Meenas Kitchen : Chapter 9.
-----------------------------------------------------------
เจ๊แคนดี้โผล่หน้าอันยุ่งเหยิงมาตะโกนสั่งออเดอร์
โต๊ะ 7 สั่งผักโขมอบชีส บรูสเกต้า ทำไมมาช้านักยะ ลูกค้าจะกินวันนี้ไม่ใช่เดือนหน้า!
โอ๊ย อย่าเร่งสิเจ๊ คนยิ่งลน ๆ อยู่
ฉันหัวหมุนอยู่ในครัว มือกำลังผัดคาโบนาล่าอยู่ส่วนตามองเส้นเพตตูชีนี่ที่ลวกในน้ำเดือดพล่านบนเตา หูก็ต้องฟังเสียงรับออร์เดอร์ที่ตวาดโวยวาย
โต๊ะ 4 คาโบนาล่า คาเนลโลนี่ ซุปเห็ดไม่ใส่เห็ด
เอ๊ะ ยัยณัชจดอะไรของมันเนี่ย
เร็ว ๆ ด้วย โอ๊ย ตาย ตาย
ทำงานชักช้าแบบนี้ลูกค้าเจ๊หนีหมด !
หลังจากวีนแตกระบายอารมณ์กับลูกจ้างเสร็จ เจ๊ก็ทำหน้ายิ้มแย้มไปต้อนรับลูกค้าตามประสาคนทำงานบริการที่ดี
สัปดาห์นี้ถือเป็นช่วงเงินเดือนออกของบรรดาพนักงานออฟฟิศทั้งหลาย เหล่ามนุษย์เงินเดือนเลยมีโอกาสใช้ชีวิตไฮโซช่วงสั้น ๆ ด้วยการดินเนอร์อาหารหรูหราที่ร้านกันล้นหลามแน่นขนัด ข้างหน้าร้านยุ่งวุ่นวายจนเจ๊ต้องลงสนามมาช่วยด้วยตัวเอง สำหรับในครัวเกือบจะเรียกได้ว่าเป็นจลาจลย่อย ๆ เลยทีเดียว
เมื่อย! เหนื่อย!
ฉันทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้แบบหมดสภาพความเป็นกุลสตรี ตาพร่าหน้ามืด วิงเวียนคลื่นเหียนคล้ายจะเป็นลม กว่าจะปิดครัวได้ก็ล่วงเวลามาชั่วโมงกว่าเนื่องจากลูกค้าเยอะมาก ทุกคนในร้านดูเหนื่อยอ่อนไม่ต่างกัน ขนาดสาวณัชที่สวยเนี้ยบตลอดเวลาทำการ มาวันนี้ยังดูโทรม หน้ามันและมีเม็ดเหงื่อผุดซึมจนผมที่ยุ่งอยู่เปียกชุ่ม
ณัชว่า เจ๊จ้างคนมาเพิ่มเถอะ อย่างงี้พวกเราจะตายเอานา ณัชชาเดินมาขอเจรจากับเจ้าของร้าน
แหม จ้างคนก็ต้องแบ่งเงินเดือนส่วนพวกเธอไปให้เค้าด้วย จะยอมมั้ยหล่ะ เจ๊ซึ่งตอนนี้ค่อยอารมณ์ดีขึ้นแล้วจีบปากจีบคอตอดกลับมา
อย่างงี้ก็มีด้วย ! นายจ้างมหาโหด นี่มันโรงงานนรกชัด ๆ ณัชส่ายหน้าไปมา
ยายณัชนี่ชักเอาใหญ่ ปากคอเราะร้าย เดี๋ยวนี้ทำตัวไม่น่ารักเลย แคนดี้ทำหน้ายู่ยืนเท้าสะเอวมองตามณัชที่บ่นพึมพำเป็นหมีกินผึ้งเดินขึ้นบันไดหายลับไป
ว่าเค้าได้ไง ณัชเป็นแฟนเจ๊นะ ฉันพูดติดตลก เตรียมตัวขึ้นห้องล๊อกเกอร์เก็บของกลับบ้านเหมือนกัน
เดี๋ยวจ้ะมี่
เจ๊เรียกเอาไว้ ยืนซองกระดาษสีขาวมาให้
นี่จ้ะค่าแรงของเดือนแรก ขอบใจนะที่มาช่วยงานเจ๊
เจ๊แคนดี้ขยี้ผมฉันเบา ๆ อย่างหมั่นเขี้ยว ก่อนจะเดินกรีดกรายไปเรียกหนุ่ม ๆ เสียงโหยหวน
ปล่อยให้ฉันอยู่กับเงินเดือนก้อนแรกของชีวิต
.
ว้าย ย ณัชดูสิ ๆ ฉันได้เงินเดือนด้วยหล่ะ !
ณัชปรายตามองแล้วก็หันกลับไปเก็บของต่อ ไม่เห็นแปลก ทำงานก็ต้องได้เงินสิ
ดูสิ ฉันหาเงินได้ มากขนาดนี้เลย~! ฉันชูซองจดหมายกรี๊ดกร้าดกระโดดโลดเต้นเริงร่าในห้องล๊อคเกอร์จนณัชเริ่มหัวเราะในลำคอ มองฉันอย่างเซ็งจิต
รีบเปลี่ยนเสื้อซักที อยากกลับบ้านตอนพระบิณฑบาตรรึไง
ปลายไม้รออยู่ข้างล่าง พอเห็นเราสองคนก็ร้องเรียกหน้าตาแจ่มใส
ณัช ให้ไม้ไปส่งนะ นี่ก็ดึกแล้ว
อร้าย ย ... น่าดีใจจริง ๆ ที่ปลายไม้ออกปากจะไปส่งมีนา ... ถึงแม้จะเค้าจะทำเป็นอายไปชวนณัชก็เถอะ
ไม่ต้อง ณัชกลับกับมี่อยู่ทุกวันไม่เห็นมีอะไร พอสาวทำหน้าเฉยเมยไม้ก็ทำหน้าม่อยลงนิดนึงแต่ก็ยังไม่ละความพยายาม
วันนี้วันเงินเดือนออก ไอ้พวกโจรมันจะปล้นก็ช่วงนี้แหล่ะ ผู้หญิงกลับกันแค่สองคนอันตรายไม้ไปด้วยดีกว่า
แต่ณัชไม่อยากกวน บ้านไม้มันคนละทางเลยไม่ใช่รึไง น้ำเสียงคนพูดเริ่มหงุดหงิดมีอารมณ์ ฉันรู้สึกไปเองรึเปล่านะว่าณัชมักจะหาเหตุบ่ายเบี่ยงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับปลายไม้ถ้าไม่จำเป็น
ก็ไปด้วยกันทั้งสามคนนี่แหล่ะ
พอเลยณัชไม่ต้องเถียงแล้ว อยากกลับบ้านตอนพระบิณฑบาตรรึไง ฉันย้อนณัชเข้าให้แล้วหันมายิ้มหวานกับปลายไม้
รบกวนด้วยนะคะ
ณัชมองฉันตาขวางเอาเรื่อง แต่แล้วก็ถอนหายใจเสียงดังเฮือก ( ให้ได้ยินทั่วกัน ) ยอมเดินตามมาโดยดี
จากคุณ :
อันปังแนน
- [
1 เม.ย. 49 11:43:14
]