รักแท้ แฟนเก่าไม่เกี่ยว
<เรื่องจริงจากประสบการณ์ ---หมายเหตุ จำเป็นต้องใช้ชื่อสมมุติสำหรับบุคคลในเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้พาดพิงถึงเจ้าตัว>
ผมเจอหญิงสาวคนหนึ่งในที่ทำงาน เธอชื่อ ฟีโอน่า สีหะราด เธอเป็นลูกสาวของคุณ คำฟอง สีหะราด ซึ่งเดิมทีเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ครอบครัวคุณ คำฟอง อพยพมาจาก สะหวันนะเขต สปป.ลาว ซึ่งขณะนั้นคอมมิวนิสต์ได้เข้ายึดครองบ้านเมือง ด้วยเหตุนี้เองทำให้ครอบครัวคุณ คำฟอง ต้องหนีกระเซอะกระเซิงเป็นเรฟูจี ย้ายมาอยู่ออสเตรเลียซึ่งเป็นประเทศที่สามทำหน้าที่รองรับให้ที่พักพิงแก่ผู้ไร้ถิ่นฐานเนื่องจากสงคราม เวลาผ่านไปหลายปีตอนนี้ทั้งครอบครัวได้รับสัญชาติออสเตรเลี่ยนหมดแล้ว
ฟีโอน่า รุ่นราวคราวเดียวกับผม เธออยู่กินฉันแฟนกับหนุ่มออสซี่ ชื่อ Richard Hedges แต่สำหรับคนไทยหรือคน ลาวทั่วไปแล้วจะออกเสียงนามสกุลเค้าไม่ค่อยชัด กลายเป็น เฮด ไป เจ้าตัวก็ไม่ค่อยชอบ (ผู้อ่านคงรู้นะครับว่าเพราะอะไร) ทั้งนี้เพราะชื่อสั้นของ ริชเชิร์ด นั้นคือ Dick พอเอามารวมกันกับนามสกุลแล้วได้ความหมายไม่พึงปรารถนานั่นเอง
ด้วยความที่บ้านใกล้กัน ฟีโอน่าจะมาขอความรู้เกี่ยวคอมพิวเตอร์กับผมอยู่ตลอด โดยเฉพาะเรื่องพิมพ์ภาษาไทย ซึ่งผมก็เอื้ออำนวยให้เธอเป็นอย่างดี เพื่อแลกกับอาหารลาวแซ่บๆ อย่างลาบเป็ด หรืออะไรอร่อยๆ เผ็ดๆ อุปสรรคที่ว่าหาแป้มพิมพ์ที่มีตัวอักษรไทยกำกับนั้นยาก จึงได้ขอให้ญาติที่เมืองไทยส่งมาให้ ลำพังจะให้เธอจำให้ครบทุกคีย์นั้นท่าจะเป็นไปไม่ได้
อยู่มาวันหนึ่ง ฟีโอน่า เห็นผมกำลังแชทอยู่ ตามประสาคนโสด ในเวปของพันทิปนะแหละ ก็เกิดสนใจบ้าง หลังจากที่สอบถามวีธีคร่าวๆ แล้วเธอก็ไปดำเนินการแชทเองที่บ้าน อีกสักระยะต่อมา จึงได้รู้ว่าเธอมีหนุ่มไทยคนหนึ่งมาจีบ ท่าทางจะถูกชะตากันยังไงก็ไม่ทราบ มีถึงขนาดโทรหากันด้วย ซึ่งตรงนี้ก็เป็นปมสร้างความระหองระแหงให้ระหว่างเธอ กับ ดิ๊ก เป็นอย่างมาก
อยู่มาวันหนึ่งเธอสารภาพบาปกับผมในฐานะเพื่อนว่า ชอบหนุ่มไทยเข้าอย่างจัง ทำยังไงดี ผมบ่ายเบี่ยง ไม่ออกความเห็น ทั้งนี้เพราะไม่อยากให้ฟีโอน่าและดิ๊กต้องแตกแยกกัน แต่ทว่าอานุภาพแห่งความรักที่ฟีโอน่ามีต่อหนุ่มในเน็ตนั้นช่างมีพลังมหาศาล บทคนเราจะรักกันชอบกันโบราณกล่าวไว้ว่า เอาช้างมาฉุดก็ไม่อยู่ และก็เป็นอย่างงั้นจริงๆ หลังจากที่ผมกลับจากฮอลิเดย์ได้ไม่นาน พอกลับเข้ามาทำงาน ก็ได้รู้ว่าหล่อนบินไปเมืองไทยแล้ว เพื่อไปเจอกันหนุ่มไทยคนนั้น
ด้วยความแปลกใจ ไม่นึกว่าเธอจะเป็นได้เพียงนั้น ในช่วงนั้นเองดิ๊กก็โทรมาต่อว่า หาว่าผมชี้ช่องทางให้แฟนเค้า พร้อมกับประกาศตัดสัมพันธไมตรี ผมได้พยายามอธิบายให้ดิ๊กได้เข้าใจ ว่าผมไม่ได้ส่งเสริมให้ฟีโอน่าไปน้ำบ่อหน้าแต่อย่างใด แต่ดิ๊กปฏิเสธที่จะรับรู้และยังคงยืนกรานว่าผมนะแหล่ะตัวดี ที่ทำให้แฟนเค้าเป็นไปขนาดนี้
ผมก็ได้แต่ปลง นึกเสียว่าเป็นเวรกรรม ส่วนดิ๊กนั้นกลายเป็นคนดื่มหนักอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะหอบผ้าผ่อนแยกย้ายออกไปอยู่ที่ไหนสักแห่งตามลำพัง
เมื่อฟีโอน่าเทียวไปเทียวมาระหว่างเมลเบิร์น-กรุงเทพ บ่อยเข้า เธอจึงประกาศแต่งงานกับหนุ่มคนนั้นอย่างเป็นทางการ ผมจึงได้รู้ว่าไอ้หนุ่มไทยคนนั้นรูปหล่อเชียว มิน่าเจ้าหล่อนถึงได้หลงปานจะแหกตูดดม งานแต่งของเค้าทั้งสองจัดกันอย่างเล็กๆ ที่บ้านของผู้ชาย ในจังหวัด สุพรรณบุรี มีแขกผู้ใหญ่ทางฝ่ายนี้กับฝ่ายโน้นรวมๆ กันร้อยกว่าหัวได้
มานึกในใจว่า นี่หนอคนรักกัน ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องแต่งกับคนที่รวยกว่าเสมอไป ไหนใครบอก เงินน่ะมีอำนาจเหลือล้นพอตกใส่หิน หินอ้า ตกใส่หญ้า หญ้าตาย ไม่จริงเสมอไปหรอก
การยื่นเรื่องขอวีซ่าของสามีเธอก็เป็นไปได้ง่ายครับ ไม่ติดขัดอะไร หลังจากยื่นเรื่องที่สถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยที่ไหนสักแห่งแถวๆ ถนนสาธร ได้ไม่นาน สามีเค้าก็ได้บินมาอยู่ด้วยกัน ว่ากันว่าถึงแม้ว่าสถาทูตนี้จ้างพนักงานคนไทยทำในนั้นมากมายหลายคน แต่เป็นไทยซะเปล่าไม่มีซักรอยยิ้มให้กับคนที่มายื่นขอวีซ่าเลย พูดจากระโฮกกระฮาก สำคัญตัวว่ามีอำนาจหรืออะไรก็ไม่ทราบ ไม่รู้เหมือนกันว่าสถานทูตไปเจาะจงคัดเลือกเอาพวกจองหองพองขนนี้มาจากไหนกัน จนปัจจุบันนี้สถานทูตอุบาทว์แห่งนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง ผมสอบถามน้องคนหนึ่งที่เพิ่งจะเดินทางมาถึงที่นี่ ก็ได้คำตอบว่า เพ่ ยังหน้าบูดเหมือนเดิมนะแหล่ะ ดูหน้าพนักงานแต่ละคนทำเหมือนผมจะมาขอยืมตังค์พวกมันยังไงยังงั้น
ครั้งแรกที่ผมกับสามีของฟีโอน่านั่งดวดเหล้ากัน ตามประสาวันหยุด เค้าเผยความในใจที่ผมไม่คาดคิดมาก่อนว่า ผมนะ มีแฟนทั้งที ก็ไม่เจอแบบหญิงสาวบริสุทธิบ้าง..... ผมอึ้งไปครู่ใหญ่ ไม่นึกว่าความคิดชายไทยไดโนเสาร์ จะตกทอดมาถึงรุ่นนี้ พอหายอึ้งแล้วก็ตอบไปว่า แฟนเก่าของฟีโอน่าน่ะ ถึงสูงใหญ่ก็จริง แต่ว่าพูดถึงอาวุธยุทโธปกรณ์แล้ว ไม่น่าจะใหญ่ยาว สร้างความสึกหรอได้หรอกน่า.. ผมเจตนาตอบแบบกวนๆ ให้ทิ่มแทงใจ
แล้วผมจึงเทศนาบทใหญ่ให้ เค้าฟัง นี่แหละคือรอยร้าวในใจโดยแท้ เราจะไปดับเบิ้ล สแตนดาร์ดกับผู้หญิงไม่ได้ ทีตัวเราอ่ะ ทำกันตั้งแต่อยู่มัธยม ผ่านมาก็หลายหญิง แล้วภรรยาคุณก็ไม่เคยติดใจเรื่องนี้นี่นา ในขณะเดียวกันกับเค้าก็ควรที่จะรับความที่เป็นตัวเค้าจะดีกว่า อย่าเอาความเห็นแก่ตัวมาใช้กับสังคมที่นี่ไม่ได้ เพราะทั้งเพศหญิงเพศชายถือว่ามีสิทธิเท่าเทียมกัน
หลังจากเราสังสรรค์กันวันนั้นอีกไม่นานเราก็มีโอกาสได้พบเจอสังสรรค์กันอีก ในครั้งนี้ผมกับสามีของฟีโอน่ารู้สึกจะคุ้นเคยกันมากขึ้น การสนทนาได้ผ่านไปโดยราบรื่นจนกระทั่งเหล้าพร่องลงขวดไปได้สักฝ่ามือปัญหาเดิมของยอดชายนายสามีของฟีโอน่าก็ทะลักมาอีกจนได้ คือเรื่องเดิมอีกนั่นแหล่ะ เค้าเปรยออกมาว่า ผมนี่ช่างมีกรรมอะไรนักหนา ได้แฟนทั้งทีก็เป็นแฟนมือสอง ไม่ได้ใช้ของใหม่แกะกล่องกับเค้าบ้าง ผมถอนหายใจอยู่เฮือกใหญ่พลางนึกในใจไปถึงคราวที่แล้วว่าตอบปัญหาหมอนี่ไปยังไงบ้าง เราเองเป็นเหตุให้มันคิดมากรึเปล่า เวรกรรมแท้ๆ
นึกอยู่ในใจว่าคราวที่แล้วเราก็ให้คำแนะนำวิธีคิดอะไรดีๆ ต่อคนรักกับนายนี่ไปนี่หว่า หรือว่าข้อความที่เคยบอกเป็นสารที่อยู่ระดับสูงเกินไปเลยสื่อไม่เจาะผ่านกะโหลกหนาของหมอนี่ได้ ขอแก้ตัวอีกครั้งซิ
อืม เอาอย่างงี้สิครับ.....คิดแบบนี้ดีกว่าเพราะว่าชีวิตเรามันสั้นเหลือเกินจะมัวแต่เป็นทุกข์เป็นโศกอย่างเดียวเพราะเรื่องนี้ก็กระไรอยู่ ผมอรัมภบทไปนิดหนึ่งเพื่อกรุยทาง ก่อนที่จะอธิบายต่อไปว่า แม้ว่าฟีโอน่าจะเป็นมือสองหรือมือที่สามสี่ห้าก็ไม่รู้เพราะก่อนหน้านายดิ๊กนั้นผมก็เคยเห็นเค้าควงคนอื่นออกหน้าออกตาเหมือนกัน แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่สำคัญที่ว่าทำยังไงที่คุณจะยอมรับเค้าในจุดนี้ได้ เพราะฟีโอน่านั้นรักคุณมาก มากจนถึงขั้นแต่งงานกับคุณได้ อย่าไปคิดว่าอะไรบางอย่างเป็นเหมือนแปรงสีฟันสิครับ พอใช้หลังจากคนอื่นแล้วมันน่าขยะแขยงจนปานนั้น
แล้วผมก็ขอตัวเข้าห้องน้ำ พอกลับมาอีกทีก็แกล้งเปลี่ยนเรื่องคุยไปเป็นเรื่องอื่นๆ สัพเพเหระเพื่อให้พ้นจากเรื่องแปรงสีฟันนี่เสียที จนกระทั่งปาร์ตี้โอเว่อร์ เค้าสองคนได้เวลากลับบ้านจึงล่ำลากันไป
อีกสองสามวันถัดมาผมก็ได้รับโทรศัพท์จากฟีโอน่า เธอเล่าว่าสามีเธอเปลี่ยนไปตั้งแต่วันที่ไปกินเหล้าด้วยกันมา และสอบถามผมว่าผมไปพูดอะไรแทงใจสามีหล่อนรึเปล่า เพราะจู่ๆ สามีเค้าก็ชอบเปรยๆ ถึงแฟนเก่าของเธออยู่บ่อยๆ บางครั้งยังพูดว่า ลองคิดดูเหอะ แปรงสีฟันที่เค้าใช้กันแล้ว และเราเก็บมาใช้ต่อมันรู้สึกยังไงบ้าง ว่าไปโน่น แถมยังเรียกร้องคอยถามอยู่เป็นประจำว่าตัวเค้าเองเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่เท่าไหร่ของฟีโอน่า คราวนี้ผมเข้าตาจนจริงๆ พูดอะไรไม่ออก เพราะผมคงมีส่วนไม่น้อยที่ทำให้สามีเค้าเป็นแบบนี้ แต่อะไรก็ตามที่ผมเคยบอกเค้าไปนั้นมีเจตนาหวังดีให้สามีเค้าทำความเข้าใจที่ถูกต้องกับคนรักตะหาก ไม่ได้เจตนาทำให้เค้าต้องคิดมากจนเข้าข่ายสุขภาพจิตทรุดโทรมแบบนี้เลย
ฟีโอน่าเข้าใจในทุกสิ่งที่ผมอธิบาย ซึ่งผมเองก็โล่งอกไปทีเพราะกลัวๆ อยู่เหมือนกันว่าความเข้าใจผิดจะทำให้เสียเพื่อนไปอีกคน ฟีโอน่าลงความเห็นว่าสมควรที่นัดเจอจิตแพทย์เพื่อเข้ารับคำปรึกษาก่อนที่ปัญหาครอบครัวจะลุกลามไปกว่านี้
ข้อดีอยู่อย่างหนึ่งของคนอยู่ในประเทศนี้คือการไปปรึกษาจิตแพทย์หรือผู้สันทันกรณีในการแก้ปัญหาครอบครัวถือว่าเป็นเรื่องปรกติ เหมือนกับการรักษาโรคทั่วไป ซึ่งในแง่นี้ต่างจากสังคมในเมืองไทยมาก ซึ่งมีมุมมองผิดๆ คิดเหมาไปว่าคนที่เข้าหาจิตแพทย์นั้นต้องป่วยเป็นโรคจิตเท่านั้น ซึ่งความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลย คือใครก็ได้ที่ต้องการคำแนะนำที่ถูกต้องเพื่อทำให้สุขภาพจิตตัวเองดีขึ้นสมควรที่จะได้รับคำปรึกษาจากผู้ชำนาญการ ก็เท่านั้นเอง
เวลาผ่านไปค่อยข้างเนิ่นนานกว่าที่ผมจะได้มีโอกาสพบเจอกับครอบครัวนี้อีก โดยที่คราวนี้ผมได้ตอบรับคำเชิญจากทั้งสองให้ไปทานข้าวเย็นที่บ้าน ทันทีที่ไปถึงหน้าบ้านผมก็สังเกตเห็นรถสปอร์ตสีแดง Porsche Boxter จอดอยู่ใต้ร่มไม้ ซึ่งเป็นรถในดวงใจของผมมาแต่ไหนแต่ไรแล้วเคยเล่าเรื่องความเกาะถนนเป็นยอดของรถรุ่นนี้ให้สามีฟีโอน่าฟังเหมือนกัน แต่ทุกวันนี้ผมยังไม่มีปัญญาจะซื้อแม้แต่ล้อสักข้างเลยต้องขับรถญี่ปุ่นเก่าๆ พังแหล่มิพังแหล่ไปก่อน
สามีฟีโอน่ายิ้มหรามาแต่ไกลแล้วเดินเข้ามากอดคอผมพร้อมกับลากดึงเข้าบ้าน เย็นวันนั้นเราทักทาย พูดคุยและทานข้าวเย็นด้วยกันอย่างสนุกสนาน เย็นวันนั้นบ้านของทั้งสองเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะอยู่ไม่ขาด สามีของฟีโอน่าดูเป็นคนใหม่เอี่ยมพูดจามีแต่ความมั่นใจ และมีบุคลิกที่เปลี่ยนไปจากครั้งก่อนมาก เค้าบอกว่าเพิ่งซื้อ พอร์สช บ๊อกสเตอร์ คันที่เห็นจอดอยู่หน้าบ้านเป็นของขวัญวันครบรอบแต่งงานให้กับฟีโอน่า ซึ่งผมก็แสดงความยินดีด้วยที่ชีวิตคู่ยังมีแต่ความหวานแหว๋ว
ผมแอบถามฟีโอน่าอย่างเสียมารยาทว่า ตอนที่จูงแขนสามีไปพบจิตแพทย์นั้น เค้าแนะนำอะไรเหรอถึงได้ทำให้สามีเปลี่ยนไปได้ขนาดนั้น ฟีโอน่าอมยิ้มและไม่พูดอะไรมากเพียงแต่บอกคร่าวๆ ว่าจิตแพทย์เรียกคุยทีละคน พอครบทั้งสองคนแล้วก็ให้พูดคุยพร้อมกันทั้งคู่ในครั้งสุดท้าย
สามีเป็นคนคุยกับจิตแพทย์ก่อน ก็ได้รับคำแนะนำให้มองถึงคุณค่าของคนรัก และเล็งเห็นคุณค่าของเวลาปัจจุบันเป็นหลัก โดยเน้นไม่ให้ยึดติดกับอดีต ส่วนตัวฟีโอน่าเองนั้นก็ได้รับคำแนะนำให้ไปศึกษาวิชา เพื่อความพึงพอใจของสามี ซึ่งหลักสูตรนี้ไม่มีสอนทั่วไป ฟีโอน่าแย้มออกมานิดๆ ว่ามันไม่ใช่การเรียนรู้มารยาร้อยเล่มเกวียนอะไรหรอก แต่เป็นจิตวิทยาลึกๆ ที่ทำให้ชีวิตคู่อยู่อย่างมีความสุขก็เท่านั้นเอง
สุดที่ผมจะหยั่งลึกถึงรายละเอียดจึงได้ลดความพยายามที่จะค้นหาเคล็ดลับไว้ตรงนั้น จึงได้ขอตัวลากลับเมื่อปาร์ตี้โอเว่อร์ ผมเดินออกมาหน้าบ้านแกล้งเดินเฉียดๆ ลูบๆ คลำๆ พอร์สช บ๊อกซเตอร์ อย่างน้อยเพื่อให้รู้สึกสยิวลึกๆในใจ ถึงแม้จะไม่ได้เป็นเจ้าของก็ตาม ก่อนที่จะไปหารถอีแก่ของผมซึ่งจอดรอเจ้าของอยู่ริมถนนหน้าบ้าน พยายามสตาร์ทอยู่สองสามครั้ง จนกระทั่งมันหายงอนเครื่องยนต์จึงติดแล้วพาผมกลับบ้านด้วยความปีติยินดี
มีเรื่องเล่าอื่นๆ อีกนะครับ ถ้าท่านอยากติดตามอ่านเชิญที่ Blog ส่วนตัว คลิกที่ลิงค์นี้นะครับ http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=bigkev&group=1
แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 49 10:20:41
จากคุณ :
K L YUTA
- [
24 เม.ย. 49 10:18:26
]