CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ประท้วง! ตอนที่ 2

    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4269702/W4269702.html

    ตอนที่แล้ว

    =============  

    14-3-49
    ตื่นขึ้นมาด้วยเสียงตะโกนของแม่  เวลาเกือบตี 5  ตื่นกันทั้งบ้านเลย  เพราะวันนี้มีนัดรวมพลที่สนามหลวงตอน 7 โมงเช้า  เราก็รีบตื่นมาทำธุระส่วนตัวกันแล้วรีบเผ่นออกจากบ้านอย่างด่วนจี๋  ขึ้นรถในเวลาตี 5 เศษ  มาถึงที่สันติอโศกเวลา  ตี 5 ครึ่งกว่า ๆ  แต่ทว่า  รถออกไปหมดแล้ว  รีบโทรถามคนที่บริษัท  ปรากฏว่า เขาไปถึงสนามหลวงกันแล้ว  

    แตร่ว!!

    เราเลยรีบขึ้นรถเมลตาม!!  ขณะเดินทาง  เห็นหนุ่ม ๆ  3  คนขึ้นรถมา  เดินไปนั่งที่เบาะด้านหลังรถ  มองเห็นเขาใส่เสื้อกู้ชาติก็รู้ว่า  “เราไปที่เดียวกัน”  เมื่อวานฉันโทรถามน้องชายว่า  จะไปหรือเปล่า   น้องชายบอกว่า  ไป  ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้บอกเลยว่า  จะไปไหนกัน    เขาลางานมาเลยนะเนี่ย…

    พอรถเลี้ยวเข้าสู่ถนนราชดำเนิน  พวกเราก็เตรียมลงจากรถ   แล้วเดินต่อไปที่สนามหลวง  โทรหาน้องต่ายว่าอยู่ตรงไหนกัน  แม่ฉันรีบไปเข้าห้องน้ำในโรงแรมรัตนโกสินทร์   เรายืนรออย่างร้อนใจระคนตื่นเต้น  เพราะรอบบริเวณของถนนราชดำเนิน  คนเยอะแยะเต็มไปหมด  คนใส่เสื้อสีเหลือง  คนผูกผ้าสัญลักษณ์กู้ชาติ  ดูแล้วมันตื่นเต้นยังไงไม่รู้   ประชาชนมารวมตัวกันมากมายขนาดนี้ในวันที่เป็นวันทำงาน  ไม่ใช่วันหยุด  แต่ทุกคนก็ยอมหยุดงานมากัน  มันไม่น่าเชื่อว่า  ประชาชนกล้า!   และเอาจริง!  ยอมเสียงานกันขนาดนี้

    พอแม่ออกมาแล้ว  เราก็รีบเดินไปสมทบกับกองทัพธรรม  เห็นเขาตั้งขบวนแล้ว  เจ้าหน้าที่กำลังตะโกนบอกให้พวกเราจัดแถวในเป็นระเบียบเรียบร้อย  นำหน้าด้วยคนถือพระบรมฉายาลักษณ์   ตามด้วยริ้วขบวบธงชาติ  ธงศาสนา  ธงสีน้ำเงิน  พอเข้าขบวนก็ได้เจอน้องเขม   หนุ่มวิศวะ  ศิษย์เก่าพุทธธรรม  คนนี้ตั้งแต่เขาเรียนจบไปทำงานทำการเราก็ไม่ได้เจอกันเลยนานมาก  ช่วงที่ได้รู้จักเขา  จะเห็นเขาเดินตามถือตระกร้าให้คุณแม่ซื้อของ  ดูแล้วน่ารักดีนะ   ยังแซวเขาว่า  วันนี้ไม่ได้ตามถือตระกร้าให้คุณแม่แล้วหรอ   เขาก็หัวเราะ

    เราเดินไปต่อแถวในขบวนเป็นที่เรียบร้อย  และแล้วเราก็เริ่มเคลื่อนขบวน  เสียงเพลงกองทัพธรรมดังกระหึ่มขึ้นอีกครั้ง   บรรดากล้องอะไรต่อมิอะไร  นักข่าวเต็มไปหมดตลอดทาง  เดินถือธงสันติวิธีสีส้มกับธงอหิงสาอโหสิสีฟ้า  ขบวนค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปอย่างช้า ๆ และสวยงาม  ฉันอยากเห็นจังเลยว่ามันจะยาวขนาดไหน  สวยงามขนาดไหนนะ   จะมีทีมกาดเป็นหนุ่ม ๆ ใส่เสื้อสีดำทะมึนคอยคุ้มกันกลุ่มแกนนำ   รถขยายเสียงแต่ละคันจะมีหมายเลขติดอยู่   จะขั้นจะหว่างแถวขบวน  ทำให้สามารถสื่อสารถึงกันได้ตลอดแนว   รอบ ๆ แถวด้านนอก  จะมีพวกเราคอยเดินดูแลถามไถ่ใครไม่ไหว  ใครเป็นลม  ใครต้องการความช่วยเหลือ  มีหน่วยพยาบาลคอยถามตลอดเวลา   เวลาเราจะต้องข้ามถนน   จะมีคนหนุ่มยืนจับมือกันกันไว้ตลอดแนวเพื่อความปลอดภัย   เราใช้พื้นที่ในการเดินขบวน  1 ช่องจราจร  การควบคุมขบวนมองว่า  เป็นไปได้โดยง่าย  เพราะแถวหน้ากว้างไม่มากนัก  การควบคุมทำให้ควบคุมได้ง่าย  ด้านขวามือสุดจะติดเกราะกลางถนน  ด้านซ้ายจะเว้นไว้  ป้องกันมือที่สามที่จะเข้ามาป่วนได้

    อากาศวันนี้ดีมาก ๆ  แดดไม่ร้อน  มีลมพัดตลอดเวลา  อากาศเป็นใจอย่างยิ่ง

    เป็นการเดินขบวนที่มีแบบแผน  มีการแจ้งล่วงหน้าว่าขบวนของเราจะไปที่ไหนบ้าง   ฉันว่าดีนะ  แจ้งตำรวจไว้ล่วงหน้าเลย  ตำรวจก็จะได้เคลียร์ทางให้พวกเรา   สองข้างทางก็จะมีคนออกมาดูด้วยความสนใจ  บางคนก็ชูนิ้วหัวแม่มือให้เป็นกำลังใจให้ทั้งสองมือ  บางคนก็โบกมือให้  ยิ้มให้  รู้สึกสนุกตื่นเต้นดี  สัมผัสได้ถึงพลังของทุกคนที่มาร่วมใจกัน  พอเดินไปถึงทำเนียบล้าง(เพราะนายกไม่ยอมอยู่ต้อนรับพวกเรา  เป็นกลุ่มประท้วงที่นายกไม่เคยมาพูดคุยเจรจาด้วยสักครั้งเดียวเลย)   พวกเราก็นั่งพักกันบนพื้นถนน    ตอนนี้แดดเริ่มร้อนแล้ว  เพราะใกล้เที่ยงเข้าไปทุกที  เพื่อนโทรมาถามว่าเป็นไงบ้าง   ฉันบอกเพื่อนว่า  ปกติดี  ไม่มีอะไรหรอก  น่าจะมาด้วยกันนะ  เขาบอกว่าเขางานยุ่งมาก  ไปไหนไม่ได้เลย

    แล้วทุกคนก็เริ่มควักห่อข้าวออกมาทานกัน   แต่ฉันไม่มีหรอก   มีคนมารับบริจาคข้าวที่เหลือ  ที่คนทานไม่หมด  ฉันก็เลยขอมาได้ 3  ถุง แม่ฉันไปเข้าห้องน้ำ  หายไปนานมาก   พอแม่มาก็เลยขอห่อน้ำพริกมะนาวจากแม่มาด้วยจากนั้นพวกเรา  6  คนก็ไปหาที่หม่ำ ๆ กัน  แถวนั้นใกล้กับ  มหาวิทยาลัยราชมงคลพณิชยการพระนคร  โรงเรียนที่ฉันเคยเรียนอยู่ถึง 5  ปี  หลังจากจบมาฉันก็ไม่ได้กลับมาที่โรงเรียนเลย   เราไปหาที่ปิคนิคกันที่ใต้ต้นมะขามบนหญ้าข้างถนน  เอากระสอบออกมาปู  เอาอาหารออกมาตั้ง  ซื้อมันแกว  สับปะรดมาทาน  มันแกวแช่เย็นจิ้มพริกกับเกลืออร่อยอย่าบอกใครเชียว  กินแล้วมันสดชื่น  กินข้าวเสร็จ  ฉันอยากกินกล้วยแขกทอด  สมัยที่เคยเรียนที่นี่  มีกล้วยแขกเจ้าหนึ่งอร่อยมาก ๆ  ก็ชวนน้อง ๆ  ไปกินกัน  ก็ไปเดินตามหาจนเจอ  อิอิ  ปรากฏว่าเขายังทอดไม่สุกเลย  ก็ไม่ย่อท้อค่ะ  ยืนรอนะคะ  จนเสร็จ   เราก็ได้กินกล้วยแขกกันสมตามความตั้งใจ  แต่ว่า…มันไม่ได้อร่อยเหมือนที่เราคิดไว้อ่ะ  แฮ่…อุตส่าห์โม้ซะเยอะว่า  เจ้านี้นะ  อร่อยมากกกกก

    กินเสร็จเราก็ไปเดินสำรวจกัน   ด้านกองทัพธรรมก็เตรียมกางเต้นท์กันใหญ่  น้องชายฉันก็ไปช่วยกันกาง  แป๊บเดียวเสร็จ  แล้วไปนั่งพักใต้ต้นไม้ที่มีต้นหญ้า  ตรงนั้นลมดีมาก ๆ  เย็นสบาย  มองไปจะเห็นลานพระบรมรูปทรงม้าอยู่ไม่ไกล  มีคนนั่งเป็นระยะ ๆ  บางคนก็นอนเลย   นั่งไปนั่งมาก็รู้สึกง่วง  กำลังจะหลับไม่หลับแหล่…เลยหลับไปแป๊บหนึ่งค่อยยังชั่ว  มดก็ดันมาไต่อีก  จากนั้นเราก็ยกขบวนไปเดินเล่น  ผู้คนก็หลบอยู่ตามต้นไม้ต่าง ๆ  ทางพันธมิตรก็เอาอาหารมาแจก  เขาให้หนุ่ม ๆ ไปถือมา  ถุงหนึ่งน่าจะมีซัก 40 กล่องนะ  สองข้าง  เดินถือมาไม่ใช่ใกล้ ๆ  เลย  มีขนมมาแจก  น้ำมาแจก  พอบ่าย 3 โมงกว่า  เราก็พากันกลับบ้าน  เดินพาน้อง ๆ ไปดูประวัติทำเนียบรัฐบาลว่าเป็นมาอย่างไร  พาไปดูบ้านพิษณุโลก  บ้านมนังคศิลา  

    ขากลับรถติดมาก ๆ  หลับสัปหงกกันเป็นแถว ๆ  ฉันทิ้งชีวิตแบบนี้ไปนานแล้ว  ตั้งแต่จบจากพณิชยการพระนคร  แล้วเราก็กลับถึงบ้านด้วยความปลอดภัยกันทุกคน

    25-3-49
    วันนี้เป็นวันนัดรวมพลังกันอีกแล้ว  ที่บริษัทก็ปิดประมาณ 11.30 น.  แล้วเดินทางไปด้วยรถ 6  ล้อ  ออกไป 2 คันอย่างเต็ม ๆ คัน  ฉันรอน้องชาย  เขาว่าจะไปด้วย  พี่ขวัญเห็นมีเหลืออีก 11 คน  พี่ขวัญเลยเอารถพี่ขวัญไป  พอไปถึง  เราก็ไปหาไรกินกัน  ที่กองทัพธรรมมีอาหารแจก  ฉันรู้สึกว่า  กองทัพธรรม  ทำหน้าที่เหมือนแม่บ้านเลย  ที่คอยทำอาหารแจก  คอยทำความสะอาด  แยกขยะ  ถ้าไม่มีกองทัพธรรม  สงสัยคงจะสกปรกมาก ๆ   ต้องบอกว่า  คนเรา   สกปรกจริง ๆ  เลย  ยังขาดสามัญสำนึกกันอยู่มาก ๆ  ตรงไหนมีคน  ตรงนั้นมีขยะ  ข่าวว่าม็อบที่มาสนับสนุนทักษิณที่สวนจตุจักร  พอกลับไปกันแล้ว  ต้องของบมาบูรณะสวนตั้ง 30 ล้าน   หืม….อะไรมันจะขนาดนั้นนะ

    ตรงที่พวกเรานั่งกินข้าวกันอยู่นั้น  มีเด็ก ๆ 2-3  คนเล่นโหนต้นไม้ไปมากันอยู่  ฝรั่งเดินมาเห็นก็ถ่ายภาพเก็บไว้กันใหญ่  กินเสร็จเราก็ไปเดินสำรวจกันอย่างเคย  ตอนบ่าย 2  กว่า แดดร้อนเปรี้ยงเลย  แต่คนก็มากัน  ที่หน้าเวทีจะมีคนนั่งเยอะ  เขานั่งกางร่มตากแดดฟังคนบนเวทีพูด  สุดยอดเลย  นับถือ ๆ  เราไปหาที่เหมาะ ๆ  ลมเย็น ๆ ร่ม ๆ นั่งกัน  เด็ก ๆ เอาการ์ตูนออกมาอ่าน  แต่ฉันไม่เลือกนั่งเฉย ๆ  ฉันชอบเดินสำรวจ  เดินไปกับน้องนิ่ม  เดินไปรอบ ๆ  มีคนเอาพวกเสื้อยืดมาขายเยอะมาก  หมวก  สายรัดข้อมือ  พัด  กางเกงขาก๊วยมีรูปทักษิณ  มีรูปหน้าเหลี่ยม  เป็นต้น  เข็มกลัด  พวงกุญแจ  แม้กระทั่งกางเกงในก็มี

    กองทัพธรรมแบ่งเต้นท์แจกอาหารไว้ 4 จุดใหญ่ ๆ  แจกอาหารและน้ำดื่ม  มีเยอะมาก ๆ  มีทั้งฮอทดอก  แฮม  เป็ดเจ  ลูกชิ้น  แบบว่าของแพงนะเนี่ย  แล้วก็เพียบเลย  เยอะมาก ๆ  อาหารแจกที่ไม่ใช่มังสวิรัติก็มี   แต่ดูเหมือนคนไม่ค่อยรับแจกเท่าไหร่นะ  ตอนเย็นที่เต้นท์ใหญ่ของกองทัพธรรมก็มีแจกข้าวต้มร้อน ๆ  ก๋วยเตี๋ยวร้อน ๆ  มีคนเอาขนมปังลูกเกดมาให้แจก  น้ำเต้าหู้แช่เย็น  ขนมข้าวแตน  ซาลาเปา  ขนมปังต่าง ๆ  มีคนเขาลอดช่องมาแจก  เรียกกว่า  ไม่มีอด  กินดีนะเนี่ย  เห็นครอบครัวอยู่ครอบครัวหนึ่งเขามาแจกน้ำเฮลบลูบอย  ตั้งแต่ฉันเดินมาจนถึงขากลับ  ฉันก็ยังเห็นครอบครัวนี้ช่วยกันแจกน้ำเฮลบลูบอยกันอยู่  มีทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ 4-5  คน  ดูแล้วน่าประทับใจนะ

    ยิ่งเย็นย่ำค่ำลงเท่าไหร่  คนก็ยิ่งทยอยกันมามากขึ้น ๆ  จากที่เคยเดินเหินได้  ก็เริ่มเดินไม่ได้  เพราะผู้คนมากมายจริง ๆ  จนต้องขอตำรวจให้ขยายแผงกั้นรั้วออกไปอีก   ประมาณ 6 โมงเย็น  ฉันก็เตรียมตัวกลับบ้าน  มันรู้สึกเพลีย  อยากจะหลับยังไงไม่รู้  เสียงลำโพงมันดังมาก  เหมือนเสียงมันกระแทกเข้าไปในหูตลอดเวลา  อยู่รอจุดเทียนกับเขาไม่ไหว   อีกอย่างฉันไม่ชอบการว่ากันอย่างไม่มีเหตุผล  ใช้แต่อารมณ์  ต้องยอมรับว่า  บางครั้งว่ากันรุนแรงจริง ๆ  ฉันชอบฟังคนพูดอย่างมีเหตุผล  มีต้นสายปลายเหตุชัดเจน  มีที่มามีที่ไป  ไม่ใช่การกล่าวอ้างอย่างเดียว  มันดูขลังและน่าเชื่อถือ   และทำให้คนเครียดนะ   ยอมรับเลยว่า  ถ้าฟังใครที่มีความคิดเห็นต่างกับเรา  เราไม่อยากจะฟังคนนั้นเลย   มีเพื่อนคนหนึ่งโทรมา  เราบอกว่า  เราอยู่ทำเนียบ  เพื่อนถามว่า  ไปทำไม  ไปเพื่ออะไร   ฉันตอบว่า  ไปเพื่อให้นายกรู้ว่าเราไม่เห็นด้วย  เรารู้ว่าคุณทำผิด  เรารู้ว่าคุณทำไม่ถูกต้อง   ถ้าไม่ใช้วิธีประท้วง  เราจะบอกนายกได้ยังไง  ขนาดบอกขนาดนี้นายกยังไม่เข้าใจเลย  เพื่อนมันก็อธิบายอะไรไม่รู้ยาวเฟื้อยเลย  เรารู้สึกไม่อยากฟัง  เลยบอกเขาว่า  แค่นี้นะ  วางหูเลย

    มันจนหนทางจริง ๆ นะ  ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะจบลงยังไงนะเนี่ย….นึกไม่ออกจริง ๆ   ฉันไม่เคยได้ยินนายกบอกซักคำว่า  “ถ้าผมทำไม่ถูกต้อง  ผมยินดีให้ตรวจสอบ”   แล้วลูกหลานตระกูลนี้จะเป็นยังไงในอนาคต  ชื่อนี้จะถูกบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ไปจนชั่วลูกชั่วหลาน   ทำไมเขาจึงเลือกมีประวัติศาสตร์แบบนี้ให้กับชีวิตและวงศ์ตระกูลก็ไม่รู้………??

    มีรถกลับตอน 1 ทุ่ม  ฉันเลยออกมาเตรียมตัวกลับบ้าน   กลับถึงสันติอโศกเกือบ 2 ทุ่ม  ใช้เวลาแค่ 40 นาทีเอง  ถ้าขึ้นรถเมล์กลับสงสัยอีกนาน  

    มีประชาชนมาบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการประท้วงตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้  มียอดบริจาคถึง 25 ล้าน  หืม….เยอะมาก ๆ นะเนี่ย   ในส่วนของกองทัพธรรมก็มีคนมาบริจาคตั้งวันแรกถึงวันนี้ได้ 8 ล้าน  คนรับบริจาคบอกว่า  เขาเลือกเจาะจงมาบริจาคให้กองทัพธรรมโดยเฉพาะเลย   เขาก็จะมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายให้ดูให้เห็นกันอย่างชัดเจน

    งานนี้พ่อท่านและหมู่สมณะไปอยู่ร่วมประท้วงทั้งวันเลย  ไปตั้งแต่เช้า   ไปบิณฑบาตร  ไปเทศน์  อยู่ทั้งวันจนค่ำ  ถึงกลับสันติอโศก  สงสารพ่อท่านจังเลย  ไปอยู่เป็นขวัญกำลังใจ  ท่านบอกว่า  มีคนมากราบเยอะมาก  มาขอโทษที่เคยเข้าใจท่านผิด

    การประท้วงครั้งนี้ทำให้คนได้รู้จักกันมากขึ้น   ทำให้คนได้มิตรใหม่มากขึ้น  ทำให้คนตื่นตัวสนใจบ้านเมืองมากขึ้น  ทำให้คนช่วยเหลือกันมากขึ้น   ทำให้คนเสียสละกันมากขึ้น  ถ้าทักษิณรีบลาออกไปแต่แรก  ประชาชนอีกมากคงยังไม่รู้ข้อมูลความชั่วร้ายความคดโกงของเขามากมายขนาดนี้   ฉันประทับใจประชาชนที่ไม่เคยยอมแพ้มาร่วมชุมนุมทุกวัน  วันหนึ่งเป็นหมื่น ๆ คน  การนั่งบนพื้นถนนมันร้อนมากนะ  ฉันเอาผ้ารองปูนั่งปูหนึ่งชั้น  บังเอิญนั่งอยู่ใกล้กับรถเครื่องขยายเสียง  เจ้าหน้าที่บนรถเห็นกลุ่มของพวกเรากำลังจัดแจงที่นั่งกัน  เขาก็พยักหน้าเรียกน้องป้องไปเอากระดาษแข็งมาปูอีกชั้นหนึ่งเป็นชั้นที่ 2  แต่ก็ยังร้อนก้นอยู่ดี  ต้องนั่งบนรองเท้านะ  ถึงจะพอไหว

    คนที่มาก็มีหลากหลายมาก  มีทุกเพศทุกวัย  ทุกฐานะ  บางคนอ้วนมาก ๆ  ประมาณว่า  คุณหญิงคุณนาย  ทำผมมาซะสวยเช้งเลย  แต่งตัวอย่างดี  เพื่อมานั่งกับพื้นถนนร้อน ๆ รอฟังการอภิปราย  อืม…แสดงว่าประชาชนเหลืออดจริง ๆ แล้ว

    พ่อท่านมักจะเทศน์ว่า  เป็นการชุมนุมกันที่งดงามเพราะไม่เคยเกิดความรุนแรง  เป็นการชุมนุมโดยสงบ  และสันติ  เพราะไม่เคยมีประเทศไหนทำได้อย่างนี้  เห็นด้วยมาก ๆ  ถ้าพวกเราไม่สงบสันติ  คงไม่ต่างอะไรกับที่พรรคประชาธิปัติติ์โดนชาวเชียงใหม่รุมด่าทอขว้างปาสิ่งของใส่อย่างป่าเถื่อนอย่างนั้น   เราคงไม่แตกต่างอะไรเลย

    ฉันประทับใจลุงจำลองมาก  ทุกครั้งที่บ้านเมืองมีปัญหาด้านผิดศีลธรรม  เน้นว่า  “ผิดศีลธรรม”   ลุงจะต้องออกมาช่วยต่อต้านคัดค้านเสมอ  ทั้ง ๆ  ที่ทำไปแล้วลุงไม่เคยได้อะไรเลย  ไม่มีผลประโยชน์ใด ๆ  มีแต่คนด่า  ลุงถูกด่ามาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง  ถูกเข้าใจผิดต่าง ๆ นา ๆ  ถูกกล่าวหาว่าอยากดัง   แต่สิ่งเหล่านั้นไม่เคยทำให้ลุงลดความกล้าในการทำความดีได้เลย  ลุงยังคงทำความดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนเสมอ  หวังเพียงให้ความถูกต้องนั้นต้องคงอยู่  แม้ว่าทำไปแล้วจะเปลืองตัว  บางคนก็ว่าลุงถูกหลอกใช้  แต่ลุงก็ยังทำเพื่อความถูกต้องเสมอ   ฉันคิดว่าไม่เคยมีใครทำได้อย่างลุง  โดยเฉพาะการทำโดยไม่เคยหวังผลประโยชน์ใด ๆ จริง ๆ   แล้วก็ชอบการพูดของลุงด้วย  ลุงไม่เคยว่าใครด้วยถ้อยคำรุนแรงและหยาบคายเลยซักครั้งเดียว

    นี่เป็นการชุมนุมครั้งสุดท้ายที่ฉันไปร่วมประท้วงด้วย   เพราะหลังจากนั้น  ฉันก็ทำงาน  เพราะว่าหยุดบ่อยมันทำงานไม่ทัน   แล้วก็เริ่มรู้สึกเครียด  คือไม่ชอบการว่ากันอย่างรุนแรงด้วย  แต่เข้าใจนะว่า  พวกเขารู้ข้อมูลเยอะมาก  ที่ทักษิณทำอะไรไว้กับบ้านเมืองและประเทศชาติ  ฟังแต่ข้อมูลแบบนี้ทุกวัน ๆ  สะสมจนกลายเป็นความเกลียดชัง  เครียดแค้นไปเลยก็คงมีมากทีเดียวนะ

    จะเล่าให้ฟังบ้างถึงข้อมูลที่ฉันมีโอกาสได้ฟังจาก  ASTV  ขนาดฟังแค่นี้ก็ยังคิดเลยว่า   ทักษิณทำกับประเทศชาติได้อย่างไร  ทำไมทำขนาดนี้

    เรื่องแรกที่ได้ฟัง  เกี่ยวกับการทุจริตของกระทรวงสาธารณสุข   แพทย์ดีเด่น  ได้รับรางวังประราชทานช้างสามเศียร  ถ้าผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยด้วยนะคะ   ทางแพทย์ได้ทำเรื่องไปว่า  งบประมาณที่รัฐให้มานั้นไม่พอ  แต่รัฐไม่เคยสนใจให้งบเพิ่มเลย  ทำให้หมอและพยาบาลลาออกไปอยู่โรงพยาบาลเอกชนกันเยอะ  แล้วก็มีการจะตั้งศูนย์การแพทย์แห่งเอเชียอะไรเนี่ยแหละ   พอหมอออกไปอยู่รพ. เอกชนกันเยอะ  รพ.รัฐบริการไม่ดี  ไม่มีคุณภาพ  ประชาชนก็ต้องไปใช้บริการรพ.เอกชน   แล้วใครที่ถือหุ้นในรพ. เอกชน???  

    มีการทุจริตเกี่ยวกับการซื้อยา  รถพยาบาล  ในการซื้อรถพยาบาลจะมีการล็อคสเป๊กว่าต้องประกอบเอง  ได้ ISO  ด้วย  แล้วบริษัทที่ประกอบรถและได้ ISO  ก็มีเพียงบริษัทเดียวเท่านั้น  และบริษัทนั้นเพิ่งได้รับ ISO  ก่อนหน้านั้นเพียงวันเดียวเท่านั้น   (มันดูเจาะจงมาก ๆ คิดดูก็แล้วกัน)  แล้วรถที่ซื้อก็เป็นรถที่ตกรุ่นแล้ว  คือการขายรถ  กระทรวงคมนาคมหรือเปล่าไม่แน่ใจจะมีการกำหนดว่า  รถแต่ละรุ่นจะขายได้ถึงปีไหน  ถ้าเกินกำหนดก็จะห้ามขาย  แต่มีการไปขอให้เลื่อนเวลาออกไป   มีรถจะตกรุ่นอยู่สองร้ายกว่าคัน  และการซื้อรถตกรุ่น  ซื้อเป็นร้อยคัน  ต้องได้ราคาถูกกว่าที่ซื้อนี้อีก  ทำให้ต้องซื้อรถแพงกว่าความเป็นจริงไปคันละ  สามสี่แสนบาท   แล้วคิดดูว่า  200  คัน เป็นเงินเท่าไหร่  และใคร?เป็นคนได้เงินส่วนนี้?

    เรื่องที่สอง  ทุจริตเรื่องนโยบายเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทในเครือชินวัตร  บรรยายโดย  ดร. เจิมศักดิ์   ปิ่นทอง  มีการยกเว้นภาษีให้กับบริษัทชินวัตรเป็นเวลา 5 ปี   ทำให้บริษัทอื่นที่จะเข้ามาเป็นคู่แข่งต้องเสียภาษีมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า  

    การให้เงินกู้กับพม่า   ลูกชายนายกพม่าต้องการทำธุรกิจสื่อสาร   แต่ไม่มีเงินเลยต้องขอกู้เงิน    แต่ไม่มีใครกล้าให้กู้เพราะว่า  พม่าเป็นประเทศปิด  กลัวว่าจะไม่มีเงินใช้หนี้   รัฐบาลไทยจึงมีมติรัฐมนตรีว่าจะให้พม่ากู้เงิน  เพื่ออะไรก็ไม่รู้อ่ะนะ  ฟังไม่ค่อยทัน  รัฐให้กู้เพราะว่า  ลูกชายนายกของพม่าจะซื้ออุปกรณ์สื่อสารทั้งหมดจากบริษัทในเครือชินวัตร  ให้ธนาคารหนึ่งมาเป็นผู้ให้กู้เงิน  โดยมีรัฐบาลไทยค้ำประกัน   พออนุมัติให้กู้แล้ว  แทนที่จะโอนเงินให้พม่า  ก็ปรากฏว่าให้โอนเงินตรงสู่บริษัทในเครือชินวัตรเลย

    ยังมีเรื่องการทุจริตเรื่องดาวเทียมไทคม   จะต้องมีการเช่าพื้นที่ในการจอดดาวน์เทียม  ประเทศไทยก็แย่งกับประเทศต่าง ๆ มาได้  เนื่องจากโลกหมุนรอบตัว   จึงต้องมีดาวเทียม 3 ดวงเพื่อคอยรับส่งสัญญาณ   แต่ตอนนี้เราก็ไม่มีดาวเทียมแล้ว   เพราะเป็นของสิงคโปร์ไปแล้ว   แต่อันนี้ไม่ค่อยเข้าใจ   ฟังแล้วยังงง ๆ  เลยเอามาเล่าต่อไม่ได้  

    เรื่องเฉือนแผ่นดินขาย  เกี่ยวกับเขตเศรษฐกิจพิเศษ  
    ร่างกฏหมายฉบับนี้ไม่ขึ้นตรงกับใครเลย  ขึ้นตรงต่อนายกคนเดียวเท่านั้น  สามารถเวรคืนที่ดินตรงไหนก็ได้  ไม่ว่าจะเป็นป่าสงวน  วัด  ที่ทำมาหากินของใคร  สามารถให้ชาวต่างชาติมาเช่าที่ดินได้นานถึง 99 ปี  ฉันว่านะ  ฉันตายแล้วเกิดใหม่  ชาวต่างชาติก็ยังอยู่เลย  ยังไม่หมดสัญญาซักที  อีกหน่อยอนาคต  เจ้าของแผ่นดินไทยคงต้องเช่าที่ดินของฝรั่งตาน้ำข้าวกันแล้ว  ถ้ากฏหมายฉบับนี้ผ่าน

    เรื่องให้ชาวต่างชาติถือหุ้นได้ 49%  ฉันไม่เห็นด้วยเลย  เหมือนกับเราไปกิน KFC  100  บาท   ก็ต้องแบ่งให้พวกต่างชาติเอาเงินกลับประเทศไป  49  บาท  ทิ้งไว้ในประเทศไทย 51  บาท  ถ้าพวกต่างชาติถอนหุ้น  มีหวังเศรษฐกิจไทยเจ๊งแน่  ทำไมเราต้องพึ่งพวกนักลงทุนชาวต่างชาติด้วยนะ  ประเทศไทย  ไม่ต้องมีใครเลี้ยงเราก็อยู่รอดได้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว  ไม่ตายซักหน่อย  เพราะเรามีข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์ทุกอย่าง  ไม่เห็นต้องเป็นเสือเลย  เป็นแค่แมวก็มีความสุขแล้ว

    ใครเคยดูวีดีโอการล่มสลายของประเทศอาเจนติน่าบ้าง  ถ้าให้ทักษิณอยู่ต่อ  มันกำลังเดินรอยตามทีเดียว   เพราะในประเทศอาเจนติน่า  แปรรูปรัฐวิสาหกิจทั้งหมด  ไม่ว่าจะเป็นประปาไฟฟ้า  โทรทัศน์  หนังสือพิมพ์  โทรศัพท์  น้ำมัน  ถ้ารัฐทำอะไรไม่ถูกใจ   พวกนี้ก็จะบีบรัฐบาลโดยการขึ้นราคาไฟฟ้าประปา น้ำมัน  เป็นต้น  สื่อโทรทัศน์มีแต่ละครบันเทิงอย่างเดียว  ประชาชนเอาแต่ดูบอล   ถนนในอาเจนติน่า  สายหนึ่งเป็นของฝรั่งเศส  สายหนึ่งเป็นของอังกฤษ  อีกสายหนึ่งเป็นของอเมริกา  เป็นต้น  เวลาเดินทางก็ต้องเสียค่าผ่านทางให้กับถนนสายต่าง ๆ

    เราดูแค่ ปตท. พอเอาเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้วเป็นไง  น้ำมันขึ้นเอา ๆ  การสื่อสารแห่งประเทศไทย  ไปรษณีย์ พอเอาเข้าตลาดหลักทรัพย์ก็ขึ้นราคาแสตมป์  พัสดุทันที   ถ้าอย่างอื่นเข้าตลาดหลักทรัพย์คงไม่ต่างกัน   ตอนเอาเข้าตลาดก็กดราคาให้ถูก   พอเข้าไปแล้วก็ขึ้นราคาให้แพง  เราคงไม่มีปัญญาจะซื้อคืนอีกเลย

    อ.เจิมศักดิ์มีความรู้เยอะมาก ๆ  เพราะท่านเป็น สว.  การเป็น สว.  สามารถเรียกตรวจสอบเอกสาร  เรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวนได้หมด  ถ้าใครยังอ่านไม่จุใจ  ลองไปหาหนังสือรู้ทันทักษิณของ อ.เจิมศักดิ์  มาอ่านกันดูได้ค่ะ  ท่านอธิบายอย่างชัดเจน  มีที่มาที่ไปละเอียดทีเดียว  ท่านยังตรวจสอบ ปปป.  ว่าทุจริตขึ้นเงินเดือนให้ตัวเอง  ปปช.  เลยถูกปลดออกไป

    ฉันมองว่า  ขนาดเรามีการศึกษาขนาดนี้  เวลาเราฟังเรื่องอย่างนี้  ถ้าไม่ตั้งใจฟังจริง ๆ  จะฟังไม่รู้เรื่องเลย  ไม่เข้าใจ   ยังงง ๆ  แล้วตาสีตาสา  ชาวไร่ชาวนาชาวสวน  จะฟังแล้วเข้าใจหรือเปล่า   ประชาชนทำมาหากิน  ไม่มีใครมีเวลาไปตามติดตรวจสอบรัฐบาลได้เลยว่าทำอะไร  ถูกหรือผิด  ได้แต่ฟังข่าวจากสื่อ  และหลาย ๆ คนก็ไม่ได้ใส่ใจ   เพราะถ้าไม่ได้มาอโศก  ยอมรับว่า คงไม่รู้เรื่องอะไรกับเขา  ตอนที่สนธิออกมาประท้วง  เราก็มองว่า  ประท้วงอะไรกัน  ทำไมมีเรื่องพูดไม่รู้จักจบจักสิ้นซักที   ใจของเราเองด้วย  ที่อัคติ  และไม่เปิดรับ  ทำให้ไม่สนใจ

    ถ้าใครได้ฟังแถลงการของหนังสือพิมพ์กับสภาทนายความ  จะเข้าใจเลยว่า  ประชาชนในระบอบทักษิณไม่มีทางออกจริง ๆ  เพราะเราตรวจสอบรัฐบาลไม่ได้เลย   ลงมติไม่ไว้วางใจก็ไม่ได้  เพราะรัฐบาลมีเสียงข้างมาก   ปปป.ที่เราจะให้ตรวจสอบการทุจริตก็ตรวจสอบไม่ได้   แล้วการที่ทักษิณชิงยุบสภาก็ทำให้เราใช้รัฐสภาไม่ได้เลย  ทั้ง ๆ ที่มีคนลงชื่อขอถอดถอนนายกมากกว่า 5 หมื่นชื่อ    แล้วทักษิณก็พยายามทำกฏหมายให้ถูกต้องเพื่อตัวเอง  กติกาที่ว่ามันไม่ยุติธรรมเลย   เมื่อมันเอื้อประโยชน์แก่คนที่ออกกฏหมายแบบนี้   ถ้าเราไม่ประท้วง   แล้วเราจะหาทางออกทางไหนได้อีก  เมื่อเขากุมอำนาจไว้หมดทุกด้านอย่างนี้

    ฉันคิดว่า  นายก   ไม่ต้องเก่ง  แค่มีความรู้สึกอยากช่วยเหลือประชาชนที่ลำบากอย่างแท้จริง  มีความซื่อสัตย์สุจริต  พูดจริงทำจริง  ฉันว่าน่าจะทำให้ประเทศไทยพัฒนาและเจริญได้อย่างแน่นอน   เชื่อมั่นอย่างนั้นจริงๆ  

    ตอนนี้นายกยอมเว้นวรรคทางการเมือง(ซะที)  ต้องมาจับดูกันต่อไปว่ารัฐบาลใหม่  และนายกคนใหม่จะเป็นแค่รัฐบาลเงา  หรือเป็นแค่ใยแมงมุมหรือเปล่า?   เราคงต้องช่วยกันดูแลการปฏิรูปรัฐธรรมนูญให้มีความถูกต้องกันต่อไป

    =============  

    คุยกันหลังกระทู้

    tiki_ทิกิ
    ขอบคุณค่า………ที่มาเยี่ยมเยียนกันนะคะ

    scottie
    ไม่ได้ไปค่า……แล้วพี่ละคะ  ได้ไปบ้างหรือเปล่า…..^ _ ^

    คุณพีทคุง (พิธันดร)
    ขอบคุณที่มาติดตามค่า………..

    เอ่อ่อ่ะนะคะ
    น่ากลัวอะไรคะ  ไม่น่ากลัวหรอกจ้า…….

    ว่าแต่มีเรื่องอะไรสับสนในชีวิตหรอจ๊ะ  ยังไงก็ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีนะ

    :::อาราเร่:::
    ขอบใจจ้า……ที่มาเยี่ยมเยียนเสมอเลย



    แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 49 23:14:18

    จากคุณ : ริเศรษฐ์ - [ 11 เม.ย. 49 22:40:48 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป