CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    The Night of Trouble at Nimmanhemin Road… คืนวุ่นวายที่หอศิลป์เชียงใหม่

    วันที่ 30 มีนาคม 2549 พ่อกับแม่ชวนไปฟังการปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ลานด้านหน้าหอศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถนนนิมมานเหมินทร์

    วันนี้อากาศกำลังดี ไม่ร้อนมากมาย ฝนอาจจะโปรย ๆ นิดหน่อยก็ไม่เป็นไร เลยวางงานวิทยานิพนธ์ไว้ชั่วคราว ไปก็ดีเหมือนกัน เผื่อจะได้ยินได้ฟังข้อมูลอีกด้าน หลังจากที่อึดอัดกับสภาพเมืองเชียงใหม่ จากเมืองที่เคยสงบเรียบร้อย และได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีผู้คนอัธยาศัยดีที่สุดเมืองหนึ่ง กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยป้ายโจมตีฝ่ายตรงข้าม ติดรอบคูเมือง

    นี่ยังถือว่าไม่เท่าไหร่ ถ้าเทียบกับเรื่องการเผาโลงศพบนถนนหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ การจับนักศึกษาเป็นตัวประกันเพื่อให้หยุดการชุมนุมต่อต้านรักษาการนายกรัฐมนตรี หรือการวางระเบิดที่เฮือนสุนทรี

    ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ คนเชียงใหม่ที่ฉันคุ้นเคยไม่ได้เป็นคนแบบนี้…

    ฉันได้แต่หวังว่าคงจะไม่มีอะไรที่เลวร้ายมากไปกว่านี้อีกแล้ว

    ตอนเย็น ประมาณห้าโมงเศษ อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์ที่อยู่บ้านใกล้ ๆ กัน ซึ่งอาจารย์เองก็คิดว่าจะไปฟังด้วย แวะมาคุยกับพ่อที่หน้าบ้านบอกว่า มีข่าวว่ากลุ่มคนที่สนับสนุนอดีตพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลจะเข้ามาปิดถนนทางเข้าด้านหน้าของหอศิลป์ เลยไม่แน่ใจแล้วว่าจะเข้าไปได้หรือเปล่า

    เราตกลงกันว่า ลองไปดูก่อนก็แล้วกัน ถ้าเข้าไปไม่ได้จริง ๆ ก็กลับ

    ประมาณหกโมงสี่สิบ เราขับรถออกจากบ้านขับมาตามถนนคันคลองชลประทาน จนมาถึงสี่แยกตลาดต้นพะยอม ลองมองออกไปไกล ๆ ดู การจราจรก็ดูเหมือนปกติดี คิดว่าคงไม่มีอะไรมากหรอกกระมัง เดี๋ยวลองผ่านหน้าตลาดดูก่อนก็แล้วกัน

    ถึงหน้าตลาดประมาณทุ่มนิด ๆ ก็เจอตลอดฝั่งถนนที่ติดกับหอศิลป์มีรถจอดเรียงกันยาวเหยียด คงมีทั้งรถของคนที่มาจ่ายตลาดและคนที่มาฟังปราศรัยปน ๆ กันไป และเสียงปราศรัย เราเลยลองขับรถหาที่จอดไปเรื่อย ๆ ไปจนถึงสามแยกตรงหัวมุมหอศิลป์ ทางเข้าไปยังถนนนิมมานเหมินทร์

    ที่ถนนทางเข้าไปยังถนนนิมมานเหมินทร์นั้นมีแผงเหล็กกั้นเรียงกันเป็นแถว และมีรถจอดเรียงกันอยู่ริมถนน พร้อมกับมีตำรวจยืนอยู่ด้วย เท่าที่กะจากสายตาเวลาขับรถผ่าน ก็เห็นว่าไม่มากนัก ไม่วุ่นวาย อย่างที่คิดไว้

    ตอนนั้นก็เลยยังมองโลกในแง่ดีว่า คงจะไม่มีอะไรหรอก…

    ขับรถเลยออกไปจนถึงหน้าคณะเภสัชศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ อีกนิดก็จะเป็นถนนไปทางหอพักคณะวิทยศาสตร์สุขภาพทั้งหลายแล้ว วางแผนไว้ว่าจะขับรถตรงไปทางหน้าหอพัก และลัดเข้าถนนข้างโรงแรมกรีนพาเลซ เพื่อเข้าไปในถนนนิมมานเหมินทร์ แต่พ่อเห็นว่ากลับรถตรงหอพักแพทย์แล้วเอาไปจอดที่หน้าร้านดอยคำ ค่อยเดินข้ามถนนไปฝั่งหอศิลป์ และเข้าประตูด้านข้างเอาดีกว่า  ยอมเดินไกลเอาหน่อย

    ไม่มีปัญหา ว่าไงว่าตามกัน…  

    ขับรถเรื่อยมาจนติดไฟแดงที่สี่แยกตลาดต้นพะยอม แม่เปรยว่านอกจากได้ยินเสียงปราศรัยแล้ว ยังรู้สึกว่าได้ยินเสียงคล้าย ๆ คนโห่แทรกเข้ามาด้วยเป็นระยะ

    แต่ไม่เห็นด้วยตา ก็ยังบอกอะไรไม่ได้ คงต้องลองไปดูเอาว่าของจริงเป็นอย่างไร

    ขณะที่เรากำลังเดินเข้าทางประตูด้านข้างบริเวณลานโล่งสำหรับกิจกรรมของหอศิลป์ด้านที่ติดกับตลาดต้นพะยอมนั้น ก็มีคนทยอยเข้ามาฟังกันเรื่อย ๆ

    ลองสังเกตดู คนที่มาฟังมีทั้งคนที่แต่งตัวแบบชาวบ้านทั่วไป คนในวัยทำงาน นักศึกษาในชุดลำลอง รวมไปถึงนักเรียนในเครื่องแบบด้วย ช่วงที่กำลังจะไปถึงเวทีปราศรัยก็มีเสียงประกาศว่าคุณอภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กำลังจะขึ้นเวที

    แต่ในเวลาเดียวกันนั้น นอกจากเสียงปรบมือของคนที่มาฟังแล้ว ก็มีเสียงตะโกนดังมาจากกลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่นอกรั้วหอศิลป์ ซึ่งมีจำนวนมากเอาการ และบางคนก็ชูป้ายข้อความอะไรบางอย่างที่ฉันเองก็มองไม่ถนัด ถึงจะพาตัวเองเข้าไปอยู่ใกล้รั้วค่อนข้างมากก็ตาม เนื่องจากป้ายทำจากกระดาษโปสเตอร์แข็งสีขาวทำให้สะท้อนแสงจากไฟฟ้าส่องสว่างข้างทาง

    ระหว่างที่คุณอภิสิทธิ์พูดก็มีเสียงจากผู้ชุมนุมตะโกนแทรกขึ้นแทบจะตลอดเวลา คำที่ได้ยินชัด ๆ คือ คำว่า “อภิสิทธิ์ออกไป” กับ “ทักษิณสู้ ๆ “ นอกจากนั้นฉันก็จับความไม่ค่อยได้ เพราะสับสนกันไปหมด  ที่ค่อนข้างแน่นอน คือ เสียงนำเป็นเสียงผู้หญิง

    ในช่วงไม่กี่อึดใจถัดมา แม่ก็เรียกหา และทำให้เริ่มสังเกตว่า ผู้ชุมนุมที่อยู่ด้านนอกกำลังทยอยเข้ามาทางประตูด้านที่ติดกับแปลงทดลองของคณะเกษตร ฝั่งเดียวกับที่สถานีโทรทัศน์ไอทีวีจอดรถถ่ายทอดสดนอกสถานที่เอาไว้ ผ่านหน้าบ้านดินของหอศิลป์ และเข้ามาถึงด้านหน้าเวทีที่คุณอภิสิทธิ์กำลังปราศรัย นอกจากนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมยังเอารถเข้ามาภายในบริเวณที่จัดปราศรัยด้วย

    คนที่นั่งฟังอยู่บริเวณเก้าอี้ที่จัดเตรียมไว้ด้านหน้า และแถวข้าง ๆ ฝั่งทางเข้าหอศิลป์ ค่อย ๆ ลุกออกมายืนอยู่บริเวณใต้ต้นไม้ด้านข้างลานจอดรถ ฟังคุณอภิสิทธิ์พูดจนจบและทางพรรครวมทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพาคุณอภิสิทธิ์ และสมาชิกคนอื่นหลบออกจากเวที คนที่มารอฟังการปราศรัยจึงพากันเลี่ยงออกจากลานเวทีปราศรัยไปทางด้านตรงข้ามกับด้านที่ผู้ชุมนุมเข้ามา  

    ระหว่างที่เราพากันหลบออกมานั้น มีน้องผู้ชายคนหนึ่งบ่นออกมาดัง ๆ ด้วยความไม่พอใจ ก็เหมือน ๆ กับใครอีกหลายคนที่เดินออกมาจากที่นั้นด้วยอารมณ์เดียวกัน

    บางคนก็บ่นว่าทำไมตำรวจถึงปล่อยให้เขาเข้ามาข้างในได้ง่ายดายนัก

    เราสามคนหลังออกมาพ้นจากบริเวณเวที ก็ยังเข้าไปยืนรออยู่บริเวณประตูกระจกด้านหน้าหอศิลป์ รอดูสถานการณ์ต่อสักครู่ แล้วก็เจอกับอาจารย์ที่รู้จักกัน แต่ไม่ทันจะได้คุยกันก็เห็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จำนวนหนึ่งพร้อมกับตำรวจเข้ามาถึงด้านใน ซึ่งภายหลังรู้ว่าคนที่ถูกพาเข้ามาในด้านที่เรายืนอยู่ คือ คุณชวน ส่วนคุณอภิสิทธิ์ถูกพาออกไปอีกด้านหนึ่ง

    เห็นว่าไม่น่าจะมีใครเป็นอะไร และได้ยินว่ากลุ่มผู้ชุมนุมขึ้นไปบนเวที เราก็เลยตัดสินใจว่ารีบออกไปจะดีกว่า แล้วไปที่สนามวอลเลย์บอลภายในมหาวิทยาลัย ที่กลุ่มพันธมิตรฯ กับนักศึกษา และอาจารย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ใช้เป็นสถานที่เสวนาวิพากษ์รัฐบาลและคุณทักษิณ ว่าจะมีข่าวคราวอะไรกันบ้าง

    สิ่งที่ทำให้ข้อสงสัยที่เกิดขึ้นเงียบ ๆ ในใจเกี่ยวกับการผ่านเข้ามาทางประตูหน้าหอศิลป์ของผู้ชุมนุมได้รับคำตอบพร้อมกับอาการชา ๆ ในใจ คือ การเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นประทวน ในเครื่องแบบ 4 – 5 นายยืนยิ้มและสนทนากันอยู่ข้างรถกระบะที่จอดอยู่ข้างประตูหอศิลป์ฝั่งตลาดต้นพะยอม…

    เขาไม่รู้บ้างเลยหรือว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งคนจำนวนมากต้องแยกย้ายกันออกมาแบบนี้
    ฉันกับแม่มองหน้ากันเงียบ ๆ … คำตอบของเราคงจะตรงกัน และเหมือนกับของใครอีกหลายคน

    --------------------------------------
    (มีต่อค่ะ)

    จากคุณ : ปิยะรักษ์ - [ 31 มี.ค. 49 23:02:02 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป