Meenas Kitchen : Chapter 11.
-----------------------------------------------------------
ใช้เวลาซักพักกว่าที่คริสจะถามที่อยู่จากฉันเสร็จ เพราะคนเล่ามัวแต่ร้องไห้สะอึกสะอื้นพูดจาไม่รู้เรื่อง ฉันยืนอยู่ในร้านเซเว่นไม่นานนายสมคิดก็รีบร้อนผลักประตูเข้ามา ผมยาวหยักโศกสีบลอนด์ถูกรวบไว้อย่างลวก ๆ สวมเสื้อยืดกางเกงเลยับยู่ยี่เหมือนเพิ่งลุกขึ้นจากที่นอน
ทันทีเห็นหน้าฉันคริสก็ร้องเรียกอย่างดีใจ
มีนา ... เกิดอะไรขึ้น ขาคุณเป็นอะไร
ชายหนุ่มถาม ฉันเลยก้มมองตามนายคริสก็เห็นหัวเข่าของตัวเองเป็นรอยถลอก มีเลือดสีแดงไหลซึมลงมาเป็นทางยาว ... เกิดขึ้นตอนไหนฉันไม่รู้สึกเลย อาจจะเป็นตอนที่โดนคนเบียดหกล้ม เข่าคงไปครูดกับถนนแน่
รีบไปกันเถอะ ผมจะทำแผลให้
คริสพูดพร้อมกับดันหลังให้เดิน แต่ฉันสะบัดตัวออกมองหน้านายนั่นตาขวาง
... ถ้านี่เป็นปลายไม้ ฉันคงจะดีใจเป็นล้นพ้น โผเข้ากอดไม้ทั้งน้ำตาพร้อมพร่ำพรรณนาถึงความโชคร้ายในวันนี้เพื่อเรียกร้องความสงสาร ก่อนจะประคองกอดกันไปส่งจนถึงคอนโดอย่างหวานชื่นรื่นรมย์ แต่นี่เผอิญเป็นนายคริส ( กวนโอ๊ย ) ฉันก็เลย ...
ทำไมมาช้านัก ! รู้มั้ยฉันรอนายนานแค่ไหน บ้าที่สุดเลย !!
ฉันเผลอตวาดอย่างโมโห อารมณ์รุนแรงเกรี้ยวกราด หงุดหงิดจากเหตุการณ์ที่พบเจอมาทั้งหมด มีนามาพาลระบายลงกับคริสเต็มสตรีมเลย ...
นายสมคิดถอนหายใจมองไปทางอื่นทำหน้าเบื่อหน่าย ฉันถึงเพิ่งรู้ตัวว่าทำสิ่งที่เสียมารยาทออกไปแล้ว แต่ยังคงไว้ฟอร์ม ทำหน้าบูดบึ้งต่อไป คริสเดินไปที่เค้าท์เตอร์ซื้อยากับผ้าพันแผลแล้วดึงฉันออกมานอกร้าน
โอ๊ย~ย เจ็บ ! เอามานี่เลย ฉันทำเอง
ฉันร้องอย่างอารมณ์เสีย จะดึงเอาสำลีกับยาไปจากมือเค้าแต่คริสกำขวดยาไว้แน่น พอเงยหน้าขึ้นมากะเอาเรื่อง ก็เห็นนายนั่นจ้องกลับเขม็ง
มองอะไร มีปัญหารึไง ฉันยังอาละวาดวีนแตกต่อไปอย่างหยุดตัวเองไม่ได้
ทำไมคุณมาที่นี่ คุณยังเด็ก ไม่เหมาะกับที่แบบนี้ รู้หรือเปล่า
คริสพูดเสียงเย็นเฉียบ ตาสีเขียวซีดที่วาวดุนั่นยิ่งทำให้ใบหน้าตอนนี้ดูน่ากลัวขึ้นไปอีก เคยเห็นแต่นายสมคิดที่หัวเราะดูสบาย ๆ กับทุกเรื่อง ไม่เคยเจอหมอนี่โกรธขนาดนี้มาก่อน
โตเป็นผู้ใหญ่เค้าก็ให้เที่ยวได้แล้ว ฉันอยากมา ใครจะทำไม
ฉันพูดกวนโอ๊ยลอยหน้าลอยตากลับไปทั้งที่ใจเริ่มปอดแล้ว ยังไงก็ไม่อยากเถียงแพ้คริสไม่ว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิดก็ตาม
ถ้าโตแล้วต้องดูแลตัวเอง ไม่รบกวนคนอื่น อย่างคุณเรียกว่าเด็กไม่รู้จักโตมากกว่า
คริสหัวเราะประชด น้ำเสียงสั่งสอนที่แฝงแววดูถูกดันอารมณ์ฉันให้พุ่งจี๊ดถึงขีดสุด
ทำไงได้ ก็เพื่อนบังคับให้มา ไม่งั้นเค้าจะไม่คบกับฉันอีก เป็นนายนายจะทำยังไงล่ะ ฉันไม่ผิดซักหน่อย ยัยแองจี้ต่างหากที่ ...
เป็นผมผมก็ไม่มาน่ะสิ ! ต้องทำอะไรตามเพื่อนเพื่อให้เขายอมรับ แต่พอเกิดเรื่องขึ้นกลับโยนให้เป็นความผิดคนอื่นทั้งที่ตัวเองเป็นคนตัดสินใจแท้ ๆ นี่เป็นเหตุผลงี่เง่าที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินมาเลย !
คริส ! !!
ฉันสติขาดผึง ร้องกรี๊ดใส่หน้านายนั่นอย่างเดือดดาล
ขนาดพ่อแม่ยังเคยไม่ว่าฉันขนาดนี้เลยนะ !!
เลี้ยงกันมายังไงล่ะ ตามใจจนลูกนิสัยแย่แบบนี้
หยุด ...! อย่ามาลามปามถึงพ่อแม่ฉัน อยากไปไหนก็ไปเลยไป๊~! !!
ฉันผลักนายคริสกำลังนั่งยอง ๆ อยู่สุดแรงจนเค้าหงายหลังกระแทกพื้น ถ้าไม่ติดว่าขาเดี้ยงอยู่ฉันจะลุกขึ้นไปชกใบหน้าหล่อเหลานั่นให้หายแค้นด้วย
ได้เลย คุณอยู่นี่คนเดียวก็แล้วกัน นายกวนโอ๊ยนั่นยิ้มเยาะที่มุมปาก ลุกขึ้นเดินจากไปดื้อ ๆ
( เอาจริงอ่ะ
(0_0 || ) )
โอ๊ก ...ก ก แหว่ะ
ฉันสะดุ้ง รีบหันไปทางต้นเสียง ชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินเมามายโซเซมาแบบหมดสภาพความเป็นคน ( นี่เองที่เค้าเรียกว่าเมาเหมือนแมว ) มาอาเจียนอยู่ตรงเสาไฟฟ้าห่างฉันไปไม่กี่เมตร ส่วนใหญ่เดินเป๋แบบไร้สติลัดเลาะไปตามถนนใหญ่โดยไม่กลัวรถราที่วิ่งไปมาด้วยความเร็วสูง ผู้หญิงที่แต่งตัวสวยกันตอนแรกตอนนี้กลายเป็นอะไรแล้วก็ไม่รู้ บางคนเดินไม่ไหวต้องเพื่อนหามพยุงกันอย่างทุลักทุเล ... โลกใบนี้ช่างมีสีสันสุดโต่ง สุดเหวี่ยง และเละเทะเหลวแหลกแตกต่างจากโลกปกติโดยสิ้นเชิง
แวบนั้นก็ตัดสินใจได้ทันทีว่าไม่ควรจะอยู่ตรงนี้นาน ๆ ที่นี่ไม่เหมาะกับฉันเลยแม้แต่นิดเดียว ... ลาก่อนชีวิตราตรี ครั้งแรกและครั้งเดียวก็เกินพอ ข้าน้อยเข็ดไปจนวันตาย ...
.
จากคุณ :
อันปังแนน
- [
23 เม.ย. 49 13:45:22
]