CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    เมื่อหมอ ... เจอผี !!! ตอนที่ 1

    ตอนที่ 1 : ประสบการณ์แรกที่โรงเรียน

    สมัยที่ท่านผู้อ่านเรียนอยู่ชั้น ประถมหรือมัธยม ผมคิดว่าหลายๆท่านคงจะเคยได้รับฟัง เรื่องเล่าหรือตำนานเรื่องลี้ลับ น่ากลัวประจำโรงเรียนกันมาบ้างใช่ไหมครับ เช่น มีห้องน้ำที่เด็กไปเข้าในวันสุดท้ายของภาคเรียนแล้วภารโรงไม่รู้เลยล็อคประตู พอเปิดการศึกษาก็มาพบว่าเด็กคนนั้นเสียชีวิตไปแล้ว และต่อมาก็มีคนเจอดวงวิญญาณของเด็กคนนั้นบ่อยๆ  

    ครับ ! เรื่องลี้ลับที่จะเล่านี้เป็นเรื่องราวปฐมบทของการที่ผู้เขียนได้เผชิญหน้ากับความลี้ลับ ภูติผี วิญญาณโดยเรื่องแรกสุดนี้เป็นเรื่องที่เกิดตั้งแต่ผู้เขียนอยู่ในวัยละอ่อน เพียงแค่ 12 ปี เท่านั้นครับ


    โรงเรียนมัธยมของผมนั้นเป็นโรงเรียนชายล้วนที่มีความเก่าแก่มาก ตั้งอยู่ที่บริเวณเชิงสะพานพุทธ กรุงเทพมหานคร เนื่องด้วยความที่เก่าแก่มาก เรื่องเร้นลับ ลี้ลับ จึงมีมากตามเป็นเงาตามตัวทีเดียว  โดยว่ากันว่าในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศไทยโดนถล่มอย่างหนักด้วยเครื่องบินทิ้งระเบิด และเป้าหมายของระเบิดเหล่านั้นนั่นคือสะพานพุทธ นัยว่าทำลายเพื่อตัดเส้นทางลำเลียงครับ ปรากฏว่าแม้จะทิ้งระเบิดมากเพียงใดก็ไม่โดนตัวสะพานพุทธเลย ผู้เฒ่าผู้แก่ท่านว่าเป็นเพราะบุญบารมีของสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ท่านได้ช่วยปกป้องสะพาน ปกป้องชาวไทยเอาไว้ครับ

    ทีนี้ลูกระเบิดที่พลาดเป้าจากสะพาน มันก็ไม่ไปไหนครับ ตกแถวๆนั้นนั่นเอง ส่วนหนึ่งก็ตกในพื้นที่โรงเรียนของผู้เขียนด้วย เห็นว่ามีคนเสียชีวิตมากมายทีเดียว


    ทั้งความเก่าและการที่มีประวัติว่าเคยมีคนตายมากมายทำให้โรงเรียนของผู้เขียนดูน่ากลัวยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในยามค่ำคืนอันเงียบสงัด


    พี่ชายของเพื่อนซี้ผู้เขียนก็เคยเรียนอยู่โรงเรียนนี้เช่นกัน เรียกว่าเป็นรุ่นพี่ก็ว่าได้ รุ่นพี่เคยเล่าว่า เมื่อสมัยเรียน เคยเล่นเตะบอลพลาสติกกับเพื่อนๆ ตอนหลังเลิกเรียนราวๆห้าโมงเย็น ขณะเล่นๆไป มีผู้หญิงสวย ห่มสไบเดินผ่ากลางวงฟุตบอลที่กำลังเตะกันอยู่ แล้วจู่ๆก็เลือนหายไปต่อหน้าต่อตาคนเกือบสิบคน

    เล่นเอาเก็บของกลับบ้านกันแทบไม่ทัน !

    เรื่องคุณพี่สาวห่มสไบนี้ก็มีคนเคยเจอกันเยอะ บางทีก็ยืนอยู่บนชั้นสองของอาคารเรียนก็มี พวกข้างล่างเงยหน้าไปเจอก็โวยวายไม่เป็นภาษามนุษย์เชียวล่ะ

    โม้ไปเรื่องอื่นเสียเยอะ คราวนี้เอาเรื่องของผู้เขียนดีกว่า ซึ่งเป็นประสบการณ์แรกครับ จะเรียกว่า เปิดบริสุทธิ์ ก็ไม่ว่ากันครับ  ตัวผู้เขียนเองไม่ได้เจอ พี่สาวห่มสไบหรอก เจออย่างอื่นน่ะครับ


    ปี พ.ศ. 2530  ผู้เขียนสามารถสอบเข้าเรียนต่อในชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งนี้ได้สำเร็จ  และเนื่องจากความที่บ้านอยู่ไกล จึงทำให้ผู้เขียนต้องตื่นนอนตั้งแต่ไก่โห่เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหารถติดอันจะทำให้ไปถึงโรงเรียนสายได้

    ที่เรียกกันว่า ออกสายสักสิบนาที ไปถึงช้าเป็นชั่วโมง

    ผู้เขียนตื่นนอนตั้งแต่ ตีห้า นั่งรถไปโรงเรียน จะถึงก็ราวๆหกโมง – หกโมงกว่าๆ ไม่เกินหกโมงครึ่ง วันไหนออกเช้ามากๆและรถเมล์มาเร็ว ขับเร็ว ก็จะถึงเป็นคนแรกๆของโรงเรียนทีเดียว สมัยนั้นผู้เขียนแอบภูมิใจกับการมาเช้านี้อยู่เหมือนกัน แต่ตอนนี้ผู้เขียนเข้าใจแล้วว่าการไปเป็นคนแรกๆนั้นก็อาจทำให้เจอสิ่งที่ไม่อยากเจอ


    วันที่ผู้เขียนไม่อาจลืมจากความทรงจำได้นั้น ผู้เขียนได้ไปถึงโรงเรียนเป็นคนแรก นาฬิกาที่ข้อมือบ่งบอกเวลา ตีห้าห้าสิบนาที ท้องฟ้ายามรุ่งอรุณยังเป็นสีเทาจางๆ ไฟถนนด้านนอกก็ยังเปิดอยู่


    ผมก้าวเข้าไปในโรงเรียนด้วยความภาคภูมิใจตามประสาเด็ก พลางสอดส่ายสายตาไปรอบๆ ไม่มีใครมาก่อนเราจริงๆ ผมคิดด้วยความดีใจ พร้อมก้าวไปยังตึกห้าชั้นอันเป็นตึกเรียนที่จะต้องเรียนวิชาแรก

    ห้องเรียนที่ต้องขึ้นไปเรียนนั้นอยู่ชั้นสองของตึก ผมก้าวเดินขึ้นช้าๆ ในใจไม่คิดหวาดกลัวอะไร
    นี่มันโรงเรียนของเรานี่ ใครจะมาทำอะไรเรา !


    เมื่อถึงชั้นสอง ห้องแรกเป็นห้องพักครู ผมสอดส่ายสายตามองเข้าไป  ไม่มีใครมา นี่ผมมาเช้ากว่าคุณครูอีกนะเนี่ย นั่นเป็นความภูมิใจแบบเด็กๆของผม

    ห้องเรียนวิชาแรก อยู่ห่างออกไปเป็นห้องที่สี่

    ผมค่อยๆก้าวเดินผ่านห้องแรก  ไม่มีใครมา ผมยังเป็นคนที่มาคนแรกอยู่

    ผ่านห้องที่สอง มองเข้าไปถึงกับสะดุ้ง  

    ที่หน้าต่างมีเงาคน !!

    แต่พอมองดีๆ ก็โล่งใจเพราะเป็นเพียงรูปปั้นที่อยู่ในตึกเรียนวิทยาลัยศิลปะที่อยู่ติดกัน

    ผมยังคงมาเป็นคนแรก

    ผ่านห้องที่สาม ไม่มีใครมาก่อนผม ทุกอย่างเงียบสนิท  เงียบจนผิดสังเกต !!
    เบื้องหน้าไม่กี่เมตรจะถึงห้องเรียนผมแล้ว

    “ L ... uck...a..r...d  ”  เสียงเรียกยานๆเย็นๆ เรียกชื่อผมดังจากเบื้องหลัง

    ทั้งที่ผมดูแล้วว่าไม่มีใครนี่นา แล้วใครเป็นคนเรียก ??

    ผมตัดสินใจค่อยๆเดินกลับไปดู  เสียงเรียกเมื่อสักครู่แว่วมาจากห้องที่สามที่ผมเดินผ่านเมื่อสักครู่นี้ ซึ่งได้ดูแล้วว่าไม่มีใครอยู่ หรือว่าคนที่เรียกเขาแอบอยู่ ??

    ในห้องที่สาม เบื้องหน้าผมนั้น

    มีนักเรียนนั่งอยู่เต็มห้อง ! ทุกคนนั่งก้มหน้า

    อะไรกัน ! คนมากมายขนาดนี้มาจากไหน ช่วงเวลาแป๊บเดียวคนจะเดินเข้ามานั่งมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร ??

    ก่อนที่ผมจะคิดอะไรงุนงงต่อไป
    เด็กทั้งหมดค่อยๆเงยหน้าขึ้นช้าๆ

    คุณพระ ! ทุกคนหน้าตาเหมือนกันหมด เหมือนอย่างกับพิมพ์เดียวกันออกมา !!

    ที่สำคัญทุกคนค่อยๆแสยะยิ้มให้ผม
    ยิ้มเหล่านั้นกว้างจนเห็นฟัน  ฟันที่ดำสนิท !! ดำเหมือนอมไว้ซึ่งเถ้าถ่าน

    ไวกว่าความคิด ผมพาร่างตัวเองมาอยู่ที่ข้างล่างทันที และนั่งรอเพื่อนๆมา รอให้แดดออกจนสว่างมากกว่านี้แล้วจึงค่อยขึ้นไปที่ห้องเรียน ซึ่งดูแล้วก็เป็นปกติดี ไม่มีวี่แววของเหล่านักเรียนฟันดำ


    นับจากวันนั้น หากวันใดที่ผมมาเช้ามากๆอีก ผมจะใช้วิธีนั่งเล่นข้างล่างจนมีคนขึ้นไปบนตึกแล้วบ้าง หรือรอแดดออกสว่างๆก่อน ผมจึงค่อยขึ้นไปบนชั้นเรียน


    และนับแต่วันนั้นมา ผมก็ไม่ได้เจอเด็กนักเรียนฟันดำอีกเลย

    จากคุณ : Luckard - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 23:57:12 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป