ความคิดเห็นที่ 80
พูดถึงโคลง "พุดซ้อน" ของ ท่านวฤก ------------------------------------------- เมื่อวานเข้าอาศรมฯ อ่าน "พุดซ้อน" แล้วชอบเสียงที่นับวันคุณหมอยิ่งทำได้ดี, ดีวันดีคืน อาร์พีเลยอ่านไปอ่านมาหลายเที่ยว และมีประเด็นที่อยากนำมาแลกเปลี่ยนนิดหน่อย บันทึกได้บทเดียว เพราะเวลามีไม่มาก แต่ก็รู้สึกเป็นสุขที่ได้บันทึกมาวางในอาศรมได้ (ถ้ามีเวลาอาจจะบันทึกที่เหลือต่อ)
จุดประสงค์การบันทึกทำนองนี้ของอาร์พีเพื่อบอกว่า อาร์พีเข้าใจบทกวีนั้นๆ ว่าอย่างไร เป็นการสะท้อนกลับไปยังผู้เขียนว่า อย่างน้อยก็มีคนที่ตั้งใจอ่านอยู่คนหนึ่งเขาเข้าใจอย่างนี้ มันเป็นเสียงจากคนอ่าน ที่พยายามอ่านอย่างตั้งใจ (อ่านหลายรอบเชียว)
+++ พุดซ้อน +++
๑. แพรไหมผืนใหม่ซ้อน..........สอดวาง ๒. เว้นสลับสับผืนขวาง...............แผ่ไขว้;
ผู้เขียนมองดอกพุดทราสีขาวสวยนั้นเหมือนแพรไหม. "สอด" มุ่งใช้เป็นอาการที่แพรวางทับ สลับกัน, หมายความาว่ามีแพรอยู่หลายผืน แต่ละผืนก็ล้วนสวยงาม, เฉพาะผืนใหม่กำลัง ถูกวางซ้อนลงไป, แต่ "สอด" ทำให้เห็นว่า กำลังสอดผืนแพรใหม่เข้าไป เพื่อวางไว้ระหว่าง แพรผืนอื่นๆ โดยแผ่ไขว้กัน. "แผ่ไขว้" ต้องขอแสดงความนับถือผู้เขียนว่า ช่างเสกสรรค์จริงๆ . คำถามก็คือว่า ผู้เขียนต้องการแค่"ซ้อนทับ" หรือ "สอด" ด้วย, ถ้าทั้งซ้อนทับ และสอดด้วย ๒ วรรคนีสื่อความได้แล้ว เสียงก็ดีมากแล้ว. เสียง "ซ้อน" กับ "สอด" กระทบกันดี. " ขวาง แผ่ ไขว้" บอกอาการได้ครบ ให้ภาพที่เข้าใจได้เป็นอย่างดี, ผู้เขียนใช้พื้นที่ของโคลงได้เต็ม ประสิทธิภาพ. การไม่ปล่อยให้พื้นที่ (โคลง) ไร้ความหมายเป็นภารกิจของมือโคลงที่มีความ รับผิดชอบ. เช่นกันการปล่อยให้พื้นที่โคลงมีเพียงคำ แต่ไม่มีความหมาย สักแต่ว่าวางๆ ลงไป ให้ครบ ๓๐ คำก็เป็นความอัปลักษณ์ และ/หรือความอ่อนด้อยของคนเขียนโคลงเช่นเดียวกัน.
๓. พุดซ้อนแผ่แพรกาง...............เผยกลีบ ๔. พาดก่ายกลดอกไม้................ดั่งแม้นแพรไหม ฯ
บรรทัดที่ ๓ "พุดซ้อนแผ่แพรกาง...............เผยกลีบ" เป็นความสามารถของผู้เขียนที่เรียบ เรียงคำได้ดี แสดงถึงทักษะในการคัดสรรคำมาใช้. ผู้เขียนใช้คำเพียง ๗ คำ แต่สามารถบอก อาการของดอกพุดซ้อนว่าเผยกลีบแผ่เหมือนแพรสวย
แต่บรรทัดที่ ๔ มีปัญหา,อาร์พีอ่านไม่เข้าใจ, ถามในใจว่า ใครหนอ "พาดก่าย". พยายามใช้ กรอบคิดทางไวยากรณ์ตอบตัวเองว่า ประโยคหน้าประธานคือ "พุดซ้อน", กริยา "แผ่" , "เผย" ก็ล้วนบอกการกระทำของดอกไม้. "พาดก่าย" ก็ย่อมจะต้องบอกการกระทำของ "พุดซ้อน" ด้วยอย่างแน่นอน
เมื่ออ่านต่อ "กลดอกไม้ ดั่งแม้นแพรไหม", ต้องจอดสนิทที่ "กล". เพราะ "กล" ในตำแหน่งนั้นต้องแปลว่า "เหมือน, เช่น, ดัง, ดุจ, (ทำนองนั้น) ประโยคเต็มจะกลายเป็น "(พุดซ้อน)พาดก่ายเหมือนดอกไม้ ดั่งแม้นแพรไหม". อ่านแล้วรู้สึกซ้ำซ้อนพิกล, เพราะความคิดหลักเรารู้อยู่ว่า "พูดซ้อนสวยวางไขว้กันเหมือนแพร ไหม."
ปรากฎการณ์นี้เป็นปัญหาการนำเสนอ และการจัดลำดับคำและความคิด. จะเห็นว่า ในแง่ของเสียงนั้นผู้เขียนทำได้ดีเยี่ยม ถ้าอ่านเพลินๆ จะไม่สงสัยอะไรเลย แต่เมื่อลองถามว่า "ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร" ตรวจสอบไปทีละประโยคพบว่า โคลงบทนี้สามารถตีความไปได้หลายทาง
สรุปได้ว่า เสียงดี แต่ความนั้นไม่กระชับรัดกุมพอที่จะทำให้เรื่อง "ชัด". ไม่แปลกถ้าอาร์พี อ่านแล้วตีความออกมาดังนี้.
ท่านอื่นลองอ่านดูแล้วตีความซิครับแล้วนำมาแลกเปลี่ยนกัน.
จากคุณ :
Ar@p
- [
22 เม.ย. 49 10:28:11
]
|
|
|