CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ๐ คิมหันตกาล ๐

    เอ้า
    รวมเล่ม

    ๑. ลมคิมหันต์รุมร้อนเข้าย้อนอก
    จนสุดยกย่างหนีหลบลี้หาย
    แต่ปั้นปึ่งเนตรค้อนลอบย้อนชาย
    ร้อนยิ่งฉายโชนช่วง...เกินหน่วงแล้ว

    ๒. เข้มครามหมู่เมฆขาวใต้ราวฟ้า
    สกุณาส่งเสียงอยู่เพียงแผ่ว
    ลำตะวันสาดสรวงทุกช่วงแนว
    ส่งพราวแพรวโลมอาบทุกบาปบุญ

    ๓. เพียงครั้งคราวห้วงฝันชีวันหนึ่ง
    ความตราตรึงบรรจบแสนอบอุ่น
    กระแสธารเสน่หาได้การุญ
    เอื้อละมุนละไมหวาน...วาบผ่านใจ

    ๔. จึงครั้งนั้นไพจิตรนิมิตช่วง
    โลกทั้งปวงปรากฏความสดใส
    ถ้วนรสหวานกลิ่นหอมพะยอมใด
    เหมือนหลั่งให้อบร่ำทุกค่ำคืน

    ๕. ดาวจะเลื่อนเดือนจะลับไม่รับรู้
    เหลือเพียงผู้คะนึงหาเกินฝ่าฝืน
    โชติหมายอย่างแจ่มชัดทุกหยัดยืน
    จนยากกลืนกลบละมุนอบอุ่นนั้น

    ๖. เพียงคราวครั้งตรึงติดในจิตหนึ่ง
    ความคิดถึงบีบใจจนไหวหวั่น
    คมอาวรณ์เสียดชีพคอยบีบคั้น
    เกินบากบั่นก้าวถอยจากรอยกรรม

    ๗. คือร่องรอยบริบทความสดชื่น
    มีรมย์รื่นขื่นครบให้อบร่ำ
    มีมดเท็จเจ็บแสบคอยแอบอำ
    มีสูงต่ำคุณค่า ในท่าที

    ๘. หวานเอยหวาน...ชายตอบอีกรอบแล้ว
    ส่งพร่างแพร้วเอ่อกมลแทบล้นปรี่
    กลบอดีตกลืนยุคเคยคลุกคลี
    จนหมดที่หมดทาง....ระหว่างกัน

    ๙. ร้อยเป็นห่วงผ่านลมที่บ่มพัด
    หวังเลาะรัดบ่มยิ้มกลางคิมหันต์
    งามเจ้าเหมือนแรงหน่วงจากช่วงบรรพ์
    ให้มุ่งมั่นแต่เห็น...ไม่เว้นวาย

    ๑๐. เหมือนยูงงามรอแอ่นรำแพนหาง
    เห็นเยื้องย่างแต่ไกลแล้วใจหาย
    แววขนย่อมเหลื่อมค่าสู่ตาชาย
    สูงส่งในความหมาย...จนคล้ายไกล

    ๑๑. แต่เวียนอยู่ไม่ยั้งสักครั้งคิด
    จักมีสิทธิ์ถวิลหา...ก็หาไม่
    เวียนครุ่นครวญก่อเกื้อสานเยื่อใย
    น้อยใจ..ใจ..เหนี่ยวรั้ง..ไม่ฟังกัน

    ๑๒. มาปองงามทรามสวาดิในชาตินี้
    ควรหรือที่ฝ่าข้ามไปตามฝัน
    หิ่งห้อยหรืออาจแข่งกับแสงจันทร์
    กี่ช่วงชั้นเล่าจะบินถึงถิ่นฟ้า

    ๑๓. เหมือนวับวาวรุ่งมณีเหลื่อมสีพร้อย
    ประดับรอยเนตรชวนคร่ำครวญหา
    ครั้ง...อัปสรล่อแก้วผ่านแววตา
    ให้ต้องตนยักษาจนอาวรณ์

    ๑๔. จนสิ้นแรงร่วงร่างระหว่างสรรพ
    ยังระยับเนตรผกายเกินถ่ายถอน
    จะไล่โลมโฉมล้ำกลางอัมพร
    ยังเกรงร้อนฤทธีมณีพราย

    ๑๕. แต่นิลเนตรหนึ่งส่องมาต้องพี่
    ยิ่งมณีอัปสรนั้นชอนฉาย
    ส่งวาววับสดใสจับใจชาย
    ชีพก็หมายยอมแล่งด้วยแสงนิล

    ๑๖. พินิจหน้านวลหนึ่งด้วยซึ้งซาบ
    หรือบุญบาปภพใดยังไม่สิ้น
    จึงตราเป็นเลศกลรอยมลทิน
    ให้เดือดดิ้นปฏิพัทธ์สุดทัดทาน

    ๑๗. แต่เฝ้าชมสมโฉมประโลมเนตร
    สร้างเงื่อนเหตุ/งดงาม/หอม/หวาม/หวาน
    ร้อยเรื่องราวในฝันแห่งวันวาร
    ได้เอ่อซ่านเอิบสายเริ่มว่ายวน

    ๑๘. แม่ดั่งดวงดาราทิพามาศ
    เลื่อนลีลาศวับวาวทั่วหาวหน
    ท่ามคืนแรมจันทร์ล้าลับสากล
    เอื้อสรวงบนระยิบตาทั้งราตรี

    ๑๙. มอบสดใสส่องงามอยู่ท่ามพื้น
    ให้ตามตื่นแห่หาเฝ้าราศี
    ชวาลาช่วงยามย่อมงามดี
    ด้วยไร้แรงฤทธีสุรียัน

    ๒๐. เชิญโฉมเลื่อนเงาเงื้อมให้เอื้อมถึง
    จักเหนี่ยวดึงโอบต้องประคองขวัญ
    ฟังหัวใจกระซิบคำที่รำพัน
    ว่าจักมั่นเคียงคู่ไม่รู้คลาย.

    แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 49 08:04:10

    แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 49 05:39:10

     
     

    จากคุณ : สดายุ... - [ 24 มี.ค. 49 12:56:13 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป