CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    Trip&Love ตามรอยแห่งรัก: หัวใจรักฤดูเหงา ตอนที่ 1 โดย ปัณณ์

    ความรักไม่ต้องใช้เวลา...ความผูกพันต่างหากที่ต้องใช้เวลา

    ผมจึงรักคุณตั้งแต่แรกเห็น...และทุกเวลาทุกนาทีผมก็เอาหัวใจไปผูกพันไว้กับคุณ



    “เอ่อ...ขอโทษนะคะคุณรู้จักบ้านกำนันดำหรือเปล่าคะ”

    หนุ่มร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตแขนสั้นกับกางเกงยีนสีเข้มละสายตาจากภาพดวงอาทิตย์สีส้มแสดเบื้องหน้าที่กำลังคล้อยต่ำลงสู่ผืนน้ำทะเลกว้าง  หันหน้ามองเจ้าของเสียงหวานๆ ที่ยืนไม่ไกลนัก...ใบหน้าขาวเรียบเนียนที่ประกอบไปด้วยเครื่องหน้าขั้นเรียกว่าสวยมากมีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นตรงปลายจมูกและไรผมสีดำสนิท บ่งบอกให้รู้ว่าเธอเดินมาเหนื่อยพอสมควร

    “เอ่อ ว่าไงคะ รู้จักหรือเปล่า” เห็นคนถูกถามมองหน้านิ่งเงียบ หญิงสาวจึงเอ่ยถามย้ำอีกครั้ง หาก ‘ปวีร์’ ก็ยังมองหน้าเธอนิ่ง

    ไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนที่ไม่รู้มารยาททางสังคมถึงได้จ้องมองเธอขนาดนั้น เพียงแต่...หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้เป็นคนที่เขาไม่อยากเชื่อว่าเธอจะมายืนตรงนี้จริงๆ เขากระพริบตาถี่ๆ สองสามครั้งหากเธอก็ไม่ได้หายไป...แสดงว่านี่คือความจริง

    “ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าคุณไม่รู้จักฉันไปถามคนอื่นก็ได้” เห็นเขาทำท่าทางแปลกๆ ณิชาพัชร์ก็คิดในใจว่าเขาคงเป็นพวกไม่สมประกอบ หรือหาไม่ก็คงฟังภาษากลางไม่รู้เรื่อง เธอจึงเดินผ่านเขาไปโดยไม่รอคำตอบ

    “เดี๋ยวครับคุณ...ผมรู้จักบ้านกำนันดำ”

    ปวีร์เรียกสติของตัวเองกลับมาจากอาการอึ้ง หันหลังไปเรียกเธอไว้ พร้อมกับบอกในสิ่งที่เธอถาม ณิชาพัชร์หันมาหาเขาด้วยรอยยิ้มจางๆ อย่างดีใจที่เขาฟังภาษากลางออกและรู้จักบ้านคนที่เธอถามหา หากในรอยยิ้มนั้นดวงตาของเธอกลับมีรอยหม่นเศร้าไว้มากมาย แม้ตอนนี้พระอาทิตย์จะลาลับไปแล้วแต่แสงสว่างก็ยังมีพอให้ปวีร์สังเกตเห็นรอยหม่นนั้นได้

    ...เกิดอะไรขึ้นกับเธอ...ณิชาพัชร์คนที่เคยมีเพียงรอยยิ้มสดใส...

    “แล้วบ้านกำนันดำไปทางไหนล่ะคะ คุณช่วยบอกทางให้ฉันหน่อย” ณิชาพัชร์ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานสุภาพตามแบบฉบับของเธอ

    “แล้วคุณจะไปบ้านกำนันดำทำไมเหรอครับ”

    เขาอดไม่ได้จริงๆ ที่จะถาม อยากรู้ว่าเธอมาที่นี่ทำไมในเวลานี้ ทั้งที่เธอควรจะอยู่ที่โรงแรมไหนสักแห่งที่มีงานเลี้ยงใหญ่โต เอ๊ะ ไม่สิ วันนี้มันวันที่สิบห้ากุมภาพันธ์แล้วนี่นา เธอต้องอยู่ที่เรือนหอต่างหากล่ะ...แล้วทำไมเธอถึงมาคนเดียว ทำไมไม่มีใครอีกคนมาด้วย ยิ่งคิดยิ่งสงสัย

    “ฉันจะไปเช่าเต็นท์นะค่ะ เมื่อกี้ตอนลงรถมาฉันถามคนขับเขาบอกว่าที่นี่มีเต็นท์ให้พักอย่างเดียว”

    เธอตอบด้วยความผิดหวังเล็กน้อยเพราะอันที่จริงเธอต้องการมาพักที่นี่นานๆ อาจจะเป็นอาทิตย์ เป็นเดือน หรือเผลอๆ อาจจะเป็นปีเลยก็ได้...แต่ถ้ากางเต็นท์นอนอย่างมากเธอก็คงพักได้ไม่เกินสามวันแน่นอน

    “เอาอย่างนี้ดีกว่า เดี๋ยวผมพาคุณไปบ้านกำนันดำเองแล้วกันนะครับ”

    เขาเสนอตัวด้วยรอยยิ้มบางๆ ความสงสัยที่มีมากมายในสมองถูกสลัดทิ้ง เพราะตอนนี้แค่เห็นสีหน้าหม่นๆ ของเธอเขาก็ไม่อยากสนใจอะไรไปมากกว่าการได้ดูแลเธออีกแล้ว
    ณิชาพัชร์มองเขาอย่างชั่งใจเพียงชั่วครู่เธอก็ตอบตกลง เพราะดูจากลักษณะท่าทางเขาแล้วคงไม่เลวร้ายอะไรนัก...นี่ล่ะมุมมองของเธอ มองในแง่มุมที่ดีเสมอ

    “อืม ให้ผมช่วยถือกระเป๋าให้ดีกว่าไหมครับ”

    ปวีร์มองไปทางด้านหลังเธอที่มีกระเป๋าเป้ใบค่อนข้างใหญ่ แล้วเขาก็เสนอตัวอย่างเป็นสุภาพบุรุษ ณิชาพัชร์มองหน้าเขาอย่างชั่งใจอีกครั้ง ในที่สุดเธอก็ปลดกระเป๋าออกจากหลังส่งให้เขาช่วยถือ

    …เหตุใดนะเธอถึงรู้สึกคุ้นชิน และอุ่นใจอย่างประหลาดเมื่อได้เจอผู้ชายคนนี้...

    ++++++++++++

    จากหาดทรายเนียนละเอียดสีน้ำตาลอ่อนที่ทอดตัวยาวไปตามโค้งทะเลปวีร์ก็เดินนำหญิงสาวตัดแนวสนออกไปท้างด้านหลัง ไม่ไกลนักก็ถึงบ้านไม้สองชั้นหลังไม่ใหญ่โตนัก หากก็โดดเด่นจนน่าสนใจ รอบๆ บ้านมีต้นไม้นานาพันธุ์ ทั้งไม้ดอก ไม้ประดับ ไม้ยืนต้น  ตัวบ้านมีระเบียงยื่นออกมาไว้สำหรับนั่งพักผ่อน อีกอย่างที่ทำให้บ้านหลังนี้โดดเด่นนั่นคือ แถวๆ นี้ไม่มีบ้านหลังอื่นเลย นั่นทำให้ณิชาพัชร์รู้สึกแปลกใจ

    ...คนที่นำเธอมานี่เป็นใครกัน คำตอบในสมองมีสองอย่างคือ ถ้าไม่ใช่เจ้าของบ้านหลังนี้ก็ต้องเป็นนักท่องเที่ยว...แต่คำตอบหลังไม่น่าจะใช่เพราะถ้าเป็นนักท่องเที่ยวเขาก็ไม่น่าจะคุ้นทางขนาดนี้...

    “ถึงแล้วครับบ้านกำนันดำ” ปวีร์หันมายิ้มให้หญิงสาวและเขาก็ได้เห็นความคิดในดวงตาของเธอ และความคิดนั้นก็หลุดออกจากปากเธอในที่สุด

    “คุณเป็นคนแถวนี้เหรอคะ” คำถามของหญิงสาวทำเอาปวีร์หัวเราะออกมาเบาๆ

    “ผมเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ครับ” คำตอบของเขาทำเอาณิชาพัชร์เบิกตาโต ด้วยความตกใจ...ไม่ใช่...เธอไม่ได้ตกใจที่รู้ว่าเขาเป็นเจ้าของบ้านแต่ตกใจที่...

    “คุณคือกำนันดำเหรอคะ”

    ณิชาพัชร์ถามอึ้งๆ ผสมแปลกใจเพราะก่อนจะมาที่นี่บิดาของเธอบอกกับเธอว่ากำนันดำเป็นเพื่อนของท่าน เธอจึงจินตนาการไปว่าเพื่อนของบิดาก็คงจะอายุพอๆ กัน หรือถ้าห่างก็คงไม่กี่ปี แต่นี่ดูท่าทางผู้ชายคนนี้น่าจะอายุมากกว่าเธอแค่ไม่กี่ปีเห็นจะได้

    ปวีร์กลั้นหัวเราะก่อนจะตอบ “หน้าตาผมอาจจะคล้าย แต่ผมไม่ใช่กำนันดำครับ” เขาหยุดนิดหนึ่งเมื่อความเศร้าบางอย่างแล่นผ่านหัวใจ “กำนันดำเป็นพ่อผมเอง ท่านเพิ่งเสียไป”

    เพราะคำตอบของเขามันชวนให้เศร้า บวกกับความเจ็บปวดในใจเธอที่คล้ายๆ กัน ทำให้ต่างคนต่างเงียบ บรรยากาศรอบกายก็เหมือนจะพร้อมใจกันปิดปากเงียบไปด้วย แม้กระทั่งเสียงลมแผ่วๆ ก็แทบจะไม่มี

    “ขึ้นบ้านกันดีไหมครับ”

    ในที่สุดเขาซึ่งเป็นเจ้าถิ่นและเจ้าของบ้านก็เป็นฝ่ายเอ่ยทำลายความเงียบทั้งปวง หญิงสาวที่ยืนก้มหน้าเงยขึ้นมองเขาด้วยความไม่เข้าใจว่าเขาจะเชิญเธอขึ้นบ้านทำไม เธอมาเช่าเต็นท์ไม่ใช่มาพักที่นี่

    “เอ่อ ฉันรอตรงนี้ดีกว่านะคะ คุณช่วยให้ใครก็ได้เอาเต็นท์มาให้ฉันตรงนี้ อ้อ แล้วราคาเท่าไหร่ค่ะ ฉันขอเช่าสักสองวัน” เธอระบายยิ้มแห้งเหือดไปให้เขา แม้จะมีทุกข์ในใจแต่คนอย่างณิชาพัชร์ก็ไม่เคยขาดรอยยิ้ม...แม้มันจะไม่สดใสเหมือนเก่าก็ตาม

    “ผมว่าคุณพักที่นี่ดีมั้ยครับ ผู้หญิงคนเดียวกางเต็นท์นอนมันอันตราย ไม่ต้องกลัวนะครับที่นี่มีผมกับแม่บ้านของผมสองคน รับรองว่าคุณปลอดภัยแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ อีกอย่างคุณจะพักที่นี่นานเท่าไหร่ก็ได้ผมยินดีต้อนรับ” อันที่จริงเขาอยากจะบอกเธอออกไปว่า...เขาไม่มีวันทำร้ายเธอเด็ดขาด ไม่มีวันทำร้ายคนที่ใจเฝ้าคอยแน่นอน...

    ณิชาพัชร์มองสบตาเขาที่มองมา ทำไมมันดูมีความหมายลึกซึ้งเกินกว่าคนที่เพิ่งรู้จักกันจะพึงมี และทำไมเธอถึงรู้สึกอบอุ่นคุ้นเคยยิ่งนักกับผู้ชายคนนี้ หรือเธอเคยรู้จักเขามาก่อน...ไม่มีทาง...เธอจะรู้จักเขาได้ยังไงเธอไม่เคยมาที่นี่เลยสักครั้งนี่นา

    หรือเพราะความห่วงใยนี้มันคล้ายกับความห่วงใยของ...นิพัทธ์...คนที่เธอตกลงร่วมชีวิตด้วย แต่สุดท้ายเขาก็ทิ้งให้เธออยู่เพียงลำพัง ทิ้งให้เธออยู่กับความเหงา เศร้า และความทรงจำที่สวยงาม หากเจ็บร้าวทุกคราวที่คิดถึง

    “คุณร้องไห้ทำไมครับ กลัวผมหรือ” เขาถามด้วยความตกใจ และเหมือนณิชาพัชร์จะได้สติ เธอรีบยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไม่รู้ว่าร่วงลงมาตอนไหน

    “ปละ เปล่า ค่ะ เอ่อ คือฉัน...” เธอไม่รู้จะตอบยังไง เพราะที่จริงแล้วบิดาของเธอก็ตั้งใจให้เธอมาพักที่นี่ ‘บ้านกำนันดำ’ แต่เธอเองแหละที่คิดว่าจะพักที่โรงแรม หรือรีสอร์ทที่ไหนสักแห่ง อยากอยู่คนเดียว อยู่กับตัวเอง

    หากเมื่อมาถึงเธอก็ได้รู้ว่า ณ ‘เขาพลายดำ’ แห่งนี้ไม่มีรีสอร์ท ไม่มีโรงแรม ไม่แม้กระทั่งบังกะโล หรืออะไรที่พักได้อย่างสะดวกสบาย กลับมีเพียงเต็นท์ให้เช่านอนเท่านั้น

    “ผมรู้ว่าคุณมาตัวคนเดียวแบบนี้อาจจะเชื่อใจใครได้ยาก แต่ผมอยากให้คุณเชื่อว่าที่นี่จะปลอดภัยสำหรับคุณ” อีกแล้ว...คำพูดของเขาทำให้เธอรู้สึกคุ้นเคยอีกแล้ว

    ณิชาพัชร์มองเขาด้วยสายตาที่บอกว่ากำลังชั่งใจเป็นครั้งที่สาม หากแล้วเพราะอะไรก็สุดรู้ที่ทำให้เธอพยักหน้าตกลงเขาไปอย่างง่ายดาย

    ...ก็นะ ถึงไม่ใช่กำนันดำ ก็เป็นลูกชายกำนันดำ...คงไม่อันตรายจริงๆ อย่างเขาว่าแหละ อีกอย่างเขาก็มีแม่บ้านของเขาเองแล้ว คงไม่คิดมาทำอะไรเธอหรอก...

    ปวีร์ยิ้มที่เธอยอมตกลง เขาถือกระเป๋าเป้ของเธอเดินนำขึ้นบันไดบ้านโดยมีเธอตามหลังไปด้วย

    “อ้าวคุณวีร์ มาแล้วเหรอคะ ป้าเตรียมอาหารไว้ให้แล้ว”

    ป้ามุก ‘แม่บ้าน’ ของเขาส่งเสียงเป็นภาษาใต้ออกมารับเขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ใบหน้าประแป้งขาวเป็นรอยนิ้ว ร่างอวบๆ สวมไว้ด้วยเสื้อคอกระเช้าสีฟ้าสดใส กับผ้าถุงลายดอกไม้สีน้ำตาลอ่อน

    “ขอบคุณครับ ป้าครับนี่คุณ…”

    “ณิชาพัชร์ค่ะ หรือ เรียกว่า เพชรก็ได้ค่ะ” ณิชาพัชร์รีบแนะนำตัวเพราะนึกได้ว่าเธอยังไม่ได้แนะนำตัวกับเขา...หารู้ไม่ว่าเขาน่ะจำชื่อเธอแม่นยิ่งกว่าสิ่งใด

    ...ณิชาพัชร์...ชื่อที่แปลว่า เพชรอันบริสุทธิ์...เพชรที่ส่องแสงประกายสวยงามในใจเขา...

    “ครับ…และนี่ป้ามุกแม่บ้านของผม”

    เขาแนะนำให้เธอรู้จักกับแม่บ้าน ที่เธอแอบคิดว่าแม่บ้านที่เขาหมายถึงนั้นคือ ‘ภรรยา’ ของเขา ณิชาพัชร์ยิ้มเจื่อนให้ป้ามุก “อ้อ ส่วนผมชื่อปวีร์ครับ” เขาแนะนำตัวเองด้วยน้ำเสียงที่ทอดเบา

    ณิชาพัชร์หันขวับไปมองหน้าเขา ‘ปวีร์’ เหรอ เธอเคยได้ยินชื่อนี้ที่ไหนนะ ทำไมคุ้นๆ ที่ไหนๆ นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก และปวีร์ก็พอจะเดาความคิดเธอออก เขาตั้งใจแนะนำตัวเองให้เธอคิดอยู่แล้ว เพียงแต่ยังไม่อยากให้เธอนึกออกตอนนี้เลยไม่อธิบายอะไรให้เธอกระจ่างแจ้ง

    “ป้าครับ ป้าช่วยจัดห้องให้คุณเพชรเธอสักห้องนะครับเธอจะพักที่นี่กับเราสักระยะ” เขาหันไปบอกป้ามุกด้วยภาษาใต้ที่ณิชาพัชร์ฟังไม่ออก แต่ก็พอจะจับใจความได้จากท่าทาง ว่าเขาให้ป้าแกเอาของเธอไปเก็บ

    “เราไปทานอาหารกันดีมั้ยครับคุณคงหิวแล้ว” เขาบอกด้วยรอยยิ้มที่ยังคงทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นก่อนจะเดินนำไปทางห้องครัว โดยมีเธอเดินตามหลังพร้อมสายตาสำรวจรอบๆ บ้านไปด้วย

    จากคุณ : samita - [ 19 เม.ย. 49 04:52:31 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป