CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    เ มื่ อ รู้ ( ว่ า เ ร า ) รั ก กั น _________________________ช้ า เ กิ น ไ ป : ตอนที่ 1/2 (สองตอนจบ)

    คุยกันก่อนค่ะ ^ ^

    เรื่องนี้ออกแนวแปลกๆ และไม่ค่อยเหมือนอย่างที่เคยๆ เขียนค่ะ ชอบไม่ชอบยังไง
    ช่วยแนะนำด้วยนะคะ ^ ^

    ปล. สำหรับเรื่องยาว... รออีกนิ๊ด....นะคะ ใกล้แล้วค่ะ ใกล้จบตอนแล้ว T-T
    พอดีว่าต้องเทสมาธิไปให้กับการรีไรท์นิยายส่งสนพ. ก็เลยต้องทิ้งไว้ชั่วคราวน่ะค่ะ
    ตอนนี้เสร็จแล้ว และกำลังเขียนอย่างขมักเขม้นอยู่เลยล่ะค่ะ ^ ^'

    พูดจบแล้ว...

    ไปอ่านกันเลยค่ะ ^ ^

    *คำเตือน : เรื่องสั้นเรื่องนี้ไม่เหมาะสมกับเด็กและเยาวชน ผู้ปกครองควรพิจารณาอย่างถ้วนถี่ก่อนจะอนุญาตให้อ่าน (แอบอ่านได้ แต่อย่าเอาอย่างนะจ๊ะ)

    ===============================================

    เสียงเครื่องปรับอากาศดังแผ่วๆ พร้อมกับพ่นไอเย็นตามหน้าที่ของมันยังคงเป็นไป
    ตามปกติ แต่ฉันกลับยังลืมตาท่ามกลางความมืดในห้อง ทั้งที่คนข้างๆ ตัวฉันกำลัง
    นอนหลับสบาย...

    แม้ในความมืดสลัวฉันยังเห็นได้รางๆ ว่าเขากำลังยิ้มอย่างเป็นสุข และสมหวัง...
    คล้ายกับเด็กที่ได้เล่นของเล่นสมใจอยาก แต่เขาก็ไม่ใช่เด็ก เพราะเหตุการณ์เมื่อ
    สองชั่วโมงที่ผ่านมายืนยันได้ว่าเขาเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว มีทั้งความต้องการ ความปรารถนา
    เหมือนอย่างมนุษย์ปุถุชนทั่วๆ ไปพึงจะมี และท่ามกลางความอิ่มเอมหลังจากความร้อนแรง
    จากบทรักที่เราได้ร่วมกันสร้างสรรค์ไปหลายต่อหลายรอบ ฉันกลับมีความรู้สึกอย่างหนึ่ง
    ที่เกิดขึ้นในใจ และมันเป็นเช่นนั้นเสมอมาหลังจากที่เราได้สอดประสานแนบแน่นกัน
    แบบนี้...

    ทั้งที่ฉันควรมีความสุขใจและสมหวัง แต่ก็ไม่...

    เพราะผู้ชายคนนี้มีภรรยาแล้ว...

    และฉันเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของเขา...

    และแน่นอนยิ่งไปกว่านั้นคือ ฉันไม่ใช่เมียน้อยของเขา! เพราะฉันเองก็กำลังจะแต่งงาน
    ในอีกหนึ่งเดือนหลังจากนี้... กับผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘คนรัก’ ของฉัน

    แล้วถ้าถามว่า มันเกิดขึ้นได้อย่างไร... ฉันเองก็ไม่อาจจะตอบได้ แต่มันเหมือน
    โชคชะตาเล่นตลก เราต่างเคยคิดกันว่าเราไม่เคยรักกันไปมากกว่าเพื่อน แต่ในคืนนั้น...
    วันที่เราได้พบกันอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานาน เกือบสองปี...

    ************************

    “หายไปเกือบสองปีแกไปทำอะไรมา” นั่นเป็นคำทักทายคำแรกหลังจากที่เราได้พบเจอ
    กันโดยบังเอิญที่ผับแห่งหนึ่ง

    “ก็ทำงาน กินเงินเดือน แล้วก็ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ” ฉันตอบพลางมองแก้ววิสกี้ที่พร่องลงไป
    กว่าครึ่งแก้วแล้ว

    เขาหยิบแก้วเหล้าของฉันมารินเติม แล้วส่งยื่นให้ “แล้วทำไมแกถึงเงียบหายไปแบบนี้
    เพื่อนฝูงมีก็ไม่รู้จักติดต่อ”

    “อยากติดต่ออยู่หรอก แต่มันเปลืองเงินว่ะ”

    เขาผลักศีรษะฉันเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้ “ไอ้บ้า งกไม่เข้าเรื่อง แค่ค่าโทรศัพท์แค่นี้
    ถึงกับสละให้เพื่อนสักบาทสองบาทไม่ได้เชียวเหรอไง”

    ฉันผลักเขากลับ “ถ้ามันบาทสองบาทอย่างแกว่า ป่านนี้ประชาชนบ้านเราคงโทรศัพท์
    ข้ามประเทศหากันจ้าละหวั่นแล้วล่ะมั้ง”

    คำพูดของฉันทำให้เขาชะงัก ก่อนจะขมวดคิ้วมุ่น “เดี๋ยว...หมายความว่ายังไง ฉันไม่เก็ท
    ที่แกพูด”

    “ฉันไม่ได้อยู่เมืองไทย”

    “แล้วแกไปอยู่ที่ไหนมา?”

    “อเมริกา”

    “ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

    “ตั้งแต่แกแต่งงาน”

    “เฮ้ย! แล้วทำไมถึงไม่บอกกันบ้างเลยล่ะ” เขาทำท่าเดือดร้อน

    “ก็พอดีทางโน้นเขาตอบรับมากะทันหัน แล้วมันก็วุ่นวายเสียจนฉันไม่ได้บอกใคร”
    ฉันบอกความจริงแก่เขาไปเพียงแค่ครึ่งเดียว เพราะความจริงทั้งหมดก็เป็นเพราะว่า
    ฉันไม่อาจจะทนได้ที่เห็นเขาแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น และมันก็เจ็บปวดเกินกว่าจะ
    ยอมรับความจริงว่า...

    เขาไม่ได้รักฉัน...

    “แม้แต่ฉันแกก็ไม่บอก... ทำแบบนี้ฉันเสียใจนะเว้ย”

    ฉันมองท่าทางผิดหวังของเขาด้วยสีหน้าเฉยชา... ทั้งที่ในใจแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่า
    ด้วยท่าทางแบบนั้น หมายความว่าเขาไม่อยากให้ฉันไปไกลห่างเขาอย่างนั้นเหรอ?

    “บอกแกแล้วแกจะตามไปอยู่กับฉันรึไง เดี๋ยวเมียแกก็มาแหกอกฉันตายหรอก”

    เขาหัวเราะ “หึ... ไอ้บ้า แจงเขาไม่ใช่ผู้หญิงโหดร้ายอย่างแกหรอก”

    “เออ... ใช่ซี้... ฉันมันผู้หญิงไม่อ่อนหวาน ไม่น่ารัก น่าทนุถนอมอย่างน้องแจงนี่นา”
    ฉันแกล้งประชดเขา

    “รู้ตัวไว้ก็ดี” เขายักคิ้วใส่ฉันแบบกวนๆ เหมือนทุกคราวที่รู้ว่าแกล้งให้ฉันโมโหได้
    ก่อนจะยกแก้วเหล้าของเขามาชนกับแก้วของฉัน

    “แล้วแกกลับมาอยู่ที่นี่แล้วเหรอ?”

    ฉันส่ายหน้า “เปล่า... เดี๋ยวเดือนหน้าฉันก็จะกลับไปแล้ว”

    “แล้วแกจะกลับมาอีกเมื่อไหร่?”

    “ไม่รู้สิ... บางทีอาจจะไม่ได้กลับมาเลยก็ได้”

    “เฮ้ย! หมายความว่ายังไงวะ?” เขาทำท่าเดือดร้อนขึ้นมาอีกครั้ง และฉันก็แอบคิด
    เข้าข้างตัวเองอีกแล้ว... มันน่ายินดีที่ได้เห็นท่าทางแบบนั้นของเขา แต่มันก็กลายเป็น
    เรื่องเศร้ากับประโยคต่อมาที่ฉันพูดออกไป

    “ฉันกำลังจะแต่งงาน”

    เขานิ่งงันไปครู่หนึ่งจนฉันเห็นแววตาผิดหวังและอีกหลายๆ ความรู้สึกที่ฉายออกมาจาก
    ดวงตาของเขาได้

    “...เหรอ กับใครล่ะ?”

    “ก็แฟนฉันน่ะสิ” คำตอบของฉันเหมือนกับการตบให้เขากลับมาในร่องในรอยเดิมอีกครั้งหนึ่ง

    “เออ... อันนั้นน่ะฉันรู้แล้ว ว่าแกไม่ไปแต่งกับแมวที่ไหนหรอก แต่ฉันอยากรู้ว่าเจ้าบ่าว
    ของแกน่ะเป็นใคร”

    ฉันแค่นหัวเราะ... “แกไม่รู้จักเขาหรอก”

    เขาหรี่ตามองฉัน “เป็นฝรั่งอย่างนั้นเหรอ?”

    ฉันพยักหน้า

    “แล้วรู้จักกันได้ยังไง?”

    “แกไม่ใช่พ่อฉันนะเว้ย จะได้มาเล่นเกมยี่สิบคำถามกับฉันแบบนี้น่ะ” ฉันแกล้งทำท่า
    โมโหฉุนเฉียวใส่เขาไป ทั้งที่จริงๆ แล้วฉันแอบบดบังความหวั่นไหวที่เริ่มทบทวีในใจ
    มากขึ้นเรื่อยๆ ต่างหาก

    “แล้วฉันไม่มีสิทธิ์รู้เลยหรือไงว่า คนที่จะมาแต่งงานกับแกเป็นใคร... อย่างน้อยแกก็เป็น
    เพื่อนสนิทของฉันนะเว้ย”

    คำว่า ‘เพื่อนสนิท’ เหมือนลูกธนูที่พุ่งเข้าปักอกฉันอย่างจัง แต่ในที่สุด ฉันก็ต้องยอมเล่า
    ให้เขาฟัง

    “ก็รู้จักกันตอนทำงาน... เขาเป็นลูกค้าของบริษัท เกิดถูกใจกันเข้าก็เลยคบกันมาเรื่อยๆ
    พอเขาขอแต่งงานฉันก็เลยตกลง”

    “แล้วแกรักเขารึเปล่า?” เขาถามพลางจ้องตาของฉันราวกับจับผิด

    สายตาของเขาเป็นสิ่งที่ฉันทนไม่ได้มาตั้งแต่แรก และยิ่งมองด้วยสายตาแบบนี้...
    แบบที่ต้องการคาดคั้นเอาความรู้สึกบางอย่างที่ฉันแอบซ่อนไว้ในใจ ก็ยิ่งยากที่จะจ้องตอบ
    เพราะถ้าหากทำเช่นนั้น เขาคงจะรู้แน่นอนว่าฉันรู้สึกเช่นไรกับเขา...

    ฉันแกล้งเบือนหน้าหันไปมองทางอื่น “ก็คงงั้น...”

    และเมื่อฉันหันกลับมามองเขาอีกครั้ง แววตาแบบนั้นก็หายไปแล้ว เขาส่งยิ้มให้กับฉัน
    แล้วยกแก้วมาชนอีก

    “ถ้าอย่างนั้นฉันก็คงต้องขอแสดงความยินดีล่วงหน้าให้กับแกล่ะสิ”

    “ขอบใจ”

    แล้วบทสนทนาของเราก็เปลี่ยนหัวข้อไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นความเป็นอยู่ของฉันตอนไป
    อยู่ที่อเมริกา หน้าที่การงานที่รับผิดชอบ และเรื่องสัพเพเหระ โดยเราทั้งคู่เลือกที่จะ
    ไม่กล่าวถึงทั้ง ‘ภรรยา’ ของเขา และ ‘คู่หมั้น’ ของฉันอีกเลย...

    “แล้วแกมาที่นี่ยังไง เอารถมา?” เขาเอ่ยถามฉันหลังจากที่เรากำลังจะเดินออกจากผับ
    แห่งนั้น

    ฉันส่ายหน้า “เปล่า... นั่งแท็กซี่มา รถยนต์ฉันเอาให้น้องกลับไปใช้ที่เชียงใหม่ตั้งแต่
    ย้ายไปอยู่โน่นแล้ว”

    “เฮ้ย ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวไปส่ง”

    ฉันโบกมือห้ามเขาพัลวัน “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวนั่งแท็กซี่กลับเองก็ได้ เดี๋ยวเมียแกจะคอย”

    “จะบ้าเหรอ แกเป็นผู้หญิงนะเว้ย กลับแท็กซี่ดึกๆ ดื่นๆ อันตรายจะตาย ให้ฉันไปส่งน่ะดีแล้ว”

    ฉันยังยืนยันคำตอบเดิม “ไม่เอาล่ะ ฉันเกรงใจเมียแก ป่านนี้คงรอแกแย่แล้วล่ะมั้ง”

    เมื่อเห็นท่าทางยืนกระต่ายขาเดียวของฉันแบบนั้น เขาก็ลากแขนฉันไปโดยไม่ทัดทาน
    คำปฏิเสธของฉันสักนิด...

    “ฉันไม่ปล่อยให้แกกลับไปคนเดียวหรอก แล้วอีกอย่าง...ไม่ต้องห่วงเรื่องเมียฉัน
    เพราะเขาไปทัวร์กับบริษัท กว่าจะกลับก็ปลายเดือนโน่น”

    *************************

    สุดท้าย... ฉันก็นั่งอยู่ในรถของเขา รถยนต์ยูเอสวีสีดำคันใหม่ที่เขาคงจะเพิ่งซื้อมา
    เพราะมันไม่ใช่รถเก๋งแบบซิตี้คาร์คันเก่งที่เขาเคยใช้ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย
    จนกระทั่งก่อนเขาแต่งงาน

    “แกพักอยู่ที่ไหน” เขาหันมาถามฉันหลังจากที่ออกตัวรถมาบนถนนแล้ว

    “ที่เดิม” ฉันตอบเขาง่ายๆ ก่อนจะเบือนหน้าหันไปมองภาพสองข้างทางข้างนอก
    ส่วนเขาก็หยินแผ่นซีดีเพลงมาเปิดคลอเบาๆ

    เราเงียบกันไปอยู่ครู่ใหญ่ จนกระทั่งจู่ๆ เขาก็เอ่ยขึ้นมาก่อน

    “ถามจริงๆ เถอะนะ แกคิดยังไงถึงมาที่นั่นคนเดียว” สถานที่ที่เขาพูดถึงก็คือผับแห่งนั้น
    จริงๆ แล้วมันเป็นผับที่เราทั้งสองคนและเพื่อนอีกหลายๆ คนมาเที่ยวกันเป็นประจำตั้งแต่
    ก่อนเขาแต่งงาน

    ฉันถอนใจแต่ก็ไม่ได้ตอบคำถามของเขา จนเขาผลักไหล่ฉันเบาๆ เป็นการเตือนว่าเขา
    รอคำตอบจากฉันอยู่

    “ก็มันว่างๆ แล้วก็นอนไม่หลับ เลยอยากหาเหล้ากินให้นอนหลับสบาย” ฉันตอบเขาไป
    แบบนั้น ทั้งที่ความจริงคือฉันกำลังคิดถึงเขาต่างหาก

    “ไม่ใช่ว่าคิดถึงฉันเลยไปที่นั่นหรอกเหรอ?” คำถามที่เหมือนกันนั่งอยู่กลางใจทำให้ฉัน
    กระตุกวาบในใจทันที

    “ไอ้บ้า! ไอ้หลงตัวเอง ใครจะไปคิดถึงแกวะ?” ฉันปฏิเสธเขาไปอย่างรวดเร็ว แม้ว่าตอนนี้
    ในใจกำลังเต้นระรัวด้วยความหวั่นไหวก็ตาม

    เขาหัวเราะ แล้วเงียบไปพักหนึ่ง จนกระทั่งเขาเลี้ยวรถเข้าไปในที่จอดรถของคอนโดมิเนียม
    ของฉัน เราต่างก็ยังไม่เอ่ยเอื้อนอะไรออกมา และฉันเองก็ยังไม่ลงจากรถ เสียงเพลง
    แบบฟังสบายหูยังคงทำหน้าที่ของมัน แล้วจู่ๆ ฝนก็เทลงมาราวกับฟ้ารั่ว

    เสียงของฝนที่เทกระหน่ำลงมาดังจนมากจนแทรกเข้ามาในรถได้ เขานั่งเอาคางเกย
    พวงมาลัยแล้วถอนใจ

    “แล้วแกอยากรู้มั้ย ว่าฉันไปที่นั่นทำไม?”

    “ฉันจะไปรู้กับแกเหรอ บางทีแกอยากจะปล่อยผีหลังจากที่เมียแกไม่อยู่บ้านก็ได้”
    ฉันตอบเขาโดยสายตาจับจ้องมือทั้งสองข้างที่ประสานกันแน่นบนหน้าตัก

    เขาหันมามองหน้าฉันตรงๆ “แกไม่อยากรู้จริงๆ น่ะเหรอ?”

    “ไม่”

    “โอเค้...” เขาพิงพนักเบาะรถแล้วถอนใจอีกรอบ “ไม่อยากรู้ก็ไม่บอกล่ะ”

    ฉันหัวเราะหึกับท่าทางของเขา แล้วขยับจะเปิดประตูรถ “ถ้าอย่างนั้นฉันไปก่อนล่ะนะ…”
    แต่ฉันก็ชะงักค้างไว้แบบนั้นเมื่อมือของเขาคว้าหมับที่ข้อมือของฉัน

    “ให้ฉันไปส่งแกที่หน้าห้องนะ…”

    **************************

    ฉันควรปฏิเสธเขา แต่ฉันก็ไม่ได้ทำ...

    และเขาก็ยังยืนอยู่หน้าห้องพักของฉัน พร้อมกับฉัน...

    “ขอบใจนะที่มาส่ง” ฉันพูดแค่นั้นแล้วไขกุญแจเปิดประตูห้อง

    “ขอให้โชคดี...” เขาพูดเพียงแค่นั้นก่อนที่ฉันจะปิดประตูห้อง... เมื่อประตูปิด ฉันจะทิ้ง
    ทุกสิ่งระหว่างเราไว้เบื้องหลัง และเดินหน้ากับความรักครั้งใหม่...

    แต่การทิ้งอะไรสักอย่างมันไม่ง่ายแบบนั้น ถ้าเราไม่ได้รู้สึกกับมันไปเพียงแค่ด้านเดียว...

    ฉันอุทานเบาๆ ด้วยความตกใจเมื่อเขาใช้มือแทรกประตูที่กำลังจะปิดลง ฉันเปิดประตู
    ออกกว้างเพื่อมันจะไม่ได้งับมือเขา

    เขาเดินเข้ามาในห้องของฉัน และปิดประตูห้องเสียเอง...

    “ไม่อยากรู้จริงๆ น่ะเหรอ ว่าฉันไปที่นั่นในคืนนี้ทำไม” เขาเอ่ยถามพร้อมกับเดินเข้ามา
    ประชิดตัวฉัน

    ฉันถอยห่างเขาโดยอัตโนมัติพลางส่ายหน้า “ฉันไม่กล้าที่จะรู้...”

    “แต่ฉันอยากบอกให้รู้” เขากระซิบข้างๆ หูฉัน ลมหายใจที่ปัดเป่าตรงนั้นทำให้ฉัน
    ปวดปลาบในอก

    ฉันก้มหน้างุดแล้วยกมือขึ้นดันอกเขาทันทีที่วงแขนแข็งแรงของเขาโอบกอดฉันไว้
    “อย่าทำแบบนี้... มันไม่ถูกต้อง”

    แม้ฉันจะพูดไปแบบนั้น เขาก็ยังคงไม่ปล่อยฉัน “ฉันไปที่นั่นเพื่อไปหาคำตอบอะไร
    บางอย่างที่ฉันสงสัยมานาน แต่ไม่นึกว่าฉันจะได้เจอคำตอบในวันนี้”

    ฉันเงยหน้ามองเขาด้วยความสงสัย “คำตอบอะไร?”

    เขาใช้มือเชยคางให้ฉันสบตากับเขา สิ่งที่สะท้อนอยู่ในดวงตาของเขาทำให้ฉันรู้ตัวว่า...
    ฉันตัดใจจากเขาได้ลำบากมากขึ้นกว่าเดิมร้อยเท่า... แต่ก็ไม่เทียบเท่ากับสิ่งที่เขาจะพูด
    ต่อไปนี้แม้แต่น้อย!

    “คำตอบที่บอกว่า ฉันไม่รู้ตัวเลยว่าฉันรักแกน่ะสิ”

    ***********************

    จากคุณ : ตัว(Z) - [ 28 เม.ย. 49 10:55:23 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป