CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    แสงสว่างที่กลางใจ

    รสรินตื่นขึ้นมาในวันหยุดของเธอสิ่งแรกที่เธอเห็นเมื่อเธอลืมตาขึ้นมาคือรูปที่ถ่ายคู่กับผู้ชายคนหนึ่ง  เป็นอีกวันที่เธอรู้สึกเหงาหลังจากที่ปิยะได้หายไปจากชีวิตของเธอ  ปิยะจากไปหนึ่งปีแล้วแต่บรรยากาศในห้องนี้ยังอบอวลด้วยความรักความอบอุ่นที่เธอและปิยะได้ร่วมกันสร้างมันขึ้นมา  เธอไม่ได้เคลื่อนย้ายอะไรทุกอย่างในบ้านยังเหมือนเดิม  เธอต้องตื่นจากภวังค์จากเสียงโทรศัพท์ข้างๆเตียง
     
    “สวัสดีค่ะรสรับสายค่ะ”  

    “ยัยรสพร้อมหรือยัง  เดี๋ยวจะไปรับ”  เสียงใสๆของวิภาดังมาจากโทรศัพท์  

    “จ๊ะ  พร้อมแล้ว”  รสรินตอบไปสั้นๆ  วิภาได้ยินดังนั้นจึงวางสาย  
    รถวิ่งออกมาจากกรุงเทพมุ่งหน้าไปหัวหิน  
    “หยุดยาวแบบนี้ดีจังเลยนะรส...นานๆจะได้เที่ยวกันทีหนึ่ง” วิภาชวนรสรินคุยเพราะเห็นรสรินซึมๆไป  วิภาเป็นคนเดียวที่รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับรสริน  และที่เธอพารสรินมาทะเลก็เพื่อให้ผ่อนคลายและอยากให้เจอกับสิ่งใหม่ๆ รสรินไม่ยิ้มแย้มเหมือนเช่นเคยตั้งแต่ปิยะจากไปแต่วิภาก็ไม่ได้พูดอะไรมากนัก  รถของทั้งสองมาจอดที่บ้านพักหลังหนึ่งเป็นบ้านพักริมหาด  

    รสรินออกไปเดินเล่นที่ริมหาด    เธอไม่เคยมาที่หัวหินมองๆไปทะเลที่นี่ก็สวยดีรสรินปล่อยอารมณ์ไปกับเสียงของทะเลที่ซัดฝั่ง   พลันสายตาก็ไปสะดุดกับคนหนึ่งที่กำลังเดินตรงมาที่เธอ  รสรินยืนนิ่งยกมือน้อยๆของเธอมาปิดปากน้ำตาเธอเริ่มคลอออกมา  

    เธอเห็นผู้ชายเดินจูงสุนัขอีกมือหนึ่งถือกระเป๋าไวโอลินเอาไว้   เขาเดินผ่านรสรินไปเขาไม่ได้มองมาที่เธอเลยทั้งๆที่เขาเดินผ่านรสรินจนเกือบจะชนเธอ  

    รสรินหันมามองตามเขา  พยายามจะเรียกแต่เสียงมันไม่ยอมออกอย่างที่ใจต้องการ  ถึงแม้หน้าตาที่มีหนวดเคราขึ้นและมีแว่นกันแดดใส่อยู่แต่รสรินก็แน่ใจว่าเขาคือ  ปิยะ  รสรินเดินตามปิยะไปเธอมองแผ่นหลังที่คุ้นเคยท่วงท่าที่เธอยังจำได้ทุกย่างก้าวไม่ผิดไปจากเมื่อก่อน  แต่มีสิ่งหนึ่งที่เธอไม่เข้าใจ  ปิยะทำไมจำเธอไม่ได้เธอต้องการหาคำตอบจึงเดินตามปิยะไปเรื่อยๆ  

    ปิยะหยุดที่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง  สุนัขตัวนั้นหมอบลงอยู่ข้างๆปิยะ  เขาวางกระเป๋าไวโอลินลงข้างๆเปิดเอาไวโอลินออกมา  รสรินมายืนอยู่ข้างหน้าปิยะ  สุนัขตัวนั้นลุกขึ้นเดินมาขวางเธอกับปิยะเอาไว้  

    “ไม่เป็นไรหรอกเจ้าเตี้ย  ไปนั่งที่เดิมเขาคงมาฟังเพลง”

     เจ้าเตี้ยไปหมอบที่เดิมอย่างว่าง่าย

    “ขอโทษนะครับ”  ปิยะพูดพลางคลำที่ไวโอลิน  
    รสรินค่อยๆเอามือของเธอทดสอบสายตาของปิยะ  เขาไม่ตอบสนอง  


    ปิยะตาบอดเพราะผ่าตัดเนื้องอกในสมองการผ่าออกกระทบกับประสาทการมองเห็นของเขา ปิยะยังคงที่จะตั้งหน้าตั้งตาเล่นไวโอลินต่อ  รสรินได้คำตอบแล้วว่าทำไมปิยะถึงไม่ได้มองที่เธอตอนที่เดินผ่าน  


    ปิยะเริ่มบรรเลงเพลง  พอรสรินได้ยินโน้ตตัวแรกเท่านั้นน้ำตาของเธอก็ไหลออกมาช้าๆ  เธอจำเพลงนี้ได้ดีถึงแม้ปิยะจะเคยเล่นให้เธอฟังแค่ครั้งเดียวเท่านั้น  เป็นเพลงที่ปิยะแต่งให้กับเธอก่อนที่ปิยะจะหายไปทั้งที่ยังแต่งไม่จบ  รสรินยืนฟังปิยะเล่นเพลงนั้นต่อไปทุกตัวโน้ตที่เธอได้ยินยิ่งทำให้เธอกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ได้แล้วก็มาถึงท่อนที่ปิยะเล่นค้างเอาไว้  แต่ตอนนี้ปิยะเล่นต่อจากท่อนนั้นไปเรื่อยๆด้วยโน้ตที่รสรินไม่เคยฟัง   และเมื่อปิยะเล่นโน้ตตัวสุดท้ายจบลง  เข้าโค้งคำนับ  


    “ขอบคุณครับที่ฟังเพลงของผมจนจบ”  


    “แต่งเพลงนี้จบแล้วเหรอ”  รสรินพูดพลางสะอื้น  


    ปิยะนิ่งไป  ถึงจะมองไม่เห็นแต่เสียงที่ได้ยินนั้นทำให้ปิยะถึงกับน้ำตาคลอ  


    “รส”  ปิยะอุทานออกมาสั้นๆ  เขาวางไวโอลินลง


    รสรินโผเข้ามากอดปิยะ  ใบหน้าซบอกที่อบอุ่นนั้น  อกที่เธอเคยซบ  อกที่เธอถวิลหามานับปี


    “คนใจร้าย...รู้ไหมว่ารสคิดถึงขนาดไหน”  


    ปิยะทำอะไรไม่ถูก  เขาไม่เคยคิดว่าวันนี้จะเกิดขึ้น


    “รส...”  ปิยะพูดอะไรไม่ออก


    “ทำไมล่ะ”  รสรินกลั้นใจถามปิยะทั้งๆที่เธอหลับตาร้องไห้อยู่  


    “ผมเป็นคนพิการนะรส”  ปิยะพูดพลางน้ำตาไหลออกมา  
    “มันสำคัญเหรอ..อย่าหนีรสไปอีนะรสขอร้อง”  รสรินกอดปิยะแน่นกว่าเดิม  


    “รสรักคุณ....ได้ยินไหมปิยะ รสรักคุณ”  


    ปิยะกลั้นความรู้สึกไม่ได้อีกต่อไป  กอดรสรินไว้ความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจความรู้สึกดีใจกำลังแผ่เข้ามาในหัวใจของทั้งคู่  


    “อย่าทิ้งรสไว้คนเดียวอีก...รู้ไหมมันทรมานขนาดไหน”  


    ปิยะค่อยๆคลายกอดรสรินแล้วเอามือมาลูบที่หน้าของเธอเบาๆ  รสรินจับมือของปิยะแนบแก้มของเธอไว้


    “รู้ไหมว่ารสคิดถึงคุณขนาดไหน”  น้ำตาของรสรินค่อยๆไหลลงมาอาบมือของปิยะ


    “รส  ผมก็คิดถึงคุณ”  ปิยะค่อยเช็ดน้ำตาจากแก้มของรสริน


    “ผมโง่มากใช่ไหมที่ทำแบบนี้”


    “ใช่โง่มาก  คนใจร้ายปล่อยให้รสรอตั้งปี”  รสรินกระง้อกระงอดในอ้อมอกของปิยะ


    “ปิยะ”  รสรินเงยหน้าขึ้น

    “ครับ”  ปิยะตอบไปสั้นๆ  และรอฟังสิ่งที่รสรินจะพูดต่อ


    “ให้รสเป็นดวงตาให้คุณนะ”  

    ภาพต่างๆเริ่มแจ่มชัดขึ้นในมโนของเขาใบหน้าของรสรินหญิงที่เป็นที่รักที่เขาไม่มีวันลืม  ในความมืดมิดของดวงตานั้นกลับมีแสงสว่างในหัวใจให้กับผู้ชายคนหนึ่งที่สูญเสียการมองเห็นไป  นอกจากดวงตาคู่นั้นแล้วปิยะได้รับรู้แล้วว่าเขาไม่ได้สูญเสียสิ่งอื่นไป

    จากคุณ : ลายหมึก - [ วันเถลิงศก (15) 09:35:23 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป