CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    เรื่องเล่าจากชายแปลกหน้า

    “น้องครับ” เสียงใครคนหนึ่งดังมาจากด้านหลังของผมแต่ผมไม่ได้สนใจ สายตาของผมยังคงจับจ้องอยู่ที่ผู้หญิงวัยรุ่นที่เดินจูงเด็กผู้ชายวัยไม่น่าจะเกินสามขวบเข้ามาซื้อขนมในร้านกาแฟที่ผมนั่งจ่อมอยู่

    ผมไม่รู้จักเธอมาก่อน แต่นับจากที่ผมได้เห็นเธอครั้งแรกผมก็เฝ้าลอบมองเธอมาตลอด

    เธอเป็นผู้หญิงที่สวยมากครับ สวยมากจนผมเผลอใจไปหลงรักเธอ

    “น้องครับ” เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อเธอจูงเด็กชายตัวน้อยเดินออกไปจากร้าน

    เท่าที่ผมนึกภาพออก ตั้งแต่เดินเข้ามาในร้าน สั่งโอเลี้ยงแล้วหย่อนก้นนั่งบนเก้าอี้หัวโล้น ทั้งร้านก็มีเพียงผม ผู้ชายอีกคนนั่งอยู่ด้านในสุด แล้วก็โกเส็งเจ้าของร้าน
    ความสงสัยทำให้ผมต้องหันไปมอง

    “น้อง... น้องนั่นแหละ” เขาชี้มือมาที่ผม

    ผมเหลียวไปสบตาขอความเห็นจากโกเส็ง แกพยักหน้ารับ ทำให้ผมมั่นใจว่า ผู้ชายอีกคนที่นั่งจิบชาเย็นอยู่ด้านในสุดของร้าน ตั้งใจเรียกผม

    “พี่เรียกผมเหรอครับ” ผมถามย้ำอีกครั้ง

    เขาพยักหน้าแล้วเอ่ยขอมานั่งร่วมโต๊ะเดียวกับผม ผมรู้สึกอึดอัดแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ เขาจึงย้ายมานั่งเก้าอี้ด้านตรงข้างกับผม พร้อมกับเปิดฉากการสนทนา

    “น้องไม่ต้องตกใจนะ คืออย่างนี้พี่สังเกตเห็นมาหลายครั้งแล้วว่าน้องชอบแอบมองผู้หญิงคนที่เดินเข้ามาซื้อของในร้านเมื่อกี้ พี่ถามน้องจริงๆนะ น้องชอบเธอหรือเปล่า”

    ผมไม่ได้ตอบคำถามของเขา แต่ผมถามเขากลับไปว่า “พี่ถามทำไมครับ”

    เขาหยุดนิ่งจ้องมองหน้าผมชั่วครู่ ก่อนจะเริ่มต้นสนทนาอีกครั้ง

    “น้องเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ใช่ไหมครับ”

    “เปล่าครับ ผมอยู่ถัดไปอีกสองสามซอย แต่ชอบมาดื่มกาแฟที่นี่ครับ” ใครจะไปบอกความจริงกับคนแปลกหน้าใช่ไหมครับ ที่จริงน่ะผมย้ายมาเช่าห้องอยู่หน้าปากซอยได้สักพักแล้ว

    เขานิ่งไปอีกหลายอึดใจ คล้ายเขาจะรู้ว่าผมกำลังโกหกเขาอยู่ แต่ผมไม่สนใจหรอก

    “พี่ก็ชอบบรรยากาศร้านกาแฟที่นี่เหมือนกันครับ มันอบอุ่นดี ลูกค้าส่วนมากจะรู้จักกัน มีหมากกระดานให้เล่น มีเรื่องอะไรก็เอามาพูดคุยกันได้ที่นี่ ไล่ตั้งแต่ การเมือง เศรษฐกิจ ไปจนถึงเรื่องในมุ้ง ข้อดีอีกอย่างสำหรับสมาชิกถาวรของที่นี่คือเราสามารถดื่มก่อนจ่ายทีหลังได้ ต่างจากคอฟฟี่คาเฟ่ต์ต่างชาติที่ผุดขึ้นไปทั่วเมือง” เขาหันไปยิ้มกับโกเส็งแล้วสั่งชาเย็นอีกแก้ว แล้วจึงหันมาถามผมว่าจะดื่มอะไร

    การได้พูดคุยกับคนแถวนี้บ้างมันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร ผมจึงสั่งโอเลี้ยงอีกแก้ว ไหนๆวันนี้ผมก็ไม่ได้มีธุระต้องไปทำอะไรอยู่แล้ว

    “มันก็อย่างนี้แหละครับพี่ ทุนนิยม เราถูกยึดหัวหาดไปโดยที่เราไม่รู้ตัว แต่ช่างมันเถอะ...เอ่อ พี่ครับ...ทำไมอยู่ดีๆพี่ถึงมาถามว่าผมชอบผู้หญิงคนเมื่อกี้ล่ะครับ” ผมชักอยากรู้แล้วว่าเขามีจุดประสงค์อะไร

    “ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ คือถ้าน้องชอบเธอ พี่ก็อยากจะเล่าเรื่องราวของเธอให้น้องฟัง น้องพอจะมีเวลาไหมล่ะ”

    เขาจะมาไม้ไหนของเขานะ ความอยากรู้ของผมมันทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ

    “วันนี้ผมว่างทั้งวันครับ” ให้โอกาสเขาได้เล่าเสียหน่อย เผื่อจะมีประโยชน์อะไรกับผมบ้าง

    “น้องรู้หรือยังว่าเธอชื่ออะไร” ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ แล้วเริ่มเอ่ยถาม

    “พี่รู้จักเธอมานานแล้วเหรอ” เขาไม่ได้ตอบ...

    เขายกชาเย็นขึ้นจิบอีกครั้ง สายตาเหม่อมองออกไปไกลจนสุดหยั่ง ผมไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไร หากให้เดา ผมว่าเขาคงกำลังระดับเหตุการณ์เรื่องราวของเธอ เพื่อเรียบเรียงก่อนจะเล่าให้ผมฟัง

    เขายกชาขึ้นจิบอึกใหญ่อีกครั้ง เมื่อก้นแก้วทรงสูงสัมผัสกับพื้นโต๊ะไม้ เขาจึงเริ่มเล่าเรื่อง

    “เธอชื่อดาริกา คนแถวนี้เรียกชื่อเธอสั้นๆว่า ‘ดา’ อายุก็ยี่สิบกว่าแล้ว เด็กชายตัวเล็กๆที่ดาเดินจูงมาซื้อขนมเมื่อสักครู่เป็นลูกชายของเธออายุย่างสามขวบได้แล้ว”

    “ลูก!! เธอมีลูกแล้วเหรอครับ แล้วสามีของเธอ…” ผมถามแทรกขึ้นมา

    “สามีเธอตายไปแล้วเมื่อปีกลายครับ” เขาตอบคำถาม แล้วเล่าเรื่องต่อ

    “ดาย้ายตามแม่มาอยู่ที่นี่กับสามีใหม่ของแม่ แม่ของดาเป็นพนักงานทำความสะอาดให้กับโรงแรมใกล้ๆแถวนี้ ส่วนพ่อเลี้ยงเป็นคนขับรถแท็กซี่ โชคร้ายที่ไม่นานแม่ของดาก็ตายจากไป ดาไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน พ่อแท้ๆของดาเองก็ทิ้งเธอไปนาน จนดาเองก็ไม่รู้ว่าจะไปติดตามได้จากที่ไหน เธอจึงต้องอยู่ภายใต้การปกครองของพ่อเลี้ยง”

    “แล้วพี่รู้จักเธอมานานแล้วเหรอครับ” ผมถามแทรกซ้ำอีกครั้ง

    “นานแล้วครับ จำได้ว่าครั้งแรกที่พบดา ผมนั่งจิบกาแฟอยู่ในร้านโกเส็งนี่แหละครับ แล้วเธอก็ยืนตัวสั่นอยู่ที่ราวสะพานข้ามคลองเล็กๆนั่น…” เขาชี้มือไปที่สะพานไม้ให้ผมมองตาม สะพานนั้นอยู่ไกลจากร้านกาแฟโกเส็งไม่เกินสิบห้าก้าว สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากร้านโกเส็ง เป็นสะพานเดียวที่ชาวชุมชนแห่งนี้ใช้เป็นทางเข้าออก

    “...ดากำลังจะปีนราวสะพานเพื่อกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย น้องคิดดูสิครับตอนนั้นเธออายุไม่น่าจะเกินสิบแปด เด็กขนาดนั้นทำไมถึงคิดฆ่าตัวตายได้ พี่เข้าไปห้าม พยายามเกลี้ยกล่อมจนเธอไว้ใจ เมื่อเธอสงบลงพี่จึงพาเธอมานั่งที่ร้านโกเส็ง สั่งนมเย็นให้เธอแก้วนึง พี่กับดานั่งปรับทุกข์กันที่โต๊ะตัวเดียวกับที่เรานั่งอยู่นี่แหละ หลังจากนั้นเป็นต้นมาพี่กับดาก็เริ่มสนิทกัน นับจากวันนั้นจนถึงตอนนี้พี่กับดาก็รู้จักสนิทสนมกันมาได้สามสี่ปีแล้วครับ...”

    “เธอเคยจะฆ่าตัวตายด้วยเหรอครับ ทำไมล่ะครับ” ผมได้จังหวะถาม ก็ตอนที่เขายกแก้วชาขึ้นจิบ

    “คนแถวนี้เขารู้ทั้งนั้นแหละครับว่าเพราะอะไร แต่ความจริงที่แท้มีผมคนเดียวเท่านั้นที่รู้...หลังจากที่แม่ของดาตายไป เธอเองไม่มีที่ไป จึงจำต้องอยู่กับพ่อเลี้ยงคนขับรถแท็กซี่ แล้วเรื่องราวก็ตรงตามสูตรพ่อเลี้ยงลูกเลี้ยงนั่นแหละครับ คนที่นี่เชื่อว่าดาถูกพ่อเลี้ยงข่มขืน หลายกระแสบอกกันว่า พ่อเลี้ยงของดาเอาเธอทำเมียเพื่อทดแทนแม่ของเธอที่จากไป แต่ความเป็นจริงมันไม่เป็นอย่างนั้นครับ

    ที่จริงแล้วดาไม่เคยเสียตัวให้พ่อเลี้ยงเลยแม้แต่ครั้งเดียว ดาไม่เคยตกเป็นเมียของพ่อเลี้ยงแทนแม่ แต่อย่าคิดนะครับว่าพ่อเลี้ยงของดาเป็นคนดี ก็อย่างที่พี่บอกสูตรพ่อเลี้ยงลูกเลี้ยงมันเป็นยังไงมันก็ยังคงเป็นอย่างนั้น เพียงแต่ดายังโชคดีอยู่บ้างก็ตรงที่ พ่อเลี้ยงของเธอสมรรถภาพทางเพศเสื่อม แต่ในความโชคดีของดาก็ยังถูกห่อหุ้มด้วยเคราะห์กรรม เมื่อไรที่พ่อเลี้ยงของดามีความต้องการทางเพศ ดาจะถูกลูบไล้ลวนลามได้แต่เพียงภายนอก เมื่อถึงเวลาสำคัญแต่อวัยวะสำคัญไม่ทำงาน ดาจะถูกทำร้ายทุบตีด้วยความเกรี้ยวกราด เป็นน้อง น้องทนไหวไหม”

    ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ

    “นั่นสินะ แล้วเด็กสาวอย่างดาจะทนไหวได้อย่างไร ถ้าวันนั้นพี่ไม่เห็นว่าดากำลังจะกระโดดสะพานฆ่าตัวตาย วันนี้น้องคงไม่ได้มาแอบมองเธออยู่บ่อยๆหรอก จริงไหม…”

    “แล้วเรื่องสามีของเธอล่ะครับ ทำไมพ่อเลี้ยงของเธอถึงยอมให้เธอแต่งงาน” ผมชักอยากรู้เรื่องของเธอมากกว่านี้แล้วสิ

    “เธอไม่ได้แต่งงานหรอกครับ เมื่อเธอทนไม่ไหวก็หนีไปอยู่กับเฮียตงเจ้าของเขียงหมูในตลาด เฮียตงแกแก่แล้ว ไม่มีลูกเมียก็ตายไปก่อน แรกๆพ่อเลี้ยงของดาก็ตามไปโวยวายจะเอาดากลับไปอยู่บ้านให้ได้เหมือนกัน แต่เฮียตงแกก็พอมีอิทธิพลอยู่บ้าง เมื่อพ่อเลี้ยงของดารุกล้ำมากเกินไป ไม่นานพ่อเลี้ยงของดาก็ถูกรุมซ้อมจนต้องเข้าโรงพยาบาล ไม่รู้ว่าเพราะเฮียตงสั่งหรือเปล่า แต่นับจากนั้นพ่อเลี้ยงของดาก็ไม่มายุ่งอีกเลย...”

    “เธออยู่กับเฮียตงได้กี่ปีครับ” ผมถามต่อ
    “สามปีได้ครับ”
    “แล้วทำไมสามีของเธอจึงเสียชีวิตล่ะครับ”

    เขาหันไปมองหาโกเส็งที่ขณะนี้กำลังนั่งโขลกหมากรุกกับลูกค้าอีกรายทางด้านหน้าร้าน เมื่อเห็นว่าโกเส็งไม่ได้ใส่ใจฟัง เขาจึงตอบคำถาม

    “เห็นว่า ถูกไฟช็อตน่ะครับ เข้าใจว่าเฮียตงแกจะอาบน้ำอุ่น แล้วเกิดกระแสไฟฟ้ารั่ว…แต่คนที่นี่เขาคิดกันว่าดาเป็นคนฆ่าเฮียตง เพื่อหวังสมบัติ…”

    “แต่เดี๋ยวนะพี่ครับ ผมมีข้อสงสัยอยู่เรื่องนึง พี่ว่าดาอยู่กินกับเฮียตงได้สามปีใช่ไหมครับ แล้วเด็กผู้ชายที่เป็นลูกของดาก็อายุย่างเข้าสามขวบ...” ผมหยุดพูดเพราะเขาไม่ได้ฟังคำถามผมเลย ปากยังคงพร่ำเล่าเรื่องราวของดา

    “...พี่อยากจะบอกให้ทุกคนเข้าใจดานะ ว่าดาไม่ใช่คนที่ฆ่าใครได้ เธอเป็นคนจิตใจดี เธอเองก็เสียใจหากวันนั้นเธออยู่บ้าน อยู่กับเฮียตงเธอคงช่วยชีวิตเฮียตงได้ทัน เฮียตงก็คงไม่ตาย นี่ก็ผ่านมาเป็นปีแล้วดายังไม่เลิกโทษตัวเองเลย เวลาปีกว่าที่ผู้หญิงตัวเล็กๆต้องดูแลลูก ดูแลกิจการเขียงหมูแทนเฮียตง มันหนักหนาสาหัสมาก มากจนเกินพอแล้ว วันนี้พี่กล้า กล้าจะบอกทุกคนแต่พี่เลือกที่จะบอกน้องเป็นคนแรก คืนนั้นดาอยู่กับพี่จนเช้า แล้วดาจะไปฆ่าเฮียตงได้ยังไง น้องครับพี่สังเกตมาหลายวันแล้วว่าน้องเฝ้าแอบมองดามาโดยตลอด พี่ขอร้องนะครับเลิกยุ่งกับเมียพี่ ถ้าพูดไม่เชื่อพี่จะให้น้องเจอกับสิ่งที่พ่อเลี้ยงของดาเจอจนต้องเข้าไปหยอดข้าวต้มที่โรงพยาบาล...”

    แล้วเขาก็ลุกพรวดเดินไปหาโกเส็ง

    ผมไม่รู้ทั้งสองคนพูดอะไรกัน เพราะตอนนี้ผมหูอื้อตาลายไปหมดแล้ว...

    จากคุณ : parchya - [ 23 มี.ค. 49 16:21:45 A:203.155.175.57 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป