ตามปกติที่ วันอาทิตย์ ผมต้องมีนัดเล่นบาสกับเพื่อนๆ ในเวปพันทิพดอทคอม ห้องศุภชลาศัย ที่กองปราบอารีน่า เวลา 16.30 น.
วันนี้ก็เช่นเดียวกัน ผมออกจากบ้าน ที่ปทุมธานี ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เพื่อที่จะเดินทางไปให้ทันเวลา จนกระทั่ง ไปยืนรอรถตู้หน้า เมเจอร์รังสิต เพื่อที่จะนั่งไปลงยัง หน้าหอวัง ฝั่งวิภาวดี-รังสิต ตรงข้าม "ปตท. พลังไทย เพื่อใครกันหรือ" นั่นแหล่ะ
รถตู้ที่ผมสามารถนั่งไปลงตรงนั้นได้ ก็มีอยู่แค่สายเดียว คือ ฟิวเจอร์ สวนจัตุจักร ยืนรออยู่ประมาณ 10 นาที รถก็ไม่มาซักที อาจจะเนื่องมาจาก ตอนนี้มีการกวดขันจับกุม พวกผู้มีอิทธิพลคุมวินรถตู้อยู่ก็เป็นได้ เพราะตำรวจยืนกันเยอะเหลือเกิน
10 นาทีผ่านไป ................ ไว้เหมือนโกหก
"นั่นไง ๆ มาแล้ว" รถตู้คันเป้าหมายกำลังวิ่งเข้ามาเทียบท่า
"รังสิต-เซียร์-ดอนเมือง-หลักสี่-เกษตร-หอวัง-สวนจัตุจักร คร้าบบบบบบบ"
ที่ท่ารถจะมีคนคอยเรียกแขก เอ้ย ผู้โดยสารให้ขึ้นรถ จริง ๆ แล้วไม่ต้องเรียกก็ได้เพราะคนขึ้นรถตู้ เค้าก็ยืนรอกันอยู่ตรงนั้นแหล่ะ เค้าก็เห็นกันทั่วโลก ว่ารถที่เค้าจะขึ้น มันมาหรือยัง จะบอกทำไม แล้วพวกนี้เหมือนจะตรัสรู้ได้ว่า ใครจะไปคันไหน เดินมากวักมือเรียกอยู่เรื่อย
"น้อง ๆ ทางด่วนอนุสาวรีย์ครับ" คนจัดคิวรถหน้าเหมือนโจรกบฏภาคใต้คนหนึ่งเดินมาเรียกผม
"เอ่อ ผมไปหอวังครับ" ผมตอบกลับไป ยืนอยู่ได้ซักพัก โจรกบฎอีกคนก็เดินมาเรียกอีก
"น้อง ๆ มีนบุรีครับ มีนบุรี มีนบุรีขึ้นคันนี้เลยน้อง"
"เอ่อ ผมไปหอวังครับ" ผมตอบกลับไปอีกครั้งอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว
แต่ในใจผมคิด
"เออ กรูรู้แล้ว รถมันก็วิ่งผ่านหน้ากรูไปนี่แหล่ะ ทุกคันเลย กรูอ่านหนังสือออก แล้วกรูก็ไปหอวังโว้ย ไม่ได้ไปมีนบุรี "
กลับมาที่รถ ฟิวเจอร์ - สวนจัตุจักร ที่ผมกำลังจะขึ้นกันดีกว่า ผมได้นั่งเบาะพิเศษ หรือเบาะที่มันต้องพับขึ้นไปอยู่ทางซ้ายของตัวรถ เพราะเบาะคู่มันเต็มหมดแล้ว ขอบอกว่า คนข้างหลังขายาวมาก...............จริง ๆ แล้ว ขามันไม่ยาวหรอก แต่มันนั่งเหมือนนอนมากกว่า ตัวเตี้ยนิดเดียว แต่ขาเลยมาถึงผมนี่
"น้องครับ ทำไม่น้องไม่เอาขามาพาดคอพี่ให้มันสิ้นเรื่องสิ้นราวไปเลยล่ะครับ!!!!!"
ที่สำคัญคือ มันดันเบาะผม ผมพิงเบาะไม่ได้ เพราะพิงทีไร มันเอาเข่ามันกระแทกเบาะทุกที ประมาณว่า พิงไปโดนขามันนั่นแหล่ะ
ผมก็ได้แต่หันไปมองหน้ามัน แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร เพราะแก่แล้ว ไม่อยากมีเรื่อง
"เอาเถอะน้อง อยากทำอะไรก็ทำเถอะ พี่ไม่ว่าหรอกครับ แต่อย่าเอาขามาโดนกรูก็แล้วกัน
ไม่งั้น ไนกี้ผีบอกโคตรเยินของพี่ อาจถูกส่งไปสแต๊มป์บนหน้าน้องก็ได้ น้องจะเสียหน้าต่อหน้าแฟนซะเปล่า ๆ "
เอาล่ะ ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ไอ้น้องคนที่เอาเข่ามาดันเบาะผม แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ไอ้รถตู้คันนี้
"แมร่งโคตรร้อน!!!! "
ผมยังนั่งไม่ถึงเซียร์เลย เหงื่อก็ไหลเป็นน้ำตกเอราวัณ ทุกคนในรถ เหงื่อตกกันหมด พยายามปรับช่องแอร์ (ที่ไม่รู้ว่ามันจะมีไว้ทำไม) ให้ตรงกับหน้าตัวเองให้มากที่สุด
ผมเอามือไปอัง ๆ ที่ช่องแอร์ ไม่มีความรู้สึกเลยว่า มันจะมีลมอะไรพัดออกมาแม้แต่นิดเดียว จนน้องผู้หญิงที่นั่งอยู่ทางขวามือผม ต้องตะโกนบอกคนขับรถ ที่มีเมียนั่งมาด้วยอยู่ข้างหน้าว่า
"พี่คะ ๆ ช่วยเปิดแอร์หน่อยค่ะ!!!!!"
"................(เงียบ).................." ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก
"พี่คะ ช่วยเปิดแอร์หน่อยค่ะ"
น้องคนนั้นตะโกนบอกคนขับรถอีกทีเพราะคิดว่า คนขับรถคงหูตึง หรือไม่ก็หูหนวก ที่เธอบอกไปเมื่อกี้ คนขับรถ กับเมีย อาจจะไม่ได้ยิน ทั้ง ๆ ที่เค้าก็ได้ยินกันทั้งรถ แต่คิดในแง่ดี เค้าอาจจะไม่ได้ยินก็ได้
แต่แล้ว คำตอบที่ทุกคนไม่คาดว่าจะได้ยินออกมาจากปากคนขับรถก็คือ.......
"เร่งสุดแล้วครับ!!!!!!!!!!!!!!!"
"...(แค่นั้นเองผู้โดยสารในรถก็ใบ้แดรกกันหมด - -")...."
..........................................................................................................................
"เร่งสุดแล้ว นี่เร่งสุดแล้วเหรอครับพี่ พี่กล้าสาบานไหมว่าเร่งสุดแล้ว นี่ถ้าพี่บอกว่า
แอร์พี่เร่งสุดแล้วยังได้แค่นี้ ผมออกไปเดินตากแดด ยังจะเย็นกว่าอยู่ในรถพี่เลยครับ!!!!"
ผมว่า ทุกคนคงคิดอย่างที่ผมนี่แหล่ะ แต่ไม่มีใครพูด เพราะคิดว่าพูดไปมันก็คงไม่เย็นขึ้นหรอก มีแต่จะร้อนขึ้นเรื่อย ๆ กับไอ้เด็กข้างหลังนี่ก็พอทนอยู่แล้ว อย่าให้ต้องไปอารมณ์เสียกับเรื่องอื่นอีกเลย
ทุกคนในรถนั่งปาดเหงื่อกันมาจนถถึงป้ายหน้าดอนเมือง คนที่ทนไม่ไหว ตัดสินใจลงไปจากรถเกือบครึ่ง!!!!! รวมทั้งไอ้เด็กเปรตข้างหลังผมด้วย แต่ก็ดีอย่างที่ตอนมันลง ตรูดแฟนมันแทบจะทิ่มหน้าผม แหมแล้วก็สั้นขนาดนะอีหนูเอ้ย เล่นเอาคนแก่หัวใจจะวาย!!!! เอาน่ะ เบาะพี่กับตรูดแฟนน้อง ถือว่าแลกกัน!!!
เมื่อมีคนลง เบาะหลังก็ว่าง ซึ่งผมก็จะนั่งอยู่ที่เดิมไม่ได้แล้ว ก็เลยต้องย้ายไปนั่งติดกระจกที่เบาะหลังสุด ซึ่ง มีที่ว่างระหว่างเบาะอยู่นิดเดียว ก็เอนตัวพิงเบาะไม่ได้อีกแหล่ะเพราะขาติดเบาะข้างหน้า เกิดมาตัวสูงขายาวก็ต้องทำใจ
พอคนลงไปหมด คนใหม่ที่ยังไม่รู้ถึงชะตากรรมตัวเองก็ก้าวขึ้นมา ขึ้นมา ๆ ๆ ๆ จนเต็มรถ
คนมานั่งข้าง ๆ ผมเป็นสาวสวยน่ารัก ขึ้นมาเธอก็คุยโทรศัพท์เลย ซึ่ง ก็เรื่องของเธอเถอะ ผมจะไปพูดถึงทำไมเนี่ย เอ้อ ผมนี่ก็บ้า ๆ บอ ๆ
รถทำท่าจะออกจากดอนเมือง เคราะห์ซ้ำกระหน่ำซัด พระเจ้า!!!!!! โดนตำรวจเรียก โทษฐานจอดส่งคนนอกป้าย นั่นทำให้รถที่ผมนั่ง ต้องจอดอยู่กับทีเกือบ ๆ 10 นาที เพราะคนขับเดินลงไปเคลียกับตำรวจนานมาก ๆ
คนที่ขึ้นมาใหม่ เริ่มปาดเหงื่อกันอีกแล้ว ส่วนผมน่ะไม่ต้องพูดถึง เหงื่อไหลออกจะหมดตัวอยู่รอมร่อ
ไอ้เรื่องอากาศที่ร้อนเป็นเตาอบภายในรถมันยังพอทน แต่พอมันร้อน อากาศไม่ถ่ายเท ไม่มีแอร์ ทุกคนก็จะแย่งกันหายใจเอาอ๊อกซิเจนเข้าไป เข้าไป ๆ ๆ ทำให้อากาศภายในรถ ลดน้อยลงๆ เรื่อย ๆ เหมือนจะหายใจลำบาก มันหายใจลำบากจริง ๆ ลำบากจนผมแทบจะหันไปแลกอากาศกับน้องผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เลยแหล่ะ
"เอ่อ น้องครับ เรามาแบ่งอากาศกันหน่อยไหม ท่าทางปอดน้องจะเก็บอากาศได้เยอะนะครับ - -" "
ก็ได้แต่คิดครับ ผมไม่กล้าหรอก แค่มองหน้าเค้าผมยังไม่กล้าเลย ผมขี้อายจะตาย (ถุยยยย)
จากคุณ :
สมันน้อย เบอร์ 14
- [
วันมหาสงกรานต์ (13) 13:51:23
]