CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    Trip&Love ตามรอยแห่งรัก: หัวใจรักฤดูเหงา ตอนที่ 2 โดย ปัณณ์

    ป้ามุกจัดอาหารเช้าไว้ตรงโต๊ะหวายตัวเตี้ยที่ระเบียงตามที่ปวีร์สั่งไว้...วันนี้อากาศสดชื่นเขาอยากให้เธอทานอาหารในบรรยากาศที่ผ่อนคลายสบายๆ หลังจากทั้งสองคนล้างมือล้างเท้าเรียบร้อยแล้วก็มานั่งพร้อมทานอาหารตรงหน้า
    ณิชาพัชร์มองอาหารปักษ์ใต้หลายอย่างบนโต๊ะแล้วทำหน้าแปลกใจ เพราะในบรรดาอาหารทั้งหมดเธอรู้จักเพียงอย่างเดียวคือ ‘ผัดสะตอกับกุ้ง’ เคยเห็นแถวร้านอาหารปักษ์ใต้ที่กรุงเทพฯ แต่ก็ยังไม่เคยลองทานเหมือนกัน หญิงสาวเงยหน้าขึ้นสบตาคนตรงข้าม ซึ่งเขาเองก็มองเธอพร้อมรอยยิ้มอยู่ก่อนแล้ว

    “ผมอยากให้คุณลองทานอาหารพื้นบ้านดูน่ะครับ รับรองว่าอร่อย”

    เขาการันตีความอร่อยด้วยน้ำเสียงร่าเริง หญิงสาวหลบตาเขาแล้วก้มมองอาหารตรงหน้าอีกครั้ง ปวีร์จึงเริ่มแนะนำอาหารให้เธอฟังทีละอย่าง

    “อันนี้เป็นน้ำพริกมะอึกครับ”

    เขาผายมือไปยังถ้วยใบเล็กที่วางในจานใบใหญ่ ข้างถ้วยนั้นมีผักเคียงหลายอย่างวางเรียงรายอยู่...มะอึกมีผลขนาดประมาณเท่านิ้วโป้ง เป็นพืชคล้ายๆ มะเขือเพียงแต่ผิวของมันจะมีขนอ่อนๆ โดยรอบ ก่อนจะเอามาตำน้ำพริกจะต้องใช้มีดขูดขนออกก่อน จากนั้นหั่นเป็นชิ้นก่อนจะนำไปตำไม่ต้องให้ละเอียดมากกับเครื่องน้ำพริกกะปิ ผักเคียงในจานที่เห็นแล้วทำให้ณิชาพัชร์แปลกใจ ปวีร์เลยแนะนำต่อ

    “นี่เป็นสะตอเผาครับ” เขาชี้ไปยังสะตอที่ป้ามุกเผาให้สุกนิดๆ พอนิ่มๆ มีกลิ่นหอมจากการเผาเล็กน้อย “ส่วนนี่คุณคงรู้จักเป็นผักบุ้งลวก อันนี้ผมชอบนะผมว่ามันอร่อยดีเวลาจิ้มกับน้ำพริก” เขาบอกด้วยรอยยิ้มที่ยังคงระบายอยู่ทั่วใบหน้าคม “ส่วนอันนี้ชื่อผักกูด” เขาหัวเราะเบาๆ กับการทำหน้าแปลกของเธอที่ได้ยินผักชื่อแปลก “คุณอาจจะเห็นว่ามันชื่อแปลก แต่ขอบอกว่าอร่อยนะครับเอามาลวกแล้วจิ้มน้ำพริกแบบนี้ก็ดี หรือจะนำไปผัดกะทิก็อร่อยไม่เบาเลยนะครับ” เขาอธิบายถึงเจ้าผักใบหยักสีเขียวจัด ที่ดูแล้วจะเป็นยอดผักเสียมากกว่า

    “เหรอคะ” หญิงสาวชักจะน้ำลายสอขึ้นมาบ้าง “แล้วสีเหลืองๆ นี่อะไรคะ” ณิชาพัชร์หันเหความสนใจไปยังเจ้าลูกกลมแบนสีเหลือง ที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน ปวีร์ยิ้มแล้วบอกกับเธอ

    “อันนี้เค้าเรียกว่า ลูกเนียงครับ อืม มันอาจหายากและไม่แพร่หลายเท่าสะตอแต่รับรองครับว่า กลิ่นของมันแรงพอๆ กันเลยล่ะ” เขาพูดจบก็แทบจะปล่อยขำก๊ากออกมา ณิชาพัชร์ทำหน้าแหยๆ เมื่อได้ฟังที่เขาแนะนำน้ำพริกมะอึกและเหล่าบรรดาผักเคียงชื่อแปลกหน้าตาแปลกทั้งหลาย

    “แต่ละอย่างกลิ่นแรงทั้งนั้น ถ้าฉันกินไปหมดทุกอย่างวันนี้คงไม่ต้องพูดกับใครแล้วล่ะคะ” เธอพูดพลางหัวเราะเบาๆ ปวีร์มองแล้วรู้สึกชื่นใจขึ้นมากที่สามารถทำให้เธอยิ้มได้...แม้จะแค่ครั้งคราว

    “งั้นเอาอาหารอื่นบ้างนะครับ” เขาหันมองไปทางชามกระเบื้องใบย่อมที่วางอยู่ข้างจานน้ำพริกแล้วผายมือไปหาชามใบนั้นปากก็แนะนำ “นี่เป็นต้มขมิ้นไก่บ้านครับ พอดีคนงานเพิ่งซื้อไก่จากตลาดในเมืองมาฝากผมเลยให้ป้ามุกทำให้คุณลองทานดู” ณิชาพัชร์มองเจ้าไก่ชิ้นเล็กๆ ที่นอนอยู่ในชามกระเบื้องนั้นแล้วรู้สึกแปลกๆ ตามเคย เพราะน้ำของมันเป็นสีเหลืองอ่อน มีตะไคร้สองต้น กับเนื้อขมิ้นอีกนิดหน่อย

    “ดูคล้ายต้มสมุนไพรเลยนะคะ” เธอบอกด้วยรอยยิ้มเจื่อน เพราะส่วนตัวแล้วเธอไม่ชอบทานอะไรเกี่ยวกับสมุนไพร ปวีร์ยิ้มแล้วเชิญชวนเธอเหมือนกำลังล่อเด็กที่เกลียดผักให้กินผักอย่างไรอย่างนั้น

    “มันก็คล้ายๆ อย่างนั้นล่ะครับ แต่ไม่มีกลิ่นสมุนไพรอะไรหรอกครับ เพราะแค่ใส่ขมิ้นให้เหลือง กับตะไคร้ไม่ให้มีกลิ่นคาวเท่านั้นเองครับ” ณิชาพัชร์พยักหน้าอย่างเข้าใจระคนโล่งใจ

    “อันนี้ผมให้ป้ามุกทำเป็นพิเศษเผื่อคุณจะทานอาหารพื้นบ้านไม่ได้”

    เขาเลื่อนมือมาถึงอาหารจานสุดท้ายของมื้อนี้ นั่นคือ ‘กั้งทอดกระเทียมพริกไทย’ ตัวกั้งถูกตัดเป็นชิ้นๆ พอคำ โดยเอาขาของมันออกจนหมดแล้ว กลิ่นหอมของกั้งทอดกระเทียมพริกไทยทำให้ณิชาพัชร์ลอบกลืนน้ำลาย หากก็ไม่รอดพ้นสายตาของปวีร์ไปได้...ก็เขานะจับจ้องที่เธอตลอดเวลาราวกับกลัวว่าเธอจะจางหายไปกับอากาศ

    “คุณคงจะหิวแล้ว เราทานกันเลยดีกว่ามั้ยครับ อ้อ คุณทานเผ็ดได้หรือเปล่าครับ” เขาไม่ลืมที่จะถามเธอด้วยความห่วงใย ณิชาพัชร์ยิ้มแหยๆ ก่อนจะตอบ

    “ก็ไม่ค่อยได้หรอกค่ะ แต่ว่า...วันนี้กะจะลองดู เพราะดูอาหารน่าทานทุกอย่างเลยนี่คะ” เธอตอบอายๆ กลัวเขาจะคิดว่าเธอตะกละ ปวีร์แค่ยิ้มและพยักให้เธอลงมือทานอาหารไปด้วยกัน

    จากคุณ : samita - [ 21 เม.ย. 49 21:11:33 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป