CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    _ * _ * _ * _ มั่นใจในรัก _ * _ * _ * _

    _ * _ * _ * _ มั่นใจในรัก  _ * _ * _ * _


            ปลายรุ้งเหลือบมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะรวบเก็บงานที่ทำอยู่ จัดโต๊ะทำงานเข้าที่ให้เรียบร้อยก่อนจะคว้ากระเป๋าเตรียมจะกลับบ้าน

            “รีบกลับเหรอรุ้ง ไปช้อปกันไหม นี่ๆ ห้างข้างๆลดแหลกแจกกระหน่ำนะรุ้ง” เสียงนวลมณี...เพื่อนร่วมงานรุ่นพี่คนหนึ่งร้องชวน

            “เออ...ใช่ๆ รุ้ง มันลดมาสองสามวันแล้วล่ะ เราไปช้อปก่อน แล้วไปกินอาหารญี่ปุ่นกันนะ...นะ” นิรชาไถลเก้าอี้เข้ามาขวางหน้า พยักหน้าหงึกหงักเชิญชวนอย่างเต็มที่

            ปลายรุ้งมองเพื่อนร่วมงานสองคนอมยิ้มกับท่าทีลุ้นที่คนหนึ่งเท้าคางจ้องริมฝีปากเธอเขม็ง ส่วนอีกคนที่นั่งบนเก้าอี้แหงนเงยหน้าเลิกคิ้วมองรอเอาคำตอบ

            เธอรู้ดีคำใดคือคำตอบที่ทุกคนรอคอย คำตอบที่ทุกคนคาดหวังก็คงจะเป็น... ‘โอเค  ไปได้เลย รุ้งเก็บของเสร็จแล้ว’ เหมือนครั้งที่ผ่านมา แต่วันนี้เธอมีแผนการบางอย่างที่ผิดแปลกไป

            มีใครบางคนรอเธออยู่ที่บ้าน

            ใครบางคนที่ปลีกตัวจากเพื่อนร่วมก๊วน ปลีกตัวจากงานที่เขาบอกว่ายุ่งนักหนาในช่วงนี้

            “นี่ๆ...อย่าเล่นตัวเลยน่า ฉันไม่ใช่นายทศนะยะ ที่แกจะมาวางท่า วางเชิงน่ะ” ปลายรุ้งหัวเราะเบาๆ ก็ไม่ใช่เพื่อนคนนี้หรอกหรือที่เอ่ยเตือนนักว่าอย่าเผยไต๋ให้ไตรทศรู้ว่าเธอรักเขามากแค่ไหน

            ‘ฉันจะบอกแกนะรุ้ง ผู้ชายร้อยทั้งร้อยบ้าอำนาจ หลงตัวเอง โดยเฉพาะนายทศนั่น ยิ่งรู้ว่าเป็นต่อเท่าไหร่ ยายรุ้งเอ๊ย....แกต้องใช้หัวเข่าเช็ดน้ำตาวันละหลายรอบล่ะ’

            ในช่วงที่เธอเริ่มคบกับไตรทศก็เช่นเดียวกัน นิรชาจะดำรงตนเป็นผู้สื่อข่าว เกาะติดทุกสถานการณ์ ตามทุกความเคลื่อนไหวรายงานบุคคลแวดล้อมไตรทศให้เธอได้รู้อยู่เสมอ ไม่ใช่นักข่าวเดี่ยวซะด้วย แต่มาเป็นทีม

            ‘เขาว่า นายทศนี่เจ้าชู้ เป็นเพลย์บอยอันดับหนึ่งของบริษัทเลยนะแก’

            ‘เขาว่านายนี่มีผู้หญิงมาหาที่บริษัทไม่เว้นแต่ละวัน แล้วมาแบบไม่ซ้ำหน้าเลยนะ’ และอีกสารพัดเรื่องเล่าเขาว่า

            บางเรื่องเธอก็ทำหูทวนลม บางเรื่องก็เก็บมาคิด ทุกข์ใจ กังวลใจ

            “วันนี้ต้องรีบกลับค่ะพี่มณี ทศรอทานข้าว พรุ่งนี้ต้องไปสัมมนาอีกตั้งสี่วัน อีกอย่างวันนี้...” ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบ รติกาเพื่อนรุ่นน้องที่เพิ่งผลักประตูเข้ามาก็วิ่งเข้ามาหา

            “พี่รุ้งๆ เมื่อกี้กาออกไปเจอลูกค้า รู้ป่ะ กาเห็นอะไร” สามสาวคนฟังส่ายหน้าอย่างพร้อมเพรียง

            “แล้วเห็นอะไรล่ะ”

            “พี่ทศไงพี่ นั่งรถไปกับผู้หญิงด้วยสงสัยไปกินข้าว นี่ๆ พอพี่ทศเลี้ยวรถเข้ามาจอดปั๊บลงจากรถปุ๊บวิ่งอ้อมรถมาเปิดประตูเลยนะพี่รุ้ง” ในขณะที่ปลายรุ้งกำลังนิ่งอั้นกับสิ่งที่ได้ยิน สมองกำลังนึกภาพไตรทศผู้เป็นสามีทำกิริยาเช่นที่รติกาเล่า กำลังไตร่ตรองถึงสาเหตุที่สามีของเธอทำ มือของใครบางคนก็คว้าหมับที่ข้อมือเขย่าๆเหมือนเด็กที่กำลังออดอ้อนให้พ่อแม่ซื้อของเล่นให้

            “ไปกับพวกฉันนะแก เห็นมะ นี่แกต้องขอบใจยายกานะ ไม่งั้นแกเอ๊ย....นั่งหง่าวคนเดียวที่บ้าน ส่วนพ่อสามีตัวดีนะเหรอ เหอะ....อ้อนออเซาะอยู่กับผู้หญิงอื่น นะๆไปด้วยกัน แกกลับไปก็นั่งเศร้าอยู่คนเดียว ไปกับฉันเถอะ ไปร้านนั้นก็ได้ ไปให้เห็นกับตาไง เอาให้ตายไปเลย”

            ส่วนหนึ่งในใจก็อยากทำอย่างที่นิรชาบอก หากอีกส่วนหนึ่งก็หนักแน่นพอ ปลายรุ้งจึงได้แต่ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หากข้างในนั้นเธอยอมรับละว่า มันสั่นๆหวิวๆอย่างไรพิกล

            “ไม่ดีกว่านิ ทศอาจจะแวะไปแค่แป๊บเดียว ถ้าทศจะผิดนัด ผิดสัญญาเขาต้องโทร.มาบอกเหตุผล” ก็มิใช่หรือเล่า สองปีที่แต่งงานกันมาไม่ว่าจะมาช้า ไม่มา มาไม่ได้ ไตรทศก็ต้องยกโทรศัพท์ขึ้นมาบอกกล่าวถึงสาเหตุอยู่เสมอ

            “โอ๊ย ! พี่รุ้ง เดี๋ยวพี่ทศก็โทร.มาบอก ติดงานด่วน มีนัดกับลูกค้า ต้องไปแทนเพื่อน สารพัดแหละพี่” รติกาบอกก่อนจะเดินไปยังโต๊ะทำงานของตนเอง เปิดปิดลิ้นชักด้วยสีหน้าหงุดหงิดราวกับเรื่องที่เกิดขึ้นคือเรื่องของเธอเอง

            “ยายรุ้ง ! แกจะโง่ไปถึงไหน ให้นายนั่นหลอกได้ ฉันบอกแกตั้งแต่ก่อนแต่งแล้วว่า...”

            “เอาล่ะ ! เรื่องครอบครัวของรุ้ง ให้รุ้งเขาตัดสินใจเอง” อาวุโสที่สุดในกลุ่มออกความเห็น

            “แหม...แต่พี่มณี จะไม่ช่วยทำให้ยายรุ้งมันหายโง่เลยเหรอ” นิรชาที่ถูกขัดจังหวะค่อนขอด

            “เอ๊ ! พวกนี้นี่ จะกินไหม จะช้อปไหม ไปเก็บกระเป๋า แล้วออกไปรอข้างนอก” นวลมณีหันไปเอ็ดเพื่อนร่วมงานรุ่นน้องก่อนจะหันมายึดแขนปลายรุ้งไว้ผลักให้นั่งลงบนเก้าอี้ บอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง

            “เรื่องจะโง่หรือฉลาด รุ้งต้องเลือกเอง ตรงนี้เนี่ย....คิดให้มากๆก่อนที่จะเชื่อ” คนพูดใช้นิ้วชี้ผลักขมับที่มีไรผมบางๆของปลายรุ้ง

            “รักที่ขาดความมั่นใจก็เหมือนต้นไม้ขาดปุ๋ย ต้นไม้อยู่ได้ไหม อยู่ได้ แต่อาจไม่โตเต็มที่ ดอกอาจไม่สวย ดูแล้วขัดตาขัดใจ ความรักก็เป็นเหมือนกัน ชีวิตพี่พังมาแล้วเพราะคำของคนอื่น พี่ไม่อยากให้ชีวิตรุ้งต้องเป็นเหมือนพี่ ไม่ใช่นิกับกาไม่ดี ใส่ไฟหรอกนะ แต่บางทีความหวังดีที่มีให้เพื่อนมากเกินไปก็ทำให้เขามองแต่ด้านเดียว ทศอาจเป็นเหมือนกาพูดก็ได้ หรืออาจจะเป็นอย่างที่รุ้งเชื่อในตอนนี้ก็ได้ มันต้องวัดใจกัน”

    จากคุณ : อุณากรรณ - [ 25 เม.ย. 49 18:48:32 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป