขียวบ้าง น้ำเงินบ้าง นั้นมีรูปหมู ไก่ และเป็ด ต่างกันไป กลิ่นที่อบอวลอยู่ในร้านนั้น ในความรู้สึกของเด็กชาย ไม่ต่างจากยืนอยู่ในโรงเลี้ยงไก่ ของลุงไว ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน
"ไม่ได้ มือคนมันร้อน เดี๋ยวลูกเป็ดเฉาตาย ก่อนขายกันพอดี" เสียงหญิงชรา หน้าตาแบบอาซิ้มอายุมาก ซึ่งน่าจะเป็นแม่ของเจ้าของร้าน ตอบเสียงแข็ง
"มือผมไม่ได้ร้อนสักหน่อย" เด็กชายบอก ไม่เข้าใจเลยว่า มือน้อย ๆ ของเขาจะทำให้ลูกเป็ดน่ารักเหล่านั้นเฉาตายได้ยังไง ผู้ใหญ่นี่เหลือเกินจริง ๆ หลอกเด็กอยู่เรื่อย
"ไป ๆ ไปเล่นที่อื่น อย่ามายืนขวางหน้าร้านอั๊ว " เสียงของหญิงชราแหว และโบกมือไล่ ผู้มาชมเป็ดซึ่งไม่ได้รับเชิญทั้งสอง
"ไปเหอะ จ๊ะเอ๋" เสียงเอี้ยง เรียกพร้อม ดึงแขนเสื้อ เพื่อนให้ไปด้วยกัน
เด็กชายวัย 11 ยอมเดินตามไปแต่โดยดี หากแต่สายตานั้น ก็ยังหันมาเหลียวมองเหล่าเจ้าของเสียง กิ๊บ ๆ กิ๋ว ๆ นั้น จนเลี้ยวเข้าประตูบ้านของเอี้ยงเพื่อนนักเรียนหญิง
หลังจากยกมือไหว้สวัสดี ปะป๊า หม่าม้า ของเอี้ยง และลูบหัวทักทายจูเลียซึ่งเป็นหมาพุดเดิ้ลทอยตัวเมียสีขาวราวกะสำลี ลูกรักของเอี้ยงแล้ว เด้กทั้งสองก็เดินขึ้นไปชั้นสองของบ้านตึกแถว จูเลียพยายามจะกระโดดหยอง ๆ ตามขึ้นไปด้วย แต่เอี้ยงปิดประตูกั้นไว้ เพราะเป็นที่รู้กันดีว่า ที่ไหนที่จูเลียอยู่ งานการจะไม่เสร็จ เนื่องจากคุณนายจะวิ่งมางับนิ้วจนไม่เป็นอันได้ทำอะไร
ในห้องนั่งเล่นโอ่โถงของบ้านเอี้ยง ซึ่งปะป๊าหม่าม้าจัดว่ามีฐานะล่ำซำเข้าขั้นคหบดีคนหนึ่งในตัวจังหวัด พี่เลี้ยงยกถาดซึ่งมีจานคุกกี้ และแก้วน้ำหวานสีเขียวใส่น้ำแข็งเย็นฉ่ำ มาวางไว้บนโต๊ะกระจกใสตัวใหญ๋ซึ่งจะกลายเป็นสถานที่ทำรายงานของทั้งสองคน
"อืม หอมจังเลย " เด็กชายดื่มน้ำหวาน เย็นชื่นใจนั้น อึก ๆ เขาชอบกลิ่นน้ำหวานแบบนี้มาก ตอนยังอยู่ชั้นอนุบาลนั้น เขาเคยไปร่วมงานวันเกิดเด็กสาวใกล้บ้าน ชื่อ น้องขิง แม่ตัดเสื้อกั๊ก และผูกหูกระต่ายให้เขาอย่างดี และพวกผู้ใหญ่ก็ล้อกันว่า เขาและเด็กผู้หญิงเจ้าของวันเกิดซึ่งอายุมากกว่าเขาหนึ่งปีนั้น เป็นแฟนกัน ถึงแม้เด็กชายจะคิดว่าน้องขิงน่ารักน่าเอ็นดู แต่สิ่งที่เขาให้ความสนใจมากที่สุด ไม่ใช่เจ้าของวันเกิดในชุดกระโปรงพองฟูสีชมพู แต่กลับเป็นน้ำหวานสีเขียวในโหลแก้ว ที่มีน้ำแข็งลอยหน้าอยู่เต็ม เขาใช้นิ้วชี้ ลากเส้นจากหยดน้ำเปียก ๆ ที่เกาะรายรอบโหลบรรจุน้ำหวานนั้น ให้เป็นรูปร่างอย่างเพลิดเพลิน กลิ่นหอมของน้ำหวาน ซึ่งแม่บอกว่า ชื่อน้ำทิพย์นั้น หอมจรุงใจเหลือเกิน
"ลูกเป็ดพวกนั้น เค้าเอาไว้ขายเหรอ" เด็กชายเอ่ยถามเอี้ยง ซึ่งง่วนอยู่กับการตัดรูปจากแผ่นกระดาษภาพพิมพ์ ยาเสพติดให้โทษ ที่ซื้อมาจากร้านจำหน่ายหนังสือและเครื่องเขียนข้างโรงเรียน
"อือ เดี๋ยวก็มีคนมารับไปน่ะ เป็ดออกมาจากตู้ฟักใหม่ ๆ ไม่ถึงสองวัน ก็ขายหมดแล้วล่ะ" เอี้ยงตอบ
เด็กทั้งสองคนช่วยกันทำรายงาน เรื่องยาเสพติด โดยเอี้ยง ติดภาพ และจ๊ะเอ๋เขียนคำบรรยายใต้ภาพ จนเสร็จ
"เฮ้อ เสร็จซะที" เด็กชายชูมือทั้งสองข้างแหวกขึ้นไปในอากาศ พร้อมบิดตัวไปมา คลายความเมื่อยขบ หลังจากนั่งเขียนข้อความมากว่าสองชั่วโมง
" คุณครูจะให้คะแนนเท่าไรไม่รู้นะ" เด็กหญิงพูดอย่างไม่หวังคำตอบ
"ต้องได้เต็มสิ ระดับไหนแล้ว" เด็กชายตอบ ก่อนจะหัวเราะพร้อม ๆ กันกับเพื่อน
จ๊ะเอ๋ เก็บกระเป๋า และเดินลงมาสวัสดี ลาปะป๊าและหม่าม้า ซึ่งง่วนอยู่กับการต้อนรับลูกค้าที่เข้ามาดูรถมอเตอร์ไซค์
เย็นย่ำอย่างนี้ ยังขายดีไม่เลิก เด็กชายคิดในใจ
"เอี้ยง เราอยากได้ลูกเป็ดน่ะ ช่วยไปเป็นเพื่อนหน่อยสิ" เด็กชายชวนเพื่อน เพราะนึกถึงท่าทีอันไม่เป็นมิตรของหญิงชราเจ้าของร้านแล้ว ก็รู้สึกหวาด ๆ
" อะไรนะ พูดจริงเหรอ จ๊ะเอ๋ เนี่ยนะ จะซื้อลูกเป็ดไปเลี้ยง " เอี้ยงอุทาน แต่ก็ยิ้มให้เพื่อนจนตาหยี
"เดี๋ยวทำลูกเป็ดตาย บาปแย่เลย" เด็กหญิงพูดต่อ
"ไม่ทำให้ตายหรอก สัญญาเลย เราชอบลูกเป็ดน่ะ ตาใส ๆ น่ารักดี ปากมันก็นิด ๆ น่ารัก" จ๊ะเอ๋ตอบ
"งั้นก็ไปกันเลย จูเลียเข้าบ้านไป ไม่ต้องตามมา" เอี้ยงตัดสินใจ และไล่หมาพุดเดิ้ลทอย ลูกสาวของเธอให้กลับเข้าไปในร้าน
"กลัวจูเลียงับลูกเป็ดเหรอ เอี้ยง" จ๊ะเอ๋ถามพลางหัวเราะ
"กลัวอาซิ้มจับไปตุ๋นล่ะไม่ว่า" เอี้ยงตอบหน้าตาย แล้วเด็กทั้งสองก็หัวเราะร่วน
ที่ร้านอาหารสัตว์ คอกตาข่ายใส่เหล่าลูกเป็ดยังคงวางเยื้องออกมาบนทางเท้าหน้าร้านเช่นเดิม เด้กทั้งสองมาหยุดยืนอยู่ตรงคอกตาข่าย พลางสอดส่ายสายตามองหาคนในร้าน อาซิ้มเสียงดุนั้นไม่อยู่ให้เห็นแล้ว ทั่วทั้งร้านนอกจากกลิ่นอาหารสัตว์ และเสียงลูกเป็ดร้องกุ๊บ ๆ กิ๊บ ๆ ก็ไม่มีเสียงอื่นอีก หากไม่นับเสียงรถราที่วิ่งอยู่บนถนน
"ขอโทษค่ะ มาซื้อลูกเป็ดค่ะ" เอี้ยงตะโกน
ผู้ชายวัยกลางคน คนหนึ่งเดินออกมาจากหลังร้าน ผ่านผ้ากั้นสีเทา ตรงช่องประตู ซึ่งอยู่ติดกับโต๊ะทำงาน และด้านล่างเป็นแท่นบูชาเจ้าที่จีนสีแดงออกมา รูปหน้าของลุงคนนี้ดูใจดี แก้มอูม ใส่เสื้อกล้ามสีขาว และกางเกงขาก๊วยสีดำ
" เอากี่ตัวล่ะหนูเอี้ยง " เสียงลุง ซึ่งเด็กชายคิดว่าคงจะเป็นเจ้าของร้าน ถามเอี้ยงด้วยน้ำเสียงเอ็นดู และคุ้นเคย"
" ไม่ใช่หนูหรอกค่ะ คุณอา เพื่อนหนูคนนี้ค่ะ เค้าสนใจจะเลี้ยงเป็ด " เอี้ยงเรียกลุงคนนั้นว่า อา เพราะปะป๊าหม่าม้าของเธอนั้น อายุมากกว่าชายตาหยี ที่ยืนอยู่ตรงหน้า
" เหรอ ดี ๆ ที่บ้านเลี้ยงเป็ดเหรอ " ลุงซึ่งหน้าตายิ้มแย้มนั้น หันมาถามเด็กชาย
"เปล่าครับ ผมอยากจะลองเลี้ยงดู ลูกเป็ดน่ารักดีครับ " เด็กชายตอบ
"อ้าวเหรอ นึกว่าพ่อแม่เลี้ยงอยู่แล้ว จะเอาไป แล้วมีที่ให้เลี้ยงหรือเปล่าล่ะ" ลุงถามต่อ
"มีค่ะ บ้านจ๊ะเอ๋ มีทุ่งหญ้าใหญ่เบ้อเริ่มเลยค่ะ" เอี้ยง ชิงตอบ
ลุงทำหน้าฉงน คิดว่าคงเพราะได้ยินชื่อที่เด็กหญิงเรียกขาน เด็กชายมากกว่าอย่างอื่น แต่ลุงก็แค่ถามว่า
" จะเอาไปกี่ตัวล่ะ 5 ตัวพอมั้ย "
เด้กชายมองเหล่าลูกเป็ดตัวน้อย ที่ใช้จงอยปากเล็ก ๆ ซุกไซร้ขนปีกตัวเองตรงโน้นตรงนี้ บางตัวก็ยกเท้าพังผืดเล็ก ๆ มาเกาที่ข้างหัวเร็ว ๆ อย่างน่าขัน แล้วตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้อไปกี่ตัวดี เนื่องจากไม่ได้แจ้งให้พ่อกับแม่ทราบว่า วันนี้จะเอาสมาชิกใหม่กลับบ้าน
"ตัวเดียวครับ ราคาเท่าไรครับ" เด็กชายตอบ
"ตัวเดียว !" ลุงเจ้าของร้านอุทาน "เดี๋ยวมันเหงาไม่มีคู่นะ" ลุงพูดต่อ
"ผมไม่รู้ว่าจะเลี้ยงรอดหรือเปล่า ขอเอาไปแค่ตัวเดียวก่อนครับ" เด็กชายตอบ
"ช่ายยย แต่ยังไงก็อย่าทำให้ตายล่ะ จ๊ะเอ๋ สงสารมัน" เอี้ยงพูดขึ้น
"ราคาเท่าไรครับ ลุง" เด็กชายถามราคาอีกครั้ง
" 5 บาท" ลุงเจ้าของร้านตอบ
ลูกเป็ดตัวหนึ่ง 5 บาทเองเหรอ ถูกจังเลย เด็กชายคิด เขามีเงินติดตัวอยู่ 8 บาท จึงหยิบเหรียญห้าให้ลุงไป
"จะเอาตัวไหนล่ะ เลือกเอาเลย" ลุงบอก
"จับได้ใช่ไหมครับ ลูกเป็ดไม่เฉาตายนะ" เด็กชายถามย้ำเพื่อความแน่ใจ
"โอ๊ย ไม่ตายง่ายอย่างนั้นหรอก ไม่ได้จับทั้งวันไม่ใช่เหรอ" ลุงพูด
"เอาตัวไหนดีล่ะครับ เอี้ยงว่าไง" เด็กชายถามลุงเจ้าของร้าน และหันไปถามความเห็นเพื่อน
"ก็เลือกตัวที่แข็งแรงที่สุดน่ะ มันจะได้ทน ๆ " ลุงตอบ
"หม่าม้าบอกว่า ถ้าเลือกลูกหมา ให้เอาตัวที่วิ่งมาหาเรา แต่กับลูกเป็ด เอี้ยงไม่รู้" เด็กหญิงบอก
ลุงเจ้าของร้านหัวเราะเสียงดัง ขำที่เอี้ยงพูด
เด็กชายทรุดลงนั่งยอง ๆ หน้าคอกลูกเป็ด มองไปรอบ ๆ สังเกตลูกเป็ดทุกตัว สีเหลือง สลับน้าตาลเข้ม ของขนเหล่าลูกเป็ด ขยับไหว ๆ ยามเจ้าของเดินไปทางโน้นทางนี้ จงอยปากแบนเล็ก สีดำเงานั้น ส่งเสียงกิ๊บ ๆ ไม่ขาดระยะ เด็กชายตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกลูกเป็ดตัวไหน คิดอยู่นาน จนเกรงใจลุงเจ้าของร้านและเพื่อน ซึ่งยืนรออยู่ ในที่สุดเด็กชายก็ยื่นมือไปเหนือเหล่าลูกเป็ด และมีลูกเป็ดตัวหนึ่งยื่นจงอยปากมาเล็มนิ้วของเขาเบา ๆ และเมื่อเขาหดมือกลับมา ลูกเป็ดตัวนั้นก็พยายามจะแทรกเพื่อน ๆ ในคอก ตามมือเขามาด้วย
"ผมเอาตัวนี้ครับ" เด็กชายจับลูกเป็ดตาแป๋วขึ้นมาจากคอกตาข่าย เจ้าเป็ดตัวเล็กไม่ได้ดิ้นขัดขืนแม้แต่น้อย ลุงรับเป็ดไปจากเขา และเอาไปใส่ถุงกระดาษสีน้ำตาล ซึ่งเจาะรูไว้ให้หายใจ
ก่อนจะบอกให้เขาซื้ออาหารลูกเป็ดไปด้วย กิโลกรัมละ 7 บาท แต่เด็กชายเงินไม่พอ เอี้ยงจึงให้ยืมมาก่อน
"เลี้ยงให้ดี ๆ นะจ๊ะเอ๋ ตัวผู้หรือตัวเมียก็ไม่รู้ " เอี้ยงบอก ขณะที่เดินมาส่งเพื่อนที่ท่ารถสองแถว
"เออ นั่นสิ แต่ช่างเถอะ จะตัวผู้หรือตัวเมียก็ไม่สำคัญมั้ง " เด็กชายตอบ
โบกมือลาเอี้ยงขณะ รถค่อย ๆ เคลื่อนออกจากท่า
เด็กชายคิดในใจว่า จะบอกพ่อกับแม่ว่าอย่างไรดี ที่วันนี้มีลูกเป็ดกลับไปบ้านด้วย เขาเปิดปากถุงมองดูลูกเป็ดข้างใน เจ้าเป็ดน้อยอายุไม่กี่วัน ยกหัวขึ้นมาจ้องตอบ และร้องกิ๊บ ๆ เบา ๆ
ชื่ออะไรดีนะ เจ้าลูกเป็ด ร้องกิ๊บ ๆ ทั้งวัน ชื่อ "กิ๊บ" ละกันนะ เด็กชายคิด
รถสองแถววิ่งไปเรื่อย ๆ ตามถนนสู่บ้านของเขา..............................................
จากคุณ :
คะนัย
- [
20 มี.ค. 49 22:50:31
A:88.72.209.87 X: TicketID:012086
]