ความคิดเห็นที่ 1 ๏๏สุรีย์แดงดับด้าว   ฉานฉาย๏๏ช้างประสานงา ๏สุรีย์แดงดับด้าว         ฉานฉาย ชื่นฉ่ำงามพริ้งพราย    ค่ำแล้ว คืนร้องร่ายบรรยาย       กลบท แก้วบ่งแสงสาดแพร้ว   พร่างฟ้าดวงมณี๚ ๏กำแพงเขาขุ่นข้น          กีกขวาง ก่อขนานผืนน้ำจาง      จากฟ้า จิตฝันฟากรักนาง        ต่างภพ ตนพ่ายแพ้อกอ้า    เอ่ยเอื้อนฉันใด๚ ๏สุรียงค์ค่ำแล้ว       จูบเขา จำข่มใจตัวเรา        ผ่านพ้น ผิวผืนน้ำเลือดเอา   จากอก จำอดทนรักท้น      ทรวงนี้จวบวาย๚ แก้ไขเมื่อ 30 มี.ค. 49 00:27:02 แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 49 06:59:58 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 28 มี.ค. 49 22:36:43 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ++++ ฟัง (อักษรสลับ) +++ ๏ คำกลคนกุเค้า.................กล่าวความ ตรองเถิดตรึกถ้วนตาม.........ถูกต้อง ถ้าไขทุกข้อถาม.................คือถูก ความชัดควรใช่ข้อง.............เช่นคล้ายเฉคำ ฯ ๏ จงนำจิตนึกแจ้ง...............ไหนจริง สางเปลือกสางปมสิง...........แปลกสร้าง อันที่อรรถแท้อิง................ถ้าเอ่ย ใครถกความแท้ข้าง............ทุกข้อทนไข ๚๛ ๒๘ มีนาคม ๒๕๔๙ ====================================== แว้ก...... ทั่นจันทร์(แห้ง) พาเล่นของยาก ง่าเหงื่อตกเลย กว่าจะเขียนโคลงมาร่วมสนุกได้ วฤก นำกลบทอักษรสลับ มาร่วมรายการ ครับผม จากคุณ : วฤก - [ 28 มี.ค. 49 23:42:49 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ง่า ช่วงนี้ไม่ค่อยได้แต่งโคลงเลย ยิ่งโคลงกลยิ่งม่ายหวาย เอาฉันท์ภาคแก้มาแปะนะครับ +++ ตรีมูรติ +++ - ๑ - โอมพรหมพาหนะหงส์สวาหนะจรัล ก่อโลก ณ ปางบรร             -พกาล บรรทมหลับนยนาบ่ปรารมภปาน ลูกฟักสลักบาน                 ประตู เถิดเชิญนารทะเผอียงพระพักตร์จตุรดู โศกโลกสิอดสู                  ประดับ รานร้อนแรงระอุร้ายกระจายพิพิธนับ อาวุธประดาสรรพ              แสดง ซากเกลื่อนกล่นธรณีกลีกลแสยง โอ้มวลมนุษย์แรง              อุบาทว์ แม้นสรวงส่งจุติศาสดาดำริประกาศ มันแปลงแถลงพาทย์          พระองค์ เหลือทนทานกลมารจะรานประลุประสงค์ ปวงข้าจะบรรจง                 ผคม เถิดเชิญจาตุรหัตถ์ประดิษฐ์ประจุประสม โองการวโรดม                  วิจารณ์ ปวงข้ายอมสละชีพ ณ เบื้องปจุปกาล หวังโลกสิยืนนาน              พระธรรม โลกใหม่อันสิริทางสว่างสจจะนำ ขอทูลพระทัยทำ              ประโยชน์เทอญ - ๒ - โอมนารายณะกัลกยาจะอวตาร อาชาเศวตชาญ             ประลัย ล้างมวลมาระอสูรพิบูลย์สุรวิสัย ฤทธามโนมัย               วินาศ ธรรมาธรรมะประจญประจัญพยุหบาท กลศรประลัยวาต          จะแผลง แตรสังข์ศึกจะประโคมคระโหมกิติแสดง โลกหล้ากระทบแรง       พิบัติ ซ้องแซ่สรรพะสถานพิการอสุภสัตว์ ซากศพกระจายจัด        สถล สิ้นแล้วโลกยมูลตระกูลพิภพคน กัลกีสิบันดล                กิดา ล้างโลกล่มพระสิเนรุราชคิริมหา สี่ทิศทวีปครา               สลาย เลือดโลมผืนพระสมุทรบ่หยุดชลระบาย น้ำตาประโปรยปราย      พิรุณ สงครามกัลกยผลาญประหารอสุรจุณ ไรหนอจะการุณ            อุบัติ ฤาสงครามปะทุลาม ณ โลกกิริยวัตน์ นี่แจ้งพระทัยชัด           บ่แล? - ๓ - โอมขุนโคศิวนาฏราชวิวิธวรรณ จอมเทวราชัน              อมร จับร่ายจังหวะระบำประจำพิภพจร ฟ้อนส่ายถวายพร         พระพุทธ ลาสิ้นกรรมทิฐิหมดพยศกลพิสุทธิ์ แสงธรรมประกายผุด     ณ ใจ ดนตรีทิพยะพาทย์สินาทกิรพิสัย ดาลดับกระลับไป          สงบ จึ่งแจ้งน้อมศิรกายมโนวจนครบ บัดนี้สิมาพบ                พระธรรม ตนถือกาละปวารณาปฐมะกรรม พร้อมศักติตนนำ          อุมา นบเอกองคอุดมดิเรกภควตา สัมพุทธสัมมา             นิรันดร์ ตราบผ้าทิพยล้างมลายพระคิริกัลป์ ตรีเนตรผจงหัน            ประลัย โอยามนี้บ่มิถึงกำหนดศิวะวิสัย นารายณ์มิครรไล         ณ กาล เทพอารักขพระศาสนาสละวิหาร แรมโลกพระธรรมลาญ  ล่ะหรือ? จากคุณ : โกฏิดารา - [ 29 มี.ค. 49 00:10:06 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สวัสดีครับน้าจันทร์ฯ และทุกท่าน กระทู้นี่เรียกเหงื่อได้ดีจริงๆ ฮับ         ขอเอาตัวอย่างของ คุณหมอ วฤก         ที่เขียนไว้มาแปะเป็นตัวอย่างเพิ่มจากของครูหนอนครับ         เซฟเก็บไว้นานแล้ว ฮี่ๆๆๆ ขออนุญาต นะครับ         ๑ - อักษรสลับ         ๏ ลัดทางเลาะเที่ยวเลี้ยว.......................เทียวลอง         มวลพฤกษ์มากพันธุ์มอง........................แผกไม้         ปานสรวงปลูกสวนปอง..........................สรรค์ป่า         เกินค่ากว่าใครใกล้...............................คิดกล้าคว้ากุม ๚         ๒ – กินนรเก็บบัว         ๏ พรรณพุ่มแผ่พุ่มซุ้ม..........................สานใบ         เพลาแดดแผดแดดไอ.........................อบร้อน         ราวร่มห่มร่มใจ....................................จิตอุ่น         ล้างขุ่นเลือนขุ่นข้อน.............................ขัดข้องครองหมอง ๚         ๓ – วัวพันหลัก         ๏ สองพันธุ์วัลย์เกี่ยวเกี้ยว.....................กอดพัน         พันสอดลอดลัดกัน.................................เกาะคล้อง         คล้องเคียงบ่เบี่ยงผัน.............................ผละห่าง         ห่างแต่เรียมร้างน้อง.............................นั่งเศร้าโศกศัลย์ ๚         ๔ - ครอบจักรวาล         ๏ บัวผันเบือนผ่านร้าง..........................หรือบัว         เร้นวกอกเรียมกลัว..............................กลบเร้น         ห่างหันบ่พันพัว.....................................ผันห่าง         หมางอย่างบัวแค้นเค้น..........................ขุ่นคล้ายระคายหมาง ๚         ๕ - อักษรล้วน         ๏ คูนคางแคข่อยค้อ..............................ขึ้นเคียง         พรรณพฤกษ์แผ่พ้องเพียง....................เพื่อนพร้อม         แล้วเราเล่าร้างเรียง.............................รักร่วม         นานเหนื่อยเนือยนึกน้อม.....................แน่น้องหน่ายหนี ๚         ๖ - นาคบริพันธ์         ๏ สารภีคลี่กลีบแย้ม............................ยั่วใจ         ยั่วจิตอยากสนิทใน.............................นิ่มเนื้อ         นิ่มนวลอย่ายวนใคร...........................เขาเกี่ยว         เขาก่ายหน่ายเรียมเรื้อ.......................รักร้างระคางหมอง ๚         ๗ - ช้างประสานงา         ๏ บัวตองบานตาบพื้น.........................แผ่นดิน         ภาพดุจพิสุทธิ์ศิลป์..............................เสกสร้าง         ใสสุกส่องโศภิน.................................สุพรรณผ่อง         สะพรั่งแผ่พรรณผายกว้าง..................ก่องแม้นมาศฉาย ๚         ๘ – โตเล่นหาง         ๏ เมลืองพรายฉายเรื่อเนื้อ................เนียนนวล         เนื้อผ่องมองยวนชวน........................ชื่นลิ้ม         บัวตองผ่องผวนหวน..........................เห็นนิ่ม.......เนื้อนอ         นึกป่วนจวนปริ่มปิ้ม..........................ปั่นปั้นกระสันถึง ๚         ๙ - บุษบารักร้อย         ๏ พลับพลึงพร่ำพร่ำเพ้อ....................เพลงครวญ         เพลงร่ำไห้ไห้หวน............................หู่เศร้า         เสียใจใคร่ใคร่ทวน..........................ทบกลับ         คืนรับขวัญขวัญเจ้า...........................จักฟื้นคืนสนาน ๚         ๑๐ - ก้านต่อดอก         ๏ จารสาส์นกานท์กล่าวร้อย...............เรียงเสียง         คำพร่ำรำพันเพียง............................พี่ชี้         ในใจใคร่ไขเมียง.............................มองส่อง         เห็นเช่นจริงสิ่งลี้................................รักแท้เฉลยเผย ๚๛         เลือกแบบได้ตามชอบนะครับ         ของผมขอไปคิดก่อน นานๆ ฮี่ๆๆๆๆ         เซ่อ... น้อมบันทึก -------------------------------------------------------------------------------- จากคุณ : xers - [ 29 มี.ค. 49 00:36:32 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อันโคลงกลบทนั้น                จำนน ยังบ่ได้ฝึกฝน                       ค่ำเช้า คืนก่อนก็นอนกรน                 จนสว่าง เชิญท่านจันทร์แห้งเฝ้า            คิดค้นคำคม แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 49 06:37:19 จากคุณ : เจียวต้าย - [ 29 มี.ค. 49 06:36:06 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อรุณสวัสดิ์ขอรับ......ทั่นพี่ๆและน้องรักทุกคน ขอน้อมร่วมสนุกกลับพี่วฤกด้วยขอรับ ++++ ฟัง (อักษรสลับ) +++ ๏ คำกลคนกุเค้า.................กล่าวความ ตรองเถิดตรึกถ้วนตาม.........ถูกต้อง ถ้าไขทุกข้อถาม.................คือถูก ความชัดควรใช่ข้อง.............เช่นคล้ายเฉคำ ฯ ๏ จงนำจิตนึกแจ้ง...............ไหนจริง สางเปลือกสางปมสิง...........แปลกสร้าง อันที่อรรถแท้อิง................ถ้าเอ่ย ใครถกความแท้ข้าง............ทุกข้อทนไข ๚๛(วฤก) ๏ฟังความเฟ้นข้อเฟด            ก่อนฝัน ใฝ่เฮย ต้นต่อแต่งเต้าตัน              ตีบต้อ อย่าหลงอยากเหลิงยัน        โลกยาก พอบ่งพ่อแบบพ้อ            บรรพผู้บันเผย๚ ๏เสียงซึ้งเสียดซาบเส้น    สายซอ พิณปี่พ้อปานพอ           เป่าแพร้ว รักมากริหมายรอ        มาร่วม หมู่นา ขานเข่นไขคำแคล้ว       คาดคั้นคนขำ๚๛(จันทร์แห้ง) แก้ไขเมื่อ 30 มี.ค. 49 00:20:30 แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 49 23:38:33 แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 49 07:28:45 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 29 มี.ค. 49 07:27:06 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คคห3.....................ฉันท์งามครับ   +++ ตรีมูรติ +++ - ๑ - โอมพรหมพาหนะหงส์สวาหนะจรัล ก่อโลก ณ ปางบรร             -พกาล - ๒ - โอมนารายณะกัลกยาจะอวตาร อาชาเศวตชาญ             ประลัย - ๓ - โอมขุนโคศิวนาฏราชวิวิธวรรณ จอมเทวราชัน              อมร ขอร่วมแจมอารมณ์ฉันท์ด้วยเด้อน้องโกฏิฯ • อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ ๏ ครุครุ-ลหุ-ครุครุ1.............ลหุลหุ-ครุ1-ลหุ-ครุครุ2 ครุครุ-ลหุ-ครุครุ2 ...............ลหุลหุ-ครุ-ลหุ-ครุครุ3 ๏ ครุครุ-ลหุ-ครุครุ4.............ลหุลหุ-ครุ4-ลหุ-ครุครุ3 ครุครุ-ลหุ-ครุครุ3................ลหุลหุ-ครุ-ลหุ-ครุครุ ๚ ๏ขอขานคะคำฉันท์............คุรุมั่นผจงจาร ร้อยกรอง ณ โบราญ..........ลหุล้ำริร่ำเรียน ๏ด้วยใคร่คุในอก.......บมิทกมิเทือนเพียร คำใด ผิ ยากเศียร.......ก็แวะฝากกระทู้ถาม๚ ปล.ฝากของเก่าให้ทั่นที่สนใจฉันท์ขอรับ "คุยกับพี่เล็ก" http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vreply.php?user=lekpage&topic=7 http://www.geocities.com/lek666.geo/chan1.htm?20064 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 29 มี.ค. 49 07:51:36 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คคห 4 ..........น้องXers,มารวบรวม ตัวอย่างของครูเราไว้ให้แล้ว......... ถูกใจกระผมมากหลายขอรับน้อง..... อยากขอเพิ่มอีกได้ไหม......ของสวยงามใครก็ใคร่เก็บสะสมครับ คคห5....พี่เจียวต้ายขอรับ กระผมใคร่ฟังสำเนียงกลอนแปดขอทั่นพี่นะ ให้อารมณ์กลอนครูสุนทรภู่..........เลยก็ว่าได้ ขอพี่เขียนมาให้ฟังเถิดหนอ............. จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 29 มี.ค. 49 07:57:11 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อักษรดารดาษคว้าง            โลกา กรูเกลื่อนเหมือนจินดา                กลาดพื้น คําคนหม่นราคา                         ยามพร่ำ ทอเด่นเป็นแววรื้น                      หากร้อยเรียงสลวย         นารีประดับแก้ว                 อันสม เพียงคู่ดูภิรมย์                            กว่าร้อย อักษรค่อนแดนพรหม                  ไกวกล่อม งามไป่โคลงหยดน้อย                   หยิบเฟ้นเรียงแถลง         กวีมีฤทธิแม้น                    มนต์ฉาย ดินแผ่นแสนเมืองราย                  จับสร้าง เขียนทอก่อกายกาย                    ดิ้นดีด ชีพดับใช่ดับร้าง                          จิตรั้งโคลงหลอน ฉันทลักษณ์แปลกๆเหรอครับ ผมยังแต่งไม่เป็นเลยครับ ขอกลับไปศึกษาก่อน ขอแต่งแบบเดิมไปก่อนนะครับ ผมเรียนรู้วิธีเขียนโคลงจากกระทู้อาศรมนี่แหล่ะครับ ผิดๆถูกๆมาตลอด ตอนนี้ไม่รู้เป็นยังไงบ้างแล้ว ยังไงก็ช่วยติด้วยนะครับ จากคุณ : มือใหม่หัดแต่ง (leel) - [ 29 มี.ค. 49 12:53:40 ]

ความคิดเห็นที่ 10 .......... แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 49 12:58:20 จากคุณ : มือใหม่หัดแต่ง (leel) - [ 29 มี.ค. 49 12:53:48 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คห.10 - 11 ผมเผลอกดโพสท์ซ้ำครับ ลบได้ก็ลบเลยนะครับผม ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 49 12:59:59 แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 49 12:57:42 จากคุณ : มือใหม่ครับ (leel) - [ 29 มี.ค. 49 12:55:38 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สัททุลวิกกีฬิตฉันท์ ๑๔          เหน็ดเหนื่อยงานรึจะเรียนก็เพียรพิริยะไป อย่าเครียดจะแก่ไว                        นะเออ          น้อมปัญญาสติธรรมะนำชิวินะเธอ จิตใจมิพลั้งเผลอ                           สบาย          เหนื่อยหนักนักสิก็พักสงบจิตและกาย แต่งฉันทโคลงร่าย                         สราญ สวัสดีครับทุกๆท่าน ผมน้านนานจะผ่านมาที มาเห็นฉันท์ของ คคห.ที่ 3 ก็เลยลองแต่งบ้าง ก็เลยออกมากระท่อนกระแท่นอย่างที่เห็น ตามประสาแต่งสดหน้าจอ ต้องขออภัยด้วยครับ จากคุณ : ลิ้มบ่อเมี้ย - [ 29 มี.ค. 49 14:26:10 ]

ความคิดเห็นที่ 15 จำปูนจีบปากเจื้อย               ป่วนจริง แอบลอกออกลายอิง           เล่าอ้าง แต่งผิดตกผังติง                 ผูกต่อ คงไม่เคืองมัวคว้าง              มากค้นมนต์ความ (อักษรสลับ) งามจิตเพราะจิตเอื้อ             อารี คนโฉดย่อมโฉดมี               ชั่วช้า ทุกเรื่องต้องเรื่องดี              ทำหมด อย่าลดอย่าถดล้า               อย่าช้าอย่าถอย (กินนรเก็บบัว) กลบทนั้นยากแท้             หยั่งถึง นั่งแต่งตาถลึง                 เกือบได้ กระท่อนกระแท่นคำนึง      คิดอยู่ กลัวจะถูกว่าให้                แอบร้องไห้โฮ งงเป็นไก่ตาแตกโพสท์ไปหลายที กลับมาดูหายซะแล้ว โดนลบเฉย โมโหมาก มีคำบางคำคงไม่ถูกหู เลยต้องเปลี่ยนใหม่ หวังว่าจะคงไม่โดนลบอีก กว่าจะคิดมาได้นานนะเออ บ้านนี้เมืองนี้หนอ แตะนิดแตะหน่อยก็ไม่ได้เนอะ ขออภัยที่ทำให้ความเห็นขาดหายไปครับไม่น่าเล้ย แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 49 22:35:14 แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 49 14:37:37 จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 29 มี.ค. 49 14:36:19 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สวัสดีครับทุกท่าน         -- กลบท หิว --         ๏ เสียงเขียงสำเนียงลาบก้อย       โครมโครม         เสียงยั่วน้ำลายชะโลม                 แทบบ้า         ผองพริกป่นหอมโหม                  กระพือกลิ่น         สนองอยากด้วยปากอ้า               อิ่มแล้วปากมัน  บารมี ๚         K4290349 15:02         ดีครับศิษย์พี่โกฏิฯ พี่จำปูน         แหะๆ ขอเล่นนอกกติกาบ้างครับ         ช่วงนี้เห็นเล่นกันบ่อย เอิ๊ก...         บร้า..ไปแล้วเรา         ผิดถูกอย่างไรขอชี้แนะด้วยครับ         เซ่อ... น้อมบันทึกคร๊าบบ ------------------------------------------------------------------------------------ จากคุณ : xers - [ 29 มี.ค. 49 15:33:33 ]

ความคิดเห็นที่ 17 สวัสดีค่ะคุณอาจันทร์แห้งคนขยัน  และมิตรสหายอาศรมชาวโคลงทุกท่าน นึกว่าจะลดวัยแวะเวียนไปเดินเล่นแถวสยามกันหมดเสียแล้วนะเนี่ย อาศรมฯ ภาคนี้ชวนรำลึกความหลังจริง ๆ เลยค่ะ  คิดถึงครูหนอนสุราขึ้นมาจับใจ ตั้งใจว่าจะทะยอยส่งการบ้านโคลงสิบแบบด้วย  เริ่มเลยก็แล้วกันค่ะ ๑ - อักษรสลับ ๏ รำลึกเรื่องเล่าร้อย            เลือนฤๅ ถามตอบถูกติงถือ                 ต่างถ้อย หมายแย้งมุ่งย้ำมือ                ยิ่งหมั่น โคลงคิดเคลื่อนคำคล้อย       คู่คล้องคนแคลง ๚ ***ข้อควรระวังของอักษรสลับคือ เสียง ร กับ ล ถือเป็นคนละเสียง ส่วนกรณีคำควบกล้า เช่น กลม กับ กรม ถือเป็นอนุโลมค่ะ แต่ถ้าสามารถเลี่ยงได้ก็จะเป็นการดี เพราะจะทำให้แม่นเรื่องเสียงค่ะ - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - ป.ล. ฝากกระทู้ชวนมิตรสหายไปอวยพรวันคล้ายวันเกิดพี่ชายนายทิวากันที่นี่นะคะ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4236704/W4236704.html - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -                     . จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 29 มี.ค. 49 15:52:51 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ๏ สวัสดีทุกท่านอีกวันหนึ่ง ลิ้มรสหวานปานน้ำผึ้งซึ้งซาบเสียง โคลงอักษรกลอนสวยช่วยรื่นเรียง กลบทเคียงค่าล้ำคำดนตรี วันนี้เขียนโคลงกลคงไม่ออก ขอแปะโป้งไว้ดอกไม่หลอกที่ ผมคิดได้โอกาสหน้าถ้ายังมี ประชันชี้ฝีมือชื่อโกฏิดารา๚ จากคุณ : โกฏิดารา - [ 29 มี.ค. 49 21:47:30 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สวัสดีครับทุกท่าน ยังไม่มีโคลงครับแต่มาถามปัญหาครับ เรื่อง "อักษรสลับคือ เสียง ร กับ ล ถือเป็นคนละเสียง"          -- หนู ศ.17 --          ๏ โคลงคิดเคลื่อนคำคล้อย       คู่คล้องคนแคลง ๚          ตามบาทนี้          เข้าใจว่าถ้าเป็น คำควบกล้ำ กับ ไม่ควบ จะถือเป็น          คำสลับอักษรได้ด้วยใช่ไหม และเมื่อนำมา          ผนวกกับเรื่อง " ร  กับ  ล "          จะเป็นคำสลับอักษรได้หรือไม่ เช่น...          ๏ โคลงเครงเคลื่อนครืนคล้อย      คร่ำคล้ายครางคลา ๚          หรือเมื่อใช้ตัว สะกด คนละ แม่สะกด กันถือว่าเป็น          อักษรสลับได้หรือไม่ เช่น แม่ เกย กับ แม่ กด          ๏ เคยคิดคุ้ยขุดคล้อย      ขอดคล้ายคดคลาย ๚          แถมอีกนิดนะครับ อย่างโคลงของกระผม -- คห.16 --          สัมผัสนอก  "โครม กับ โลม โหม"          คำควบกับไม่ควบ ถือว่า สัมผัส เลือนหรือไม่ครับ          เพราะเห็นว่า เคยมีท่านหนึ่งได้ให้ความเห็นไว้          ในอาศรมฯ ที่ผ่านๆ มา ว่า อย่าง          "ไร, สมัย" ถ้าใช้สัมผัสนอก จะเลือน เช่นใดครับ          แหะๆ อาจจะข้องใจมากไปหน่อย เพราะอยากรู้ครับ          จะได้รู้จักคำให้ดี ขึ้นครับ          หนู ศ. หรือ พี่ท่านใดช่วยหน่อยไขนะครับ          เซ่อ... น้อมบันทึก ----------------------------------------------------------------------------------- จากคุณ : xers - [ 30 มี.ค. 49 00:47:00 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อาศรมโคลงคราวนี้มีจันทร์แห้ง เป็นหัวแรงไม่ระย่อต่อกลบท ทั้งของเก่าเล่าใหม่ให้งามงด เจียวต้ายจรดจ้องอยู่รู้สึกงง ที่เขียนมาคราวก่อนตอนเช้ามืด ก็แสนฝืดเกินไปไม่ประสงค์ เขียนตามความรู้สึกเหงาเข้ารกพง กดแป้นส่งเข้ามาเรียงเคียงข้างครู เขียนแต่กลอนมานานพออ่านได้ ใช่ว่าจะสดใสใช้คำหรู คิดอย่างไรก็เขียนไปให้เพื่อนดู ยังต่อท้ายปลายกู่ไม่กลับคืน ขอฝากกลอนผ่อนผันให้จันทร์แห้ง ใช่เสแสร้งมาแทนก่อนตอนเพิ่งตื่น อาศรมโคลงหนึ่งหกสามสุดกล้ำกลืน เพื่อนเขียนรื่นถึงร้อยได้ไม่นานเอย. แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 49 11:08:55 จากคุณ : เจียวต้าย - [ 30 มี.ค. 49 06:46:14 ]

ความคิดเห็นที่ 21 สวัสดียามสายขอรับ คคห17.ขอขอบคุณคูฮับสำหรับรายละเอียดกฏโคลงกล"อักษรสลับ" คคห19น้องเซ่อร์ครับ....ขอสนทนาแลกเปลี่ยนตามมีตามเกิดขอรับว่า                 ๏ โคลงคิดเคลื่อนคำคล้อย       คู่คล้องคนแคลง ๚         ๏ โคลงเครงเคลื่อนครืนคล้อย      คร่ำคล้ายครางคลา ๚         ๏ เคยคิดคุ้ยขุดคล้อย      ขอดคล้ายคดคลาย ๚ 1.กฏโคลงกลอักษรสลับโบราญอนุโลมอักษรควบกล้ำอักษรนำ เป็นตัวเดียวกันหรือแทนกันครับ 2.แต่ของครูเนาว์ฯท่านหูทิพย์แยกเสียงชัดกว่าชาวเราหลายเท่าจึงแยกใช้ย่อยลงไปอีกครับ ใคร่อัญเชิญเร็กเช่อร์ครูหนอนมาศึกษาขอรับ http://www.geocities.com/wgate.geo/klond38.html?20068%20... โคลงกลอักษรสลับ โคลงกลอนคนเก่งแค้น.....................เกลียดคำ ทำยากถึงอยากทำ.......................ยุ่งแท้ เขินหนอนคงนอนขำ.........................นั่งแขวะ ก่อนโพสต์ก็เพียบแก้.........................ผิดแก้พัลเกฯ(ครูหนอน) ต่อไปเชิญพบกับโคลงกลบทสิบแบบของเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กลบทแบบที่ 1 โคลงกลบทอักษรสลับ จบครูจับเครื่องเจื้อย.................ครอบเจิม ตามแบบเตือนบอกเติม.............บทตั้ง สายขึ้นสอดไขเสริม...................ขานส่ง เรียงเทียบรันทดรั้ง...................ทอดรู้เทอญราฯ ลำดวนลาด่วนแล้ว.....................เดินแล พุ่มเกดพิกุลแพ..........................ก่อนพ้อง ปรวนรักปรักรวนแปร................รสปร่า ใจป่วนจำปีจ้อง..........................ไป่แจ้งปีจำฯ กลบทนี้เป็นแบบแรกจากทั้งหมด 10 แบบในหนังสือชักม้าชมเมือง ลักษณะของกลนี้เหมือนชื่อคือ 1.เอาอักษร 2 ตัว มาผูกสลับกันไปในแต่ละวรรค แต่พี่เนาว์เป็นกวีที่เคร่งกว่ากวีโบราณ วรรคที่ 3 ของโคลงบท 2 บอกลักษณะได้ดี คือถืออักษรกล้ำ ปร เป็นอีกตัวหนึ่งที่ต่างกับ ป แต่กวีโบราณอนุโลมให้ใช้เป็นตัวเดียวกันก็ได้ อีกอันหนึ่ง 2.อักษรที่มีเสียงคู่โบราณให้ใช้แทนกันได้เช่นกันแต่พี่เนาว์ไม่ยอมใช้ ตัวอย่างอักษรที่มีคู่เสียงคืออักษรสูงทั้งหมด จะมีอักษรต่ำมาเป็นคู่เสียงเสมอ เช่น ข คู่ ค, ฉ คู่ ช, ส คู่ ซ เป็นต้น 3.ผมว่าเล่นแบบโบราณน่าจะง่ายกว่า สนุกกว่า เพราะฉะนั้นเอาแบบนี้ดีกว่า และให้ง่ายไปกว่านั้นผมว่าแต่งกันทีละบทก็พอครับ เอาให้พอรู้ว่ามันเป็นจะใดเจ้า สังเกตได้ว่าทุกวรรคใช้อักษร 2 ตัว มาแต่งสลับกันไปเรื่อยๆ 4.อย่างบทแรก วรรคหนึ่ง จ สลับกับ คร วรรคสอง ต สลับกับ บ แต่อย่างที่บอก 4.1อักษรกล้ำถ้าไม่เคร่งมากให้ถือเป็นตัวเดียวกับ 4.2อักษรนำได้ เช่น คร หรือ คล ถือเป็นตัวเดียวกับ ค และให้ง่ายไปกว่านั้นจะใช้อักษรที่เป็นคู่เสียงด้วยก็ได้ครับ ซึ่งในที่นี้คือ ข อธิบายสั้นๆ อย่างนี้เข้าใจมั้ยเอ่ย โดยคุณ : หนอนสุรา - [20 ต.ค. 2541 11:14:21] ปล.1จะพบว่าครูเนาว์ฯมักมีการพัฒนาโคลงกลในแนวลึกล้ำ..ทั้งรสความที่เรียกว่า"กวีวัจนะ" และรสคำ"กวีวลี" ปล2.เนื่องจากเสียงของภาษาไทย..เป็นเสียงดนตรีซึ่งสอดคล้องกับ หลักภาษาไทย อักขระวิธี    ได้แก่  อักษร  แปลว่า  ตัวหนังสือ ลักษณะอักษร         เสียงในภาษาไทย  มีอยู่  3  อย่าง คือ 1. เสียงแท้    ได้แก่  สระ 2. เสียงแปร   ได้แก่  พยัญชนะ 3. เสียงดนตรี  ได้แก่  วรรณยุกต์ ซึ่งมีการประสมเกิดเป็นเสียง คำ พยางค์ ประโยค วลี ชนิดต่างๆอีก....ก็ขอเวลากระผมศึกษาเก็บรวบรวมต่อไปครับ แก้ไขเมื่อ 30 มี.ค. 49 14:13:22 แก้ไขเมื่อ 30 มี.ค. 49 11:09:43 แก้ไขเมื่อ 30 มี.ค. 49 10:52:57 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 30 มี.ค. 49 10:48:23 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ความคิดเห็นที่ ๒๑ ของคุณอาจันทร์แห้ง ขอรบกวนเสริมตรงนี้ให้นิดหนึ่ง  เพื่อความเข้าใจตรงกันค่ะ "กฎโคลงกลอักษรสลับโบราณอนุโลมอักษรควบกล้ำอักษรนำ เป็นตัวเดียวกันหรือแทนกันครับ"               . ใช้ในกรณี เป็นเสียงควบกล้ำที่ควบด้วย "ร" และ "ล" เนื่องจากเสียงใกล้กัน เรียกว่าอนุโลมใช้ เช่น โครง โคลง    หรือ   คาน คลาน   หรือ   คับ ครับ  เป็นต้น แต่ให้เข้าใจตรงกันว่า  เสียง  "คร"  "คล"  "ค"  เป็นคนละเสียงกัน และแม้จะอนุโลมอักษรควบกล้ำว่าแทนกันได้  แต่ก็ไม่นำเสียงควบกล้ำ "ว" มาร่วมด้วย เช่น ควาญ  คลาน   เสียงจะต่างกันชัดเจน จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 30 มี.ค. 49 12:54:45 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่สบายเพราะครั่นเนื้อ            ครั่นตัว ครั่นดื่มสุรานัว                       เปรอะปลิ้น เปรอะเปื้อนสิ่งควรกลัว            หลบหลีก หลบไม่พ้นเพราะลิ้น               อยากน้ำเมาเสมอ  (นาคบริพันธ์) ********************************** ชนชายเชิงเช่นเชื้อ                เชิดชาติ หญิงย่อมเยื้องยุรยาตร           ยักย้าย เผลอผสมผิดแผกผาด            ผลุบโผล่ ผลผลิตผันพลิกผ้าย               เพศเพี้ยนพันธุ์แผลง (อักษรล้วน) พย้ายาม พยายามแต่งให้ได้ตามหัวข้อกระทู้นะครับ ทะแม่งๆแปร่งๆบ้าง ก็ขออภัยด้วย จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 30 มี.ค. 49 13:04:30 ]

ความคิดเห็นที่ 24 จำปูนจีบปากเจื้อย               ป่วนจริง แอบลอกออกลายอิง           เล่าอ้าง แต่งผิดตกผังติง                 ผูกต่อ คงไม่เคืองมัวคว้าง              มากค้นมนต์ความ (อักษรสลับ) ขอบคุณ หนูศาลาแดงเอ๊ยไทย ที่ขยายความมา งั้นเปลี่ยนอักษรควบในคห ๑๕ เป็นจะอี้ จำปูนจีบปากเจื้อย               ป่วนจริง แอบลอกออกลายอิง           เล่าอ้าง แต่งผิดตกผังติง                 ผูกต่อ คงไม่เคืองมัวค้าง               เมื่อค้นมาขาย (อักษรสลับ) จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 30 มี.ค. 49 13:24:48 ]

ความคิดเห็นที่ 25 โคลงงามความครบถ้วน          ถึงเป็น โคลงเฮย กลบทกำหนดเกณฑ์              กี่ข้อ หาคำหากเคี่ยวเข็ญ                คงเหนื่อย ลางเรื่องลองร่วมล้อ               เล่าให้ฮาครืน... สวัสดีทุกท่านครับ... อ๋อย น้าจันทร์แห้งครับ... ช่วงนี้แต่งโคลงธรรมดายังไม่ค่อยจะออกเลย... กลบทยิ่งไม่เป็นใหญ่... ขอมั่วและลักไก่ตามไปก่อนนะคร้าบ.... เป็น - เกณฑ์ - เห็น อิอิ... จากคุณ : ...ณ มิตร... (namit) - [ 30 มี.ค. 49 22:49:28 ]

ความคิดเห็นที่ 26 โคลงกล คนเก่งเค้น                    กานท์คม เราหลบเรียน หลับรมย์                หลักร้าง ยอมนอบยกนิยม                        แน่ยิ่ง เพื่อนอา สลักแต่งเสลาแต้มสล้าง               ต่างสล้อเติมสลวย ฯ จากคุณ : พิราบเงิน - [ 30 มี.ค. 49 22:59:41 ]

ความคิดเห็นที่ 27 วกวนเวียนว่ายเวิ้ง                วัฏวาร ห้ำหั่นฮึกเหิมหาญ                เหาะห้อย ชนเชิงเชี่ยวชั้นชาญ             ชุ่มชื่น ค่อยคิดขีดเขียนค้อย            ขับข้ามขันธ์ขาม ฯ สวัสดี คุณจันทร์แห้ง และทุกท่าน ครับ จากคุณ : พิราบเงิน - [ 30 มี.ค. 49 23:27:33 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คคห9...สวัสดีครับคุณมือใหม่หัดแต่ง (leel) อักษรดารดาษคว้าง            โลกา กรูเกลื่อนเหมือนจินดา                กลาดพื้น คําคนหม่นราคา                         ยามพร่ำ ทอเด่นเป็นแววรื้น                      หากร้อยเรียงสลวย        นารีประดับแก้ว                 อันสม เพียงคู่ดูภิรมย์                            กว่าร้อย อักษรค่อนแดนพรหม                  ไกวกล่อม งามไป่โคลงหยดน้อย                   หยิบเฟ้นเรียงแถลง        กวีมีฤทธิแม้น                    มนต์ฉาย ดินแผ่นแสนเมืองราย                  จับสร้าง เขียนทอก่อกายกาย                    ดิ้นดีด ชีพดับใช่ดับร้าง                          จิตรั้งโคลงหลอน ให้กระผมติติงสิ่งใดกระผมจันทร์แห้งคงยังมีความรู้ไม่เพียงพอ ขอเป็นเพื่อนสนทนากันพอได้ขอรับ..... และสังเกตุว่ารสความโคลงมีความหมายดีขอรับ บทท้ายวรรค3.. เขียนทอก่อกายกาย                    ดิ้นดีด คำที่4และ5ซ้ำกันครับอาจเปลี่ยนเป็น เขียนทอก่อใจกาย                    ดิ้นดีด อย่างไรใคร่เชิญชวนมาเขียนร่วมสนุกกันบ่อยๆนะครับ จินดาอักษรร้อย         กรองคำ รสเลิศความลำนำ      กล่อมเกล้า สุภาษิตควรจำ           จารจด อติพจน์พาทเฝ้า       ใฝ่ฟื้นฟูฝัน ------------------------------------------------- คคห14..สวัสดีคุณลิ้มบ่อเมี้ย เขียนฉันท์...กระผมก็มิใคร่ถนัด คงต้องเชื้อเชิญมาเขียนฉันท์ร่วมสนุกกันบ่อยๆนะครับ ------------------------------------------------------- คคห20ทั่นพี่เจียต้าย... กระผมขอไชโยโห่หิ้วแสดงความยินดี ที่พี่เจียวต้ายสามารถได้มีผลงานตีพิมพิ์แล้วขอรับ และไม่ลืมรสกลอนของพี่เรา ที่กระผมอ่านแล้วรสกลมกล่อมถูกคอหลายครับ... สังเกตุว่าพี่ใช้คำง่ายดาย...แต่เป็นคำที่อยู่คู่ใจ.... เรียกว่า"คำจากใจ"....หรือ "ใจบอกคำได้ดั่งความประสงค์ทีเดียว" ไหลหลั่งคำ  พูดคม  รสความดี สุวภาพ   วจี   เอ่ยตอบถาม เขียนสิ่งใด   ไขข้อ   บ่งสติตาม ก่อรูปนาม  จิตน้อม  รับฟังเอย แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 49 07:19:58 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 31 มี.ค. 49 00:12:21 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เรียน ท่านสหาย ผู้ดูแลอาศรม มาคราวนี้ ท่านว่ากันขนาด กลบท กลอักษร เลยหนอ กระผมเองก็ชื่นชม กระผม เลยออกเหนียมเหนียม..... แต่ก็ยังอดมิได้ เลยต้อง ขออนุญาต มาร่วมวงด้วยบ้าง ตามเคย ขอรับ. ครานี้เอยบอกเจ้า                  เราควร             ทราบแต่คิดภาพหวล             ละห้อย น้อยใจหนักนะนวล                คอยพี่ เออ หนอ เผลอรักสิประจักษ์ถ้อย           ทั่วทั้งหัวใจ. แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 49 02:24:28 จากคุณ : พจนารถ๓๒๒ - [ 31 มี.ค. 49 02:22:01 ]

ความคิดเห็นที่ 30 "สวาทอรุณ" สวาทอรุณมิตรผู้......สวัสดิ์ศรี สุขพ่อ ศรีสโมสรตรี.........โลกหล้า หล้าแหล่งกาพย์กวี.......เถลิงศก สมัยแฮ ศกสืบกานท์กึกท้า......ฝ่าพ้นผองภัย(วัวพันหลัก) ยลแสงเงินเงื้อง่า      มืดหาย หลแล แจ้งจิตสดใสคลาย     เมื่อยล้า แสงทองส่องทางสาย     ฉันท์ฉาบ  ฉายพ่อ มาเถิดหนาพี่ข้า       วาดเว้าโคลงสวย  สนุกกัน หน่อยนะนะ วานพระอาทิตย์อ้า           อกออก บอกแม่ วานปลุกลุกขึ้นบอก      กาพย์กี้ วานรักพ่ออย่าหลอก     หลับอยู่ ไหลฤๅ วานรวิ ผลิ ฉันท์ชี้         แฉ่มเช้าอาศรม รมย์รัก หรือยัง ยามดี มาเถิดมาพ่อข้า    ผ่องเผย ผุดนอ มาเสพส่องโคลงเวย   เวี่ยวไว้ มามะแม่มาเฉลย     คำรัก เรียมนา มามากหมายเศิกไซร้   สิ่นเสี้ยนสืบหาญ กาลเพลง บรรเลง  เถิดเอย *************** เริ่มยามเช้าให้กระฉับกระเฉงขอรับ......... แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 49 22:01:18 แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 49 07:03:25 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 31 มี.ค. 49 07:01:20 ]

ความคิดเห็นที่ 31 คคห 29   สหาย"พจ นา รถ"พี่ทั่น ครานี้เอยบอกเจ้า                  เราควร             ทราบแต่คิดภาพหวล             ละห้อย น้อยใจหนักนะนวล                คอยพี่ เออ หนอ เผลอรักสิประจักษ์ถ้อย           ทั่วทั้งหัวใจ. (พจนารถ) สวัสดีขอรับสหาย"พจ นา รถ" พจ นา รถ มากไม้      หมายชม ชื่นพ่อ ชมชอบเช้าสุขสม      ประจักษ์ถ้อย ถ้อยฝากขอรับรมย์     เรียมสู่ สถานเฮย สู่วจีค้อยค้อย       รักร้อยหัวใจ(วัวพันหลัก)จันทร์แห้ง จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 31 มี.ค. 49 07:18:21 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ความคิดเห็นที่ 25   โคลงงามความครบถ้วน          ถึงเป็น โคลงเฮย กลบทกำหนดเกณฑ์              กี่ข้อ หาคำหากเคี่ยวเข็ญ                คงเหนื่อย ลางเรื่องลองร่วมล้อ               เล่าให้ฮาครืน...ณ มิตร มาสนุกแล้วสนุกอย่างนี้จะลืมพี่ได้จะไดหนอหนอ น้อง ณ มิตร ฤิทธิแม้น     จักรจาร จำจดวันสนาน        สนุกสร้อง ขับขานพโยมยาน    หาญหอก  ฟ้าเฮย ร้องร่ายมิตร ณ ร้อง      โลกรู้บำเรอ....จันทร์แหบ จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 31 มี.ค. 49 07:54:20 ]

ความคิดเห็นที่ 33 คคห27พี่พิราบเงิน...ขอร่วมสนุกด้วยขอรับ วกวนเวียนว่ายเวิ้ง                วัฏวาร ห้ำหั่นฮึกเหิมหาญ                เหาะห้อย ชนเชิงเชี่ยวชั้นชาญ             ชุ่มชื่น ค่อยคิดขีดเขียนค้อย            ขับข้ามขันธ์ขาม ฯ..พิราบเงิน ดาวดวงดารดกได้              ดื่มดา  ราแฮ จันทร์จืดแจ้งใจจา             เจาะจ้อย ศรศิลป์สืบสอนสา-           ระสุข พิราบพิลัยพร้อย          พร่างแพร้วพงษ์พรรณ...จันทร์แหบ ปล.สังเกตุว่ารสโคลง.ช้า..ช้า...อย่างนี้......... พร้าสามเล่มงามงดคือโคลงพิราบเงินยวงขอรับ จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 31 มี.ค. 49 08:11:01 ]

ความคิดเห็นที่ 34 โคลงกล - โคลงกลอน ๏ คุณจันทร์แห้งนุ้มนุ่ม        น่ารุม รักตกหลุมดักคลุม             ซุ่มไว้ ใฝ่หาเสน่ห์ทุกมุม              ประทับจิต  นิตย์เลย นาเมื่อพบพาได้                ปลาบปลื้มลืมไฉน ๚ ๏ คุณจันทร์แห้งนุ้มนุ่มน่ารุมรัก ตกหลุมดักคลุมซุ่มไว้ใฝ่หา เสน่ห์ทุกมุมประทับจิตนิตย์เลยนา เมื่อพบพาได้ปลาบปลื้มลืมไฉน ๚๛ สวัสดีทุกท่านครับ ศุกร์สิ้นเดือนแล้วเลิกงานไปไหนกัน หรือเปล่าเอ่ย จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 31 มี.ค. 49 08:42:09 ]

ความคิดเห็นที่ 35 แวะมาทักทายเจ้าของกระทู้ก่อนครับ จากคุณ : สดายุ... - [ 31 มี.ค. 49 13:03:24 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เมา.......มายไม่รับรู้................ความเมา เช้า.......กรอกเย็นกรอกเอา......จวบเช้า ค่ำ........คืนบางใครเหงา...........คืนค่ำ เมา.......ดับชีวิตเศร้า...............เถอะเหล้าใจเมาฯ แหะ แหะ ขอรับ สวัสดี ขอรับ จากคุณ : นายทิวา - [ 31 มี.ค. 49 14:39:15 ]

ความคิดเห็นที่ 37 โคลงเคลงบรรเลงร้อย น้องน้อยนั่งตาเหล่ กลโคลงเขาขั้นเสธ. เหลาเหย่คือซอมพอ อิอิ...ศุกร์เย็น ๆ ต้องไปนั่ง ตากลมตากลม จากคุณ : ซอมพอแดง - [ 31 มี.ค. 49 15:45:35 A:unknown X:202.129.0.33 TicketID:115960 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เมาเหล้าเมาเบียร์แล้ว               ยังคลาย เมารักหนักเหลือหลาย              เร่าร้อน เมายศยิ่งมากมาย                   ไม่หยุด เมาแย่เมาแทรกซ้อน                คิดย้ำคำโคลง แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 49 17:27:32 จากคุณ : เจียวต้าย - [ 31 มี.ค. 49 17:21:33 ]

ความคิดเห็นที่ 39 สวัสดีครับ น้าจันทร์ และทุกท่าน       แวะมาส่งการบ้านครับ       แล้วค่อยมาเล่น อิอิ       แอบไปแต่งมา 2 วันละ แหะๆ       ยังไงช่วยชี้แนะด้วยครับ       ๏ เมือง  ฟ้าอมรฟ้าเฟื่อง          แดนฝัน       ไทย  แหล่งข้าวแหล่งสวรรค์     แน่นแฟ้น       แดน  เรา,ท่านเราปัน               มีแบ่ง       สุข  เท่าใดเท่าแม้น                 แว่นแคว้นแดนวิมาน ๚         กินนรเก็บบัว            .       ๏ มี  หลายกาลครั้งที่               ทนทุกข์        ทุกข์  หลากใหลมาจุก             อกร้อน        ร้อน  หนาวผสานคลุก              น้ำท่วม        ท่วม  ยับอย่าซ้ำค้อน               ตอกน้ำคำตี ๚                    วัวพันหลัก       ๏ รวม  สานฤดีส่งทั้ง               ชาติรวม        กล้า  กล่อมวิญญาณสวม          สิ่งกล้า        ช่วย  ขจัดอิทธิพลบวม-                  เบ่งช่วย-  ขจัดนา        กัน  สิ่งร้ายอันบ้า                    บั่นพ้องเดียวกัน ๚               ครอบจักรวาล       ๏ ดับฝัน-ร้ายด้วยฝัก                  ดาบฝัน        ดึกเฝื่อน เพราะคืนอัน              ขื่นร้าย        เคลื่อนรุม เร่งเร้าวัน                 สลดว่าย        สลัดวุ่น สอดดาบคล้าย            เก็บไห้หายระทม ๚              ช้างประสานงา       ๏ กรุ่นกลิ่น แมกไม้ชื่น                โชยมา        โชยมิตร ตื่นลืมตา                   คิดสู้        คิดสรรค์ วาดบรรดา                ความสงบ        ความเงียบ มีผู้รู้                     เทียบละม้ายลานธรรม ๚        นาคบริพันธ์       ๏ เปรียบ เสียงปร่าสั่นเปรี้ยง        ส่ายปลิว ๚       เถ้า หมู่ฐานเมืองทิว                   มอดทั้ง-       ไผท แผดทั่วผิว-                      ไทพล่าน       รัก ช่วยรอมชอมรั้ง                    ชื่นรื้นชนเรา ๚                    อักษรสลับ       ๏ พัก เหนื่อยอันล้าล่า               หามิตร       จิต ที่คอยติดผิด                       ถูกอ้าง       หัก ความวิปริตคิด                     เข่นฆ่า       ใจ ที่คอยมล้างร้าง                    ลดแล้ววางลง ๚                  โตเล่นหาง       ๏ จง เจือจารจาบจ้วง                  จนจาง       ถอย ถ่มที่ถากถาง                     ถกถ้อย       เหลือ ลำลึกลวงลาง                   เลือนลบ       ใย เยื่อหยาดหยดย้อย                ยั่วยิ้มยามยล ๚                   อักษรล้วน       ๏ สิ่ง สำคัญนั่นนั้น                     ในใจ       ใด มิอาจได้ไป                         ส่องข้อง       กล้ำ สิ่งยั่วไยไพ                        เถื่อนเกลื่อน       กลืน สิ่งไม่ถูกต้อง                      เผื่อเฟื้อชาติไทย ๚             ก้านต่อดอก       ๏ คืน ความรักรักร้อย                 รนมลาย       หา สิ่งหวงหวงสลาย                  ระส่ำยั้ง       ตัก ชนอุ่นอุ่นคลาย-                   ร้อนผ่อน       บรรพ์ ก่อนกาลกาลครั้ง              แรกพื้นเคยเย็น ๚               บุษบารักร้อย       ช่วยแนะนำด้วยนะครับ       มันยาวอาจตรวจไม่ถ้วน ขอรับ       เซ่อ... น้อมบันทึก       K4310349 18:12 ---------------------------------------------------------------------------------------- แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 49 19:59:13 แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 49 18:38:21 จากคุณ : xers - [ 31 มี.ค. 49 18:34:27 ]

ความคิดเห็นที่ 40 สวัสดีดีครับ              พี่ ณมิตร แวะมาด้วยแฮะ              พี่พิราบเงิน              คุณพจนารถ๓๒๒              พี่จำปูน              พี่สดายุ              พี่นายทิวา              พี่หญิงซอมฯ เอ็ม16              ปู่เจียวต้าย              อันนี้เป็นร่าย หน้าบาทโคลงข้างบนครับ              ๏              เมืองไทยแดนสุข  มีทุกข์ร้อนท่วม              รวมกล้าช่วยกัน  ดับฝันดึกเฝื่อน              เคลื่อนรุมสลัดวุ่น  กรุ่นกลิ่นโชยมิตร              คิดสรรความเงียบ  เปรียบเถ้าผไท              พักจิตหักใจ  จงถอยเหลือใย              สิ่งใดกล้ำกลืน คืนหาตักบรรพ์              ๚              K4310349 18:12 จากคุณ : xers - [ 31 มี.ค. 49 18:47:52 ]

ความคิดเห็นที่ 41 สวัสดีมิตรรักนักโคลงทุกท่าน วันก่อนคุณลุงเจียวต้าย ไปถึงกองบัญชาการของอาร์พี แต่อาร์พีไม่ได้อยู่พบ..ต้องขออภัยคุณลุงจริงๆ เมื่อวานเห็นน้าชวนถูกปาไข่ที่เชียงใหม่ เห็นแล้วสงสารเล่นการเมืองมานาน ยังไม่เคยเจอแบบนี้ ตอนเย็นเห็นมอเตอร์ไชด์ไปปิดล้อมคมชัดลึก พรรคพวกที่นั่นไม่รู้ใครโดนลูกหลงเข้าบ้าง ใจนึงก็ขำ ใจนึงก็สมเพชสังคมไทยยามนี้ ดูท่าจะมีเกมสนุกๆ เล่นกันอีกหลายแบบ วันที่ ๒ อย่าลืมไปเลือกตั้งกันนะครับ จากคุณ : ใ (Ar@p) - [ 31 มี.ค. 49 18:50:44 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ตอบคุณพี่อาร์พีข้างบน อาจจะไม่ได้ไปเลือกตั้งล่ะครับ ผม ไม่มีเงินค่ารถกลับไปเลือกตั้งที่มหาวิทยาลัย จนเหลือหลาย เฮ้อๆ หนาวบ้าง ร้อนบ้าง ปรากฏการณ์ลา นินญา เข้าล่ะครับ ปีนี้ หลังจากเจอ เอล นินโญ มาหลายปี เข้ามาทักครับ จากคุณ : โกฏิดารา - [ 31 มี.ค. 49 20:08:37 ]

ความคิดเห็นที่ 43 สวัสดียามค่ำคืนขอรับ...... เชิญชวนอ่านขอรับ มูลนิธิสถาบันสุนทรภู่ http://sunthornphu.org/home.html กลบท http://sunthornphu.org/poemkon.html โคลงกลบท http://sunthornphu.org/poemklongkon1.html ว่าด้วยฉันทลักษณ์.... ๏โคลงกลบทอักษรสลับ  ๏โคลงกลบทกินนรเก็บบัว ๏โคลงกลบทวัวพันหลัก  ๏โคลงกลบทอักษรล้วน ๏โคลงกลบทอักษรคู่      ๏โคลงกลบทช้างประสานงา ๏โคลงกลบทนาคบริพัตธ์ ๏โคลงกลบทครอบจักรวาล ๏โคลงกลบทก้านต่อดอก ๏โคลงกลบทสิงโตเล่นหาง ๏โคลงกลบทสารถีขับรถ  ๏โคลงกลบทบุษบารักร้อย เดี๋ยวขอหาอะไรทานก่อนมาต่อขอรับ....... จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 31 มี.ค. 49 22:29:44 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ดื่มโคลงค่ำเช้าค่ำ                   เช้าเสมอ ใช่สมัครหมายเสนอ                ยศโก้ ยอมก้มบทกวี-เกลอ                ชีวิต ชูวาทเชลงสรนุกโอ้                 ชุบสร้างชีวา ฯ มาส่ง ช้างประสานงา ขอรับ ( ยิ้ม ) จากคุณ : พิราบเงิน - [ 31 มี.ค. 49 22:44:48 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เรียน ท่านสหาย ผู้ดูแลอาศรม ลองอ่าน หมายเลข ยี่สิบเก้า ของกระผม อีก...สักที...สิ...ขอรับ คราวนี้ ลองอ่าน โคลง เปน กลอน ดูสิ ขอรับ. จากคุณ : พจนารถ๓๒๒ - [ 31 มี.ค. 49 23:34:09 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เรียน คุณจันทร์แห้ง ผมมีธุระส่วนตัวจะขอความช่วยเหลือ ได้ส่งทางหลังไมค์ไปแล้ว กรุณาพิจารณาด้วยครับ. เขียนโคลงลำบากล้น                  จนใจ เขียนยากกว่าใครใคร                  ที่รู้ เขียนเสร็จกลับแก้ไข                   จนเบื่อ เขียนคล่องต้องใจสู้                      ทู่ซี้ทนเอา จากคุณ : เจียวต้าย - [ 1 เม.ย. 49 07:36:25 ]

ความคิดเห็นที่ 47 โกหก-โกเจ็ด ---------------------------------------- โกหกหมกโม้ยิ่ง                 หมดมุข ถูกจับได้ยิ่งซุก                  ซ่อนซ้อน เหลี่ยมจัดจัดฉากชุก           ประชานิ-   ยมพ่อ เหลี่ยมพ่อผันยุคย้อน          ทรราชย์ยั้วเยี้ยสลอน. 112549-1 คุ้ยชั้นหนังสือเจอรวมเรื่องและบทกวีรางวัลเล่มหนึ่ง ชื่อของกวีท่านหนึ่ง "ไพฑูรย์   สัญญา"   อาร์พีคิดไปคิดมาว่า คือ  "ไพฑูรย์  ธัญญา" หรือเปล่า ตั้งใจว่าจะถามศาลาไทย  แต่ก็ยังไม่ได้โทรสักที. จากคุณ : Ar@p - [ 1 เม.ย. 49 14:47:40 ]

ความคิดเห็นที่ 48 สวัสดีดึกๆครับ ทุกท่าน เอามาแปะอีกๆ + + สุริยคราส + + ๏ เทวีศรีสุริยา                      ทรงมีอนุชา เชี่ยวชาญเชิงรบรานรอน บัญชาช่วงใช้อมร                  ทวยเทวนิกร อยู่สุขสำราญนานเนา กาลหนึ่งอนุชาหูเบา               เชื่อคนโฉดเขลา ยุแยกให้แตกร้าวฉาน โทสะเทียมสวรรค์บันดาล        พระเพลิงเผาผลาญ แผดไหม้บรรลัยเหตุผล จับดาบจากด้าวแดนดล           กู่เพรียกเกณฑ์พล กบฎสุริยเทวี พระนางกลืนกล้ำโศกี             นิรมิตโยธี นารีอัปสรเทวินทร์ แสนทัพอนุชาพังภินท์            กลับด้าวกลายดิน สู่ห้วงธุลีมรณา สุริยเทวีจินตา                      จึ่งเทวบัญชา เนรเทศอนุเทพครรไล ดาลดับเทพฤทธิ์วิสัย             เฉกชาติมรรตัย ยชนบนพื้นพิภพ ครั้นแล้วพระนางปรารภ         ชลนาพร่ากลบ จำลงโทษทัณฑ์กรรแสง เคลื่อนสู่ถ้ำมืดหม่นแรง         โขดศิลาปิดแปลง หลบหนีลี้หน้าหล้ามัว พืชสัตว์มนุษย์ทุกตัว             ร่ำก้องร้องกลัว เกรงความมืดมิดปิดตา มาตรแสงจากดวงจันทรา       แผลงฤทธิ์มหิมา บ่เทียมอาทิตย์เทวี เยือกหนาวเย็นเหน็บนานปี     ส่ำสรรพชีวี ค่อยล่มค่อยล้มลงตาย จึงทวยเทพก้องกำจาย          หาเครื่องรำบาย ไขแก้โศกาพระนาง ได้ซึ่งหนึ่งกลหนทาง            ลึกล้ำอำพราง นำแสงสว่างคืนคง เชิญพิรุณอัปสรอนงค์          ส่ายอ้อนอรองค์ คระโหมดนตรีคีตา จึ่งองค์เทวีแง้มมา              ชี้พร่องช่องผา แล้วพบพักตร์ต้องกระจก ทรงหวาดฤทัยสะทก          จอมพลังรั้งยก ฉวยฉุดฉกออกมาเอง รินพาทย์เรียงพร่ำร่ำเพลง    ขับครึ้มครื้นเครง นิราศราตรียาวนาน ดอกผลิเด่นผุดตระการ       บุปผาเบ่งบาน พฤกษชาติชาคริตนิทรา พราวพรั่งคั่งขัณฑสีมา       มนุษย์สัตว์นานา แช่มชื่นตื่นห้วงหฤหรรษ์ ปกรณัมนิทานนานบรรพ์    บอกเล่าเก่ากัลป์ สุริยคราสขาดเทวรังสี หลงโลภโกรธรานชีวี        ขุกเข็ญเป็นกลี ไร้แสงสุรีย์บรรเทา ปัญญาสามัคคีผ่อนเพลา   หนักร้ายกลายเบา บอกใบ้ให้เหล่าอนุชน๚ ------------------------------------------------ จากตำนานสุริยุปราคาของญี่ปุ่นครับ ที่สุริยเทวี อามาเทราสึ โนะ โอมิคามิ ทรงรบกับพระอนุชา ซูซาโนโอะ โนะ มิโกโตะ แล้วหลบพระวรกายยังถ้ำหิน จนเกิดสุริยคราส รายละเอียด http://en.wikipedia.org/wiki/Amaterasu แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 49 22:27:28 จากคุณ : โกฏิดารา - [ 1 เม.ย. 49 22:24:58 ]

ความคิดเห็นที่ 49 สวัสดียามดึกครับทุกท่าน ขอบคุณ คุณจันทร์แห้งอีกครั้งสำหรับ Link กลบท กระผมก็เลยลองตามท่านไป จาก กลอน กลบท เลยกลายเป็น โคลง กลบด ดังนี้ครับ ++ รัก ++ รักร้ายรักเลิกร้าง                เลิกรา เศร้าโศกสร้อยร่ำหา            ร่ำไห้ ครวญคร่ำพรอดพร่ำพา        พร่ำเพรื่อ แม้ดับมิดับได้                    ทุกข์นี้ทุกนาน (สะบัดสะบิ้ง) เพราะรักซ้อนพิษร้อน          ซ้ำเสริม คิดหักใจคึกเหิม                 จากเจ้า รักตกหล่นไร้เติม                หลอนหลอก จักใฝ่คิดจิตเฝ้า                  เคียดขึ้งถึงตาย (กบก้มงมหอย) อันนี้เลียนแบบ กบเต้นต่อยหอย แต่จนปัญญา หาซ้ำเสียงสระ ๑ คู่ ไม่ได้ครับ กบเลยไม่เต้นมัวแต่ก้มๆเงยๆอยู่ ไร้สาระอย่าว่ากันเน้อ จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 1 เม.ย. 49 23:07:11 ]

ความคิดเห็นที่ 50 สวัสดีพี่จำปูนและน้องเซอร์...และทุกทั่นครับ ขอแปะโคลงไล่หวัดของตัวกระผมเองก่อนครับ ส่วนการบ้านน้องเซ่อร์หากพี่จำปูนมีเรี่ยวแรงมากก็ขอฟากขอฝังตรวจด้วยขอรับ      ๏๏๏สวาทไว้ใฝ่ถวิล๏๏๏ ๏ร้อนแดดดับบ่ได้       ฤดู ร้อนเฮย ฤๅดั่งหลงพธู            อกเต้น อุ่นเต้าตัญหาตรู       โฉมแม่ ชายมั่นหญิงรู้เว้น      อย่าให้ตนตรอม๚..ช้างประสานงา ๏โคลงกลคำกาพย์เบื้อง     ปางบรรณ ซ่อนเงื่อนซ้อนเงาสรร    ซิ่นเศร้า เรียมรักอักษรวรรณ       วิจิตร เร้นหลืบสืบเสาะเร้า       อกเต้าตื่นตา๚ ๏กลพลพยุหเหี้ยน        อริราบ  กาพย์เฮย เสียงสกดเสียงผันทราบ    แซ่สร้อง รักนางใฝ่เฝ้าตราบ      ม้วยมอด วานแม่เผยจากห้อง     หับให้เรียมเห็น๚ ๏จำกลอนจำกาพย์กี้    จำกานท์ คำพิลาศพิลัยวาน      ยอดชู้ เพราะเรียมรักนงคราญ    หมายสู่ ขอนา จำทุกข์จำเทวษสู้       สวาทไว้ใฝ่ถวิล๚ ๏กลบทอักษรทัพไท้    เถลิงศรี คำสลับโคลงกลอนทวี   เดชล้ำ แสนศึกแสนวลี            ซ้อนวาท เว้านา เสียงอึ่งอึงร่ายย้ำ        เข่นร้าราญเขญ๚ ปล.กราบเรียนว่ารับข่าวสารทั่นพี่เจียวต้ายแล้วครับ ขอให้หายจากโรคหวัดดีก่อนวันนัด...ก็คงได้พบกันขอรับ แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 49 22:01:13 แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 49 21:58:21 แก้ไขเมื่อ 02 เม.ย. 49 21:57:48 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 2 เม.ย. 49 21:38:14 ]

ความคิดเห็นที่ 51 คคห.39การบ้านทั่นน้องเซ่อร์...... สวัสดีครับ น้าจันทร์ และทุกท่าน      แวะมาส่งการบ้านครับ      แล้วค่อยมาเล่น อิอิ      แอบไปแต่งมา 2 วันละ แหะๆ      ยังไงช่วยชี้แนะด้วยครับ ๏ เมือง  ฟ้าอมรฟ้าเฟื่อง          แดนฝัน     ไทย  แหล่งข้าวแหล่งสวรรค์     แน่นแฟ้น     แดน  เรา,ท่านเราปัน               มีแบ่ง     สุข  เท่าใดเท่าแม้น     แว่นแคว้นแดนวิมาน ๚...กินนรเก็บบัว Xers ๏เมือง  ข่าวสารข่าวกั้น      กีดคน ดูแฮ ไทย  ทุกข์ใครทุกข์สน     ซากไหม้ แดน กอบโกยกอบจน      จุกอก สุก  ครึ่งแบบครึ่งไว้       เวี่ยแว้วชินหู๚...จันทร์แหบ จากฉันทลักษณ์สถาบันสุนทรภู่ลิ้งค์ http://sunthornphu.org/poemklongkon1.html#os   โคลงกลบทกินนรเก็บบัว     เพ็ญพักตร์ผ่องพักตร์เพี้ยง เพ็ญแข คมเนตรมิคเนตรแล ร่ำเพ้อ เด่นโลกล่อโลกแปร เปลี่ยนจิต  จ่อแม่ เพียงพิศหลงพิศเก้อ เกาะรั้วหลงฝัน กฎบัญญัติในการเขียน ๑ คำที่ ๒ กับคำที่ ๔ จะต้องเป็นคำซ้ำกัน และคำที่ ๕ กับคำที่ ๖ จะต้องใช้อักษรชนิดเดียวกัน หรืออักษรที่มีเสียงคู่กัน เหมือนกันเช่นนี้ทุก ๆ บาทไป ๒ จะแต่งให้เป็นโคลง ๔ สุภาพ หรือ โคลง ๔ ดั้นก็ได้ ๓ หากจะแต่งเป็นโคลง ๔ ดั้น ในบาทที่ ๔ จะต้องให้คำที่ ๑ กับคำที่ ๓ ซ้ำกันแทน คำที่ ๒ กับคำที่ ๔ เพราะในโคลง ๔ ดั้น คำที่ ๔ จะต้องเป็นเสียงวรรณยุกต์โท ดังตัวอย่างดังนี้          เพ็ญพักตร์ผ่องพักตร์เพี้ยง เพ็ญแข คมเนตรมิคเนตรนาง นึกเพ้อ เด่นโลกล่อโลกแปร เปลี่ยนจิต พิศพักตร์พิศเก้อเก้อ ก่อกาม แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 49 07:17:09 แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 49 07:04:16 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 3 เม.ย. 49 06:46:40 ]

ความคิดเห็นที่ 52 คคห.39.1การบ้านทั่นน้องเซ่อร์...... ๏ มี  หลายกาลครั้งที่               ทนทุกข์      ทุกข์  หลากใหลมาจุก             อกร้อน      ร้อน  หนาวผสานคลุก              น้ำท่วม      ท่วม  ยับอย่าซ้ำค้อน       ตอกน้ำคำตี๚...วัวพันหลักXers มี ระเบิดตูมระเบิดใต้          แสนทุกข์ ทุกข์ ประชาชนคลุก       ขื่นร้อน     ร้อน รนกลียุก         เขญท่วม ท่วม ที่นาไร่จ้อน   จากบ้านมานาน...จันทร์หิว จากฉันทลักษณ์สถาบันสุนทรภู่ลิ้งค์ http://sunthornphu.org/poemklongkon1.html#os   โคลงกลบทวัวพันหลัก     ลมหนาวกรรโชกชื้น ชาทรวง ทรวงครากจากนุชตวง แต่เศร้า เศร้าสุเสน่ห์หวง โหยสวาท สวาทหวั่นระแวงเจ้า จักร้างลืมเรียม กฎบัญญัติในการเขียน ๑ ต้องให้คำที่ ๗ ( คำสุดท้าย ) ของบาทต้น กับคำที่ ๑ ของบาทต่อไปเป็นคำซ้ำกัน ๒ แผนที่แสดงนี้แสดงแต่สัมผัสกลบทเท่านั้น ส่วนสัมผัส วรรณยุกต์เอก วรรณยุกต์โท ไม่ได้แสดงไว้ เพราะเหมือนกับการเขียนโคลง ๔ สุภาพนั่นเอง แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 49 07:16:21 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 3 เม.ย. 49 06:50:54 ]

ความคิดเห็นที่ 53 คคห.39.2การบ้านทั่นน้องเซ่อร์...... ๏ รวม  สานฤดีส่งทั้ง               ชาติรวม      กล้า  กล่อมวิญญาณสวม          สิ่งกล้า      ช่วย  ขจัดอิทธิพลบวม-    เบ่งช่วย-  ขจัดนา      กัน  สิ่งร้ายอันบ้า    บั่นพ้องเดียวกัน ๚...ครอบจักรวาลxers ๏รวม  อธิถารจิตตั้ง         น้อมรวม กล้า  ฝ่าสู่ฝันสวม        เกาะกล้า ช่วย  กันคิดไม่บวม     เบ่งช่วย กัน  กีกดีกว่าถ้า      ติดแก้หลังกัน๚...จันทร์เป็นไข้ จากฉันทลักษณ์สถาบันสุนทรภู่ลิ้งค์ http://sunthornphu.org/poemklongkon1.html#os   โคลงกลบทครอบจักรวาล แผน เหมือนกับแผนของโคลงธรรมดา จะใช้โคลงสุภาพหรือโคลงดั้นก็ได้แต่ต้องให้คำต้นและคำสุดท้ายของบาทเป็นคำซ้ำกัน เช่นคำต้นของบาทเป็น ศรี คำสุดท้ายของบาทก็ต้องเป็น ศรี ฯลฯ     ศรีเมืองพักตร์แม่เศร้า เสื่อมศรี ย้ายคฤหาสน์ห่างบุรี เร่ย้าย อกตรอมผ่ายผอมทวี เทวษอก หลงรักชายชายผ้าย เผือดหน้านอนหลง แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 49 07:23:38 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 3 เม.ย. 49 06:55:44 ]

ความคิดเห็นที่ 54 สวัสดี คุณจันทร์แห้ง และพี่น้องเพื่อนฝูงทุกท่านครับ ถ้าให้ฝากตรวจการบ้านใครละก็ ทำไม่ใคร่จะได้ดอกครับ ครือว่า ..... ความรู้เพียงกิ่งก้อย           กระจิริด มิอาจบอกความผิด            พลาดได้ โคลงตลกวิปริต                พอมั่ว โคลงมาตรฐานแล้วไซร้      ตรวจให้อายเขา ช่วงเช้ามาแปะไว้หน่อยครับ งาม ขนง-วง-วาดไว้               ว่างาม ย้ำ พักตร์โอษฐ์มิทราม            ช่วยย้ำ ยิ่ง จริตกิริยายาม                   เยี่ยมยิ่ง สวย ทุกวันมิซ้ำ                     ชื่นซ้ำใจสวย (ครอบจักรวาล) เด๋วค่ำๆแดดลมลมตก หัวจะกระดกถึงหมอน จะมาแปะ กรนละบด อีกครับท่าน จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 3 เม.ย. 49 08:53:24 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ความคิดเห็นที่ 39.4การบ้านน้องXersต่อขอรับ ช้างประสานงา ๏ ดับฝัน-ร้ายด้วยฝัก                  ดาบฝัน       ดึกเฝื่อน เพราะคืนอัน              ขื่นร้าย       เคลื่อนรุม เร่งเร้าวัน                 สลดว่าย       สลัดวุ่น สอดดาบคล้าย            เก็บไห้หายระทม ๚ ..Xers ๏ดับฝัน ด้วยตื่นขึ้น      ดูฝา ดึกเฝื่อน มะขามมา    คึกแล้ว เคลื่อนรุม  หมู่พวกหา  ล้างแว่น สลัดวุ่น ขนแห้งแคล้ว  จับล้างตัวสวย  ๚..จันทร์โหย จากฉันทลักษณ์สถาบันสุนทรภู่ลิ้งค์ http://sunthornphu.org/poemklongkon1.html#os โคลงกลบทช้างประสานงา     ร้อนแดดยังดับได้ โดยเงา ดำงุดนทีเบา แบ่งร้อน บอบรักอุระเผา เพียงมอด พี่มั่นแม่มาย้อน ยอกให้เรียมตรอม  กฎบัญญัติในการเขียน     ให้คำที่ ๖ และ คำที่ ๗ ของบาทต้นเล่นอักษรกับคำที่ ๑ และที่ ๒ ของบาทต่อไปจนจบ ๔ บาท คือให้คำหน้ากับคำหน้าและคำหลังกับคำหลังเป็นอักษรซ้ำตัวกันแต่มีสระที่ต่างกันเช่น โดยเงา กับ ดำงุด คำหน้าคือ โดย กับ ดำ คำหลังคือ เงา กับ งุด ต้องเป็นอักษรตัวเดียวกัน กฎบัญญัตินอกนั้นเหมือนกับโคลง ๔ สุภาพ จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 3 เม.ย. 49 10:54:42 ]

ความคิดเห็นที่ 56 สวัสดีครับ น้าจันทร์ฯ และทุกท่าน สวัสดี น้าอาร์พี ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ วันที่ 1 เมษา วัน April Fool's Day ครับ เขาเลยโกเจ็ดกัน แหะๆ ศิษย์พี่โกฏิดารา มาด้วยฉันท์ยาวๆ สวยๆ พี่พิราบเงิน คุณพจนารถ๓๒๒ ปู่เจียวต้าย พี่จำปูน เข้ามาดูโคลงโดนแยกชิ้นส่วนเสียแล้วครับ แต่พอแยกออกมาเป็นบทแล้วเห็นจุดบกพร่อง ได้ชัดเจนขึ้นเลยครับ '51 น้าจันทร์แห้ง กลบทกินนรเก็บบัว ตามความเข้าใจผมเองนะครับ ว่า.. คำที่ 5 , 6 ในกลบทนี้ ที่น้าจันทร์บอกเป็นคำเดียวกัน ผมคิดว่าไม่ใช่คำบังคับของ กลนี้ครับ เป็นเพียงการสัมผัสใน เพื่อความไพเราะ ของโคลง หรือแสดงฝีมือของผู้แต่งมากกว่าครับ ดังจะเจอได้ในกลบทอื่นๆ ก็สามารถใช้ได้ และบางคนก็ใช้คำซ้ำ วรรคท้ายบาท 4 ด้วย เพื่อแสดงฝีมือ อ่ะครับ เช่น.. ของพี่จำปูน '15 อย่าลดอย่าถดล้า       อย่าช้าอย่าถอย ๚ ของพี่พิราบเงิน อาศรมการเมือง ระยะชั่วระยะดีให้        ระยะแท้ระยะกาล พิสูจน์เทอญ ๚       . ขอบคุณมากที่ช่วยตรวจการบ้านให้ครับ น้าจันทร์ เซ่อ... น้อมบันทึก แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 49 15:45:57 จากคุณ : xers - [ 3 เม.ย. 49 15:41:05 ]

ความคิดเห็นที่ 57 งามสุดสวยสุดเอื้อม              มือถึง มือถูกมัดถูกตรึง                  รัดน้อง รัดแน่นหนักแน่นจึง               ตอกจรด ตอกจิตตอกติดต้อง               ตอกคล้ายตอกขึง (กินนรเก็บบัว+นาคบริพันธ์) จำติดตรึงจึ่งต้อง                 ตรมใจ รักหนึ่งข้างร้างใน                ขุ่นข้อง เคืองขัดจิตคิดไข                จำพราก รักเหือดจางร้างห้อง             จากให้ใจถวิล (กบเต้นต่อยหอย) ตามสัญญาครับ มาแปะ กรนละบด ก่อนไปนอน เลยงัวเงียๆอย่างนี้ล่ะครับท่าน ราตรีอะหวัด คับป๋ม เมื่อคืนง่วงไปเลยผิดๆถูกๆ เช้านี้เลยมาแก้ใหม่ขอรับ แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 49 08:26:43 จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 3 เม.ย. 49 22:38:28 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เพิ่งกลับจากไปเลือกตั้งมา เหนื่อย ขอตามอ่านไปก่อนครับ ( ยิ้ม ) จากคุณ : พิราบเงิน - [ 4 เม.ย. 49 10:28:09 ]

ความคิดเห็นที่ 59 สวัสดีทุกทั่นครับ..... พี่จำปูนกำลังฟื้น...โคลงไหลลื่นเลยครับ และยิ้มสองยิ้มให้พี่พิราบเงินครับ โคลงกล"กินนรเก็บบัว" .....๑เสียงอะเคื้ออะคร้าว       ครั่นคำ กลบทจัตุบทนำ            นอบน้อม เกริ่นพระเกียรติพระจำ  จารจักร  จรัสเฮย พรายพร่างพรูพร่างฟ้า  ฟ่องเพี้ยงเหินหาว๚ .....๒เสียงสนั่นม้าสนั่นช้าง  ไชยยาม ปางราพณ์โรมราพณ์ราม  เรื่องอ้าง ทวยทัพเทียบทัพสนาม  เสนอเดช หมายบ่หายบ่ร้าง   เรื่องรุ้งเรืองศรี๚ ......๓แสดงพิชัยพิลาศยั้ง         ยลกล เก่าพ่อ พิริยะริพ่าห์ผล             แผ่รู้ อยุธเยศยุทธ์รณ          รามฤทธิ์ โคลงเฮย ปองชีพพรายชีพพร้า  พรั่งพร้อมวรรณฉวี๚ ......๔ขอพระปีติพระตื้น    เต็มมาน กรประณตประสาน   สู่เกล้า     จิตอธิษอธิษฐาน        ทอเดช พระเอย คุ้มแต่ข้าแต่เจ้า   เจิดจ้าแจ้งฉันท์๚ แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 49 22:59:12 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 4 เม.ย. 49 22:53:09 ]

ความคิดเห็นที่ 60 อรุณสวัสดิ์ขอรับทุกทั่น เชิญชวนอ่านขอรับ... ลิ้งค์สถาบันสุนทรภู่ครับว่าด้วย "ลีลากลอน" http://sunthornphu.org/poemkrong.html กระผมเห็นทั่นพี่วลีกล่าวไว้ในอาศรมตอนก่อน เพิ่งถึง"บ้างอ้อ"ก็หนนี้ขอรับ "ลีลาของกลอน"  หมายถึงถ้อยคำสำนวนที่มี "นวยนาดอันสง่างามประเจิดบรรจง" โบราณจัดไว้มี ๔ ประเภท คือ ๑ เสาวรจนี ถ้อยคำชมโฉม ๒ นารีปราโมทย์ ถ้อยคำเล้าโลมหรือเกี้ยวพาราศี ๓ พิโรธวาทัง ถ้อยคำขุ่นเคืองหรือตัดพ้อต่อว่า ๔ สัลลาปังคพิสัย ถ้อยคำคร่ำครวญรำพึงรำพัน พบเห็น"ลีลากลอน"ทำให้ใคร่เกิดอยากเห็น "ลีลาโคลง" ก็พยายามขุดค้นแต่ยังไม่เป็นชิ้นเป็นอันนักครับ จากการค้น... คคห2...ของทั่นพี่หมีเซอะขอรับ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2424940/W2424940.html ประจวบกับ๒-๓กระทู้ก่อน +ปลายกระทู้ที่แล้ว มีการคุยเรื่องเสียงโคลง สำเนียงโคลง เลยถือโอกาส รี-รัน อัญเชิญครูหนอนมาร่ายมนต์อีกครั้ง นอกจากโคลงตำรับชาววังแล้ว ยังมี - โคลงแบบพระนารายณ์ - โคลงแบบเจ้าฟ้ากุ้ง - โคลงแบบเตลงพ่าย วัตถุประสงค์ที่ยกมา  เพื่อให้มือใหม่ที่ยังไม่มีทางโคลง ฝึกแต่งเลียนเสียงตาม "โคลงแบบ" แบบต่างๆ เพื่อจะได้ซึ้งซึ่งเสน่ห์โคลง และที่สุดแล้ว เมื่อเราซึ้งถึงรสต่างๆ  ต่อไปเราจะสามารถเลือกปรุงรสเองได้ "เพ็ญ ภัคตะ" เสน่ห์โคลงแม้นค้นพบ              ขลังนัก ใจจรดใจจึงจัก                         ประจักษ์แจ้ง ใช่เพียงเอก-โทสลัก                  เจ็ด-สี่ สัมผัสหากเสแสร้ง                     ห่อนซึ้งวิญญาณโคลง ปล.1ขอเวลารวบรวมต่อไปขอรับ ปล.2ตรวจการบ้านน้องเซ่อร์ที่รักยังไม่จบขอติดค้างก่อนนะครับ จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 5 เม.ย. 49 08:13:22 ]

ความคิดเห็นที่ 61 จำจากไปจากนี้                 ที่ใด ท่านดุ่มเดินดุ่มไฉน            โศกซ้ำ เศร้าสลดสุดสลดไหล         ลาก่อน ลับกลับลับตาช้ำ                ลับลี้ลับหาย (กินนรเก็บบัว+ช้างประสานงา) สวัสดีครับ จขกท ผู้แสนขยัน ขอบคุณมากสำหรับ โคลงตำรับชาววัง แต่คงอีกนานกว่าจะหัดเป็นชาววังได้ คงเป็นได้แค่ โคลงชาวบ้านร้านตลาดไปก่อนเนอะ พูดถึงชาววัง อยากกินข้าวแช่ ชาววังขึ้นทันทีทันใด หน้าร้อนอย่างนี้ กินข้าวแช่ดับร้อนดีแท้ อยากเป็นชาววังแต่ตังค์ยังไม่ถึง คงกะลิ้มกะเหลี่ยได้แค่แถวๆบางลำภูเท่านั้นล่ะครับ จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 5 เม.ย. 49 10:12:54 ]

ความคิดเห็นที่ 62 สวัสดียามดึกขอรับ....ขอเขียนโคลงแปะก่อนครับ นำด้วยกลบท1บทครับ เสวยสุขสมสวัสดิ์สร้อง     สร่างศรี พริ้งเพริศแพร้วพรรณภี     เพื่อนพ้อง โคลงคำค่ำค้ำคีย์          ขานคึก กลเก่าแก้วเกล็ดก้อง  กล่อมเกล้าเกลากานท์...อักษรล้วน ตามด้วย"เสียงรัก"ขอรับ เสียงเล่าเสียงรักนี้     เรียมชวน เขียนโคลง เสียงเพรียกเรียกชมสวน     ดอกไม้ หนาวใจอยู่เดียวครวญ      คำกาพย์ แก้มเอย หนาวเหน็บฉะนี้ให้      อกร้าวรอฝัน ใฝ่ฝันถึงแม้เกิด        ชาติไหน ก็ดี โคลงบทศาสตร์กวี     อย่าร้าง หาเช้าชดเชยพลี        กินค่ำ ก็ตาม ขอเบ่งเสียงโคลงบ้าง   แบ่งให้โลกสวย ตายก็สลายสู่น้ำ    ดินลม ไฟเฮย ปราณอยู่กู่โคลงสม   จิตตั้ง บำราศนราดูรรมย์      โลกสุข สำเร็จเสร็จทั่วทั้ง      กาพย์แก้วแววศิลป์ โกฏิสูรจันทร์หล่อเลี้ยง      จักรวาล กลอนกาพย์ถักทอสาน         ชีพเร้า หาทรัพย์มากแต่พาน        ใจอับ อกเอย เสียชาติเกิดแฝงเฝ้า       หน่อเนื้อมนุษย์สา แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 49 14:26:38 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 5 เม.ย. 49 23:37:07 ]

ความคิดเห็นที่ 63 สวัสดียามเช้าในวันหยุด ซึ่งมิได้หยุดต้องมาทำงานขอรับ....ผมเขียนโคลงแปะตอนเช้าสลับกับคุณจันทร์แห้งที่มายามดึกครับ ลีลาโคลงยั้วยั่ว              น่าตาม แต่งเสร็จดูลามปาม         เปรอะเปื้อน เสียงอ่านไม่งามทราม      ป่าเถื่อน โคลงตำรับเยื้อนเอื้อน      แปร่งแสร้งเปลี่ยนเสียง (สิงโตเล่นหาง) จันทร์แห้งขุดขุดค้น        จนเจอ มาแปะบอกบอกเกลอ      พี่น้อง เพียรฝึกหัดหัดเสนอ        สนองตอบ  ชอบนา มีชื่อเสียงเสียงก้อง         เชิดชั้นการกวี  (บุษบารักร้อย) จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ วันจักรี 08:22:16 ]

ความคิดเห็นที่ 64 เพื่อนฝูงพลันห่างแล้ว         ไปไหน ไปหน่อยนะกลอยใจ           กลั่นร้อย กลั่นรสพจนารถวิไล           กลท่าน  เชิญพ่อ กลทุกบทหยดย้อย             ต่อถ้อยคอยเสมอ (นาคบริพันธ์) เสียงเรียกเสียงเร่าเร้า          เศร้าเหงา   ครุ่นคิดถึงเพื่อนเรา             ที่นี้ มามะแปะโคลงเพรา           เพริศเลิศ  นาพี่ หัวร่อต่อกระซิกกระซี้          สนุกให้ดังหวัง (ก้านต่อดอก) แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 49 10:32:04 แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 49 08:55:24 จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ วันจักรี 08:52:10 ]

ความคิดเห็นที่ 65 จักรีจักเกริกฟ้า                     เฟื่องกัป นิรมิตนิรภัยขับ                     โขมดเหง้า ประชาประชุมรับ                    ราชโอษฐ์ พร้อมเฮย ไทยรัฐไทยราษฏร์เต้า            เติบด้วยพระบารมี ฯ ส่ง "กินรเก็บบัว" มาวางบ้างขอรับ เอ แต่ว่า กินรแบบกระพ้ม ใช้ได้หรือเปล่าหนอ ? แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 49 15:11:35 จากคุณ : พิราบเงิน - [ วันจักรี 10:03:02 ]

ความคิดเห็นที่ 66 จำปูนมาป่าวร้อง                      โคลงการ โคลงเก่าโคลงใหม่ประสาน        แต่งร้อย แต่งเรื่อยอย่าปล่อยวาร            ไหลผ่าน ไหลเพื่ออาศรมฯค้อย               เคลื่อนพร้อมไมตรี เทอญนา ฯ ส่ง "นาคบริพันธ์" มาบ้าง ขอรับ แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 49 10:50:35 จากคุณ : พิราบเงิน - [ วันจักรี 10:49:04 ]

ความคิดเห็นที่ 67 รักร่านเร้นเช่นชู้                  กากี มามั่วหมดศักดิ์ศรี               สุดสิ้น ระรื่นรสมากมี                     เกลื้อกลวก หญิงยั่วเย้าปล้อนปลิ้น          ชั่วช้าโฉ่ฉาว เลียนแบบ กลอน: เลวงวางตรวจ X X X O O X X X ซ้ำเสียงพยัญชนะคำที่ ๑,๒,๓ กับ ๖,๗,๘ ในวรรคเดียวกันทุกวรรค เนื่องจาก โคลงหนึ่งบาท มี ๗ คำ จำปูนเลยกำหนดใหม่เป็น ซ้ำเสียงพยัญชนะคำที่ ๑,๒,๓ กับ ๔,๕ และ ๖,๗ ในวรรคเดียว บาทสี่เลยแถม ๘,๙ ไปด้วยเลยครับ ชอบเล่นอะไรแปลกๆอย่าว่ากันเน้อ (ยิ้ม) (ยิ้ม) (คิก) (คิก) จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ วันจักรี 14:42:47 ]

ความคิดเห็นที่ 68 สวัสดิ์ดีขอรับ คคห65...พี่พิราบพิไล.........พิราบเงินครับ ส่ง eat-sleep-pick-lilies...."กินนรเก็บบัว" มาวางบ้างขอรับ จักรีจักเกริกฟ้า                     เฟื่องกัป นิรมิตนิรภัยขับ                     โขมดเหง้า ประชาประชุมรับ                    ราชโอษฐ์ พร้อมเฮย ไทยรัฐไทยราษฏร์เต้า            เติบด้วยพระบารมี ฯ เมื่อเช้าผมอ่านโคลงพี่แล้วก็ให้นึกขึ้นได้และจากการค้นอ่านได้ว่า วันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์หรือที่คนทั่วๆไปเรียกว่า "วันจักรี" หมายถึง วันที่รำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระปฐมบรมราชวงศ์จักรี เสด็จกรีธาทัพถึงพระนคร และทรงรับอัญเชิญขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติดำรงราชาอาณาจักรสยามประเทศเป็นวันแรก6 เมษายน พ.ศ.2461 คคห66...พี่พิราบเงิน วาง"นาคบริพันธ์"แปลได้ว่าเอานาคมาผูกเป็นร้อยกรอง ความบาท4....จับใจเชียวครับ ไหลเพื่ออาศรมฯค้อย    เคลื่อนพร้อมไมตรี เทอญนา ฯ คคห63...พี่จำปูน ลีลาโคลงยั้วยั่ว              น่าตาม แต่งเสร็จดูลามปาม         เปรอะเปื้อน เสียงอ่านไม่งามทราม      ป่าเถื่อน โคลงตำรับเยื้อนเอื้อน      แปร่งแสร้งเปลี่ยนเสียง (สิงโตเล่นหาง) ลีลาบาทแรก....ผมว่าเสียงมีเอกลักษณ์เฉพาะได้ทีเดียวครับ..จำได้ว่าพี่แต่งยั่วกับกระผมมาหลายกระทู้อาศรมแล้ว ลีลาโคลงยั้วยั่ว              น่าตาม แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 49 23:14:08 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ วันจักรี 23:13:15 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ขอย้อนสนทนาครับพี่จำปูน คคห61... จำจากไปจากนี้                 ที่ใด ท่านดุ่มเดินดุ่มไฉน            โศกซ้ำ เศร้าสลดสุดสลดไหล         ลาก่อน ลับกลับลับตาช้ำ                ลับลี้ลับหาย..(กินนรเก็บบัว+ช้างประสานงา) พี่เป็นนักชีวะผสมพันธ์ได้ดีทีเดียวครับ กินนรเก็บบัว+ช้างประสานงา  เป็นภาษาปะกิตว่า eat-sleep-pick-lilies+elephant head bud จนมาเป็น คคห67..."เลวงวางตรวจ"กรายพันธ์ รักร่านเร้นเช่นชู้                  กากี มามั่วหมดศักดิ์ศรี               สุดสิ้น ระรื่นรสมากมี                     เกลื้อกลวก หญิงยั่วเย้าปล้อนปลิ้น          ชั่วช้าโฉ่ฉาว เลียนแบบ กลอน: เลวงวางตรวจ กระผมเห็นว่าน่าสนุกสนานมากขอรับสำหรับการเป็นนักวิศวะพันธุกรรมขอพี่จำปูน "วิศวพันธุกรรม" จำปูนนักเพาะไว้    ผสมโคลง ใหม่นา เสียงยั่วยั้วจรรโลง  เล่นเร้น "เลวงวางตรวจ"ยามโมง   ก็เหมาะ เสียงเคาะจังหวะเส้น   สิ่งใหม่สนุกหลาย พ่อนา Charl da vin cy คั้น     คำไข ไขหลากหลายไช          เจาะค้น ค้นเข้าที่ข้างใน       เร้นหลืบ หลืบแลบเล่นสุขล้น   หมู่น้อมศึกษา  พ่อเอย..วัวพันหลัก จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ วันจักรี 23:43:32 ]

ความคิดเห็นที่ 70 .                                     สวัสดีครับทุกท่าน ดีครับ น้าจันทร์แห้ง พี่พิราบเงิน พี่จำปูน -- โคลงกลอน กลอนโคลง -- ๏ เมฆรายหมายล้อมแดด.......แผดลับ แสงค่อยถอยแรงระยับ..........ขยับเร้น เขาตระการม่านลมขับ............ประทับโลก เราร่วมรวมเกลาเน้น..............เช่นเค้นสรวงคำ ๚            . ๏ เมฆรายหมายล้อมแดดแผดลับแสง ค่อยถอยแรงระยับ ขยับเร้นเขา ตระการม่านลมขับ ประทับโลกเรา ร่วมรวมเกลาเน้นเช่น เค้นสรวงคำ ๚ K4K806049323:09 หลังจากบ่ายเบี่ยงบทนี้มานาน ได้โอกาสแต่งซะทีครับ ข้อดีของการ เว้นวรรค ทำให้อ่านง่าย แต่บางครั้งการร้องเพลงถ้าวรรคผิด ก็เสียความหมาย เช่น เพลงชาติ 'สงบแต่ถึงรบไม่, ขลาดเอกราช จะไม่ให้' ไม่ควรเว้นวรรคผิดที่ ที่ควรเว้นก็เว้น ขอรับ เซ่อ... น้อมบันทึก ----------------------------------------------------                                  ตกหล่นอีกแล้ว...                                  เข้ามาผูกลูกใหม่ครับ... แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 49 15:05:36 แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 49 13:11:46 แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 49 01:04:09 แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 49 00:38:10 จากคุณ : xers - [ 7 เม.ย. 49 00:31:48 ]

ความคิดเห็นที่ 71 สวัสดีขอรับทุกท่าน คุณพิราบเงินบินมาหลายรอบแล้ว บินมาบ่อยๆนะครับ น้องเซ่อ คราวนี้มาส่งโคลงกล เป็นโคลงกลอน เก่งขึ้นเยอะเลยน้องเรา คุณจันทร์แห้งมาให้ฉายาผมซะแล้ว เป็น นักวิศวะพันธุกรรม ไปนั่น ผมเป็นได้แค่นักผสมปนเป จับแพะชนแกะแค่นั้นครับ ว่าแต่ กินนรเก็บบัว+ช้างประสานงา เนี่ยลูกออกมาหน้าจะเป็นจั๊งได๋ ตัวเป็นกินนร แต่มีงามีงวง หรือ หัวเป็นช้าง หางเป็นนก คงจะน่าเอ็นดูเนอะ ว่าแล้วก็เอา กรนละบด  มาแปะไว้บ้างครับ +++++++++++++++++++++++++++++++++ นาคบริพันธ์ว่าไว้                    สองคำ สองค่อยสอดคล้องจำ             จดไว้ จดว่าหนึ่งคำนำ                      อีกบาท     ต่อนา อีกบอกคำสองให้                   จักต้องพ้องกัน  (นาคบริพันธ์) ก้านต่อดอกวรรคท้าย             มีดี คำหกเจ็ดสองศรี                    คู่รู้ สัมผัสสระอย่าหนี                  เลือนเคลื่อน                                             แต่งเสร็จแล้วคุดคู้                 ครอกฟี้พลันฝัน (ก้านต่อดอก) สิงโตชวนคู่ชู้                        เล่นหาม   หางเอย คำเลื่อนพ้องงามตาม              สี่ห้า เล่นกันจวบยามสาม               ไม่เลิก เล่นอะไรหนาข้า                    แอบจ้องมองฉงน   ( สิงโตเล่นหาง) กลบทอีกบทนั้น                    กินนร คอยเก็บบัวเก็บบอน               แยบเยื้อน ซ้ำคำอีกคำวอน                    วางแต่ง บาทสี่บาทท้ายเอื้อน              บาทชั้นบาทเชิง (กินนรเก็บบัว) + อีกหนึ่ง (ยิ้ม) ปล.กลับมาดูใหม่ก้ยังมีผิดอยู่อีกครับขอประทานโทษที่แก้บ่อย ก็ กลบทเนอะ เล่นกลจนหัวหมุนติ้วเลย แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 49 23:58:17 แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 49 14:20:17 แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 49 13:29:31 จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 7 เม.ย. 49 10:31:19 ]

ความคิดเห็นที่ 72 รักลูกผูกไว้ที่                หลักทาง ทางที่ถูกเฝ้าถาง            ประพฤติพร้อง พร้องพร่ำอย่าปล่อยวาง  ผิดชอบ ชอบอย่าตามใจต้อง       ปรับใช้ผูกตี ฯ มา "วัวพันหลัก" แบบ รักวัวให้ตี รักลูกให้ผูก ( ยิ้ม ) จากคุณ : พิราบเงิน - [ 7 เม.ย. 49 10:33:54 ]

ความคิดเห็นที่ 73 สวัสดีทุกท่านขอรับ ขอสรุปคคห..บทโคลงกลของทุกท่าน ที่ได้ส่งความสุขมาร่วมกันไว้ขอรับ คคห2ทั่นพี่ วฤก คคห3,18,42,48น้องโกฏิดารา คคห4,16,19,39,40,56,70น้องxers คคห5,20,38,46พี่เจียวต้าย   คคห9คุณมือใหม่หัดแต่ง คคห14คุณลิ้มบ่อเมี้ย   คคห15,23,24,34,49,54,57,61,63,64,67,71จำปูน (อ่างหยก) คคห17,22น้องศาลาไทย (salathai) คคห25น้อง ณ มิตร(namit) คคห26,27,44,58,65,66,72ทั่นพี่พิราบเงิน   คคห29,45สหายพจนารถ๓๒๒   คคห35ทั่นพี่สดายุ คคห36ทั่นพี่ นายทิวา คคห37น้องน้อยซอมพอแดง   คคห41,47ทั่นพี่(Ar@p) ขอขอบคุณทุกทั่นครับ   และขอเชิญชวนอ่านอีกครั้งสำหรับ "โคลงกล-มนต์สะกดนักเลงโคลง "โดย :ครูหนอนสุรา ภาค1 http://www.geocities.com/wgate.geo/klond38.html?20068 ต่อภาค2ขอรับ http://www.geocities.com/wgate.geo/klond40.html?20064 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 7 เม.ย. 49 16:46:58 ]

ความคิดเห็นที่ 74 คคห.70.น้องเซ่อร์ -- โคลงกลอน กลอนโคลง -- ๏ เมฆรายหมายล้อมแดด.......แผดลับ แสงค่อยถอยแรงระยับ..........ขยับเร้น เขาตระการม่านลมขับ............ประทับโลก เราร่วมรวมเกลาเน้น........เช่นเค้นสรวงคำ ๚            . ๏ เมฆรายหมายล้อมแดดแผดลับแสง ค่อยถอยแรงระยับ ขยับเร้นเขา ตระการม่านลมขับ ประทับโลกเรา ร่วมรวมเกลาเน้นเช่น เค้นสรวงคำ ๚ K4K806049323:09 ท้าวความเพราะตกหล่นขอรับต้อง ขออภัยสหายพจนารถ322 คคห. 29.จากสหาย พจนารถ๓๒๒   ครานี้เอยบอกเจ้า                  เราควร             ทราบแต่คิดภาพหวล             ละห้อย น้อยใจหนักนะนวล                คอยพี่ เออ หนอ เผลอรักสิประจักษ์ถ้อย           ทั่วทั้งหัวใจ. ครานี้เอยบอกเจ้า เราควรทราบ แต่คิดภาพ หวลละห้อย น้อยใจหนัก นะนวลคอยพี่ เออหนอ เผลอรัก สิประจักษ์ ถ้อยทั่ว ทั้งหัวใจ. เพราะกระผมไม่ใคร่ถนัดโคลงกลอน กลอนโคลง สหาย พจ นา รถ มาอำไว้คคห29...แล้วมาเฉลย คคห45....ยอมรับว่าอ่านตรวจไม่ทันขอรับ.... ฝากไว้ก่อนหนอ........จะหาโอกาศเอาคืนครับ..... แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 49 19:44:32 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 7 เม.ย. 49 20:34:48 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ๏๏๏ค่ายโคลงกล๏๏๏ ๑ครานั้นจะกล่าวไว้        พยุหทัพ   กลเฮย ชุมค่ายอักษรศัพท์        กาพย์กี้ ช้างม้าเหล่าขุนขับ        เขญพ่าย  พ่อนา เถลิงศกโคลงกลนี้       นทน้อมครูฉันท์ ๒โยธีเทียมล้วนนาค         บริพันธ์ ช้างประสานงาผัน        เผ่นโต้ กินนรเก็บบัวบรรณ     เบ่งอักขร ก็ดี อักษรสลับสร่างโล้     ร่ายรุ้งเรืองพโยม ๓ครอบจักรวาลสนั่นฟุ้ง      พลสรวง ก้านต่อดอกทะลวง        หักถ้วน วัวพันหลักรักหวง       ให้ห่วง แม่นา กลบทอักษรล้วน    ร่มฟ้าดินไหว ๔เสียงเสนาะเสียงขับเอื้อน    กล่อมกานท์   ไพเราะจับใจพาน         จิตแจ้ง ตราบเวียนว่ายวัฏวาล    เวิ้งสมุทร ขอศาสตร์กวีไป่แล้ง   จวบพ้นนิพพาน แต่งไม่ได้เป็นกลบทครับแต่เอาชื่อใส่ไว้..... เรียกว่าใส่ไว้ขู่...ขอรับ.....................ฮา แต่งแล้วหลับสบายขอรับ..ราตรีสวัสดิ์ทุกทั่น ปล.ผมใคร่อยากแต่งแบบคคห.71.ของพี่จำปูนบ้าง รู้สึกว่ามีสาระดีทีเดียว................ จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 7 เม.ย. 49 22:17:22 ]

ความคิดเห็นที่ 76 สวัสดียามดึ๊กดึกครับท่าน เมื่อเช้านำเสนอไปส่วนนึง  ก่อนนอนกลัวคุณจันทร์แห้งตัดหน้า (ยิ้ม+หัวเราะ) เลยตั้งหน้าตั้งตามาต่ออีกหน่อยนึงครับ ++++++++++++++++++++++++++++ อักษรแอบสลับอ้าง                     สืบเอย ตัวหนึ่งติดหนามเตย                    หนักตุ้ม ผิดถูกผ่านถ้าเผย                        ถามเผื่อ กลัวจิตกลับจับกลุ้ม                     จึ่งกล้าแจงกล    (อักษรสลับ) ครอบจักรวาลรอบรู้                         เรื่องครอบ ท้ายกับต้นชนรอบ                           ต่อท้าย ส่งหลังตรวจทานสอบ                      จึงส่ง ขออย่างละเมียดเฉียดคล้าย              แต่งได้ตามขอ  (ครอบจักรวาล) กลบทนี้ชื่อช้าง                           ประสานงา ประสมง่ายดายหนักหนา               เช่นนี้ ใช้นำคู่ก่อนมา                           สัมผัส ส่งผูกบาทถัดชี้                           ช่วยย้ำคำเหมือน  (ช้างประสานงา) บุษบารักรักร้อย                         เรียมขวัญ สามสี่เคียงเคียงบรร                   -เจิดแล้ เสียงสระคู่คู่กัน                           วางต่อ ช่างเสนาะเพราะเพราะแท้             ทุกถ้อยคอยเสนอ  (บุษบารักร้อย) วัวพันหลักท่านใช้                    ซ้ำคำ คำท้ายวรรคก่อนนำ                 บาทหน้า หน้าสัมผัสนั้นสำ                    -คัญยิ่ง ยิ่งแต่งยิ่งงงจ้า                        หลักให้ไขว้เขว (วัวพันหลัก) ราตรีสวัสดิ์ครับ จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 7 เม.ย. 49 23:28:58 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ขอคราวะ ๏สาระตะโคลงกล๏ ..คคห76..พี่จำปูน....อ่านแล้วอิ่มเหลือหลาย ขอสนุกด้วยครับ ๏๏๏สาระตะโคลงกล๏๏๏ (อักษรสลับ) อักษรแอบสลับอ้าง                     สืบเอย ตัวหนึ่งติดหนามเตย                    หนักตุ้ม ผิดถูกผ่านถ้าเผย                        ถามเผื่อ กลัวจิตกลับจับกลุ้ม                     จึ่งกล้าแจงกล..จำปูน อักษรโอบซ้อนอก                      สั่งเอย รักหนึ่งเลือกหนึ่งเลย                   หน่ายแล้ว ขับรถขับราเคย                         เข้ารก จิตกรุ่นใจกล่อมแจ้ว              กราบเจ้ากลอนแจง....จันทร์แห้ง               (ครอบจักรวาล) ครอบจักรวาลรอบรู้                         เรื่องครอบ ท้ายกับต้นชนรอบ                           ต่อท้าย ส่งหลังตรวจทานสอบ                      จึงส่ง ขออย่างละเมียดเฉียดคล้าย              แต่งได้ตามขอ...จำปูน ครอบกะลาไว้ไม่                          วุ่นครอบ ท้ายบุบบ้างจำสอบ                       สืบท้าย เพราะเบรคแตกตีบตอบ                เหตุเพราะ รถรา   ขออย่างให้อย่างร้าย                   แต่งได้ตามหลัง เฮฮา...จันทร์แห้ง               (ช้างประสานงา) กลบทนี้ชื่อช้าง                              ประสานงา ประสมง่ายดายหนักหนา                 เช่นนี้ ใช้นำคู่ก่อนมา                              สัมผัส ส่งผูกบาทถัดชี้                             ช่วยย้ำคำเหมือน..จำปูน E lep hant bud  head                   หัวชน กันเฮย หัวช่างค้นเคาะกล-                        บทสร้าง แบบสร้องแซ่ซุกซน                      สัมผัส ผิดฮา ส่งผัดผ่อนแขกค้าง                        ดอกเบี้ยบานสลวย  นาพ่อ...จันทร์แห้ง             (บุษบารักร้อย) บุษบารักรักร้อย                         เรียมขวัญ สามสี่เคียงเคียงบรร                   -เจิดแล้ เสียงสระคู่คู่กัน                           วางต่อ ช่างเสนาะเพราะเพราะแท้             ทุกถ้อยคอยเสนอ..จำปูน บุษบารักรักร้อย                    เรียมตรม รักหนึ่งให้ให้กลม                 กอดไว้ เรียมก็รักรักรมย์                   ร้อยเหลือบ หลบรา เอ๊ะใคร่รู้รู้ได้                    อกนี้รักหลาย หลากเฮย...จันทร์แห้ง (วัวพันหลัก) วัวพันหลักท่านใช้                    ซ้ำคำ คำท้ายวรรคก่อนนำ                 บาทหน้า หน้าสัมผัสนั้นสำ                    -คัญยิ่ง ยิ่งแต่งยิ่งงงจ้า                        หลักให้ไขว้เขว..จำปูน Thousand ox walk around           the word(เวิด) Wording running เตลิด                ตลาดจ้า จ้าจ๋ารักนะเพริศ                           เพลินกาพย์ กาพย์ก่องเกล็ดเจ็ดกล้า                จรัสแก้วมณีสวรรค์...จันทร์แห้ง จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 8 เม.ย. 49 07:59:27 ]

ความคิดเห็นที่ 78 สืบเนื่องจากวันจักรกรีขอรับ เชิญชวนอ่าน พระบรมมหาราชวัง และปราสาทพระเทพบิดร (The Royal Pantheon) http://www.nectec.or.th/courseware/siamculture/travel/knowledge/watprakaew01.html http://www.bangkokfocus.com/ontour/bkkfo_01.html แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 49 08:30:13 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 8 เม.ย. 49 08:28:08 ]

ความคิดเห็นที่ 79 I love you so much                      the moon That mob is comming  soon          I'm afraid ICE AGE is cartoon                       with laugh With love you always                   POEM of ARSOM  , Oh Yeh (Chang prasan nga) Good morning krub , Khun dry Moon แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 49 08:46:40 จากคุณ : Jumpoon (อ่างหยก) - [ 8 เม.ย. 49 08:42:03 ]

ความคิดเห็นที่ 80 +++ ชมนาด +++ ๏ ชมนาดนาดกิ่งช้อย.........ช้อนงอน นาดดั่งนางกินนร...............นาฏฟ้อน ไหวไกวกวัดไหวกร............วาดกิ่ง ว่ากวักเรียกรักย้อน.............อยู่ซ้อนเยียนสม ฯ ๏ อภิรมย์อกพี่เร้า...............รสสวาท หอมดอกชมนาด................ชื่นเนื้อ ฉมปรางหากจางคลาด.........ใจขาด คลุ้งกลิ่นชมนาดเอื้อ............อกร้อนฤๅหาย ฯ ๏ พระพายพัดผ่านซุ้ม..........พฤกษา พร่ำศัพท์กระซิบภา-............ษกพร้อง- เพรียกนางอย่าร้างลา..........ลืมกลับ- หลังชื่นชมนาดน้อง..............นาทซ้องน้ำเสียง ฯ ๏ ใช่เพียงชมนาดช้อย..........ช้อนกร ใช่กลิ่นแก้มสมร..................สมัครชู้ ใช่เสียงศัพท์เว้าวอน.............วากย์สั่ง ใช่ส่ำชำมะนาดรู้..................เรียกน้องนางไฉน ๚๛ ๘ เมษายน ๒๕๔๙ ==================================== สวัสดีครับสหายอาศรมฯ เอารูปดอกชมนาดที่บ้านมาอวด....... แต่ว่า.... ตั้งแต่เดือน พ.ย. มาแล้ว ยังไม่เห็นดอกอีกเลย ตอนนี้มีแต่ใบและต้นเลื้อยยั้วเยี้ยไปหมด สงสัยต้องทำร้านให้น้องชมนาดเลื้อยเล่นซะแล้ว แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 49 17:33:04 จากคุณ : วฤก - [ 8 เม.ย. 49 17:19:23 ]

ความคิดเห็นที่ 81 คคห.72 พี่พิราบเงิน ผู้กรุณาเวียนแวะมาแปะโคลงงามสม่ำเสอม "วัวพันหลัก" รักลูกผูกไว้ที่                หลักทาง ทางที่ถูกเฝ้าถาง            ประพฤติพร้อง พร้องพร่ำอย่าปล่อยวาง  ผิดชอบ ชอบอย่าตามใจต้อง       ปรับใช้ผูกตี ฯ..พิราบเงิน ถ้าทางพี่จะเข่มงวดลูกมากทีเดียว.........ล้อเล่นขอรับ กระผมก็เข่มงวดเช่นกัน... มักจะชวนกันไปดูหนังโรงประจำ..................ฮา "บุษบารักร้อย" รักลูกสุดๆสร้าง        ตามใจ ลูกนา เสนอสุขทุกๆนัย    ตอบตั้ง หวังเพียงส่งๆไส   ความสนุก เติบใหญ่แล้วๆยั้ง   อดกลั้นได้ไฉน...จันทร์แห้ง ******************************** คคห.80..พี่หมอวฤก   ได้ชมเชยโคลงงามเสมอๆจากพี่เช่นกันขอรับ +++ ชมนาด +++ ๏ ชมนาดนาดกิ่งช้อย.........ช้อนงอน นาดดั่งนางกินนร...............นาฏฟ้อน ไหวไกวกวัดไหวกร............วาดกิ่ง ว่ากวักเรียกรักย้อน.............อยู่ซ้อนเยียนสม ฯ ๏ อภิรมย์อกพี่เร้า...............รสสวาท หอมดอกชมนาด................ชื่นเนื้อ ฉมปรางหากจางคลาด.........ใจขาด คลุ้งกลิ่นชมนาดเอื้อ............อกร้อนฤๅหาย ฯ ๏ พระพายพัดผ่านซุ้ม..........พฤกษา พร่ำศัพท์กระซิบภา-............ษกพร้อง- เพรียกนางอย่าร้างลา..........ลืมกลับ- หลังชื่นชมนาดน้อง..............นาทซ้องน้ำเสียง ฯ ๏ ใช่เพียงชมนาดช้อย..........ช้อนกร ใช่กลิ่นแก้มสมร..................สมัครชู้ ใช่เสียงศัพท์เว้าวอน.............วากย์สั่ง ใช่ส่ำชำมะนาดรู้..................เรียกน้องนางไฉน ๚๛๘ เมษายน ๒๕๔๙ แต่ว่า.... ตั้งแต่เดือน พ.ย. มาแล้ว ยังไม่เห็นดอกอีกเลย ตอนนี้มีแต่ใบและต้นเลื้อยยั้วเยี้ยไปหมด สงสัยต้องทำร้านให้น้องชมนาดเลื้อยเล่นซะแล้ว ว่าแต่ชมนาดเป็นไม้หอมหรือเปล่าขอรับ ผมสังเกตุว่าไม้หอมเช่นโมกข์,แก้ว,ลีลาวดี ออกดอกมากช่วงร้อนนี้ขอรับ................... หาเรื่องดอกไม้สนทนาแทนการเขียนตอบโคลงครับ ......บ่ได้อู่งานครับ.........................ฮา แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 49 07:49:18 แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 49 07:41:17 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 9 เม.ย. 49 07:40:22 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ด้วยความคิดถึงทั่นพี่"จอมยุทธเมรัย "ครับ ไม่ได้คิดเสน่หาประการใดขอรับเพราะเป็นไม้ป่าเดียวกัน....ฮา ย้อนอันเชิญพี่มาจากกระทู้.........อาศรม71.......ครับ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2413512/W2413512.html      ๏ ๏ ๏ ช้ำรัก ๏ ๏ ๏ ๏ แค่แรกพบพักตร์น้อง..............ต้องหลง รักสุดใจหักลง..........................แน่แท้ ใจเหงาห่อนยอมปลง.................ปลดเรื่อง รักเอย เราจึ่งเตรียมเศร้าแพ้..................หากร้างจากนวล ๚ (โคลง-กลอน) ๏ แค่แรกพบพักตร์น้องต้องหลงรัก สุดใจหักลงแน่แท้ใจเหงา ห่อนยอมปลงปลดเรื่องรักเอยเรา จึ่งเตรียมเศร้าแพ้หากร้างจากนวล ๚ (กลอน-โคลง) ๏ ครวญคร่ำความช้ำรัก...............คร่ำครวญ ร้องร่ำควรฤๅควร.......................ร่ำร้อง สุขสิ้นเพราะรักรวน.....................สิ้นสุข ทนทุกข์เพราะรักน้อง..................แต่นี้ทุกข์ทน ๚ (สารภีขับรถ) ๏ วนเวียนรักรักเศร้า...................โศกชาย ชมชื่นคู่คู่หาย............................ห่างเร้น แม้มีสุขสุขสลาย........................สลดรัก ไม่หมดหวังหวังเฟ้น...................ไขว่คว้ารักคืน ๚ (บุษบารักร้อย) จอมยุทธเมรัย กันยายน 2544 แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 49 08:03:27 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 9 เม.ย. 49 08:00:34 ]

ความคิดเห็นที่ 83 คุณจำปูน /๗๑ ครับ พ้มบินมา ๆ แล้วก็บินไป ๆ ตามวิสัยเสมือนนกกระนั้นแล นับว่าเป็นนักวิศวพันธุกร กลอนโคลง คนหนึ่งเจง ๆ ฮ่า ฮ่า ( ยิ้ม ) หวัดดีพี่หมอวฤก / ๘๐ ชมนาดนวยนาดเนื้อ                 นวลนวล เรียมสะทกกระบวนรวน            เคลิบเคลิ้ม ภาพเทพธิดาชวน                    เชิญชื่น กระพริบพรายแย้มเยิ้ม             ตื่นโอ้กระไรกัน ฯ คุณจันทร์แห้ง / ๘๑ ครับ พ้มก็พยายามเล่นกล ไปเรื่อย ( ฮา ) ช่างเป็นคนเฝ้าที่ขยันจริง ๆ ปรบมือให้ครับพ้ม ( ยิ้ม ) ลองครอบจักรวาลหน่อยครับ ชมนางนางยิ่งย้ำ             นิยมชม พริ้งเพริศเพราพรายฉม     ยิ่งพริ้ง พี่พิศพ่างยิ่งจม               ใจพี่ ตะกายฝั่งหวังสลัดทิ้ง       ยิ่งกลั้วยากตะกาย ฯ แฮ่ แฮ่ กล มา กล ไป เริ่มงงแย้ว จากคุณ : พิราบเงิน - [ 9 เม.ย. 49 12:10:11 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ต่อไป "โตเล่นหาง" ขอรับ โตขรึมเคร่งสง่าหน้า                     นึกขาม ป้องป่าดั่งยามปราม                     ปราบเสี้ยน ป่าป้องดั่งความตาม                     โตนั่น โต-ป่า หดเหี้ยนเพี้ยน                  พึ่งร้างเหตุผยอง ฯ โห โห ยาก จากคุณ : พิราบเงิน - [ 9 เม.ย. 49 19:42:00 ]

ความคิดเห็นที่ 85 กลบทแตกต่างด้วย                เอกลักษณ์ สระอักษรรู้หลัก                    ประดิษฐ์ได้ คิดแปลงเล่นคิกคัก                ลองเปลี่ยน ชื่ออย่างความอย่างไซร้          แต่งให้ครื้นเครง         ++++++++++++++++++++++++++++++++ ช้างคู่มางัดง้าง                    ประสานงา งาวับจับงามตา                    เอี่ยมโอ้ โอ้ช้างตกมันครา                 ดุเดือด เดือดพลุ่งพล่านไม่โม้           เชื่อมั้ยใครเฉลย (วัวพันหลัก) วัวผูกฉันผูกไว้                     พันหลัก ฉันมัดเองมัดจัก                   แน่นให้ ใครปล่อยนะปล่อยหัก           มือแน่ สั่งลูกสั่งแม่ไว้                     สั่งได้สั่งดี (กินนรเก็บบัว) กินนรย่องย่องแล้ว               เก็บบัว ก้นบิดส่ายส่ายหัว                เชิดหน้า ช้าหน่อยแอ่นแอ่นตัว            มือกระดก มีกระดิกริกริกคว้า                ท่านี้งดงาม     บารนี (บุษบารักร้อย + ช้างประสานงา) บุษบารักร่อยร้อย                 อิเหนา อายหนุ่มควรเพลาเพลา         ดีดดิ้น งามนิดจริตเบาเบา                อย่าดัด ใช่ปล่อยตัวปลิ้นปลิ้น            หมดสิ้นยางอาย (สิงโตเล่นหาง) สิงโตมาตั้งท่า                     เล่นหาง เล่นหกคะเมนขวาง               วัดพื้น วัดพิลึกท่าทาง                     เจ้าป่า เจ้าปั่นป่วนคึกครื้น                ปลุกให้ไพรขำ (นาคบริพันธ์) นาคมาเรื่อยเรื่อยร้อย                  บริพันธ์ กลอนกาพย์โคลงโคลงฉันท์          แต่งได้ เจ็ดเศียรแผ่แผ่ผัน                      พิษพ่น ใช่แต่เลื้อยเลื้อยไซร้                   ท่านให้เป็นกวี  (บุษบารักร้อย) ชมบุษบารักร้อย                        ชวนชม ไม้เฟื่องฟ้าลั่นทม                      ชื่อไม้ กลิ่นการะเกดอีกนม-                  แมวกลิ่น  กรุ่นนา หอมดอกกุหลาบใกล้                  ส่งให้ใครหอม (ครอบจักรวาล) ครอบจักรวาลรอบรู้                   เราเขา ทุกเรื่องอย่าดูเบา                      สู่รู้ โลกหมุนเปลี่ยนเวียนเอา             ใจใส่ สิบปากว่าไม่สู้                          จับต้องลองของ (ก้านต่อดอก) ดึงก้านต่อดอกทิ้ง                   ก้านดึง ขว้างขาดเยื่อใยผึง                  ขาดขว้าง รักพรากยากตอกตรึง              พรากรัก สลายเหือดเชือดใจร้าง            อกแห้งเหือดสลาย (สารถีขับรถ) (อันนี้เลยกลายเป็นของแถมครับ) วัวพันหลักนับได้                      พันวัว เข้าเก็บคอกทุกตัว                    เก็บเข้า ยากเลี้ยงยุ่งพันพัว                    เลี้ยงยาก ไฉนบอกจะมาเฝ้า                    โธ่เจ้าบอกไฉน (สารถีขับรถ) จำปูนมาป่วนทั้ง                      อาศรมฯ ลองแต่งอย่างโง่งม                 เงอะแท้ เคืองขัดท่านใดผม                  รับผิด ยกโทษโปรดบอกแก้               เก็บไว้ปรับปรุง ราตรีสวัสดิ์ครับ แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 49 16:16:11 จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 9 เม.ย. 49 22:00:35 ]

ความคิดเห็นที่ 86 สวัสดีขอรับ.... คคห83,84ทั่นพี่พิราบเงิน2บทโคลงกล ลองครอบจักรวาล ชมนางนางยิ่งย้ำ             นิยมชม พริ้งเพริศเพราพรายฉม     ยิ่งพริ้ง พี่พิศพ่างยิ่งจม               ใจพี่ ตะกายฝั่งหวังสลัดทิ้ง       ยิ่งกลั้วยากตะกาย ฯ ตะกายฝั่งและฝาเช่นนี้คงจะงามมิใช่น้อยแน่ครับ.....ฮา บท2บาท4ว่า โต-ป่า หดเหี้ยนเพี้ยน                  พึ่งร้างเหตุผยอง ฯ เห็นชนรุ่นเราเจอภัยพิบัติร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ ก็คงเป็นเพราะธรรมชาติถูกทำลายนี่เองครับน่าเศร้าขอรับ คงต้องเร่งปลูกป่าทดแทนครับ ********************************************* คคห85พี่จำปูน...ค่ายกลโคลงทั้งกองทัพเลยเทียวนะครับ โคลงกล9บทในทั้งหมด11บทครับ ผมขอนั่งสมาธิแบบอิกคิวซังก่อนครับ ถึงจะต่อโคลงพี่ได้ครับ............................ยอดเยี่ยมครับ ********************************************** ขอเอามาฝากครับอ่านเจอจาก ลิลิตพระลอขอรับ http://www.school.net.th/library/create-web/10000/literature/10000-6550.html เล่นคำ"กา"เล่นอักษร ๏กาจับกาฝากต้น             ตุมกา กาลอดกาลากา               ร่อนร้อง เพกาหมู่กามา                 จับอยู่ กาม่ายมัดกาซร้อง           กิ่งก้านกาหลง๚ เล่นคำ"ลิง"เล่นอักษร"ล" ๏ลางลิงลิงลอดไม้           ลางลิง แลลูกลิงลงชิง                ลูกไม้ ลิงลมไล่ลมติง                ลิงโลด หนีนา แลลูกลิงลางไหล้             ลอดเลี้ยวลางลิง๚ สังเกตุว่าเล่นคำและอักษร...ซ้ำๆ และเช่นกัน จากตะเลงพ่ายครับ ลิงก์ของทั่นพี่Kavint http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=kavint&group=3 ๏เฌอปรางเปรียบนาฏน้อง        นวลปราง รักดั่งรักนุชพาง                           พี่ม้วย ช้องนางเฉกช้องนาง                  คลายคลี่ ลงฤๅ โศกพี่โศกสมด้วย                       ดั่งไม้นามมี๚ ๏อบเอยอบชื่นชี้                         เฌอสม ญาฤๅ อบว่าอรอบรม                            รื่นเร้า อบเชยพี่เชยชม                           กลิ่นอบ เฌอนา อบดั่งอบองค์เจ้า                        จักให้เรียมเชย๚ ๏ขานางนึกคู่คู้                           ขาสมร พลางพี่โอบเอวอร                    แอบเคล้า กระทุ่มดั่งทุ่มกร                        ตีอก เรียมฤๅ เกดว่าเกศนุชเกล้า                     กลิ่นกลั้วเสาวคนธ์๚ ๏เล็บมือนางนี้หนึ่ง                  นขา นางฤๅ ต้องดั่งต้องบุษบา                     นิ่มน้อง ชงโคคิดชงฆา                          นุชนาฏ เหมือนฤๅ เรียมระเมียรเดื่อปล้อง             ดั่งปล้องศอสมร๚ ๏ซ่อนกลิ่นกลิ่นแก้วซ่อน         นาสา เรียมฤๅ ตาดว่าตาดพัสตรา                      หนุ่มเหน้า สลาลิงเล่ห์ซองสลา                    นุชเทียบ ถวายฤๅ สวาดดั่งเรียมสวาทเจ้า                 จากแล้วหลงครวญ ๏สลัดไดใดสลัดน้อง                   แหนงนอน ไพรฤๅ เพราะเพื่อมาราญรอน                 เศิกไสร้ สละสละสมร                                เสมอชื่อ  ไม้นา นึกระกำนามไม้                            แม่นแม้นทรวงเรียม๚ ๏โม้โรกเหมีอนโรคเร้า                รุมกาม ไฟว่าไฟราคลาม                            ลวกร้อน นางแย้มหนึ่งแย้มยาม                   เยาว์ยั่ว แย้มฤๅ ตูมดั่งตูมตีข้อน                             อกอั้นกันแสง๚ ๏สายหยุดหยุดกลิ่นฟุ้ง                ยามสาย สายบ่หยุดเสน่ห์หาย                     ห่างเศร้า กี่คืนกี่วันวาย                                วางเทวษ ราแม่ ถวิลทุกขวบค่ำเช้า                       หยุดได้ฉันใด๚ แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 49 23:53:36 แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 49 23:28:18 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 9 เม.ย. 49 23:25:58 ]

ความคิดเห็นที่ 87 อรุณสวัสดิ์ขอรับ......ขอเสริพอาหารเช้าไข่ดาว กาแฟ.....และโคลง........ หนึ่งกลบทขอรับ........................ฮา "ก้านต่อดอก" ๏ชมนกชมไม้ทั่ว                     ในไพร เสียงหริ่งเสียงเรไร                ร่ำล้ำ สรรเสพส่องสุขใจ               วิจิตรลิขิต แขนอ ช้อยชดกรกรีดกล้ำ               อักขรไว้วรรณจันทร์๚ ตามด้วยน้ำส้มคั้นและโคลง "เสียสละ" ๏เสียสระเสกวิเศษเรื้อง         ฤิทธิ์ราม ผละ ละ ลาออกถาม               สุขได้ ความปกติเติบตาม                 ทุกส่วน ร่วมรา รบไม่รุกถอยไซร้                   สงบสร้างสรรสยาม ๚ ๏โถมด้วยถอยถั่งทั้ง             ยืนยง อยู่พ่อ ดีกว่าชนะศึกปลง                 จิตแพ้ เศึกศึกสึกหรอลง                 ใครสุข สรรเฮย ล้วนปราชญ์แน่นหนักแท้    ผ่องแผ้วศาสตร์สมัย๚ ๏รัตนโกสินทร์ใหญ่เพี้ยง       พโยมคราม เสียงสวดมนต์ก้องสาม         ภพไหว้ บุรพกษัตริยาราม                  เลอเลิศ ลออเฮย ข้านอบตอบคุณไท้               สติตั้งระลึกเสมอ๚ ๏อนิจจังนามรูปล้วน            เป็นไป ปราศนา รู้ทุกข์ขังสถิตใน                    ทุกผู้ ล้วนแต่อนัตตาไตร              ธรรมภพ เสียสละสาธุชนรู้                   รักล้นเหล่าไท๚๛ อิ่มแล้วไปแบกจ็อบต่อขอรับ.........ฮา จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 10 เม.ย. 49 09:00:40 ]

ความคิดเห็นที่ 88 สวัสดีค่ะคุณอาจันทร์แห้ง และมิตรสหายทุกท่าน ดีใจที่เห็นอาศรมฯ ยังคึกคักอยู่ ศาลาไทย หายไปหลายวัน คิดถึงอาศรมฯ คิดถึงบรรยาการอบอุ่นของการแลกเปลี่ยน วันนี้ไม่มีโคลงมาฝาก แต่มีบทกวีของครูเนาว์มาฝากมิตรสหายทุกท่านค่ะ หยุดคุกคามสื่อ : เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ สังคมนี้มีคนสองชนชั้น คือหนึ่งนั้นผู้ได้เปรียบกดขี่ข่ม สองคือผู้เสียเปรียบถูกเหยียบจม เราอยู่ในสังคมแห่งชนชั้น ชนชั้นผู้ได้เปรียบกับเสียเปรียบ ฝ่ายหนึ่งเหยียบอีกฝ่ายไปเป็นขั้น จนเห็นเป็นธรรมดาเป็นสามัญ ต่างแย่งชิงแข่งขันเหยียบกันไป สื่อต้องเป็นตาที่สามของสังคม เห็นสามานย์โสมมแห่งยุคสมัย สื่อต้องเป็นปากเสียงอันเกรียงไกร ร่วมขับไล่คัดค้านพาลภารา เมื่อโลกเงียบด้วยอธรรมคุกคามเข่น สื่อต้องเป็นปากเสียงตะโกนกล้า เมื่อโลกมืดมัวมนด้วยมายา สื่อต้องเป็นดวงตาประชาชน กันดารแดนก็จะดั้นกันดารแดน ระส่ำแสนฝนห่าจะฝ่าหน ที่เถื่อนถ่อยจะท้าทับทุกมณฑล จะไม่ยอมจำนนความต่ำทราม เสรีสื่อคือเสรีแห่งประชา อันใดฤๅจักกล้ามาหยาบหยาม ทั้งฟ้าดินจะจารึกผนึกประณาม คุกคามสื่อคือคุกคามประชาชน! http://www.bangkokbiznews.com/2006/04/11/w001_94451.php?news_id=94451              . จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 11 เม.ย. 49 13:06:55 ]

ความคิดเห็นที่ 89 สวัสดีครับ ทุกท่าน วันนี้มาเติมกลบทใน คห 85 หนึ่งบท จะได้ดูเหมือนๆกันขอรับ เอคุณจันทร์แห้งไปไหนเอ่ย จันทร์แห้งแอบแอบฟ้า             ฤาไฉน ไม่ส่งแสงแสงไกล                  สาดห้อง อยากย่องดุ่มดุ่มไป                 กระซิบปลุก ได้แต่จดจดจ้อง                     สถิตชั้นสวรรค์ไหน (บุษบารักร้อย) จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 11 เม.ย. 49 16:26:32 ]

ความคิดเห็นที่ 90 คคห88...สวัสดียัยหนูศาลาไทย...ขอบคุณสำหรับ กลอน หยุดคุกคามสื่อ : เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ฟังเสียงกลอน....ที่เหมือนเสียงพูดคุยของครูที่บอกที่สอนศิษฐ์...... และลองแกะเสียงคำท้ายครับว่า สังคมนี้มีคนสองชนชั้น.....................................ตรี คือหนึ่งนั้นผู้ได้เปรียบกดขี่ข่ม....ตรี................เอก สองคือผู้เสียเปรียบถูกเหยียบจม.....................สามัญ เราอยู่ในสังคมแห่งชนชั้น...............สามัญ......ตรี ชนชั้นผู้ได้เปรียบกับเสียเปรียบ.......................เอก ฝ่ายหนึ่งเหยียบอีกฝ่ายไปเป็นขั้น....เอก................โท จนเห็นเป็นธรรมดาเป็นสามัญ.........................สามัญ ต่างแย่งชิงแข่งขันเหยียบกันไป.....จัตวา............สามัญ สื่อต้องเป็นตาที่สามของสังคม........................สามัญ เห็นสามานย์โสมมแห่งยุคสมัย...สามัญ...........จัตวา สื่อต้องเป็นปากเสียงอันเกรียงไกร...................สามัญ ร่วมขับไล่คัดค้านพาลภารา....เอก...................สามัญ เมื่อโลกเงียบด้วยอธรรมคุกคามเข่น.................เอก สื่อต้องเป็นปากเสียงตะโกนกล้า...สามัญ............โท เมื่อโลกมืดมัวมนด้วยมายา..............................สามัญ สื่อต้องเป็นดวงตาประชาชน............................สามัญ กันดารแดนก็จะดั้นกันดารแดน............................สามัญ+คำซ้ำ"ดารแดน" ระส่ำแสนฝนห่าจะฝ่าหน....จัตวา..............จัตวา+สัมผัส(อักษร)ใน+เล่นอักษร"ฝ"และ"ห" ที่เถื่อนถ่อยจะท้าทับทุกมณฑล.................สามัญ+สัมผัส(อักษร)ใน+เล่นอักษร(เกือบ)ล้วน"ทถ" จะไม่ยอมจำนนความต่ำทราม....................สามัญ เสรีสื่อคือเสรีแห่งประชา...............................สามัญ อันใดฤๅจักกล้ามาหยาบหยาม.....โท..................จัตวา ทั้งฟ้าดินจะจารึกผนึกประณาม.........................สามัญ คุกคามสื่อคือคุกคามประชาชน!....สามัญ............สามัญ และได้เที่ยวมาหลายวันคงมีรูปถ่ายวิวสวยๆมาให้ดูด้วยไหมครับ........... คคห89... พี่จำปูนเขียนโคลงมาบทเดียว....ผิดธรรมดาขอรับ....ฮา 9บทอย่างน้อย.......รอพี่อยู่ครับ ************************************ ปฏิจจสมุปบาทแห่งการฆาตกรรมชาติ อ.ประเวศ  วะสี http://www.matichon.co.th/online/column_extra/25490130_pravate03.htm ถอดเป็นโคลงโดยจันทร์แห้งเหี่ยวครับ ๏อนาคตไทยเรื่องรู้                      เราควร ใคร่แฮ ควรตื่นเพื่อทบทวน                   ตรวจตั้ง ตั้งประคับประคองชวน            กันคิด ทิศพ่อ คิดเพื่อร่วมกันยั้ง                        สิ่งร้ายสังคม๚ ...วัวพันหลัก ๏ปฏิจจสมุปบาทเบื้อง                 บ่งไข   ชี้เหตุอวิชชาใน                          จิตแจ้ง ตัณหาติดตัวใคร                         ครวญใคร่ ดูพ่อ รักชาติไทยอย่าแล้ง                    รักร่วมระวัง๚ ๏ระบอบทุนท่านท้าว                    จ้าวโลก  เราเฮย หมายครอบทุกศาสตรโศก        สยบสิ้น รู้ทันเร่งกันโบก                           โบยบั่น ขายหมดอิ่มเอมลิ้น                      ชาติเจ้าทุนผยอง๚ ๏เขาใครจะรักเร้า                           เราจริง ใจแม่ ทุนแลกกำไรสิง                           สู่แล้ว สร้างรอยร่วมชวนชิง                 คืนชาติ แกล้วกาจสามารถแน้ว              กอบกู้สู้เขา ๚ ปล.การอ่านบทความที่ประทับใจแล้วมาถอดเป็นโคลงผมรู้สึกเพลิดเพลินดีขอรับ.... จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 11 เม.ย. 49 19:41:21 ]

ความคิดเห็นที่ 91 และกระผมใคร่อัญเชิญโคลงประทับใจจากอาศรมเก่าย้อน ซึ่งมีมากมายจนบอกมิถูกครับมาแปะขั้นรายการเล็กน้อย อาศรมชาวโคลง๗๒ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2424940/W2424940.html ความคิดเห็นที่ 20 ๏ชาวโคลงจงอย่าให้                ใครหยาม เสกก่องกานท์ศิลป์สยาม         เลื่องล้ำ เฉยเมยบ่พยายาม                  ศิลป์ย่อม เหือดแฮ แลแห่งใดเห็นน้ำ                    ย่อมน้ำตาครู ๚ จากคุณ : หมีเซอะ  - [ 25 ส.ค. 46 11:22:24 ] และและ..................(สองคำซ้ำเพื่อย้ำความ) ความคิดเห็นที่ 58   โคลงแบบเจ้าฟ้ากุ้ง ๏รอนรอนสุริยะโอ้....................อัสดงค์ เรื่อยเรื่อยลับเมรุลง...............ค่ำแล้ว รอนรอนจิตจำนง...................นุชพี่ เพียงแม่ เรื่อยเรื่อยเรียมคอยแก้ว.........คลับคล้ายเรียมเหลียว๚ ลักษณะสำคัญของโคลงบทนี้คือการจัดแบ่งจังหวะในวรรค โดยใช้คำซ้ำ 2 คำต้นวรรคสลับกัน อันนี้ว่าเรื่องเสียง ถ้าเรื่องความหมาย คำซ้ำต้นวรรคเป็นคำขยายแบบเล่นความ คู่นึงบรรยายสภาพแวดล้อม อีกคู่บรรยายสภาพจิตใจ ก็คงอธิบายสั้นลงเรื่อยๆ สำหรับโคลงแบบแต่ละแบบ เพื่อให้ลองพินิจพิเคราะห์กันจะได้เข้าใจลึกซึ้งขึ้น ถ้าอยากให้อธิบายตรงไหนเพิ่มเติมโปรดบอก จะหาเวลาแว่บมาตอบจ้า ***ช่วงวันจันทร์-ศุกร์ ผมคงมีเวลาเฉพาะช่วงพักกลางวัน กับช่วงเย็น ของบางวันเท่านั้น ชึวิตเอาแน่ไม่ค่อยได้ ถ้าตอบใครช้าโปรดอภัยเทอญ*** ๏รอนรอนแดดบ่ายคล้อย................สนธยา เรื่อยเรื่อยลมพัดพา......................กลิ่นแก้ว รอนรอนเหนื่อยอ่อนหา................แก้วพี่ เร็วแม่ เรื่อยเรื่อยเรียมไม่แคล้ว...........มอดม้วยด้วยกระหาย๚ โดยคุณ : หนอนสุรา - [6 มี.ค. 2542 16:17:39] ๏โอยโอยกิจวัตรอื้อ         กระอักอาน ยิกยิกใช้แรงงาน           เหนื่อยล้ำ โอยโอยห่างโคลงกานท์  พ้อพร่ำ รำพันแม่ ยิกยิกเขียนแล้วจ้ำ         ก่อนเจ้านายเห็น๚ จากคุณ : หมีเซอะ  - [ 27 ส.ค. 46 12:04:24 ] ปล.ได้บท"โคลงแบบ"เจ้าฟ้ากุ้ง.....โดยเชิญ"อัญเชิญ"ซ้อนคำย้ำความ.... ๏ค่ำค่ำจันทร์กระจ่างจ้า           เจิดนภา เฉื่อยเฉื่อยลอยเลื่อนครา       ดึกแล้ว หิวหิวหมดแรงจา                 จีบนุช  นาถแม่ อิ่มอิ่มเรียมขับแก้ว              เกล็ดฟ้าเรียมหรู๚..จันทร์แห้ง แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 49 20:13:10 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 11 เม.ย. 49 20:11:45 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ขออัญเชิญต่อด้วยโคลงกล-มนต์สะกดนักเลงโคลง ภาค ๒ โดย :ครูหนอนสุรา http://www.geocities.com/wgate.geo/klond40.html?20064 กลบทแบบที่ 6 ครอบจักรวาฬ คลอเสียงเอียงอกเคล้า.............อู้คลอ ดั้นดัดลัดลดรอ.........................โลดดั้น ระอุเอ็ดเด็ดดุลออ......................ละเอียดระอุ โอยสะอึกสะอื้นอั้น.....................โอดอื้อกระอักโอยฯ ปรายโปรยโรยนิ้วเฉี่ยว..............ฉ่ำปราย ร้างลับแล้วกลับกลาย.................ก่อนร้าง ขยับเขยื้อนเคลื่อนยักขยาย.........ขยักขยับ เขาอยู่ใช่ร้างข้าง.........................ขัดข้องเคียงเขาฯ กลนี้ให้ใช้คำต้นวรรคและท้ายวรรคด้วยคำๆ เดียวกันตลอดทั้งบท (คลอ-คลอ, ดั้น-ดั้น, ระอุ-ระอุ, โอย-โอย) โปรดสังเกตคำว่าระอุ เนื่องจากระเป็นครึ่งพยางค์ ระอุ เลยนับเป็นแค่ 1 คำ ถ้าเพื่อนๆ ใช้คำอื่นที่คล้ายๆ กัน เช่น ระบัด อย่างนี้ก็นับแค่ 1 คำครับ ถาม-เสมอสิ่งไม่รู้........................ควร-ถาม ต้อง-ไม่อายทราบความ...............ถูก-ต้อง จด-จำคำดีงาม.............................ควร-จด เขิน-ไม่รู้หรอกน้อง......................เพราะฉะนั้นอย่า-เขิน ผมนึกวิธีเน้นคำที่เป็นลักษณะของกลไม่ออก เลยใช้ - ไปก่อน เพื่อนๆ ถ้ามีคำแนะนำ อย่าช้ารีบเสนอ โดยคุณ : หนอนสุรา - [21 ต.ค. 2541 15:04:11] ครอบจักรยาน ครอบจักรยานไว้ที่         ทำครอบ ล้อบ่งแบนแถมกรอบ    เก่าล้อ คิดปั่นจักรยานสอบ     ความคิด ทางประหยัดเงินแถมข้อ      ใหญ่ขึ้นตามทาง...จันทร์หิว กลบทแบบที่ 7 ก้านต่อดอก เพราเลาลำขลุ่ยพริ้ว.................พรายฉาย แสบแปลบราวเพลิงราย...........ผ่อนร้อน โรยโหยระเหิดราหาย................เหินเนิ่น ลอยค่อยคละคล้อยฟ้อน............ฟ่องพลิ้วใฝ่ไกลฯ ไรไรระเร่งนิ้ว...........................ราวหนาว เช็ดเม็ดน้ำตาพราว...................ผ่องน้อง จากพรากใช่จากราว.................ลวงล่วง มาอย่าร้องไห้พ้อง....................แผ่วเน้นนิ้วหวิวฯ ลักษณะสำคัญของกลบทนี้คือการใช้เสียงสระซ้ำในแต่ละวรรค โดย 2 คำแรกเป็นสระเดียวกัน และ 2 คำหลังของวรรคก็เป็นสระเดียวกัน วรรค1 คู่แรกสระ เ-า (เพรา-เลา) คู่หลัง -าย (พราย-ฉาย) วรรค2 คู่แรกสระ แ-บ (แสบ-แปลบ) คู่หลัง -อน (ผ่อน-ร้อน) วรรค3 คู่แรกสระ โ-ย (โรย-โหย) คู่หลัง เ-ิน (เหิน-เนิ่น) วรรค4 คู่แรกสระ -อย (ลอยค่อย) คู่หลัง ไ- (ใฝ่-ไกล) ข้อสังเกต ในหนึ่งบทห้ามใช้สระซ้ำกัน คืนฝืนนอนหลับแล้ว.................ฉันฝัน คำร่ำโคลงรำพัน.......................ฮ่าห้า มนต์กลบทมัน..........................ยากมาก ถึงครึ่งคืนฝันบ้า........................หลอกย้ำหลอนหนอนฯ โดยคุณ : หนอนสุรา - [21 ต.ค. 2541 16:40:00] ตัดก้านตัดดอก...........ขายส่งครับ ตัดคัดดอกไม้ส่ง           รายขาย ตื่นชื่นแต่เช้านาย        ร่ำย้ำ มะลิผลิกลิ่นกำจาย     ร่ำฉ่ำ หอมนา ทั่นกลั่นกลอนกลค้ำ    คู่ครื้นบรรเลง....จันทร์เหี่ยว กลบทแบบที่ 8 โตเล่นหาง ฉิวเฉื่อยเรื่อยฉิ่งชิ้ง.............ฉิ่งฉับ หรีดหริ่งกระชับรับ.............เรื่อยช้า กราดประกบกรับจับ...........จังหวะ วับวับแช่ช้าว้า....................ฉาบไว้เชิงไหวฯ สำราญไพรดั่นดั้น...............เดินดง กรองเก็บผกาลงปลง..........ประดับร้อย ฉิ่งฉับกระชับวงตรง.............เตือนเร่ง ดวงดอกไม้น้อยห้อย............แห่งห้วงทำนองฯ คำกลคือคำที่ 4 และ 5 ของแต่ละวรรค ทั้ง 2 คำนี้ต้องเป็นเสียงสระเดียวกัน ดูเผินๆ กลนี้เหมือนง่ายกว่าก้านต่อดอก แต่ความยากอยู่ตรงที่การบังคับวรรรณยุกต์ ตัวอย่างจากบทที่ 1 วรรคแรก ฉิ่งชิ้ง อันนี้อยู่ในตำแหน่งบังคับเอก-โทอยู่แล้ว วรรค2-3 ชับ-รับ, กรับ-จับ ตรงนี้ให้ใช้เฉพาะคำสุภาพคือห้ามมีวรรณยุกต์ วรรคสุดท้าย ช้า-ว้า ตรง ว้า บังคับโทจากฉันทลักษณ์ กลบังคับให้ ช้า ต้องใช้โทด้วย เพราะฉะนั้นความยากอยู่ตรงนี้ ธรรมดาคิดแค่ 4 โทก็ยากมากอยู่แล้ว แต่กลนี้บังคับ ทำให้ต้องคิดคำโทถึง 5 คำ รูปนางคงช่างสร้าง..............จากสวรรค์ ฮึหือ วูบหนึ่งเห็นฉันฝัน................ใฝ่เก้อ เสียดายกระทันหัน................พูดไม่ ออกนอ เลยแต่งโคลงเพ้อเจ้อ............พร่ำจ้อจ๋อแจ๋ฯ โดยคุณ : หนอนสุรา - [22 ต.ค. 2541 08:56:07] โต๋เล่นหาม ยังเด็กน้อยจ่อยจ้อย          ซนหลาย ช้าตื่นตลาดสายวาย         กลับแล้ว ปลาสดสดขายนาย          เขาสั่ง จองนา คำหยาดหยดแก้วแพร้ว  เพริศพริ้งพรายพราย...จันทร์ชักงง แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 49 21:50:00 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 11 เม.ย. 49 21:47:54 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ขอต่อขอรับ กลบทแบบที่ 9 สารถีขับรถ กลองถี่ระทึกกระทั้น...............ถี่กลอง ด้นเดาะสองไม้ปอง................เดาะด้น ทั่งติงทั่งติงตรอง...................ติ่งทั่ง ตริงตรีดกรีดนิ้วค้น................คะครึกเต้นตรีดตริงฯ วางประวิงประหวั่นไว้............ประวิงวาง เกรี้ยวกระเหม่นทมัดพลาง...........กระเหม่นเกรี้ยว โลดเริงกระเจิงปาง................เริงโลด รัวถี่กระทั้นเลี้ยว....................เลาะถ้อยถี่รัวฯ ลักษณะกลคือทุกวรรคเอา 2 คำต้นวรรคมาใช้ซ้ำที่ 2 คำท้ายวรรค โดยวางตำแหน่งคำสลับกัน (กลองถี่-ถี่กลอง, ด้นเดาะ-เดาะด้น, ทั่งติง-ติงทั่ง, ตริงตรีด-ตรีดตริง) ***กลบทนี้ถ้าจะให้ดีมากๆ คำที่เอามาใช้ซ้ำกัน พออ่านสลับ ความหมาย ต้องไม่ซ้ำกันจึงจะดีมาก แต่มือใหม่ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งลองแบบยาก*** กลบทแบบนี้มีอยู่ในจินดามณี ฉบับเก่าด้วย แต่เรียกชื่อว่ากลสารถีชักรถ แต่เขียนไว้เป็นกลอักษร และไม่มีคำอธิบายใดๆ ทั้งสิ้น คุณMars และผม เคยถอดกลนี้แล้ว เพียงว่าคุณMars ใช้ตำราปัจจุบัน อ่านแล้วเพราะกว่าผม ส่วนของผมใช้ตำรับแผนโบราณ อ่านไม่ค่อยเพราะ แต่หาความสัมพันธ์แบบ เลขอนุกรมได้ เพื่อนๆ ที่สนใจหารายละเอียดอ่านได้ในกระทู้ ด่านที่ห้า ฮ่าฮ่า (โฆษณากระทู้ตัวเองประจำ ฮิฮิ) สุราชนยกแก้วร่วม.................ชนสุรา ร้องสั่งนักร้องมา...................สั่งร้อง หนึ่งเพลงรีบเร่งหา................เพลงหนึ่ง ใจจุจะทิปน้อง.........................หากร้องจุใจฯ โดยคุณ : หนอนสุรา - [22 ต.ค. 2541 12:19:19] สารถีขับรถ เสียงขับโคลงเสนะซึ้ง             ขับเสียง ใสพ่อ ร้องกู่กาพย์เพรงเพียง                   กู่ร้อง ร่ำคำร่ายครูเคียง                        คำร่ำ  รักรา เสียงขับเสียงครูก้อง                      ว่าผู้ขับเสียง สอนเอย...จันทร์ง่วง จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 11 เม.ย. 49 22:45:43 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ..๏ โคลงเราคงเทียบได้........ดั่งกระบือ   คนอื่นนั้นยึดถือ..................ปราชญ์แล้ ลูกลิงร่ายโคลงคือ...............คนโง่ คงบ่เทียบเธียรแท้..............เปรียบฟ้าต่างดิน ฯ ..๏ มธุรสพจน์อื่นผู้...............เปรยความ คงชื่นชมทวงถาม.................ค่ำเช้า สำนวนแห่งคนทราม.............ชาวทุ่ง กลับบ่ตรึงจิตเจ้า..................เปรียบขี้ควายเหม็น ฯ ..๏ ไกลด่างยังหยิบเอื้อม......หมายกิน ยามอยู่เคียงเกลือผิน...........ปัดทิ้ง เปรียบไทยต่างยังถวิล.........พิชซ่า ลืมลาบแซบปลาปิ้ง.............แห่งผู้ชาวดง ฯ ..๏ คำใดใครมากด้วย..........มาตรฐาน คำแห่งชาวนาปาน...............ฝุ่นเถ้า คำเธียรยกย่องนาน.............อวดโอ่ คำแห่งชาวนาเจ้า................เปรียบกล้วยลิงเมิน ฯ เฮ้อ ... โคลงกล เขียนเป็นซะที่ไหนอ่ะ จากคุณ : จังงัง - [ 11 เม.ย. 49 22:57:11 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ต่อให้ครบ10ขอรับ กลบทแบบที่ 10 บุษบารักร้อย ทั่วถ้วนครบครบครื้น............เคร่งครัน ทุกเครื่องทุกทุกอัน...............เอกเอื้อน พริ้งพร้อมพรั่งพรั่งพัน.........ไพเราะ เพชรร่วงร่วงรินสะเทื้อน.......สะทกน้ำเพชรไหวฯ ครรไลเร่งเร่งเร้า...................รัวเสียง ฉิ่งฉับรับรับเรียง...................หริ่งร้อย ซอสอดฉอดฉอดเคียง............จะเข้ขลุ่ย ลูกหมดหมดฉับช้อย...............ชื่นน้ำใจถวิลฯ บทนี้เท่าที่ดูน่าจะง่ายกว่าอีกหลายกลที่ผ่านมา ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมพี่เนาว์เอามาไว้เป็นแบบสุดท้าย ลักษณะของกลคือการใช้คำซ้ำทุกวรรค วรรค1-3 ใช้คำซ้ำคำที่ 3 และ 4 วรรค 4 ใช้คำซ้ำคำที่ 2 และ 3 โดยคุณ : หนอนสุรา - [22 ต.ค. 2541 15:15:01] บุษบารักร้อย พิศพร่างพรายพรายแพร้ว        พันแสง ระยับเฮย กาพย์เพชรวับวับแยง                เนตรข้า เรืองรองวิจิตรวิจิตรแผลง           ทะลุเมฆ โคลงบทบทเจิดฟ้า                    ฟ่องฟุ้งฉาบโสม วรรณศิลป์ศาสตร์ศาสตร์สร้าง    ปราชญ์ปรี   ฉันทลักษณ์เรืองเรืองศรี              จรัสให้ ปราศกวีแก้วแก้วดี                      ไร้ค่า ควรนอ เทิดรัตนรัตนกวีไซร้              โลกซร้องสรรเสริญ...จันทร์รักร้อย จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 11 เม.ย. 49 23:54:21 ]

ความคิดเห็นที่ 96 คคห94....ทั่นพี่จังงัง..แปะโคลงน่าสนุกขอรับ ..๏ โคลงเราคงเทียบได้........ดั่งกระบือ   คนอื่นนั้นยึดถือ..................ปราชญ์แล้ ลูกลิงร่ายโคลงคือ...............คนโง่ คงบ่เทียบเธียรแท้..............เปรียบฟ้าต่างดิน ฯ ๏หากระบือทำหน่อเนื้อ       ตากเค็ม รสดี หลงยึดหลงถือเต็ม            หนักแท้ กาศรใฝ่แระเล็ม                 ทุ่งหญ้า ปราชญ์บ่ว่าเลิศแล้             เฉกผู้อยู่ดินฯจันทร์ง่วง ..๏ มธุรสพจน์อื่นผู้...............เปรยความ คงชื่นชมทวงถาม.................ค่ำเช้า สำนวนแห่งคนทราม.............ชาวทุ่ง กลับบ่ตรึงจิตเจ้า..................เปรียบขี้ควายเหม็น ฯ ๏เสาวรสว่าเลิศล้ำ               เปรี้ยวเหลือ กินไล่หวัดยามเผือ               มูกล้น ชาวทุ่งร่ายเพลงเรือ             รักฝาก ใจแม่ มูลแก่แห้งใส่ต้น                  แมกไม้พฤกเขียวฯจันทร์หงอก ..๏ ไกลด่างยังหยิบเอื้อม......หมายกิน ยามอยู่เคียงเกลือผิน...........ปัดทิ้ง เปรียบไทยต่างยังถวิล.........พิชซ่า ลืมลาบแซบปลาปิ้ง.............แห่งผู้ชาวดง ฯ ๏กระปอมปิ้งกิ้งก่า              หมายชิม เกลือเหยาะรสแกงริน         เลิศแล้ ส้มตำพิชซ่ากิน                   บ่อยๆ ลาบและดุกปิ้งแท้               อิ่มแป้พุงเผยฯจันทร์อ้วน ..๏ คำใดใครมากด้วย..........มาตรฐาน คำแห่งชาวนาปาน...............ฝุ่นเถ้า คำเธียรยกย่องนาน.............อวดโอ่ คำแห่งชาวนาเจ้า................เปรียบกล้วยลิงเมิน ฯ ๏มอก.เผื่อไว้                        เป็นฐาน   ชาวทุ่งใช้ปุ๋ยขาน                 วัดได้   จุดเทียนสวดบนบาน          คุณพระ คุ้มแม่ หวีละห้าสิบไซร้                ค่ากล้วยกินเอง ฮะฮาฯจันทร์ชาวนา ปล.1.เอาอีกขอรับ.............ฮะฮา ปล.2กระผมจันทร์แห้งคือ น้ำ ที่ thaipoem.com ครับพี่จังงัง จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 12 เม.ย. 49 00:42:02 ]

ความคิดเห็นที่ 97 กลบท เกือบครบร้อย             โรงเรียน   จันทร์(แห้ง) แฮ มานะอุตส่าห์เพียร                 เรี่ยมเร้ โคลงกลดั่งนั่งเทียน               เลียนแบบ    เก่านา บรรทัดวัดเบี่ยงเบ้                  เคลื่อนให้อายโคลง ขอบคุณเจ้ากระทู้                 ผู้ขยัน ตอบต่อ จ้อจำนรรจ์              อยู่เหย้า ตัวอย่างเลือกคัดสรร             มาประกอบ ไม่ยากถ้าอยากเข้า               สู่ก้าวการกวี จันทร์แห้งหมั่นหมั่นย้ำ           โคลงกล เพื่อไม่เวียนเวียนวน              อ่างน้ำ รูปแบบแนบแนบปรน             เปรอตอบ  ชอบนา พวกเพื่อนเพื่อนเยือนจ้ำ         แต่งให้จันทร์ชม (บุษบารักร้อย) อยู่อาศรมรู้สึก                      ผ่อนคลาย มีเพื่อนฝูงมิตรสหาย               มากแท้ พี่น้องปู่อาหมาย                   เหมือนญาติ เป็นครอบครัวเดียวแล้            ชื่นน้ำใจสมาน โคลงกลเก้าบทขึ้น                  คงเพลีย คอยพบกันใหม่เฮีย                 พักแล้ว พาล่องสุราเบียร์                     กันหน่อย กลมหนึ่งกับร้อยแก้ว                กวักเชื้อเชิญชวน (ช้างประสานงา) จำปูนมาบ่อยครั้ง                   คงรำคาญ ไว้จะหายไปนาน                    พักร้อน สงกรานต์เล่นน้ำสราญ            ระเริงจิต หยุดป่วนกวนขี้อ้อน                บ่นให้ระคายหู คิกคิก คักคัก อยากเคาะหัวตัวเอง สงสัยจะแต่งมากไปเลยเบลอ เขียนชื่อกลบทผิด ช้างหลายงา ไปเย่อหางสิงโตเสียฉิบ ขออภัยครับเผอิญ ยังไม่นอน กลับมาดูเพื่อนๆ เลยเจ๊อะที่ผิดใหม่อีก (ยิ้ม+อาย) เลยมาแถมอีกหนึ่งบทเป็นการขออภัย ที่แก้ซ้ำซากครับ จำปูนของแท้ต้องเปรอะเปรอะ เลอะเทอะหน่อยครับ จำปูนแต่งมากด้วย                ปริมาณ ทุกเรื่องเลยซมซาน               ต่ำต้อย ไพเราะเพราะสิบหาร              ตะแกรงร่อน อยากแต่งแสร้งหยดย้อย        กลับคล้อยลงคลอง (กิ๊วกิ๊ว) แก้ไขเมื่อ 13 เม.ย. 49 00:29:38 แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 49 13:07:14 แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 49 10:20:35 จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก) - [ 12 เม.ย. 49 09:28:03 ]

ความคิดเห็นที่ 98 เรียน ท่านสหาย อะโห...โคลงเพริศแพร้ว            เพื่อนเอย พราวพร่างกระจ่างเผย               พระพริ้ม ไพเราะเพราะรำเพย                  เพียงปราชญ์ พายั่วเย้ายลยิ้ม                        หยอกย้ำคำกวี. จากคุณ : พจนารถ๓๒๒ - [ 12 เม.ย. 49 16:56:43 ]

ความคิดเห็นที่ 99 สวัสดีพี่จำปูน...จะเที่ยวสงกรานต์ที่ไหนดีครับ ลิงก์ ททท. http://www.songkran.net/th/hilight.php ค้นเจอนำมาฝากฝัง..ความฝันใฝ่..ขอรับ ดรรชนีร้อยกรองไทย http://thaiarc.tu.ac.th/poetry/index2.html ๑-โคลงกล ๑.โคลงกลบท  - โคลงกลบทอักษรสลับ  - โคลงกลบทกินนรเก็บบัว  - โคลงกลบทวัวพันหลัก  - โคลงกลบทอักษรล้วน  - โคลงกลบทอักษรคู่  - โคลงกลบทช้างประสานงา  - โคลงกลบทนาคปริพัตธ์  - โคลงกลบทครอบจักรวาล  - โคลงกลบทก้านต่อดอก  - โคลงกลบทสิงโตเล่นหาง  - โคลงกลบทสารถีขับรถ  - โคลงกลบทบุษบารักร้อย ๒.โคลงกลอักษร  - โคลงกลอักษรซ่อนกล  - โคลงกลอักษรซ่อนเงื่อน  - โคลงกลอักษรรวนสมุทร  - โคลงกลอักษรจองถนน ปล.ขอเวลารวบรวมรายละเอียดต่อไปครับ แก้ไขเมื่อ 13 เม.ย. 49 09:13:18 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 05:19:47 ]

ความคิดเห็นที่ 100 สวัสดีคุณจันทร์แห้ง และมิตรสหายทุกท่าน เราไปต่อกันที่นี่ครับ เพื่อรับบรรยากาศวันสงกรานต์ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4283851/W4283851.html จากคุณ : พิราบเงิน - [ วันเนา (14) 13:42:18 ]