CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ชินกับชุน ตอน 3

    ตอน 3

    “คุณแม่ๆ วันนี้วันอะไร” ชุนถามแม่ของเขา ขณะกำลังคุยโทรศัพท์
    ดาภาตอบช้าๆ เหมือนกำลังนึกว่า
    “วันนี้เหรอ วันนี้......วันพุธ”
    “โธ่คุณแม่” ชุนทำเสียงอ้อน
    “ วันนี้มีความสำคัญยังไง ไม่ได้ให้ตอบแบบนั้นซะหน่อย”
    ดาภาเข้าใจทันที
    “อ๋อ วันนี้วันเกิดลูก”
    “แล้วทำบุญให้รึยัง” ชุนรีบถามต่อ
    “ถามยังกับตัวเองเป็นเปรตขอส่วนบุญเสียอย่างนั้น” เขาว่าตัวเองแล้วหัวเราะ
    “ทำให้ตั้งแต่เช้าแล้ว” ดาภาบอก
    แล้ววันเกิดของชุน เขาก็ไม่ได้ทำอะไรที่พิเศษไปกว่าวันอื่นๆ ไม่มีใครมาอวยพรให้อีกเลยไม่มีกินเลี้ยง ไม่มีทำบุญอะไรทั้งนั้น แม้แต่เพื่อนรูมเมดของเขาก็ไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเขา แล้วมันก็ผ่านไปเหมือนทุกวัน
    ก่อนนอน ชุนโทรศัพท์คุยกับชินเหมือนทุกครั้ง
    “วันนี้ฉันไปทำงานมาชุน ฉันได้ข้อคิดอย่างหนึ่งจากการทำงานในวันนี้ ว่าเราต้องมีความอดทนในการทำงาน” ชินบ่น ให้ชุนฟังหลังจากที่เขารับโทรศัพท์ชุน
    “ก็ทำงานน่ะก็ต้องใช้ความอดทนอยู่แล้ว” ชุนออกความเห็น
    “ฉันรู้ แต่เมื่อก่อนเราก็แค่รู้ วันนี้ได้ไปยืนจุดนั้นจริงๆ ความรู้สึกมันต่างจากที่เคยคิดไว้มากนะ มันเป็นความรับผิดชอบที่หนักกว่าที่เราเคยพบเจอ อย่างวันนี้ฉันเจอหน้าคนที่ฉันเกลียด มาเป็นลูกค้าในร้าน มันก็ทำท่าเยาะเย้ยฉัน แต่เราทำอะไรเขาไม่ได้ ก็ต้องบริการเขาในฐานะลูกค้าคนหนึ่ง”
    ชุนเข้าใจในสิ่งที่ชินพูด
    “อือ นายก็ทำถูกแล้ว แต่จะให้ดีก็อย่าไปเกลียดเขาเลย นายจะได้ไม่ต้องลำบากใจ”
    “ฉันเคยมีความรู้สึกแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนั้นอาที่เปิดทัวน์อยู่เชียงราย บอกว่าคนขาด ก็ให้ฉันไปช่วย ฉันตื่นเต้นมาก ฟังดูเหมือนเท่นะโว้ย ไปเป็นไกด์ ก็ไม่ได้มีฉันคนเดียวหรอก มีพี่อีกสองคนคอยช่วยบนรถ เราต้องดูแลลูกทัวน์ ทำให้ฉันได้รู้ว่ามันเหนื่อยและหนักเกินไปสำหรับเด็กอย่างเรา”
    เสียงชินถอนหายใจ
    “ชินฉันอิจฉานายจังเลย นายได้ทำอะไรตั้งเยอะแยะมากมาย ฉันอยากทำบ้าง ฉันอยากมีประสบการณ์อย่างนายบ้าง” ชุนน้ำเสียงตื่นเต้น
    “เนี่ยพรุ่งนี้ ฉันจะพัก ไม่ไปเรียนหนึ่งวัน” ชินบอกกับชุน
    ชุนตกใจรีบถาม
    “ทำไมล่ะ”
    เพราะสำหรับชุนแล้วเขามองว่าการเรียนสำคัญมาก การขาดเรียนเพียงแค่หนึ่งครั้งก็ทำให้เราไม่รู้อะไรอีกมากมาย
    ชินบอกด้วยน้ำเสียงที่เหน็ดเหนื่อยเต็มทนว่า
    “ถ้าเราเหนื่อย เราท้อเกินไปเราก็ควรจะพักผ่อน เพราะถ้าเราฝืนทำมันต่อไป มันก็จะทำได้ไม่ดี อย่างพรุ่งนี้จะให้ฉันไปนั่งเรียนโดยที่เราไม่รับ มันไม่ได้อะไรเลย ฉันว่าฉันพักดีกว่า”
    ชุนไม่สนับสนุนให้พี่ชายของเขาขาดเรียนหรอก แต่ไม่รู้จะว่ายังไงดี อีกใจก็เห็นใจชิน เพราะเขาทำงานและเรียนด้วย คงจะเหนื่อยจริงๆ ชุนจึงได้เพียงแต่บอกกับชินว่า
    “ก็แล้วแต่นายละกัน”
    แล้วชินก็พูดเล่นๆ ว่า
    “อย่าเอาอย่างฉันนะ ระวังความขี้เกียจจะครอบงำ” เสียงหัวเราะของทั้งสองดังขึ้นพร้อมกัน
    “ชุน นายเบื่อบ้างมั้ยที่ฉันชอบคุยอะไรก็ไม่รู้ให้นายฟัง คุยเรื่องปรัชญาๆ น่ะ คนอื่นๆ อย่างเพื่อนฉัน มันชอบว่า เฮ้ย แกชอบพูดอะไรก็ไม่รู้ ปรัชญาว่ะ เขาไม่ค่อยฟังฉันพูดกันนะ ฉันเป็นคนรุงรังนะ”
    “ไม่หรอก ฉันชอบฟังนายพูดนะ ไม่ว่านายหรือใครที่พูดแบบนี้ฉันก็ชอบฟัง รู้สึกมันมีสาระดี อย่างผู้ใหญ่ เวลาที่เขาพูด เขาเล่าอะไรให้เราฟัง เล่าถึงประสบการณ์ของเขา ข้อคิด ฉันจะชอบฟัง เหมือนเขากำลังสอนเราน่ะ ยิ่งฉันมีพี่ชายที่ชอบคุยเรื่องแบบนี้ ฉันยิ่งรู้สึกว่าตัวเองโชคดี”
    ชุนบอกไปตามจริง
    “งั้นนายก็ว่าฉันแก่น่ะสิ” ชินแกล้งล้อเล่น
    “ก็แก่น่ะสิ เหอะๆๆ แต่นายน่ะแก่ประสบการณ์ ฉันดีใจนะที่ได้เป็นน้องนาย รู้สึกว่าเป็นความโชคดีของฉันจริงๆ ที่พูดเนี่ย ไม่ใช่เพราะฉันพูดเอาใจนายนะ แต่ฉันคิดอย่างนั้นจริงๆ ที่นายแชร์ประสบการณ์ของนายให้ฉันฟัง ประสบการณ์ที่ฉันไม่มีโอกาสได้สัมผัสเหมือนนาย”
    “ โอ้ ซึ้งๆ น้ำตาจะไหลแล้ว อะไรจะขนาดนั้น”
    เสียงชินหัวเราะ
    “สิ่งที่ฉันคุยกับนายเนี่ย มันก็คือพี่สอนน้อง พ่อสอนลูกเลยอะไรทำนองนั้นแหละ” ชินพูดแล้วเขาก็ขำเสียเอง
    “ความจริงที่ฉันคุยกับนายน่ะ เขายังไม่เรียกว่าปรัชญาซะทีเดียวหรอกนะ ปรัชญาฟังดูมันสูงส่งเกินไป เขาเรียกว่าข้อคิดชีวิต ข้อคิดชีวิตที่ฉันคิดได้ในแต่ละวัน” เขาอธิบาย
    “นี่นายฟังฉันพูดอยู่หรือเปล่า”
    ชินถามเหมือนจะเตือนชุน เพราะเห็นว่าเขาเงียบไปนาน
    “ อือ ฟังอยู่ๆ กำลังตั้งใจฟังนายพูดนั่นแหละ พูดต่อสิ” ชุนบอก
    “ความจริงน่ะฉันก็ไม่ได้โตกว่านายหรืออะไรหรอกนะ แต่นั่นเป็นเพราะประสบการณ์ฉันเร็วกว่านาย ทุกอย่าง! ฉันก็ไม่สามารถจะบอกนายได้ทั้งหมด ฉันก็บอกนายได้ แนะนำได้เท่าที่ฉันทำได้ แต่มันไม่ใช่ทั้งหมด”
    ชินย้ำคำว่าทั้งหมด ชุนฟังชินพูดไปแล้วก็คิดตาม
    “ ทุกคนจะต้องรู้ด้วยตัวเองเหรอ ทุกคนเลยเหรอ” ชุนสงสัย
    “ใช่แล้ว ประสบการณ์จะสอน ทุกคนจะต้องรู้ด้วยตัวเอง ทุกคนจะต้องได้สัมผัสกับประสบการณ์ด้วยตัวเอง”
    ทั้งสองต่างเงียบไป สักครู่ชินก็เอ่ยขึ้น
    “นายเคยเชื่อบ้างมั้ยว่า เวลาที่เราคุยกับใคร คบกับใคร เรามักจะซึมซับดึงดูดเอาบางอย่างของกันกัน หรือคบคนไหนคล้ายคนนั้น อย่างตอนนี้นายกำลังดูดเอาบางอย่างจากฉัน และฉันก็กำลังดูดเอาบางอย่างจากนาย แต่ฉันว่านายน่ะได้อะไรไปจากฉันเยอะเลย อย่างวันนี้ที่เราคุยกันนายก็ต้องได้อะไรจากฉันไปเยอะแล้ว แล้วฉันล่ะ ฉันได้อะไรจากนายเนี่ย ไม่เห็นได้อะไรเลย ได้ความหยิ่ง ความอวดดี โอหัง ความเป็นเด็กจากนายเหรอ นายเอาแต่เงียบฟังฉันพูดนะ” ชินแกล้งว่าชุน
    “ นายไม่เคยได้ยินเหรอ คนฟังมากย่อมได้เปรียบ ฮ่าๆๆๆ”
    “นี่ชุน นายหลอกกอบโกยจากฉันเหรอนี่ ไม่ได้แล้ววันหลังฉันต้องฟังนายพูดบ้างแล้ว”

    จากคุณ : seem - [ 26 เม.ย. 49 09:30:59 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป