สายลมอ่อนๆได้พัดผ่านเข้าสู่อุโมงค์ดำมืด ล่องลอยเข้ากระทบกับเยื่อบางดุจกระดาษสา ส่งผลให้เยื่อบางเบานั้นสั่นพริ้วไหว ไปกระทบกับก้อนผลึกเล็กจิ๋วหน้าตาคล้ายค้อน ผลึกก้อนหนึ่งสั่นไปกระทบอีกก้อนหนึ่ง ต่อกันเป็นทอด แรงสั่นสะเทือนค่อยๆเพิ่มขึ้น จนกระทั่งก้อนที่สามกระทบเข้ากับอุโมงค์ก้นหอย ภายในอุโมงค์ก้นหอยมีน้ำเจิ่งนอง แรงสั่นสะเทือนทำให้น้ำกระเพื่อม สายน้ำกระเพื่อมไปจนสุดท่อของก้นหอย ซึ่งมีเส้นใยเล็กๆติดอยู่ การสั่นไหวของเส้นใยก่อให้เกิดสัญญาณอะไรบางอย่าง
หากคุณกำลังสงสัย ว่าการเดินทางของสายลม สัญญาณ และการเพ้อเจ้อข้างต้น หมายถึงอะไร
ลองหลับตาลง
อย่า อย่าเพิ่ง อ่านให้จบย่อหน้าก่อน ค่อยหลับตาลง ทำใจให้นิ่งสงบ สักห้าวินาที
แล้วเราจะกลับมาว่ากันต่อ
ห้าวินาทีที่คุณใช้ไปเมื่อครู่ คุณได้ยินเสียงอะไรบ้าง คำตอบที่ได้คงแตกต่างกันไป บ้างได้ยินเสียงลมเป่าจากช่องแอร์ บ้างได้ยินเสียงวิทยุ บางคนที่โชคร้ายอาจได้ยินเสียงใครอีกคนบ่นงึมงำ บางคนที่โชคดีอาจได้ยินเสียงนกร้องหรือฝนพรำ แต่ในคำตอบที่ต่างกันไปนั้น สิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือกระบวนการที่ก่อให้เกิดเสียงต่างๆ จวบจนกระทั่งเกิดการรับรู้ในสมองของคุณนั้น ล้วนผ่านขั้นตอนที่เหมือนกัน นั่นคือการผจญภัยของสายลมดังที่กล่าวถึงในย่อหน้าแรก
เมื่อคนข้างๆต้องการจะบอกความในใจอะไรบางอย่างกับคุณ สายลมได้ถูกส่งผ่านริมฝีปากของเขา เข้าสู่ช่องหูด้านนอก ไปกระทบกับเยื่อบางๆที่เรียกว่า Tympanic membrane เยื่อนั้นจึงสั่นสะเทือน ส่งผลให้กระดูกเล็กจิ๋วเหมือนกลไกในนาฬิกาชั้นดีเคลื่อนด้วยแรงสั่น กระดูกทั้งสามเป็นกระดูกที่มีขนาดเล็กที่สุดในร่างกายของคน และยังมีรูปร่างที่เป็นเอกลักษณ์ มีชื่อเรียกแบบไทยๆที่บ่งลักษณะของมันได้เป็นอย่างดีว่า ค้อน ทั่ง โกลน การเคลื่อนไหวของกระดูกทั้งสามก่อให้เกิดการเพิ่มแรงสั่นของคลื่นเสียง ซึ่งถูกส่งไปตกกระทบที่กระดูกรูปอุโมงค์ก้นหอยที่มีชื่อว่า Cochlea ภายในกระดูกก้นหอยจะมีน้ำบรรจุอยู่ การกระเพื่อมของน้ำ จะนำไปสู่การพริ้วไหวของเส้นประสาทที่มีลักษณะบางเบาคล้ายเส้นผม พลังกลศาสตร์ได้ถูกเปลี่ยนแปลงเป็นสัญญาณประสาท สมองของคุณจึงได้รับรู้ความในใจของคนข้างๆ ส่วนจะมีปฏิกริยาเคมีอะไรตอบสนองต่อหรือไม่นั้น คงต้องแล้วแต่กรณีไป
ความมหัศจรรย์ของหู ไม่ได้หยุดอยู่แค่กลไกการทำงานอันวิจิตรพิศดารของมัน แต่ยังมีความจริงเกี่ยวกับหูที่แสนจะไม่ธรรมดาอีกหลายประการ เช่น(1)
1. หูสามารถรับฟังระดับความดังของเสียงได้ต่างกันถึง 130 เดซิเบล หรืออีกนัยหนึ่งคือ 10,000,000,000,000
(สิบล้านล้าน) ระดับเสียง
2. ในห้องที่เต็มไปด้วยเสียงผู้คนมากมาย หูของคุณสามารถเลือกได้ว่าอยากรับฟังเสียงไหน หรือบทสนทนาของใคร โดยเสียงที่คุณสนใจจะดังเด่นชัดขึ้นมา ไม่ต่างกับการจูนสัญญาณเครื่องรับโทรทัศน์ (แต่ความสามารถนี้อาจต่างกันไปได้ ขึ้นกับการฝึกฝน)
3. เสียงที่มาจากแหล่งกำเนิดที่อยู่ห่างกันแม้เพียง 2 องศา หูของคุณก็สามารถแยกแยะได้
4. หูของคุณสามารถจำเสียงที่ต่างกันได้ถึง 400,000 เสียง
นอกจากหูจะมีหน้าที่ในการรับสัญญาณเสียงแล้ว ภายในหูชั้นใน ยังมีอีกอวัยวะหนึ่ง ประกอบด้วยท่อโค้งสามท่อที่วางตัวคนละมิติ แต่ทำงานประสานกัน ช่วยให้เกิดการทรงตัวที่สมดุล หากการทำงานของระบบท่อทั้งสามนี้รวนไป คุณจะรู้สึกเวียนศีรษะราวกับถูกจับไปนั่งรถไฟเหาะสิบรอบเลยทีเดียว
นอกจากการออกแบบกลไกการทำงานที่น่าทึ่งของหูชั้นในแล้ว การออกแบบรูปร่างของหูชั้นนอกก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่น่าชื่นชม ใบหูนอกจากจะมีความสำคัญในการช่วยดักคลื่นเสียงให้เข้าสู่หูได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังมีความสำคัญในแง่ความสวยงามอีกด้วย แม้ว่าใบหูจะไม่ใช่อวัยวะแรกๆที่คนส่วนใหญ่จะกล่าวถึง เมื่อพูดถึงความเซ็กซี่ และแน่นอนว่า ไม่ใช่อวัยวะแรกที่คนส่วนใหญ่จะใช้พิจารณาเพศตรงข้าม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ใบหูเป็นอีกอวัยวะที่มีเส้นประสาทรับความรู้สึกมาเลี้ยงค่อนข้างมาก และไวต่อการสัมผัสไม่ใช่น้อย
ใบหูยังเคยได้รับเกียรติทางวรรณกรรม จากนักเขียนชาวญี่ปุ่นชื่อดัง ฮารูกิ มุราคามิ โดยมุราคามิ ได้บรรยายถึงตัวละครเอกจากนิยายเรื่องหนึ่งของเขาว่า เป็นผู้หญิงที่มีใบหูที่สวยมาก และใบหูที่แสนสวยนี้ ก็ได้ส่งอิทธิพลต่อตัวละครตัวอื่น และเรื่องราวอีกมากมายที่เกิดตามมา
จะเห็นได้ว่า หู เป็นอวัยวะที่ทั้งช่วย รักษาสมดุลการรับรู้ทางสมอง และสมดุลการรับรู้การทรงตัวทางร่างกาย ความมหัศจรรย์ของกลไกการทำงานอันสลับซับซ้อนได้เกิดขึ้นอยู่ทุกวินาทีในตัวคุณ เพียงคุณหลับตา ตั้งใจรับฟังสรรพเสียงรอบข้าง ยังมีอีกหลากหลายเสียงบนโลกนี้ที่รอคอยการค้นพบ ไม่ว่าจะเป็นเสียงลมเสียงน้ำ จากโลกแห่งธรรมชาติ หรือแม้แต่เสียงความในใจจากคนคุ้นเคยข้างตัวคุณ ขอให้คุณมีความสุขที่ได้รับฟัง
========================
เชื่อหรือไม่ มีประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา
ถึง 4 คนด้วยกัน ที่มีปัญหาด้านการได้ยิน
จนถึงกับต้องใช้เครื่องช่วยฟัง และหนึ่งในนั้นคือ
ประธานาธิบดีที่คนไทยรู้จักกันดี บิล คลินตัน(2)
========================
อ้างอิง
1. http://nh.essortment.com/anatomyhumanea_rauq.htm
2. http://www.doctorzebra.com/prez/o_EAR.html
จากคุณ :
Cafe_noir
- [
30 มี.ค. 49 18:25:43
]