ความคิดเห็นที่ 1 กระทู้เดิม  อาศรมชาวโคลง ภาค ๑๖๔ ๏ ๏ ๏ ลีลาโคลง ๏ ๏ ๏ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4283851/W4283851.html ************************************************************************   ความคิดเห็นที่ 97   ครูหนอนฯจรแวะด้วย ล่ะหรือ? ยินแค่เสียงร่ำลือ เนิ่นแล้ว ข้าน้อยประณตมือ น้อมจรด ครูท่านอย่าได้แคล้ว คลาดร้างห่างไป๚ เคารพครูหนอนสุราในตำนานครับ ผมมาไม่ทันยุคเก่าๆ ขอฝากตัวเป็นศิษย์ด้วยคนนะครับ จากคุณ : โกฏิดารา (โกฏิดารา)  - [ 28 เม.ย. 49 00:05:50 ] ************************************************************************ ความคิดเห็นที่ 98   กราบครูหนอนขอรับ............... ๏มโน มนัสน้อม                    กราบกร   แขน อ่อนอ้อนครูหนอน          ประพจน์แว้ว ดวงใจ จักรกลกลอน                  คุรุกาพท์   เกียรติศักดิ์  ท่านแพร้ว          เพริศพริ้งพรรณา๚ ดีใจจังขอรับ........................ จากคุณ : จันทร์แห้ง  - [ 28 เม.ย. 49 06:35:46 ]     ************************************************************************ ความคิดเห็นที่ 99   หนอนสุรามะแว้ว........ดีใจ หะโหน่งโยงว่องไว.....ยักเยื้อง สามช่าชะช่าไช.........ชอนโสต ยกสุราครบเขื้อง........ขู่ให้ครูดื่ม กินเพลืน (อิอิ) บารนีฯ แหะ แหะ ขอรับ กราบ ครูหนอนฯงาม ๆ แนบตักอุ่น ๆ แบบหยิวแลหยอง ขอรับ แหะ แหะ กระป๋ม มารายงานตัวด้วย โคลงเคลง เช่นเคย ขอรับ แหะ แหะ ขอรับ สวัสดี ขอรับ จากคุณ : นายทิวา   - [ 28 เม.ย. 49 14:08:53 ]     ************************************************************************ ความคิดเห็นที่ 100   เย้ ๆ ครูหนอนฯ กลับมาแล้ว   ศาลาไทยดีใจจัง  มานั่งเป็นเด็กแถวหน้าสายตาสั้นอย่างเดิม เขียนโคลงไว้ตั้งแต่ตอนสาย แต่โพสต์ไม่ทัน  เพราะต้องรีบแจ้นไปประชุมเพิ่งกลับมา ศาลาไทย  มาค่ะ ๏ ครูคะหนูนั่งหน้า               เหมือนเคย หนอนย่อมไม่หยุดเฉย         แน่วเน้น สุจิปุลิเฉลย                            เชิงปราชญ์ ราละชั่วคราวเว้น                 ใช่ร้างทางกวี ๚ ป.ล. กระทู้หน้าขอเป็นอาศรมฯ ตอน  "รำลึกตำนานอาศรมชาวโคลง"   ก็แล้วกันนะคะ - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -                           . จากคุณ : ศาลาไทย (salathai)   - [ 28 เม.ย. 49 14:21:15 ] ************************************************************************ ความคิดเห็นที่ 101   .                                     สวัสดีครับทุกท่าน หวาว... เจอตัวท่านแล้ว        ท่านครู ที่เหล่าพี่น้องชู                   แซ่ซร้อง บทตะละบทเคยดู               เคยอ่าน เป็นตำนานขานร้อง             ผ่านห้องอาศรม ฯ ในที่สุดก็ได้เจอ ท่านครู ของพวกพี่ๆ ขอรับ ฮี่ๆ ดีใจ ตอนแรกอ่านชื่อ แล้ว แปลกใจต้องกลับ อ่านซ้ำหลายเที่ยวเลย ใช่จริงๆด้วยครับ แถมมาด้วยปริศนา ในบาทสาม ใช้เสียงต่ำเป็นเอก ใช่ไหมครับ แต่ระหว่าง เสียงสามัญ ที่มีตัวสะกด กับที่ไม่มี อันไหนต่ำกว่า หรือเท่ากัน ขอรับ ไม่รู้ว่า ครูหนอนฯ จะมาอยู่นานไหมแต่สบช่องถามครับ เพราะเคยเห็นเล็กเฉ้อเกี่ยวกับการผันเสียง แต่ไม่ได้ บอกเพิ่มเติมเรื่อง ตัวสะกดในคำเป็น ฮับ เอ.. หรือว่าอ่านไม่ถ้วนก็ไม่รู้ครับ เซ่อ... น้อมบันทึก ------------------------------------------------------ จากคุณ : xers   - [ 28 เม.ย. 49 14:37:20 ]     ************************************************************************ ความคิดเห็นที่ 102   หนอนสุราหายน้องเหี่ยว   หลายปี พลันกลับมาหทัยทวี       แสด่วแห้ว เสียงโคลงในหัวหนี        ช่างเหอะ ขอแค่เสียงครูแจ้ว         อยู่จ้ออย่าหาย มาเพิ่มอีกบท (ไม่ได้แต่งนาน - ลิเกไปหน่อย .. แฮ่ๆ) ครู  คอยเสกวิชชุเรื้อง  ตำรับ โคลงแฮ หนอน  สู่ผีเสื้อนับ       พ่อสร้าง สุ  ริยจันทร์พยับ        แสงเทียบ รา  หุต้องโคลงอ้าง     สว่างด้วยโคลงครู ดช.หมี มาค้าบบบ ..   จากคุณ : หมีเซอะ   - [ 28 เม.ย. 49 15:42:50 ] ************************************************************************ ความคิดเห็นที่ 103   สาดแสงโสมส่งให้       น้องจันทร์ หนอนสุรามิทัน           รับไว้ จำปูนเพิ่งผลิผลัน        ผลุบโผล่ คำนับสุราให้              ฝากไว้ช่วยเกลา ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ คงจะมีโอกาสได้ฝึกฝนกับครูด้วยคน จากคุณ : จำปูน (อ่างหยก)  - [ 28 เม.ย. 49 16:14:29 ]     ************************************************************************ ความคิดเห็นที่ 104 พอเห็นชื่อครูหนอนฯ ทำให้คิดถึงบรรยากาศเก่า ๆ เมื่อหลายปีก่อน จำได้ว่าตัวเองเพิ่งเรียนจบ  เข้าทำงานใหม่ ๆ แต่ว่างเป็นไม่ได้ แว้บเข้าอาศรมฯ ทุกที ดูเหมือนอาการอย่างว่าจะถามหาเอาอีกรอบก็วันนี้แหละ เอิ้ก ๆ "หนอน  สู่ผีเสื้อนับ       พ่อสร้าง"         อ่านแล้วซูฮกให้อย่างเคยเลยพี่หมี  ศาลาไทยยกเบียร์สามเหยือกคารวะเลยเจ้าค่ะ - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -                           . จากคุณ : ศาลาไทย (salathai)   - [ 28 เม.ย. 49 16:44:38 ] ************************************************************************ จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 28 เม.ย. 49 17:03:55 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แวะมาอ่านอย่างเดียวค่ะ แบบว่า.. แอบฟังคนของอาศรมคุยก็คุ้มแล้ว ^__^ จากคุณ : สีน้ำฟ้า - [ 28 เม.ย. 49 17:16:11 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ครูหนอนมาเบิ่งแล้ว............สาดเลย น้ำท่าจะระเหย..................หมดแล้ว เฝ้ารอจดใจเรย.................ขอบอก จักสาดอวุโสแกล้ว..............แห่งห้องอาศรมฯ แหะๆๆๆๆ กราบนมัสการเฮ้ยสวัสดีครูหนอนเจ้าค่ะ กรวีหายเป็นช่วงๆ หุหุหุ พอดีมีภาระกิจนิดหน่อย ประกอบกับเขียนโคลงมะออกด้วย แหะๆๆๆ จากคุณ : กรวี (กรวี) - [ 28 เม.ย. 49 17:31:46 ]

ความคิดเห็นที่ 4 รัม   มี่ตีโง่ด้วย               แหม่มดำ  กระนั้นฤๅ ลึก  ลับรู้โดยสำ             รวจล้วน ตำ   ซั่วตำส้มตำ            ตำมั่ว ฤๅแม่ นาน ย่อมเนื้อแหลกห้วน  ห่อนรู้กรอบหวาน อา   หารโคลงจากน้ำ       มือหมี สม  บ่มมาหลายปี           ชักเปรี้ยว ชาว บ้านบ่นทุกที            ว่าบูด โคลง บูดบูดเบี้ยวเบี้ยว     ศิษย์บื้อสบายเสนอ กลับบ้านแระค้าบบบ .. จากคุณ : หมีเซอะ - [ 28 เม.ย. 49 17:47:08 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แวะมาอ่าน และมาคิดถึง...ค่ะ จากคุณ : จูนิ (จูนิตา) - [ 29 เม.ย. 49 00:32:58 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ง่า มาไม่ทัน คำนับ นวดแข้ง นวดขา คุณครูหนอนสุรา งั้น ขอตามมาคำนับต่อ นะขอรับ ดีใจ จริง ๆ ขอรับ น้ำตาแทบไหล ( ฮิ ฮิ ) ขอเป็น ด.ช. พิราบเงิน มาคร้าบบบบบบบบบบบ จากคุณ : พิราบเงิน - [ 29 เม.ย. 49 00:38:28 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ว้าวๆๆ! ทายาท คนนี้ คิดถึงชะมัดเลยค่ะ พี่หนอน เจ้าขา จากคุณ : แป้งร่ำ (เอ็นจัง) - [ 29 เม.ย. 49 00:40:45 ]

ความคิดเห็นที่ 8 #4 คุณหมีเซอะ รำ(รัม)   มี่ตีโง่ด้วย           แหม่มดำ  กระนั้นฤา ลึก        จ่ายรอบวงทำ      ม่ายด้ายยยยยยย......   ตำ         ราบอกชี้นำ        อมอยู่ นาน       จั่วใบสุดท้าย      ค่อยทิ้งออกมือ หุๆๆๆๆๆ จากคุณ : โกฏิดารา - [ 29 เม.ย. 49 01:03:33 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เดือนดาวคราวหม่นฟ้า............................ฤาหาย   ยังอยู่คู่เคียงกาย...................................คู่ฟ้า ดั่งแสงสุริยะฉาย...................................คงอยู่  เสมอเฮย   เพียงแค่หมอกบังข้า..............................โศกเศร้าใจหมอง จากคุณ : กรวี (กรวี) - [ 29 เม.ย. 49 13:04:26 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เพ่งมองใช่แค่เพี้ยง.........ผิวเผิน มองลึกยิ่งไกลเกิน..........เก็บได้ ความจริงแค่เพียงเดิน......วนอยู่ คิดว่าคงอยู่ใกล้..............จึ่งก้าวเดินหลง แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 49 13:30:24 จากคุณ : กรวี - [ 29 เม.ย. 49 13:20:42 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มองฟ้าให้ยิ่งร้าว................ใจหมอง เสียงลั่นดังคะนอง...............สั่นสะท้าน ฟ้ามืดแต่ยังมอง.................ยังสว่าง ฝนตกแดดออกจ้าน.............รูปเพี้ยงมายา จากคุณ : กรวี - [ 29 เม.ย. 49 13:41:19 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นชื่อครูหนอนแล้วรีบเข้ามาคารวะ อยากบอกว่า คิดถึงครูหนอนอยู่เสมอ หวังว่า ครูหนอนจะมีเวลาเข้ามาเป็นเสาหลัก ผลักดันวิชาโคลงให้เดินไปข้างหน้าเหมือนเดิม ดีใจจริงๆ จากคุณ : . (Ar@p) - [ 29 เม.ย. 49 17:37:25 ]

ความคิดเห็นที่ 13 .                                                          สวัสดีครับ รัม มี่ตีออกแล้ว            สเปโต ลึก ฉีกกระเป๋าโชว์        จ่ายเกลี้ยง ตำ ราบ่หัดโอ...            อนาถนัก เรานา นาน ยิ่งมีนกเอี้ยง         กระโดดร้องบนเขา ฯ หว๋าย... เผลอตีสเปโต จ่ายรอบวง ขออภัย กลับไปอ่านอีกที่ ความคิดเห็นครูหนอน มี เรื่องตัวสะกดด้วย สะเพร่าและไม่รอบคอบจริงๆ เหอ เหอ. เซ่อเหมือนชื่อแฮะ เซ่อ... น้อมบันทึก ----------------------------------------------------------- จากคุณ : xers - [ 29 เม.ย. 49 18:40:20 ]

ความคิดเห็นที่ 14 หนอนสุราวิเศษสร้อย                  วรรณศิลป์ โคลงเก่าเคยลือยิน                     เฟื่องฟ้า โคลงใหม่ใหม่กวิน                      เริ่มหน่าย ท่านสิสอนศิษย์กล้า                    สนุกร้อยโคลงดี ฯ จากคุณ : พิราบเงิน - [ 29 เม.ย. 49 23:19:26 ]

ความคิดเห็นที่ 15 โดราเอม่อนน้อย...........แสนกล โนบิตะเพื่อนซน.............แน่นแฟ้น ชิซูกะอีกคน................พ้องร่วม ทุกข์แม่ ซูเนะโอะไจแอ้น...........อดีตย้อนคิดถึง จากคุณ : {``-_-}{-``-}{-_-``} - [ 30 เม.ย. 49 00:10:13 ]

ความคิดเห็นที่ 16 นายเจ ชอบเหมือนเราเรยอ่ะ โดราเอม่อน โนบิตะ ซิซุกะ ซูเนโอะ ไจแอ้น 555 ชอบจาย สงสัยเจอรุ่นเดียวกานซะแระ หุหุหุ ไปนอนละน๊า.. จากคุณ : กรวี (กรวี) - [ 30 เม.ย. 49 00:15:19 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ศาลาไทยหายไปวันสองวัน  ไม่เห็นครูหนอนฯ  แต่เห็นพี่ ๆ ตั้งวงรัมมี่กันซะแล้ว อาศรมฯ วันดีคืนดีก็มีวงสุรา  คืนล่วงวันผ่านก็มีวงรัมมี่  เอิ้ก ๆ มีชื่อครูหนอนสุรานำทัพ  เลยได้เห็นชื่อพี่น้องอีกหลายท่านกลับมาเยี่ยมเยียนกัน คุณอาจันทร์แห้ง    พี่ชายนายทิวา    คุณจำปูน (อ่างหยก)    พี่สีน้ำฟ้า พี่กรวี    พี่หมีเซอะ    พี่จูนิ    พี่พิราบเงิน    พี่แป้งร่ำ-เอ็นจัง    คุณโกฏิดารา เกลออาพี - Ar@p    พี่ xers    นายสามหน้า - {``-_-}{-``-}{-_-``}    และท่านอื่น ๆ โอย... คิดถึงลุงเล็ก  เฮียคัมภีร์ฯ  พี่แดงน้อย  พี่ยุตา  และอีกหลายคน  จุดธูปดีกว่า อิ ๆ ทักทายสวัสดีทุกท่านพร้อมกันทีเดียว  ตามประสา หนู ศ. โซดาซ่า  (ที่ชอบอู้ตอบกระทู้) แวะมาทักทายแล้วก็แอบหนีเที่ยวอีกคราว  ดูเหมือนกรุงเทพฯ  จะเริ่มร้อนอีกแล้ว   ...เฮ้อ... ๏ ร้อนเพราะคงอยู่ใกล้          ชิดเกิน ถอยห่างเพื่อเธอเพลิน            อื่นบ้าง ทบทวนสิ่งเลือกเดิน                ทางยาก เอื้อมจับกลับคว้าคว้าง           ย่อมรู้อยู่เดียว ๚ ป.ล. เจ้าเจสามหน้าโคลงโดราเอม่อนนายเจ๋งจริง ๆ อ่านแล้วยิ้มถูกใจ เอิ้ก ๆ - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -                      . จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 30 เม.ย. 49 12:39:29 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อาศรมโคลงเก่าชี้                ชวนชม ครูเก่าอวดคารม                  ช่อชั้น ศิษย์ตามต่างเหมาะสม         เติมต่อ กาลก่อนเรียนหลายขั้น         ค่อยสร้างอาศรม จากคุณ : เจียวต้าย - [ 30 เม.ย. 49 14:05:14 ]

ความคิดเห็นที่ 19 รำ มะนาปี่ฆ้อง                           ระนาด ลึก สุดอารมณ์กราด                    คระครื้น ตำ แหน่งออกรสชาติ                  ทุกกระหยับ นาน เนิ่นเสียงรัวขึ้น                    ป่าวร้องยินดี อา การปีติสร้าน                          นั้นนา ศรม รับหนอนสุรา                      พรั่งพร้อม ชาว เราขยันหา                         เหล้ากับ โคลง เสริฟแขกเหรื่อค้อม           ต่างยิ้มสุขใจ ฯ จากคุณ : พิราบเงิน - [ 30 เม.ย. 49 23:00:54 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อยากเจอพี่หนอนนนนนนนนนนนนนนน ยู้ฮู !!! พี่อยู่ไหนอ่ะ มาเลี้ยงเหล้า น้องด่วนนนนนนนน จากคุณ : เอ็นจัง - [ วันแรงงาน 01:26:35 ]

ความคิดเห็นที่ 21 กราบสวัสดีทุกทั่นขอรับ ๏ ๏ ๏ รำลึกตำนานอาศรมชาวโคลง ๏ ๏ ๏ รัม   เหล่าเฮาดื่มแล้ว    สบายหลาย หลายฮา ลึก  รสอำมฤตคลาย      เครียดคล้อง ตำ   รากาพย์บ่หาย            ถนอมอยู่ นาน  ยิ่งหวานรสซร้อง    ลึกซึ้งความหมาย อา   รามอร่ามรุ้ง                  รุจี สม  โภชฉลองเฉลิมศรี      สวัสดิ์สร้าง ชาว ไทยถ้วนวิถี                  ศาสน  สุขแล โคลง บ่งเจตคิดบ้าง           บ่ร้างมิตรหมี เซอะฮา ******************************** กระผมสังเกตุว่าจะนั่งเขียนโคลงสักบท.... จำเป็นต้องทำอารมณ์สุนทรีย์สักเล็กน้อยก่อนเสมอ........ อย่ากระนั้นเลยขอชักชวน...ชาวเรา มาร่วมสุนทรีย์รำลึกกันเสมอๆเถิดครับ ...........๏๏๏สุนทรีย์รำลึก๏๏๏................ สุนทรียภาพเพี้ยง               พลประไพ งามงดหมดจดวัย               สะรุ่นจ้อง เธอสวยบาดโดนใจ           ใคร่จีบ นั่งนั่งลุกลุกร้อง                       เรียกให้นุชเหลียว สถานีขนส่งสร้าง                ประสพเธอ หมอชิตฉันละเมอ               รักแว้ว ยืนมองเหล่จนเผลอ             หลงเสน่ห์ อ้าปากตาค้างแล้ว               บ่รู้จะทำ ไฉนนา....แห้วเอย หลังจากสุนทรียรำลึกแล้วก็ให้นึกถึงเพื่อนผอง ******พี่จำปูน.....โดดเรียนอีกแล้วครับ.......***** ไม่ได้ฟ้องใครคับ...นะนี่......................ฮา และคิดถึง คคห4.จากทั่นหมี....รัมมี่.... รัม   มี่ตีโง่ด้วย               แหม่มดำ  กระนั้นฤๅ ลึก  ลับรู้โดยสำ             รวจล้วน ตำ   ซั่วตำส้มตำ            ตำมั่ว ฤๅแม่ นาน ย่อมเนื้อแหลกห้วน  ห่อนรู้กรอบหวาน อา   หารโคลงจากน้ำ       มือหมี สม  บ่มมาหลายปี           ชักเปรี้ยว ชาว บ้านบ่นทุกที            ว่าบูด โคลง บูดบูดเบี้ยวเบี้ยว     ศิษย์บื้อสบายเสนอ กลับบ้านแระค้าบบบ ..... สนุกอย่างนี้จะรีบกลับไปไหนหนอๆ  คับ...........ฮา *************************** คคห.15  และรำลึกโดราเอม่อนเหมือนกันคับ โดราเอม่อนน้อย...........แสนกล โนบิตะเพื่อนซน.............แน่นแฟ้น ชิซูกะอีกคน................พ้องร่วม ทุกข์แม่ ซูเนะโอะไจแอ้น...........อดีตย้อนคิดถึง(3หน้า) กระเป๋ากระปุกเป้              วิเศษเวท ย้อนกลับอดีตเหตุ             กระจกแก้ว ตัวอ้วนป่วนทุกเขต           เก่งกาจ โดนใจ ว่าแต่ไจแอ้นแว้ว               วาทแล้วขอหนี(จันเอม่อน...ห้ามผวนคับ) แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 49 15:58:42 แก้ไขเมื่อ 01 พ.ค. 49 07:53:14 แก้ไขเมื่อ 01 พ.ค. 49 07:47:40 แก้ไขเมื่อ 01 พ.ค. 49 07:34:33 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ วันแรงงาน 07:19:46 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อ่า..เอ่อ...คุณครูหนอนที่เคารพ ได้หนังสือฟรีมาเล่มนึง (เอ็นจัง แบกจนหลังแอ่น เอามาแจกให้ที่เชียงใหม่) ขอลายเซ็นต์ด้วยค่ะ ^_^ รำลึกถึงเพื่อนพ้อง...........พัวพัน มาเล่นรำวงสาละวัน.........วี่วี้ กินจนอิ่มหมีพีมัน............ม๊วนม่วน ดึกดื่นมิหลีกลี้................ร่ำร้องเพลงสุรา ๚ แฮ่! จากคุณ : ซอมพอแดง - [ 2 พ.ค. 49 09:44:04 A:unknown X:202.129.0.33 TicketID:011762 ]

ความคิดเห็นที่ 23 รำ   รำรวมร่วมฟ้อน                เฮฮา ลึก  หลากมิตรพรรณนา           ไป่ถ้วน ตำ   แหน่งนักเรียนมา              จองที่ ฟังครู นาน จึ่งพบสหายล้วน               กลับบ้านอาศรม ... นั่งคิดต่ออีกเป็นนาน ก็เหนื่อย หมดแรง กราบสวัสดีคุณครู และพี่ป้าน้าอา ทุกท่าน ขอแปะโคลงทู่ๆ มาร่วมรำลึกด้วยคนค่า สุราด้วยๆ แอบแวบติดตามอาศรมแต่ละภาคที่สืบสานมานานปี จนร่วมวงแอลกอฮอล์ได้อย่างถูกต้องตามกฏหมายแล้ว แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 49 10:57:33 จากคุณ : เซียงยี้ (เซียงยี้) - [ 2 พ.ค. 49 10:56:22 ]

ความคิดเห็นที่ 24 รำ    พึงถึงพี่น้า           แลลุง ทวดแฮ (ฮิ..แฮ) ลึก   ตรึกจุกอกตุง        รักตื้อ ตำ    คำรสหอมหุง       โคลงอุ่น เคยอา นาน  ย่อมน้อมจิตยื้อ     นึกย้อนคืนหลัง อา     ตมาสารภาพพร้อม  ลืมเหนียม สม    บัติผู้ดีเรียม             กระทืบทิ้ง ชาว   โลกจักจั๊กเดียม       ช่างเถิด โคลง อย่าดับดิ้นกลิ้ง        อยู่พร้อมเพรียงสหาย มาช่วยหนูศ. กดเอสเอ็มเอส ..เอ้ย.. จุดธูปเรียกคนแก่ๆทั้งหลายอีกแรง .. อิอิ จากคุณ : หมีเซอะ - [ 2 พ.ค. 49 11:29:52 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เมื่อวานกลับจากศูนย์กายภาพฯ 12.30 น. พ่อหยุดรถหน้าวัดเพชรจริก เห็นที่กำแพงวัดมีผ้าใบ  เขียนไว้ว่า “กำลังมีงานศพของคุณพ่อผิน อิสรา นึกถึงพี่เล็ก โคชราขึ้นมาจับหัวใจ เพราะนามสกุลเหมือนพี่เล็ก)  ฮี่ฮี่ ... ทำไมกรวีถึงเรียกผู้อวุโสอย่างพี่เล็กว่าพี่เล็ก กรวีมะอยากโดนค้อนอะจิ เรียกลุงทีค้อนดังควับ แหะๆๆๆ ไปล่ะ แวะมาทักทาย... แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 49 15:23:41 จากคุณ : . (กรวี) - [ 2 พ.ค. 49 13:01:49 ]

ความคิดเห็นที่ 26 สวัสดีทุกทั่นครับ..... รำลึกเล็กเช่อ....โคลงทั่นหมีเซอะเคยอ่านจำได้ว่า เปิด.......บาทแรก ปู..........บาทสอง เปลี่ยน...บาทสาม ปิด........บาทสี่ รำ  พึงแม่จะร้อง                   รำพัง เหงานา ลึก  ตรึกอาจเครียดดัง          จิตก้อง ตำ  โคลงซั่วสนุกบัง            อบายปิด ป้องนา นาน เนิ่นเขินเก้อร้อง           เรียกให้นุชหวน อา  หลานเต้นโป้งชึ่ง           ลืมวัย วันแล สม  บัติภัสสถานใคร           เพียบพร้อม ชาว  โรครกกลอนใย           ร้อยเรียบ ลืมฤๅ(พี่จำปูน) โคลง  ดับเหมือนลับล้อม    หับห้องกรงขัง รู้สึกว่าเป็นโคลงใช้คำและความคิดโดยแท้............หรือเปล่าน้า แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 49 15:42:55 แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 49 23:26:28 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 2 พ.ค. 49 23:15:08 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สวัสดี สวีดัส ครับผม ขอทานรัก... ค่ำคืนนี้เดือนสุขใจพาใจชื่น แสนระรื่นดวงใจใครจะเหมือน กระต่ายน้อยคอยจ้องมองดูเดือน ที่มาเยือนส่องหล้าพาสุขใจ ในยามเดือนส่องฟ้าน่าสนุก เจ้ากระต่ายมันจ้องมองเดือนนี้ ได้แต่จ้องมองไปไกลเหลือที จงปราณีกระต่ายน้อยด้วยสักคน อันตัวฉันนั้นดุจกระต่าย เดือนอยู่ไกลใจลอยคอยเดือนหล่น สุดจะให้ลืมรักยากเหลือทน เดือนจะหล่นมาหาถ้าปราณี ...จากเด็กช่างกล 81 จากคุณ : นายคอเอียง (TAOTIP) - [ 3 พ.ค. 49 01:25:39 ]

ความคิดเห็นที่ 28 มาสวัสดีครูหนอนค่ะ จากคุณ : คุณหนูนา - [ 3 พ.ค. 49 08:56:44 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ช่วงเศรษฐกิจต่ำ น้ำมันแพงอย่างนี้ คนที่ทำงานคงต้องเหนื่อยขึ้นกว่าปกติ ตัวหมีเอง ถ้าหากจะทำการ .. หลบบ้อสดอดโคลง ในหลายๆครั้ง ก็ทำได้แค่แอบแว้บมาอย่างเร่งด่วน และบางครั้งก็ไม่ได้อ่านอย่างซึมซับอารมณ์โคลงของเพื่อนๆด้วยซ้ำไป ก็เข้าใจว่าหลายคนคงเป็นเช่นนี้ ----------------- - ขอชอบโคลงตรีพักตร์ด้วยคนครับ เสียดายขาด ไจโกะ(ตัวละครคนโปรดหมี) รวมทั้ง ชิเนซูเกะ กะโดเรมี่ ที่คอยเติมเต็มให้ตัวละครอื่นๆด้วย (เรื่องของเรื่องคือ ยุให้แต่งโคลงมาประดับอาศรมอีก .. อิอิ) - โคลงของพิราบเงินเป็นอีกคนที่หมีชอบอ่านมานาน แต่เนื่องจากไม่ได้อ่านอาศรมแบบประติดประต่อเลยไม่รู้ว่า ข้อดีเรื่องการเดินเรื่องที่เป็นลำดับชัดเจนนี้ เกิดขึ้นมานานหรือยัง คือสรุปว่า ไม่รู้จะชมดีไหม .. มีกลัวโดนล้อว่าเชย .. ฮ่าฮ่า - มาถึงคุณจันทร์แห้ง .. สมาชิกหนึ่งในเน็กซ์เจนฯของอาศรม ไม่รู้จะเล่นเรื่องอะไร เอาเป็นว่าขอล้อโคลงบทแรกของชุด ๏๏๏สุนทรีย์รำลึก๏๏๏ (ในคคห.๒๑) แล้วกัน สุนทรียภาพเพี้ยง              พลประไพ งามงดหมดจดวัย              สะรุ่นจ้อง เธอสวยบาดโดนใจ           ใคร่จีบ นั่งๆลุกๆร้อง                     เรียกให้นุชเหลียว (จันทร์แห้ง) สุนทรียภาพเพี้ยน          เพียงไผ  พิศแน งามย่นจนเหล่าวัย         สะรุ่นเบ้ ทรงสวยขาดบาดใจ       ใคร่ถีบ จักรยานตราจระเข้         คู่ฟ้าชราถวิล (หมีเหี่ยว-ห้ามผวนเช่นกัน) จากคุณ : หมีเซอะ - [ 3 พ.ค. 49 12:53:08 ]

ความคิดเห็นที่ 30 แวะมาอ่านครับ  อ่านมานาแล้วไมไดแต่งกับเขาเสียที ช่วยดันให้มันขึ้นมาต้นๆ ครับ จากคุณ : โก้กอไก่ - [ 3 พ.ค. 49 13:08:15 ]

ความคิดเห็นที่ 31 แว้บงานมาส่งข่าวกันก่อนค่ะ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K4336568/K4336568.html เอกสารแจกฟรีจาก เสวนาวิชาการ เรื่อง สมเด็จพระนเรศวร สวรรคตที่ไหน?                    . จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 3 พ.ค. 49 17:26:38 ]

ความคิดเห็นที่ 32 สวัสดีทุกๆ คนจ้า (ทักแบบรวมๆ เพราะมีเวลาน้อย นานๆ ทีถึงมีโอกาสใช้เน็ต) คิดถึงอาศรมโคลงอยู่เรื่อยมา แต่ไม่รู้จะเอาอะไรมาแปะอีก ที่ผ่านมาหลายปี ควักให้ไปจนหมดไส้หมดพุงแล้ว และทั้งหมดที่ว่านั้น เอามารวบรวมเตรียมพิมพ์เป็นเล่มแล้ว (ชาตินี้ได้อ่านแน่จ้า) ฝากโคลงทิ้งท้าย แบบเดินโย้ โย่! โคลงตามขออ้อนหน่อย               น่านะ น่านะ ไม่รักฉันฉันก็จะ                         ไม่หว้า ขอเพียงเธอลองละ-                    เลงเล่น ลุยเล่น โคลงสี่แบบวัยส้าส์                      อยากรู้อยากเห็นฯ จากคุณ : หนอนสุรา - [ 3 พ.ค. 49 17:31:29 ]

ความคิดเห็นที่ 33 .                                  สวัสดีครับทุกท่าน สวัสดีแบบรวมๆ เหมือนกันครับ                       ฟ้าเคี่ยวเมฆมุ่งเฝ้าผลิตฝน                       คนคิดค้นจักรกลผลิตฝัน                       คืนเปลี่ยนวนค่ำเช้าผลิตวัน                       เราคิดสรรวาดคำผลิตใจ... ช่วงนี้ตะเวนไปหลายที่ เลยไม่ค่อยได้เข้ามา ว่าจะมาบันทึกการไปเที่ยวเขาใหญ่ คิดไว้หลายอย่าง พอเอาเข้าจริงเขียนไม่ออก คิดแล้วยังแค้นตัวเอง ทำไมไม่นั่งเขียนตอนไปเที่ยวด้วยเลย ได้แต่คิดไว้พอกลับมาจะเขียนขาดจินตนาการ เข้ามาส่งกลอนแปะไว้ก่อน เดี๋ยวจะดูว่าเหมือนหายหน้าอ่ะครับ ย้อนกลับไปอ่านชอบ บาทนี้ครับ " สุจิปุลิเฉลย        เชิงปราชญ์ " จากหนู ศ. ข้าพเจ้าก็ปราชญ์เหมือนกัน อิอิ " ปราศจากเชิง " ด้วยความไม่รู้เลยไม่รู้จะถาม ยังไงให้ตรงจุด ถ้าพอรู้เรื่องอีกนิดคง ถามได้น้อ มีพี่ท่านหนึ่งในนี้เคยให้คำนี้มายังใช้ไม่หมดเลย เซ่อ... น้อมบันทึก ------------------------------------------------- จากคุณ : xers - [ 3 พ.ค. 49 22:59:10 ]

ความคิดเห็นที่ 34 กราบสวัสดีครูหนอนและทุกทั่นขอรับ ไชโย..... ดีใจล่วงหน้าขอรับ... ตั้งตารอคอยอ่านการรวมเล่ม....ของครูหนอนสุราขอรับ ๏ ๏ ๏ รำลึกตำนานอาศรมชาวโคลง ๏ ๏ ๏ รำ  ไหว้ครูผู้รัก         ศิษย์เสมอ เสมอแฮ ลึก ลึกในใจเธอ         มากให้ ตำ รับร่ายลิลิตเหรอ       โคลงกาพย์ เก่านา นาน ตระการเจตไซร้       แซ่ซร้องวงศ์วรรณ อา  จารย์จารหมึกไว้        ฝากรอย โคลงฮา สม มาตรปรารถนาคอย        วาทเร้น ชาว กวีกระวาดสอย           แขเก็บ กราบเธอ โคลง มิวายว่างเว้น             จากแล้วแห่งหอ ปล.ขอเสนอครับแต่ไม่ทราบจะช่วยได้เพียงใดครับ อยากเห็นการรวมเล่มที่เป็นวารสารรายเดือนขอรับ แบบว่า...... อ่านแล้วอยากเขียนร้อยกรอง..........ประมาณนั้นครับ ............๏๏๏ ฝันละเมอ๏๏๏............. ไม้แห้งขอใฝ่เฝ้า          ฝันละเมอ ฝนพร่ำฝนเพรียกเสมอ       เวี่ยวี้ หิ่งห้อยด่อยแสงเผลอ              แขแข่ง ฝากรักแฝงแรงสุดลี้                 เรื่องลื้อรอยฉันท์ อาจเพียงหลงท่วงถ้อย           ลำนำ อาจสุขยามจดจำ                   เกล็ดแก้ว รอยทางท่าชวนขำ                 หมีเบ่ง บอกมา หวังไม่แห้วหมดแล้ว             พจน์แพร้วลำพรรณ เสียงปูดเสียงตดเปรี้ยง                  เสียงจริง แน่นา เสียงกลบรบกวนสิง                     คละคลุ้ง เหม็นมากอยู่นานติง                     หมีเซอะ ฝากแฮ ปานแซ่เสียงเฟื่องฟุ้ง                    ฝั่งฟ้าคำฝัน เดือนดาวมิสิ้นฟาก                       ฟ้างาม หมูเมฆหลากรอยยาม                  ฟ่องฟ้อน ลำนำคุรุคำขาม                             ผุดผ่อง โพยมแล จันทร์ออดอ้อนลอยย้อน             เยี่ยมแย้มคอยขำ จากหมีนะนะ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 49 23:07:56 แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 49 01:59:34 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 4 พ.ค. 49 01:54:43 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ลิลิตอาศรมภาค ๑๖๕ ร่ายสุภาพ ๑. กรานเกศราบกราบกร  อมรอภิยศโคลงบา หนอนสุรานามศักดิ์ ผู้สลักอาศรม สมาคมโคลงสกล บนถนนนักเขียน สถิตเสถียรพันทิป พริบพรรณรายโคลงแก้ว ส่งศิลป์สล้างแล้ว เสกกล้ากวีสมัย โคลงสี่สุภาพ ๒. ในภาคหนึ่งหกห้า       อาศรม โคลงแฮ รำลึกตำนานภิรมย์          พิลาสพร้อง เนื่องหนอนสุราบรม         ครูเอก ย้อนเยี่ยมห้วงสวาสดิ์ห้อง  สวัสดิ์ห้อมสโมสร ๓. สองกรหมีเซอะน้อม         เสนอลิลิต เชิญพี่น้องผองมิตร              ร่วมชั้น ร่วมเชื้อป่วนกระบวนกระบิด    แก้เบื่อ ร่ายลิลิตด้นดั้น                    ดุ่ยดู ๔. บูรณาขนบเบื้อง          บุราณแบบ ให้เด่นเดิ้นเดินแยบ           ยุคได้ เผื่อเด็กซ่าส์เด็กแซ็ป          ดูสนุก ลุกแต่งแข่งโคลงให้          โลกง้ำคะมำหงาย โคลงสองสุภาพ ๕. หมายเรขลิลิตรื้น      ลิขิตเล่นโดยคำพื้น ซ่อนเพี้ยนแซมขำ ๖. นำขนบนบเด่นหิ้ง      คุณลักษณ์วิเศษพริ้ง กราบไหว้เฉยเฉย          ควรฤๅ ๗. ไฉนเลยเชิญพี่น้อง    อย่าจรดจรดจ้องจ้อง รีบแจ้นจรรโลง โคลงสามสุภาพ ๘. โคลงสุภาพชวนลอง    ทั้งสองสามสี่ห้า อีกร่ายสุภาพจ้า              สี่ดั้นก็ดี  มันส์ดี ๙. ยังมีโคลงแสบแสบ      แต่งแบบคนส้าส์ส้าส์ มีชื่อว่าปูบ้า                   อยากบ้ามาซี โคลงสองไม่สุภาพ (ปูบ้า) *ปล. - เล่นเฉพาะในอาศรม ๑๐. โคลงสองกรกฎเพี้ยน     ครรโลง หนึ่งบทสองบาทสี่               วรรคจ้า ๑๑. ท้ายวรรคหลังคอยโยง   สัมผัส รับที่ท้ายวรรคหน้า             บทหน้าบาทเดิม โคลงห้าพัฒนา ๑๒. เชิญพี่น้อง       อาศรม อย่ามัวอม              ปากเม้ม ปล่อยกระผม          ปากฉีก ร่วมคล้องเข้ม         โคลงครัน มาแอบเกลา + แก้คำสะกดผิด .. อิอิ ------------------------- ว่าแล้วก็ ปล. ซะเลย .. ฮิฮิ ขอเชิญร่วมร่ายลิลิตกันนะครับ เผื่อครูหนอน ครูเล็ก และผู้เฒ่าผู้แก่(วิชานะ) ทั้งหลายอ่านแล้วคันมือคันไม้ จะได้อดใจไม่ไหว โดดงานมาดอดโคลงด้วย .. แฮ่ แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 49 16:35:31 แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 49 14:36:52 จากคุณ : หมีเซอะ - [ 4 พ.ค. 49 13:42:52 ]

ความคิดเห็นที่ 36 .                                                           สวัสดีครับทุกท่าน ฮ่วย... ๏ เวลาเดินช้ายิ่ง             ยามคอย มัวแต่คลานเหมือนหอย    สะบัดสะบิ้ง ใจเรารึก็ลอย                 บินลิ่ว  ลิ่วเฮย อยากตัดเวลาทิ้ง             หดให้ถลาถึง ๚ เห็นพี่หมีชวนเขียนลิลิต ยังนึกไม่ออก. ว่าจะเขียน ลิลิตเขาใหญ่ แต่ไม่รู้จะเอาแนวไหน คิดก่อน และโคลงสอง ไม่ได้เขียนนานแล้ว จำได้ว่า แรกเข้าอาศรมเขียนแต่โคลงสอง เพราะสั้นดี นึกเรื่องยาวๆ ไม่ออก ฮี่ๆ ~๏๏ ลิลิตสี่กระเพาะ ๏๏~ -- ร่าย -- ครั้งครา     มุ่งมา       อาศรม    ชมชื่น        รื่นรมย์      แลเฮย มากมาย    ด้วยแด    แออัด     รัดรึง          พึงใจ        แลเฮย ดวงรวิ       สีสด        สวยสด   จดจาร        ขานร้อง     แลเฮย หวังร่วม     รวมรำ      ร่ำร้อง     ลองโคลง   โค้งรุ้ง        แลเฮย ผลิตผล     พ้นสมัย   ไม่ลับ      หลับไหล    ระบือไกล   แลเฮย -- โคลงสอง -- ๏ หวนคิดรำลึกครั้ง              แรกก่อนตำนานตั้ง- แต่เข้าอาศรม ทุกทุกคำค่อยเค้น            นานกว่าจะเลือกเฟ้น ขีดเส้นใยโยง ผิดพลาดบ่อยบ่อยซ้ำ        คอยอ่านและทวนย้ำ ผิดสร้างเสมือนครู บางบทดูบิดเบี้ยว             โคลงเลยดูคดเคี้ยว ส่งอ้างถูๆไถๆ นานมา,มาอ่านแล้ว           หัวเราะเองเจื้อยแจ้ว บ่นบ้าประการเดียว หวังเขียนแบบสนุกร้อง       แต่อ่านแล้วขัดข้อง ผิดเพี้ยนขัดใจ เลยนึกไปว่าเฮ้อ               นอนก็ละเมอเพ้อ จะได้ไหมเรา เอาก็เอาวะเฮ้ย                จะยากแค่ไหนเฟ้ย ก็ได้แต่เดา พอสักพักมั่วเข้า               พี่ๆเห็นแล้วเศร้า ก็ให้หนังสือ ถือนานมันเมื่อยจ้า            เลยเก็บบนหิ้งซ้าา ธูปไหว้เทียนถวาย กลายเป็นคนไม่รู้              หยิบกลับหาวิธีสู้ คิดสู้วิธีไหน อ๋อ... จึงนำใส่หม้อ            คงอร่อยเด็ดฮ้อฮ้อ ซ่านซึ้งสู่สมอง กระบือเรียกพี่ฮ้า              มาอยู่ร่วมกันม้าา มอบให้นำฝูง                   แลเฮย ๚ แฮ่ๆ  แล้วครูหนอนจะให้หนังสืออีกไหมเนี่ย ฮี่ๆ ขอบคุณ น้าอาร์พี อาวลี พี่จำปูน ครับที่ให้หนังสือมา เอาไปต้มดื่มแล้วครับ อิอิ เซ่อ... น้อมบันทึก ------------------------------------------------------------------      . จากคุณ : xers - [ 4 พ.ค. 49 20:59:14 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ๏๏๏ร่าย"กวิคาถานมาเสยฺโย"๏๏๏ น้อมประนมกรกราบ    สุภาพผ่องผาดกวี "กวิคาถานมาเสยฺโย"  โห่ซร้องหนอนสุรา   ครูบาอาศรมระบือ  ลือนามเรื่องเฟื่องฟุ้ง   คลุ้งโคลงฉันท์สบสมัย  ใหม่ฟ้าฟื้นฟึกบูรณ์ ๚ "กวิคาถานมาเสยฺโย"(กวีเป็นที่อาศัยแห่งคาถาทั้งหลาย ) โคลงสี่สุภาพ ๑กุศลผลแผ่พร้อย                อาศรม ระเรื่อยอภิรมณ์                ใช่น้อย เสียงหัวเราะระงม            ฤาร่ำ   ทั่วเลย ชนต่างชมค้อยค้อย         ใฝ่เคล้าเสาวคนธ์ ๒เรียนมลักโคลงคละคลุ้ง         ขำขำ รู้มลักลักจดจำ                          สรนุกเพ้อ ไพเราะแบบบ่งสำ                   นักอยู่ นี่นา สมเสียดสายซอเน้อ                 ระนาดไม้บรรเลง     ๓เสียงสรวญเสียงแซ่ซร้อง       พี่ขา  น้องจ๋า เสียงเสนาะน้าอา                     ร่วมร้อง แล่งร่ายลิลิตหา                       ครูคับ  ครูฮับ ถวายบำเรอท้าวก้อง               กึกให้หนวดหู ไหมคับ ปล.มาเว้าวาท ส่งเสียงให้หนวดหูพี่หมีไว้ก่อนครับ..... โคลง2..3..5....คงต้องหาตำราอีกสักครู่ขอรับ แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 49 23:12:58 แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 49 22:10:08 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 4 พ.ค. 49 22:00:44 ]

ความคิดเห็นที่ 38 สนุกแบบนี้ขออีกรอบขอรับ.....ทั่น ร่าย น้องพี่ชีวะวาท      รสชาติโคลงสนุก    รกรุกปลุกที่ใจ   ให้น้องเซ่อเผยอกลิ่น   หอมกรุ่นแก้วแว้วกันณ์   รันจวนยวนเราเยาว์   วัยฮา หมีเซอะเรอะหลากหลาย   อาวุธพรายพร่างสะร่างสวย     รวยรื่นชื่นชมเธอ   เสมอๆสม่ำๆเสมียน สมรกำจรกำจาย   ขยายฮา โคลงสอง ๑๏โชยชื่นระรื่นรื้น        ลมห่มหอมอบชื้น     ป่าแก้วกาพย์ฉันท์ จรุงแล๚ ๒๏สัตบรรณโบกโล้       ไกวกิ่งก้มร่มโพธิ์ เป่าไม้กลอนหวาน สราญนา๚ ๓๏ดอกฝนบานเบ่งบ้าง      ชูช่อลออค้าง บ่มให้โคลงหวน  ครวญนอ๚ โคลงห้าพัฒนา ๔หมีเซอะคลุ้ง...................คำหืน ฟางไฟฟืน......................เร่งเร้า เตาหยิบยืน........................เชื้อสืบ เสียงร้องเว้า....................เรียกขวัญ ๕ลายน้ำปาก........................ฟองขาว ตะโพนยาว.......................ตุ่มตุ้ม ร้องเพรียกสาว.................กำซาบ กาพย์แก้วคุ้ม....................แหล่งสยาม แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 49 21:40:32 แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 49 07:06:58 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ วันฉัตรมงคล 00:11:41 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เพิ่งเห็นค่ะ มีข้อข้องใจถามนิดหนึ่งเรื่องโคลงหน้าพัฒนา นัทตี้เพิ่งเคยได้ยินก็คราวนี้แหละ อยากถามว่ามีบังคับเอกโทอย่างกับโคลงธรรมดาไหม? อยากให้ช่วยเขียนแผนโคลงให้ดูหน่อยเพราะดูท่าทางว่าจะง่ายกว่าอย่างอื่น อีกเรื่องคือโคลงสอง วรรคแรกตัวท้ายคำที่ห้า สัมผัสกับวรรคสองคำที่ห้าเท่านั้นหรือ เพราะนัทตี้ลองอ่านดูแล้วมันไม่ต้องมีสัมผัสกับวรรคที่สามเหรอ? ตัวอย่างที่นัทตี้ยกมานี่เขาเรียกว่าอะไรจำไม่ได้แล้ว จงจรเที่ยว เทียวบทไป พงพนไพร ไสลลำเนา ด่นบทด่วน ชวนจิตเรา แบ่งทุกขเบา เชาวนไว อ่านว่า จงจะระเที่ยว เทียวบททะไป พงพะนะไพร ไสละลำเนา ด่นบททะด่วน ชวนจิตตะเรา แบ่งทุกขะเบา เชาวะนะไวย ถ้าจำไม่ผิดนะรู้สึกจะอยู่ในนิทานเวตาล คือชอบลีลาการอ่านมาก แต่จำไม่ได้แล้วว่ามันคืออะไร พอรู้ไหมคะ จากคุณ : NATTI นัทตี้ - [ วันฉัตรมงคล 05:11:02 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ...พี่สามหน้า.... โดราเอม่อนน้อย...........แสนกล โนบิตะเพื่อนซน............แน่นแฟ้น ชิซูกะอีกคน................พ้องร่วม ทุกข์แม่ ซูเนะโอะไจแอ้น...........อดีตย้อนคิดถึง ...ต่อให้พี่หมี... เดคิซุงิด้วย.................ขอแจม ไจโกะแอบกระแอม......ร่วมร้อง โดเรมี่มาแถม.............โคลงส่ง ชิเนะซูเกะจ้อง............นั่งหน้าห้องเรียน... กราบครูหนอนงามๆครับ.. เด็กจอมขี้เกียจยังแวะเวียนเข้ามาอ่านเสมอๆครับ... แต่แต่งไม่ออกเจรงๆ... ขุนแผนขุนช้างฉบับ.............หนอนสุรา ควรอ่านแลซื้อมา...............ประดับหิ้ง ยามอยากยากตัณหา...........จากลับ สติตรับจากความพริ้ง...........ระลึกได้ในนิทาน... เห็น น้าจันทร์แห้ง กะ พี่เซ่อร์ เป็นเน็กซ์เจนของอาศรมแล้วดีใจจัง... ผมขอเป็นเน็กซ์จรละกันครับ.. จากคุณ : ...ณ มิตร... (namit) - [ วันฉัตรมงคล 06:49:34 ]

ความคิดเห็นที่ 41 อรุณสวัสดิ์ขอรับทุกทั่นและคุณนัทตี้...... สนทนาโคลงห้า  แบบว่าลอกลิเรียน ผิดเพี้ยนบ้างทางหรรษา อย่าถือเอาความ เอาตามมัน เผือกเอย โคลงห้าพัฒนา ผมจำได้ว่าเห็นครั้งแรกก็..ทั่นพี่ทิวา..โพสไว้ที่ถนนนักเขียนขอรับ http://members.thai.net/jaitanjai/kebfun1.html ..........โคลงห้าพัฒนา ของ "จิตร ภูมิศักดิ์"....... รูปแบบโคลงห้าพัฒนา โดย ทีปกร (จิตร ภูมิศักดิ์) คณะ - หนึ่งบทมีสี่บาท หนึ่งบาทมี 5 คำ แบ่งเป็นวรรคหน้า 3 คำ วรรคหลัง 2 คำ เอกโท - หนึ่งบทมีเอก 4 โท 4 (ดูตำแหน่งตามแผนผัง) สัมผัส - เหมือนโคลงสี่สุภาพ สร้อย - เหมือนสร้อยโคลงดั้น แผนผังโคลงห้าพัฒนา กา ก่า ก้า...................................กา กา กา กา กา...................................ก่า ก้า กา กา กา...................................กา ก่า กา ก้า ก้า...................................ก่า กา ตัวอย่างจากโคลง"คาวกลางคืน" ของ "ทีปกร"(จิตร ภูมิศักดิ์) ๐กรุงเทพคลุ้ง...................คาวหืน ควันกามกลืน.................กลบไหม้ คาวกลางคืน..................คลุมทาบ เมืองร้องไห้.....................เหือดขวัญ ๐น้ำฟ้าฟาด....................ฟองหาว คือกามฉาว.....................ชุ่มฟ้า กลิ่นสาบสาว..................กำซาบ กามย้อนหล้า..................แหล่งสยาม ฯ หมายเหตุ(1) : 1.เอกและโทในบาทที่หนึ่งสับที่กันได้ เหมือนโคลงอื่นๆทั่วไป 2.โทคู่ในบาทสี่ อาจอยู่แยกกันได้ ดังนี้ ..................ก้า กา ก้า.................ก่า กา................. เช่น ................ฟ้าโรจน์ร้อง..........ร่ำหา............... 3.สร้อยของบาทที่หนึ่งและที่สาม เหมือนสร้อยโคลงทั่วไป แต่เฉพาะสร้อยของบาทที่สี่ จะต้องเป็นสร้อยแบบโคลงดั้น กล่าวคือ เป็นคำสุภาพ(ไม่มีเอกโท , ไม่เป็นคำตาย) และต้องซ้ำพยัญชนะกับสองคำสุดท้ายของบาทที่สี่ โดยเฉพาะคำสุดท้าย ต้องเป็นคำเดียวกัน เช่น ..............ฟ้าโรจน์ร้อง ร่ำหา รนหา.............. หรือ.......กามร้อนไล้.........ลูบเมือง โลมเมือง...... ปล.1.เชิญคุณนัทตี้เขียนมาร่วมสนุกกันนะนะ....... อ่อและโคลงสอง....คัดจาก: หลักภาษาไทย ของ อ.กำชัย ทองหล่อ http://thaiarc.tu.ac.th/poetry/khloong/ ปล2..คคห.39....จากเวตาล.....ลอกเลียนของชอบดูหน่อยหนา จงจะระเที่ยว เทียวบททะไป พงพะนะไพร ไสละลำเนา ด่นบททะด่วน ชวนจิตตะเรา แบ่งทุกขะเบา เชาวะนะไวย หากวากกะยะวาย   ละลายละบายท้อง   ร้องอกโอ่อะอึง  ตะลึงทะลึงตึงตัง ระวังของแสบแสบ  แลบลิ้นลิ้มปะลอง ปะไรดากกะจะบัง  ฮะฮา๚ ปล.3.คคห40.น้อง.ณ.มิตร...............หายไปไหนหนา แบบว่าคิดถึง........รู้ไหม มาเฝ้ากระทู้เสียโดยดี......ไม่ต้องมาชมพี่เน็กเจน..เน็กจนเลย.......ฮา เขาว่านักบินมักวางแผนสูง..........บนที่สูง.....ฮา.........เกือบรู้ไม่ทันแล้ว แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 49 07:18:29 แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 49 07:43:09 แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 49 07:17:03 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ วันฉัตรมงคล 07:09:18 ]

ความคิดเห็นที่ 42 +++ มาลัยลั่นทม ส้มกาฬสินธุ์ +++ ๏ ทวยเทพฤๅท่านร้อย..........เรียงมณี เลือกเก็จเม็ดสวยสี..............เสกสร้าง สังวาลซึ่งวางพลี..................พลาญลั่น-........ทมนอ ถวายแด่ไท้ใคร่อ้าง..............เอ่ยใช้บูชา ฯ ๏ วันทารติน้อม..................สนองชม เสนอช่อดอกลั่นทม.............แทบเท้า ทูลท่านอภิรมย์...................พิรามดอก พิรุฬห์ดั่งระดมเฝ้า...............ใฝ่ให้ไท้สนาน ฯ ๏ ทำเสนาะสังคีตครื้น...........ขึ้นประโคม ขานประเคราะห์คำกระโหม.....กระหึ่มก้อง กระหวนการท่านประโลม.......โลกสนุต หลงสนุขในรักพ้อง...............ผูกคล้องครองสม ฯ ๏ ควรผคมด้วยเก็จแก้ว.........ก่องสี สรรค์เสร็จสร้อยมาลี............เลิศล้ำ ส้มกาฬสินธุ์พลี..................พลาญลั่น-.........ทมแม่ ถวายแด่ไท้ให้ค้ำ................คู่ชู้ตูเสถียร ๚๛ ๕ พฤษภาคม ๒๕๔๙ ================================================== สวัสดีครับสหายอาศรม .... วฤกเอาโคลงดอกไม้ใบหญ้า มาร่วมกระทู้อีกเช่นเคย รูปดอกลั่นทม พันธุ์ส้มกาฬสินธุ์ ซึ่งใครบางคนสั่งให้นำมาปลูกที่บ้าน เพราะเธอชอบกลิ่นของมันมาก แล้วก็เป็นต้นไม้ในบ้านต้นเดียวในบ้าน ที่ไม่ได้ออกดอกสีขาว สวัสดีสมาชิกผู้ขยันขันแข็ง ซึ่งกำลังสืบต่อตำนานอาศรมฯ ทุกท่าน โดยเฉพาะ จันทร์แห้ง xers และ ฯลฯ # 24 หมีเซอะ "มาช่วยหนูศ. กดเอสเอ็มเอส ..เอ้ย.. จุดธูปเรียกคนแก่ๆทั้งหลายอีกแรง .. อิอิ" มิน่าล่ะ... หมู่นี้นอนไม่ค่อยหลับ ..... กลิ่นธูปมันกวนจายยยยยยย #32 กราบสวัสดีครูหนอนครับ .... วฤกดีใจและอยากให้ครูหนอนมาที่อาศรมฯ บ่อย ๆ จังครับ เพราะคิดถึงสมัยเรียนโคลงจากครูหนอน ... ตอนนั้นวฤกดูอ่อนเยาว์ เป็น ดช.วฤก แต่เมื่อครูหนอนไม่มา .... วฤกต้องเป็นผู้เฒ่าอาศรมฯ บางคนยกให้เป็นลุง บางคนยกให้เป็นปู่ เฮ้อ!  งั่ก ๆๆๆๆ # 35 หมีเซอะ พาเล่นลิลิต อาศรมฯ ....  แฮ่ม ต้องเซฟไปอ่าน ก่อนนะครับ แล้วจะมาแจมภายหลัง จากคุณ : วฤก - [ วันฉัตรมงคล 12:17:53 ]

ความคิดเห็นที่ 43 .                                           สวัสดีครับทุกท่าน สวัสดีครับ พี่หมี น้าจันทร์แห้ง พี่ ณ มิตร ว่างๆ ก็แวะมาวางโคลงนะครับ คิดไม่ออกก็มาชวนคุยก็ยังดีครับ ลุงหมอวฤก ฮ่าๆ ท่าทางกลิ่นธูปจะแรงได้ที อิอิ แต่ยังขาดอีกหลายท่านที่คิดถึงอ่ะ ๏ เจนเนอร์เรชั่นนั้น          คอยประสาน  วานนะเออ แฟชั่นงอกจากการ           คิดค้น โพสิชั่นของงาน               บ่งบอก  เงินนะเออ เพอร์ซั่นอันต้องพ้น          ฝากให้วัยคะนอง ๚ เข้ามาเพิ่มความเห็น น้าจันทร์ฯ เรื่องโคลง 2 ฮะ ตามที่เคยเขียนมา คำที่ห้า วรรค 1วรรค 2 เป็นคำบังคับโท และ "สัมผัสสระ" กันครับ บาท 2 มีแต่บังคับเอกโทแบบวรรคท้ายโคลงสี่ เคยหาดูก็ไม่เจอบังคับสัมผัสครับ บางครั้งแอบใส่เอง อิอิ ส่วนโคลงห้า เพิ่มอีกนิดคือ บาทท้าย บังคับโทมี 2 แบบ คือเขียนติดกัน และโทแยกครับ เช่น น้ำดินฟ้า........ผลิตฝน ดินฟ้าน้ำ........ผลิตฝน ส่วนเสียงนี่ไม่เคยฟัง อยากฟังบ้างครับ พี่ๆท่านใดมีเสียง ส่งให้บ้างนะครับ ลองหาในเว็บก็บ่เจออ่ะ เซ่อ... น้อมบันทึก -------------------------------------------------------- เข้ามาแก้คำผิดครับ โคลงสอง คำท้ายวรรค 1, 2 "สัมผัสอักษร" เป็น โคลงสอง คำท้ายวรรค 1, 2  "สัมผัสสระ" ครับ ขออภัย แหะๆ แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 49 17:32:30 จากคุณ : xers - [ วันฉัตรมงคล 13:42:59 ]

ความคิดเห็นที่ 44 “สวัสดีทุกๆ คนจ้า (ทักแบบรวมๆ เพราะมีเวลาน้อย นานๆ ทีถึงมีโอกาสใช้เน็ต) คิดถึงอาศรมโคลงอยู่เรื่อยมา แต่ไม่รู้จะเอาอะไรมาแปะอีก ที่ผ่านมาหลายปี ควักให้ไปจนหมดไส้หมดพุงแล้ว และทั้งหมดที่ว่านั้น เอามารวบรวมเตรียมพิมพ์เป็นเล่มแล้ว (ชาตินี้ได้อ่านแน่จ้า) ฝากโคลงทิ้งท้าย แบบเดินโย้ โย่! โคลงตามขออ้อนหน่อย               น่านะ น่านะ ไม่รักฉันฉันก็จะ                         ไม่หว้า ขอเพียงเธอลองละ-                    เลงเล่น ลุยเล่น โคลงสี่แบบวัยส้าส์                      อยากรู้อยากเห็นฯ ..........หนอนสุรา [ 3 พ.ค. 49 17:31:29 ] ............. .............................................................................................................................. สวัสดีครับครูหนอน ดีใจที่ครูแวะมา   เช่นเดียวกับชาวโคลงทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่  ยังมีครู(พี่)เล็กอีกคนที่ เงียบไป ผมก็งานมากจนหงอยไปเลย  ยังดีที่มีศาลาฯ  พิราบเงิน  และชาวโคลงรุ่นใหม่ อีกหลายคน ยังเขียนโคลงกันได้ดีและดูท่าเอาจริง  อาศรมชาวโคลงจึงยังอยู่ ที่ครูหนอนปรารภว่า     “คิดถึงอาศรมโคลงอยู่เรื่อยมา แต่ไม่รู้จะเอาอะไรมาแปะอีก ที่ผ่านมาหลายปี ควักให้ไป จนหมดไส้หมดพุงแล้ว” ความจริงที่บรรดาลูกปูเรียนจากครูไม่มีวันหมดคือการอ่านโคลงอย่างทะลุปรุโปร่ง  และ ให้คำแนะนำ เป็นกระจกบานใส  ฯลฯ  นั่นแล  ที่ผมยังพยายามฝึกฝนอยู่บ้าง  แต่ช่วงหลัง นี่ไม่มีเวลาฝึกหัดวิจารณ์โคลงเลย  ทั้ง ๆ ที่มีน้องใหม่มาวางโคลงไว้เยอะเหมือนกัน..... สวัสดีครับครู  ดีใจจัง ป.ล.  อีตาหนูหมีนี่เวลาครูมาเขียนอะไรได้สุด ๆ เยอะเลย   ชอบมาก....วันนี้พอมีเวลาจะเขียน          บ้าง   พรึ่งนี้จาไปต่างจังหวัด...เที่ยว....... จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ วันฉัตรมงคล 15:03:57 ]

ความคิดเห็นที่ 45 .................... รับขวัญ ครูหนอนฯ ................... ๑. บายศรีขวัญพ่อเอ้ย                    ขวัญมา คืนสู่อ้อมอกสา-                        นุศิษย์เพี้ยน หมีเซอะ วฤก อา                       พี ทิ-   วาแล เสพสุขสังวาสเสี้ยน                    เสื่อมข้อเข่าหลาย ๒. ขวัญเอยขวัญถึกเทื้อ                   ทึนทึก ขวัญอย่าหลงป่าลึก                     หลืบเร้น อาศรมมิสร่างศึก                        โคลงศาสตร์ รู้ถ่อมรู้เจียมเน้น                         แต่เนื้อมณีหอม ๓. ศิษย์เก่าศิษย์แก่พู้น                   พรรษา เดินตกไหสุรา                           เสพค้าง ดับขวัญเสื่อมโคลงคา-                รวะปราชญ์ อมทุกข์อมโศกอ้าง                    ธุระโอ้โอฬาร ๔. หนึ่งจอกหมื่นจิบน้อม                 คำนับ คุกเข่าร่ายโคลงขับ                   กล่อมแก้ว หมื่นจิบหนึ่งรสจับ                     ดวงจิต คือหนึ่งพระคุณแผ้ว                   ผ่องน้ำใจครู                   ๕. ขวัญโคลงคือหนึ่งน้อง               ศาลา   ไทยแล ขวัญแม่ปริ่มห้วงมหา                 สมุทรกว้าง โมโน นิรนาม จา-                     ริกโลก เอ๊กส์เฒ่า หูบวมข้าง                  หนึ่งด้วยเมียดึง ๖. บายศรีขวัญสู่ห้อง                    อาศรม เชิญเทพยักษ์มหาพรหม            ผ่านหล้า ได้โปรดท่านพญายม                จงอย่า  มานา เว้นหนุ่มคัมภีร์กล้า                    แก่นเซี้ยวเสียวกระสัน จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ วันฉัตรมงคล 15:20:45 ]

ความคิดเห็นที่ 46 สวัสดีครับ ทุกท่าน .. มาคารวะครูหนอนด้วย ผมไม่ได้ลงทะเบียนเรียนตอนนั้น ด้วยเหตุหลายประการ แต่ก็นั่ง ฟังอยู่นอกห้อง สมุด หนังสือ ไม่มีอะไรเลย จำก็ไม่แม่น น้อยใจนัก เห็นของหมีเซอะ แล้วคันมือ แต่ ไร้สันหลัง แหะๆ ยิ่งมาอ่านของ คุณคัมภีร์ฯ ลีลา ลื่น เชียว เลยเขียนบ้างแค่เนี่ย ... คมโคลงคมคำขั้น           คุณครู โคลงลูกหมีทะลวงหู        เด่นหิ้ง คัมภีร์ฯพี่พรั่งพรู             ลีลาศ อมยุทธฯหายปลิดทิ้ง       เที่ยวใต้ ฤ เมืองเหนือ นะ ... จากคุณ : วลี.. - [ วันฉัตรมงคล 17:58:39 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณค่ะที่ให้ความรู้เรื่องโคลงห้าพัฒนาค่ะ งั้นจะลองเล่นดูมั่ง           น้อมรับไว้      ใส่จิต           ตรงไหนผิด    ช่วยแก้           ลองนั่งคิด      คำเล่น           ยุ่งยากแท้    จริงเชียว           สามคำหน้า     หลังสอง           จับคล้องจอง   แจ่มแจ้ง           ยากกว่าลอง   ปอกกล้วย           หาใช่แกล้ง     บอกกัน ผิดถูกตรงไหนช่วยบอกช่วยแก้ด้วยจะเป็นพระคุณอย่างสูง แต่ยอมรับว่ายากเหมือนกันนะ จากคุณ : NATTI นัทตี้ - [ วันฉัตรมงคล 18:51:34 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขอคารวะอีกครั้ง           คุณครู ครับครู ครูว่างมาเยี่ยมดู           เช่นนี้ ศิษย์น้อยใหญ่อู้หู         คึกคัก คึกคัก เสียงทักทายอึงหมี้        สรนุกแท้อาศรม ฯ จากคุณ : พิราบเงิน - [ วันฉัตรมงคล 21:44:56 ]

ความคิดเห็นที่ 49 พี่หมีเซอะ /๒๙ - โคลงของพิราบเงินเป็นอีกคนที่หมีชอบอ่านมานาน แต่เนื่องจากไม่ได้อ่านอาศรมแบบประติดประต่อเลยไม่รู้ว่า ข้อดีเรื่องการเดินเรื่องที่เป็นลำดับชัดเจนนี้ เกิดขึ้นมานานหรือยัง คือสรุปว่า ไม่รู้จะชมดีไหม .. มีกลัวโดนล้อว่าเชย .. ฮ่าฮ่า ขอบคุณสำหรับคำนิยม และคำชม ขอรับ ยังไงจะชำแหละ แนะนำ สั่งสอน ติ และเตือน ก็ได้นะครับ ยินดีเสมอ ( ยิ้ม ) โคลงสี่สุภาพ ๒. ในภาคหนึ่งหกห้า       อาศรม โคลงแฮ รำลึกตำนานภิรมย์          พิลาสพร้อง เนื่องหนอนสุราบรม         ครูเอก ย้อนเยี่ยมห้วงสวาสดิ์ห้อง  สวัสดิ์ห้อมสโมสร ๓. สองกรหมีเซอะน้อม         เสนอลิลิต เชิญพี่น้องผองมิตร              ร่วมชั้น ร่วมเชื้อป่วนกระบวนกระบิด    แก้เบื่อ ร่ายลิลิตด้นดั้น                    ดุ่ยดู อ่านบทนี้ ของพี่หมีเซอะแล้ว ให้รู้สึกคึกคัก พิราบเงิน อยากแต่งแบบนี้มานานแล้ว พอดี กระทู้ที่แล้ว ต้องทำการบ้านเยอะ จึงย้อนไปอ่านกระทู้เก่า ๆ และก็ได้แนวคิดเรื่องโคลงทั้งหลาย จากครูหนอนสุรา มาเพิ่มเติม คือ อ่านแล้ว แต่อ่านแบบผ่าน ๆ แต่ล่าสุด อ่านแบบเอามาใช้ ก็ได้เห็นลีลา โทคู่ กับ โทแยก ที่ครูหนอนฯ นำมาอธิบายไว้ ซึ่งน่าสนใจมาก ๆ พี่หมี แต่งนำทางแล้ว พิราบเงิน ขอนำมาแต่งบ้าง เพื่อความสุนทรีย์ในโคลง ( ยิ้ม ) จากคุณ : พิราบเงิน - [ วันฉัตรมงคล 21:52:11 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ลิลิตพระอภัย (เขา พระอภัย จำเป็น ในกรุง) ร่ายดั้น ๑. เสียงขลุ่ยวิเวกหวาน สรเหนาะปานกรวิกกู่ ซ่าซู่ดังน้ำตก สั่นสะทกยะเยือกหนาว ดั่งป่าวประกาศความ สมมติ โลกนา เฒ่าหนุ่มสาวเด็กได้ สดับแล้พอใจ ฯ บาทกุญชร-โทแยก ๒. เพื่อชีวิต หยุดได้                   ดังฤๅ เพื่อลูกวัยสดใส                        จำสู้ เพื่อโลกระบือลือ                       จารึก เพื่อหนึ่งแม่ยอดชู้                     อิ่มท้องปรองขวัญ ฯ บาทกุญชร-โทคู่ ๓. ท่ามเสียงอึกทึกอึ้ง                ในกรุง หนึ่งวณิพกฝัน                          บ่ท้อ ยังจิตพ่อบำรุง                          มิติ ยังจิตแกร่งกล้าล้อ                    ชะตา ฯ วิวิธมาลี-โทแยก ๔. หนึ่งชีพหนึ่งขลุ่ยทั้ง             หนึ่งไมค์ หนึ่งลำโพงอุตสา-                   หะโอ้ เพลงฝรั่งอีกเพลงไทย             สารพัด เจดจัดดนตรีโก้                      เก่งแท้บรรเลง ฯ วิวิธมาลี-โทคู่ ๕. ท่ามแสงแดดแผดร้อน        ประดัง เขามิเคยกลัวเกรง                  สักน้อย มีหมวกหนึ่งใบบัง                   ไอระอุ น้ำดื่ม และผ้าค้อย                 ทุเลา ฯ โคลงสี่สุภาพ-โทแยก ๖. เขาสร้างเพลงขลุ่ยสร้าง       สุขใจ บางขณะเขาปราศรัย               ซั่นสั้น ผู้คนผ่านมา-ไป                     ชื่นชอบ ท่าพระจันทร์ ที่นั้น                  พบได้ตัวเขา ฯ โคลงสี่สุภาพ-โทคู่ ๗. เขาทำดั่งบอกให้               เราดู "ตูบอดแต่ใจตู                      บ่บอดเน้อ ตาดีน่ะใจสู                          ขอจุ่ง- ดีนา" คติหนึ่งอย่าช้าเอ้อ                 ฝากตรอง ฝึกตรอง ฯ จากคุณ : พิราบเงิน - [ วันฉัตรมงคล 21:53:08 ]

ความคิดเห็นที่ 51 นั่งปั่นงานดึกอีกตามเคย  แวะมาทักทาย  มาส่งข่าว  มายิ้มชื่นใจที่ใคร ๆ ก็กลับมาเยือน ส่งข่าวกันก่อนที่กระทู้นี้ค่ะ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K4343746/K4343746.html แล้วก็แอบแซวโคลงเฮียคัมฯ (อีกตามเคย ช่วยไม่ได้อยากแซวศาลาฯ ก่อน) ๏ บายศรีขวัญสู่ห้อง               อาศรม เชิญพ่อเพียรมาชม                  อย่าแล้ง คนเกือบโสดคารม                   คมปาก งดโกรธแค่งอนแกล้ง               แอบเงื้อพองาม ๚ ไปปั่นงานต่อ  ได้อีกหน่อยจะแวะมาใหม่  ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านนะคะ - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -                      . จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 6 พ.ค. 49 01:39:50 ]

ความคิดเห็นที่ 52 รีบจนลืมรูป (กลัวคุณอาจันทร์แห้งทวง เอิ้ก ๆ) วันก่อนไปเดินเล่นแถวท่าพระจันทร์ถิ่นเก่า  เลยเก็บรูปมาฝากค่ะ                    . จากคุณ : ศาลาไทย (salathai) - [ 6 พ.ค. 49 01:58:02 ]

ความคิดเห็นที่ 53 บอสแฮ้ปเวลาไปอีกแร้วว.. เข้ามาอ่านแว้บๆ .. เห็นขาประจำ(ทั้งเก่าใหม่) เริ่มมาแว้วว.. ดีใจจัง ปล. ฝากเรื่องฉันทลักษณ์ด้วยนะครับ นอกจากโคลงสี่ กะปูบ้าแล้ว .. หมีไม่แม่นผังอ่ะ (แอบกระซิบว่าทั้งร่าย และโคลงสอง,สามสุภาพนั้น ชุดแรกในชีวิตเรยจ้าาาา .. เอิ๊กกก ..) จากคุณ : หมีเซอะ - [ 6 พ.ค. 49 11:42:53 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ขออนุญาตนำเล็กเฉ้อ ของครูหนอนฯ ที่พ้มอ้างในคคห.ที่ ๔๙ มาฝาก ครับผม ๑. ว่าด้วยเรื่องโคลง ๔ ในวรรณคดีไทย และการใช้โทคู่-โทแยก ขอรับ ........................................................... ็โคลง ๔ มี ๓ แบบ จากการตะลอนตะลุยพบว่าโคลงสี่ในวรรณคดีไทยมี ๓ แบบ ได้แก่โคลงสี่สุภาพ, โคลงวิวิธมาลี, โคลงบาทกุญชร ใครที่คิดว่าโคลงสี่มีแบบมากกว่านี้ โปรดแสดงตัวพร้อมตัวอย่างจากวรรณคดีไทยให้ประจักษ์ ถ้าไม่มีข้อถกเถียงแล้ว ตามมาดูโคลงแต่ละแบบกัน จะได้เอาไปประยุกต์แต่ง ให้สมคำที่ว่า กวีฤๅรู้แล้งแหล่งสยาม ๑. โคลงสี่สุภาพ เราเห็นกันมาจนเจนตาแล้ว ไม่ต้องอธิบายเพิ่ม แต่อยากบอกว่าให้ดูคติจากโคลงดั้น แล้วนำกลเม็ดบางประการมาประยุกต์ เราจะได้โคลงสี่สุภาพอีกแบบที่ไม่นอกแบบ ๒. โคลงวิวิธมาลี จากจินดามณี ฉบับกรมหลวงวงษาธิราชสนิท เชลงกลโคลงอย่างดั้น บรรยาย เสนอชื่อวิวิธมาลี เล่ห์นี้ ปวงปราชญ์ทั่วทวยหลาย นิพนธ์เล่น เทอญพ่อ ยลเยี่ยงฉบับพ้นชี้ บ่งแถลงฯ เปนอาภรณ์แก้วก่อง กายกระวี ชาติเอย อาตมโอ่โอภาษแสง สว่างหล้า เถกิงเกียรติเกริ่นธรณี ทุกแหล่ง หล้านา ฦๅทั่วดินฟ้าฟุ้ง เฟื่องคุณฯ หมายเหตุ ประสระแบบปัจจุบันให้อ่านง่ายขึ้น เช่น ท่วว แก้เป็น ทั่ว เป็นต้น บทต่อๆ ไปก็จะทำเช่นนี้ ยกเว้นคำที่อ่านบ่ออก จะหมายเหตุให้รู้ว่าสะกดตามต้นฉบับ ลักษณะสำคัญของโคลงแบบนื้มีอะไรบ้าง ต่างกับโคลงสี่สุภาพตรงไหน ประการแรกคือเรื่องการผูกเนื้อความ ซึ่งไม่เห็นตำราเล่มไหนพูดถึง ยกเว้นตำรับประมวญมารค วิวิธมาลีผูกเนื้อความทีละบทเหมือนโคลงสี่สุภาพ ที่ตำราว่าโคลงดั้นนิยมแต่งทีละคู่จึงมิจริง ที่ต้องแต่งทีละคู่แสดงให้เห็นรูปบังคับมากกว่า เพราะโคลงดั้นมีการส่งสัมผัสระหว่างบท ประการถัดมา ดูเรื่องสัมผัสระหว่างบาท ในบทเดียวกันมี ๒ คู่ คู่แรกคือคู่สุภาพหรือคำไม่มืวรรณยุกต์ บังคับส่งสัมผัสสระจากคำสุดท้ายบาทแรกส่งไปบาทที่ ๓ ในบาทที่ ๓ คำที่รับสัมผัสนิยมใช้คำที่ ๔ หรือ ๕ (ไม่นับลูกเก็บ) บางบทใช้คำที่ ๓ รับก็มีเหมือนกัน แต่มีน้อยบท อีกคู่คือคู่โท เป็นคู่ส่ง-รับสัมผัสในบาทคู่ ลักษณะเหมือนคู่สุภาพทุกประการ ส่วนอีกคู่เป็นการรับสัมผัสระหว่างบท ตัวส่งคือคำสุดท้ายของบทที่ผ่านมา ตัวรับคือคำในวรรคต้นของบทถัดมาในตำแหน่งเหมือน ๒ คู่ที่แจกแจงมาก่อนหน้านี้ ลักษณะสำคัญอีกประการของโคลงดั้นคือการใช้โทคู่ในบาทจบ โดยเพิ่่มคำโทขึ้นมาอีก ๑ คำที่คำที่ ๔ หรือ ๓ ในวรรคต้น แล้วหดวรรคท้ายเหลือ ๒ คำคือคำเอกกับคำสุภาพ แต่ข้อนี้อาจใช้โทแยกเหมือนโคลงสี่สุภาพก็ได้ ลักษณะสำคัญประการสุดท้าย คือสร้อยบาทจบที่ใส่เข้ามาเพื่อเล่นความ อันเป็นลักษณาการที่โคลงสี่สุภาพบ่มี และน่าเอามาใช้ ตัวอย่างโปรดรอดูในตอนถัดไป ๓. โคลงบาทกุญชร ดูเผินๆ เหมือนวิวิธมาลี เพียงแต่เพิ่มคู่รับ-ส่งสัมผัสระหว่างบทเข้าไปอีกหนึ่งคู่ที่คู่เอก (ไม่บอกว่าคือคำไหนไปคำไหน ลองสังเกตเอง วิชาโคลงจะได้แตกฉาน-อย่าลอกกันเด้อ) อีกโคลงแบบดั้นหนึ่ง พึงยล บอกเช่นบาทกุญชร ชื่ออ้าง วิธีที่เลบงกล แปลกก่อน ยากกว่าบรรพ์แสร้งสร้าง อื่นแปลงฯ สองรวดกลอนห่อนพลั้ง ผิดพจน์ เฉกสี่เชิงสารแสดง ชื่ออ้าง สัมผัสทั่วทุกบท ฤๅเคลื่อน คลายเอย บงดั่งบาทช้างย้าย ต่อตามฯ ดูให้ลึก บาทกุญชรผูกเนื้อความทีละ ๒ บาท ซึ่งต่างจากโคลงสิ่แบบอื่นที่ผูกความทีละบท คำไขคือ สองรวดกลอน + ชื่อโคลง (ช้างก้าวทีละ ๒ ตีน) คนที่ไขออกบ่ใช่หนอนสุราดอก ท่านจันทร์สิแม่นแล้วผู้ไขออกเอย รู้จักโคลงสี่แต่ละแบบอย่างคร่าวๆ แล้ว ตอนต่อไปตามไปเจาะลึกแต่ละแบบต่อ แล้วค่อยหาทางประยุกต์ในตอนต่อของต่อไป เขียนมาถึงตรงนี้แทบไม่เชื่อตัวเองว่าจะเขียนมายาวขนาดนี้เพียงเพราะ อันเนื่องมาจากโทหาย จากคุณ : หนอนสุรา  - [2 พ.ค. 18:03:33] ตัวอย่างโคลงวิวิธมาลีสมัยอยุธยา รอยนุชเป็นเนตรรื้อ                เป็นองค พี่แม่ จับจึ่งมาข่มเข็ญ                    ขื่นไส้ รลวงพิไรจง                         จอดแม่ เดียวแม่ ัเดือนแปดแปดยามให้               ร่ำโหยฯ ทิศใดดวงสวาสดิน้อง              สถิรสถิต ฟ้าฟอดบันดาลโดย                 ด่านเต้า ชฎาธารเทพรังสฤษฎิ               ศรีสี่ เชิญท่านแลเล็งเหน้า                ข่าวข้าขอฟังฯ หมายเหตุ รื้อ เป็นโทโทษของ หรือ, เหน้า ไม่ใช่โทโทษของเน่า เพราะคนละความหมาย ตัวอย่างโคลงวิวิธมาลีสมัยต้นรัตนโกสินทร์ ประเทศเสาก่อนไม้                   มีแก่น ปักแฮ มีเก่าก่ออิฐผสาน                    สอบอ้อม สอบโอบอีกหลายแผ่น             ภาคสี่ เสมอนา ภาคสืบเชิงหินห้อม                  แห่งด้าวสุโขทัยฯ ็็โขแท้ทาบทั่วทั้ง                     ทกเชิง เสานา ทกช่วงล่างในประธาน            ที่สร้าง ที่เสาคู่หนึ่งเถลิง                    ลักษณบอก ความแฮ ลักษณแบบคระโลงอ้างล้วน     เลขศิลาฯ สะกดตามต้นฉบับทั้ง ๒ คู่ จากคุณ : หนอนสุรา  - [3 พ.ค. 09:32:10]     ตัวอย่างโคลงบาทกุญชรสมัยอยุธยา โฉมแม่จักฝากฟ้า              เกรงอินทร หยอกนา อินทรท่านเทอกเอา            สู่ฟ้า โฉมแม่จักฝากดิน             ดินท่าน แล้วแฮ ดินฤขัดเจ้าหล้า                สู่สม สองสมฯ โฉมแม่ฝากน่านน้ำ             อรรณพ เยียวนาคเชยชมอก           พี่ไหม้ โฉมแม่รำพึงจบ                ไตรโลกย์ แล้วแม่ ็็็โฉมแม่ใครสงวนได้             เท่าเจ้าสงวนเองฯ ประสระแบบปัจจุบันให้อ่านง่ายขึ้น เช่น สํ แก้เป็น สม ตัวอย่างโคลงบาทกุญชรสมัยต้นรัตนโกสินทร์ ลำบางบางช้างเนื่อง          นามสาร ถนัดลำพองเยาวยล          แยบเยื้อง เกลียดกลคชเทาคลาน       ไคลตลิ่ง ลงเอย ศุขสำผัสแห้งเหื้อง             หื่นใจฯ ลามลวนโลภสิ่งเหล้น         หลากหลาย เล่ห์แฮ คือคชินทรฤๅไป               ปิดป้อง คนึงพังคลั่งคลำพลาย       เพลงพาด ไขว่คว่ายคว้าหญ้าต้อง        ตำแยฯ สะกดตามต้นฉบับ จากคุณ : หนอนสุรา  - [3 พ.ค. 09:32:36] คัดตัวอย่างโคลงดั้นมาให้ดู ๒ แบบ ๒ สมัย โดยยังไม่อธิบายอะไรทั้งสิ้น บทที่เลือกคัดมาไม่ได้เลือกโดยความไพเราะเป็นเกณฑ์ แต่เลือกบทที่อธิบายแง่มุมได้หลากหลาย เจตนาที่ไม่อธิบายแต่แรกอยู่ตรงนี้ คือให้ลองพินิจพิเคราะห์กันดูก่อนว่าเห็นอะไรบ้าง วิชาโคลงจะได้แตกฉาน ใครที่ขี้โกงข้ามมาดูคำอธิบายเลย ให้ย้อนกลับไปใหม่ ถ้าใครยังดื้อขี้โกง ขอให้ผูกโคลงบ่เป็น ท้องผูกเบ่งบ่ออก หลังจากลองสังเกตเองแล้วค่อยอ่านคำอธิบาย จะเห็นว่ามีบางความเห็นที่เห็นมิตรงกัน อันจะก่อให้เกิดคำถามแลข้อถกเถียง ประโยชน์ของอินเตอร์เน็ตอยู่ตรงนี้ อันแรก ที่หนอนสุรายกโคลงดั้นบทที่เป็นโทแยกเหมือนโคลงสี่สุภาพมาถึง ๓ บท  เพื่อให้เห็นว่าโคลงดั้นไม่จำเป็นต้องแต่งเป็นโทคู่เสมอไป (ถ้าดูโคลงวิวิธมาลีสมัยอยุธยาที่ยกมาเป็นตัวอย่าง จะเห็นว่าใช้โทเดี่ยวบทหนึ่ง หนอนสุราเปิดต้นฉบับแล้วกะประมาณคร่าวๆ จากทั้งหมดในเรื่อง ใช้โทเดี่ยวโทคู่จำนวนใกล้เคียงกัน) ลองอ่านเทียบเสียงกันจะได้ยินว่าบทที่เป็นโทคู่ลีลาเร็วกว่าโทแยก ตรงนี้ตั้งข้อสังเกตเพิ่มขึ้นอีกน้อยหนึ่งว่าเมื่อโคลงดั้นแต่งเป็นโทแยกได้ แล้วทำไมโคลงสี่สุภาพจะแต่งเป็นโทคู่บ้างไม่ได้ อันดับถัดมา โคลงบาทกุญชรอ่านยากเข้าใจยากกว่าวิวิธมาลี เพราะบาทกุญชรมิได้ผูกเนื้อความทีละบท ข้อสังเกตนี้ดูเผินๆ เหมือนบ่มีคุณ แต่สอดคล้องกับโลกดิจิตอล ที่ถนัดอ่านข้อความแบบไฟกระพริบ แม้แต่ร้อยแก้วยังต้องเขียนแต่ละย่อหน้าสั้นเลยๆ โฮ่โฮ่ ประการถัดมาคือเรื่องสร้อยโคลงในบาทจบ สู่สม สองสม ใช้คำสร้อยซ้ำคำ แล้วเปลี่ยนคำหน้า ซึ่งส่วนใหญ่นิยมคำสุภาพ แลซ้ำเสียงอักษรกับคำแรก สร้อยแบบนี้น่าเอาไปประยุกต์ใช้ในโคลงสี่สุภาพ เพื่อสร้างลีลาใหม่ ศัพท์เทคนิคเรียกจังหวะกลับ ใครที่อ่านย่อหน้าเมื่อกี้ไม่เข้าใจ ให้อ่านออกเสียงดังๆ โคลงบทนี้อีก ๓ จบ รอยนุชเป็นเนตรรื้อ              เป็นองค พี่แม่ จับจึ่งมาข่มเข็ญ                  ขื่นไส้ รลวงพิไรจง                      จอดแม่ เดียวแม่ ัเดือนแปดแปดยามให้            ร่ำโหยฯ อันดับถัดไป ดูตัวอย่างโคลงวิวิธมาลีสมัยต้นรัตนโกสินทร์บทแรก บาทแรกลงคำส่งสัมผัสด้วยคำเอกแทนคำสุภาพ ตอนแรกนึกว่าพลาด แต่พอเปิดต้นฉบับเรื่อยๆ พบว่าจงใจ เพราะมีอีกหลายบทที่เป็นเช่นนี้ หนอนสุราเคยลอกลีลานี้ มาแปลงใส่โคลงสี่สุภาพ อำน้าเล็กตอนแปลงเป็นไกรทองดำน้ำไปโผล่ถ้ำผีเสื้อสมุทร ไกรทองเข้าผิดถ้ำ                     ปัดโธ่ เหมือนดำน้ำบ่เป็นโผล่                ผิดถ้ำ พระอภัยรีบวิ่งโร่                       รี่ใส่ แปลกประหลาดจะลองปล้ำ         แปลกแท้พระอภัยฯ อันดับสุดท้ายก่อนไปนอน (ดึกมาหลายคืนแล้ว) โคลงบาทกุญชรที่ยกมาเป็นตัวอย่างต่างก็ใช้อำแทนเอกทั้งคู่มากบ้างน้อยบ้าง และมีโคลงอีกหลายบทในวรรณคดีเก่าที่ใช้อำแทนเอก อำจึงอำด้วยประการฉะนี้ ของฝากก่อนนอน วาทะท่านจันทร์ (นักเลงโคลงแต่งกลอน เลยมีเสียงเพี้ยนหนักๆ อยู่แห่งหนึ่ง ไม่เกี่ยวกับกระทู้นี้ แต่เตือนไว้ จะได้ไม่เป็นพวกได้หน้าลืมหลัง) ระวังสร้อยบาทสี่กวีเอ๋ย อย่าปล่อยประละเลยเป็นอันขาด ใส่น่ะง่ายง่ายน่ะพลั้งระวังพลาด อย่าประมาทคอยให้เป็นค่อยเล่นเอยฯ พระบรมราชาธิบายในร.๖ "แต่ขอตักเตือนว่าที่จะแผลงนอกหลักโคลงไปนั้น ยากที่จะให้เพราะได้ เพราะนักเลงแต่งหนังสีอโบราณเขาได้ลองกันมาเสียมากแล้ว ที่เห็นว่าใช้ได้จึงตกมาถึงชั้นเรา เพราะฉะนั้นอย่าอุตริมากไปดีกว่า" จากคุณ : หนอนสุรา  - [3 พ.ค. 09:33:57] . จากคุณ : พิราบเงิน - [ 6 พ.ค. 49 19:32:52 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ต่อขอรับ ( ยิ้ม ) ..................................... แก้คำผิด/๙๕ จาก โคลงวิชชุมาลี แก้เป็น โคลงวิวิธมาลี โคลงวิชชุมาลีไม่มีในวรรณคดีไทย (เท่าที่หนอนสุราเคยเห็น) มีแต่ในวรรณคดีลาว ที่หนอนสุราเขียนผิดไปนั้น สันนิษฐานได้ว่าคิดฮอดสาวลาว   ส่วนโคลงวิวิธมาลีมีในวรรณคดีไทยแน่ๆ นิยมแต่งกันมากช่วงอยุธยาตอนต้น เช่น ทวาทศมาส ในเรื่องเดียวกันนี้มีทั้งที่แต่งเป็นโทคู่แลโทแยก คติที่ว่าวิวิธมาลีเป็นโคลงดั้น จึงทำให้นักเรียนผู้อ่านตำราแต่บ่เคยอ่านต้นฉบับงุนงง เมื่อเจอวิวิธมาลีโทแยก หนอนสุรามิได้นับว่าทวาทศมาสแต่งเป็นโทคู่กี่บทโทแยกกี่บท จึงยังคำนวณสัดส่วนบ่ได้ กะคร่าวๆ บทที่แต่งเป็นโทคู่น่าจะเยอะกว่า แต่อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าวิวิธมาลีนิยมแต่งเป็นโทคู่ เพราะ... บุญเจ้าจอมโลกเลี้ยง            โลกา ระเรื่อยเกษมสุขพูล              ใช่น้อย แสนสนุกศรีอโยธยา              ฤๅร่ำ ถึงเลย ทุกประเทศชมค้อยค้อย         กล่าวอ้างเยินยอฯ รู้มลักสรรพศาสตร์ถ้วน        หญิงชาย จักกล่าวกลอนพระลอ          เลิศผู้ ไพเราะเรียบบรรยาย           เพราะยิ่ง เพราะนา สมปี่ลู้เสียงลู้                    ล่อเล้าโลมใจฯ สรวลเสียงขับอ่านอ้าง        ใดปูน ฟังเสนาะใดปาน                เปรียบได้ เกลากลอนกล่าวกลการ       กลกล่อม ใจนา ถวายบำเรอท้าวไท้              ธิราชผู้มีบุญฯ โคลง ๓ บทที่ยกมาคือโคลงขึ้นต้นลิลิตพระลอ แต่งเป็นวิวิธมาลีโทแยกทั้ง ๓ บท สรุปเป็นตุเป็นตะได้ว่า ๑.อย่าใจลอยขณะเรียนหรือขณะสอน   ๒.อย่าเชื่อหรือปฏิเสธทุกทฤษฎีโดยไม่ศึกษาเพิ่มเติม   ๓.ไม่ว่าเป็นครูหญ่ายหรือครูเล็กก็ต้องไม่ใช่เอาแต่สอนเท่าที่รู้ แต่ต้องศึกษาเพิ่มเติมด้วย เอ๊ะ ข้อสุดท้ายนี้เกี่ยวหรือเปล่าหวา   จากคุณ : หนอนสุรา  - [2 ส.ค. 44 09:41:34] โคลงสี่แต่เดิมตามทัศนะแม่ปู เริ่มจากโคลงที่รับส่งสัมผัสข้ามบาทก่อนแลนิยมแต่งเป็นโทคู่ ต่อมาเบื่อๆ หรืออย่างไรก็เหลือจะเดาจึงยักย้ายไปแต่งเป็นโทแยกบ้างในบางบท (กำสรวลฯ) พอมีคนนำทางแล้วเห็นว่ามีทางไปก็ต้องมีคนตามเป็นธรรมดา ทวาทศมาส จึงแต่งเป็นโทคู่กับโทแยก ด้วยสัดส่วนพอๆ กัน แต่ทั้งกำสรวลฯ กับทวาทศมาสก็ยังมีลักษณะร่วมกันอยู่ คือมีการส่งรับสัมผัสระหว่างบท เพียงแต่ทวาทศมาสตัดสัมผัสออกคู่หนึ่ง ระหว่างคำเอกท้ายบาทสามของบทแรกไปยัง คำเอกบาทแรกของบทถัดมา กับอีกประการบาทสุดท้ายที่มี ๗ คำก็ไม่เคร่งว่าวรรคหน้า ต้องมีโทคู่เสมอไป (น้องเหงาฯ ทราบแล้วเปลี่ยน) ตรงนี้อย่าเพิ่งยึดติดกับชื่อโคลงแลทฤษฎีทั้งหลายทั้งปวง เพราะทฤษฎีมาเขียนอธิบายทีหลังเสมอ ส่วนโคลงพระลอขึ้นต้น ๓ บท เป็นโคลงแบบทวาทศมาสทุกประการ แล้วค่อยมาเปลี่ยนเป็นโคลงสี่สุภาพ (อย่างที่เราเรียกกัน) ในตอนเข้าเนื้อเรื่อง ลักษณะแตกต่างที่สำคัญของโคลงพระลอตอนเข้าเนื้อเรื่องแล้วเมื่อเทียบกับโคลงทวาทศมาสคือ ๑) แต่งเป็นโทแยกอย่างเดียว ๒) ตัดสัมผัสระหว่างบททิ้งไป ๓) เพิ่มสัมผัสในบทระหว่างบาทแรกกับบาทสองเข้ามา ลักษณะที่ว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง ๑) การแต่งเป็นโทแยกอย่างเดียว ข้อดีทำให้วรรคท้ายบาทจบมีคำเพิ่มมาอีก ๒ คำ คิดเนื้อความได้ง่ายกว่า เพราะจุคำได้มากขึ้น แต่ข้อเสียคือขาดลีลาไปหนึ่งอัน เดิมแต่งเป็นโทคู่ปนกับโทแยก ทำให้โคลงมีลีลาทั้ง รวบรัดกับทอดช้า พอแต่งเป็นโทแยกอย่างเดียวเลยเหลือลีลาทอดช้าอย่างเดียว ๒) การตัดสัมผัสระหว่างบททิ้งไป หนอนสุรามองเห็นแต่ข้อดี เพราะไม่ต้องพะวักพะวงถึงคำรับส่งสัมผัส ทำให้แต่งเนื้อความได้ง่ายขึ้น เบ่งขึ้น ข้อนี้ถ้าหูคนยุคนั้นรับไม่ได้ โคลงแบบพระลอคงไม่มีใครมาแต่งตาม หมายเหตุ ข้อนี้น่าลองเปรียบกับกลอนดูบ้าง เท่าที่สังเกตวัยรุ่นเวลาแต่งกลอนตั้งแต่ ๒ บทขึ้นไป มักไม่มีสัมผัสระหว่างบท เลยคิดต่อว่าอนาคตกลอนอาจจะไม่มีสัมผัสระหว่างบทอีกต่อไป เมื่อหูคนส่วนใหญ่ฟังไม่ขัด ๓) เพิ่มสัมผัสในบทระหว่างบาทแรกกับบาทสองเข้ามา อันนี้ถ้าใช้วางเสียงรับส่งสัมผัสให้เหลื่อมกันได้ดี และไม่ใช้สัมผัสสระซ้ำๆ เมื่อแต่งหลายๆ บทก็ฟังรื่นดี แต่ถ้าพลิกกับเป็นตรงข้าม บางครั้งอ่านแล้วสำลักสัมผัส มัวแต่เขียนความคิดเห็นอย่างยืดยาว เลยไม่มีเวลาเขียนโคลงออกเดินโย้นำขบวน ของัดโคลงสมัยช่วงค้นหาลีลาโคลง มาแปะให้ช่วยกันค้นหา... ความดีมีชั่วเทียบ            ให้เห็น แต่จะยกสิ่งไหนเป็น         บรรทัดตั้ง ดีชั่วต่างคนเห็น              แตกต่าง ทุกสิ่งมีพร้อมทั้ง            ชั่วดีฯ มีตามองอย่าตื้น             แค่ตา เห็นเฮย มีสมองลองคิดดู            ซะบ้าง กุว่าอย่าโกรธา                เลยพ่อ เลยแม่ จะปิดบังแก่นข้าง           ในนั้นอดเห็น นะเออฯ ...หรือจะพากันเข้ารกเข้าพงก็บ่ฮู้ ฮิฮิ จากคุณ : หนอนสุรา  - [31 ม.ค. 45 19:23:04] เข้ามาตั้งข้อสังเกต ว่านอกจากน้องหมี ยังไม่มีใครเดินโย้หลุดออกจากกรอบได้เลย ทุกคนต่างมีสติสมประกอบดี แฮ่ เพราะฉะนั้นการวิเคราะห์โคลงน้องหมีขอเก็บไว้ทีหลัง ส่วนโคลงของคนอื่น หนอนสุราพิเคราะห์แล้วจับได้ ๒ แนวทางได้แก่ อันแรกประยุกต์เป็นโคลงสี่สุภาพโทคู่ ลักษณาการนี้มีมาก่อนแต่ครั้งโบราณกาล เอกองค์ทรงภาคย์พ้น      พรรณา พระบาทบงกชคลา         คลี่คล้อย ปวงสัตว์เสพนิทรา         เตือนตื่น สรวมพระบาทนั้นสร้อย    เทริดเศียรฯ ดวงเดียวโอภาสพ้น       พันทิวา กรเอย บานเบิกบงกชคลา        คลี่คล้อย เตือนสัตว์สร่างนิทรา     ใสผ่อง ภักตร์แฮ บัวบาทเรณูสร้อย          เทริดเกล้าเนาเกษมฯ มูลบทบรรพกิจ - พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) ลองพิจารณาโคลงคู่นี้ เนื้อความเท่ากัน แต่บทแรกแต่งเป็นโทคู่ทำให้ลีลาเร็วกว่า โคลงลักษณะนี้ ยังมีอยู่ในจินดามณีฉบับพระโหราธิบดีด้วย เพียงแต่มีรายละเอียดปลีกย่อยต่างกันเล็กน้อย ไม่ได้ตัดแปะมาให้ดู เพราะกลัวขี้เกียจอ่านกัน โคลงแบบนี้ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เคยเอามาแต่งอยู่ครั้งสองครั้ง แต่ตอนหลังจะแต่งอีกหรือเปล่าบ่ฮู้ เพราะหนอนสุราบ่ได้ตามอ่านแบบเกาะติดชนิดแฟนพันธุ์แท้ หนูศ.ช่วยหน่อยจ้า จะว่าไปแล้วโคลงสี่สุภาพโทคู่น่าเอามาใช้กันให้มาก เพราะไม่จัดว่านอกแบบครู ที่สำคัญคือจะทำให้ ได้ลีลารวบรัดเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งอัน เวลาแต่งติดกันหลายๆ บท แล้วบทไหนต้องการให้ลีลาเร็วขึ้น ก็เอาโคลงแบบนี้เข้าแทรก โคลงจะหลากหลายน่าสนใจขึ้น ยิ่งถ้ารู้จักเอาสร้อยบาทสี่แบบบาทกุญชรในกำสรวล มาใช้ด้วย จะยิ่งทำให้โคลงน่าสนใจยิ่งขึ้นอีกหลายแน จากคุณ : หนอนสุรา  - [5 ก.พ. 45 18:30:53] ส่วนอีกลักษณะที่แต่งกันมาเป็นโคลงวิวิธมาลี มีทั้งที่แต่งเป็นโทคู่แลโทแยก นอกจากนี้หลายคนยังติดการรับส่งสัมผัสระหว่างบทด้วย ทำให้เป็นวิวิธมาลีแท้ๆ ไม่มีลีลาใดต่างจากของเดิมเลย ยกเว้นของนิรนามที่เพิ่มจุดสัมผัสเข้ามาอีกหลายจุด หนอนสุราคิดว่าการส่งสัมผัส จากคำท้ายบาทจบในบทแรกไปยังคำท้ายวรรคสองบาทจบน่าสนใจ ลักษณะนี้คล้ายกับ การรับส่งสัมผัสของกลอน การร้อยโคลงแบบนี้อาจจะติดหูคนรุ่นใหม่ก็เป็นได้ แต่สัมผัสสระที่เหลือในแต่ละบท หนอนสุราฟังแล้วรู้สึกเยอะไปจนสำลักสัมผัส นิรนามลองกลับมาตัดแต่งใหม่น่าจะดี ย้อนกลับมาดูโคลงหมีเซอะ โดยย้อนกลับไปดูบทแรกจากกระทู้ก่อน ไม่      รู้ศิษย์น้องศิษย์ -          พี่ไป ไหนหนอ มี      แต่เสียงหนูศ.                 นั่งอ้อน เว     ทีโล่งเลยขอ                   เสียงหน่อย นาพี่ ลา    มะลิลาฟ้อน                  รีบฟ้อนอ้อนหนู เผลอเอาสร้อย มาเป็นตัวส่งสัมผัส !! ผมเป็นโรคนี้บ่อยๆ เวลาแต่งโคลงสดหนะขอรับ .. ใครเป็น หรือรู้สาเหตุ มาคุยกันหน่อย จากคุณ : หมีเซอะ  - [28 ม.ค. 45 14:35:56] ตั้งแต่หนอนสุราแต่งโคลงมายังไม่เคยเป็น ตอนนี้เลยยังไม่อยากคุย แต่สาเหตุนั้นรู้ชัด เนื่องจากตามอ่านโคลงน้องหมีมานาน ขอตอบว่าสาเหตุมาจาก ความอสมปฤดี   จากคุณ : หนอนสุรา  - [5 ก.พ. 45 18:59:56] . จากคุณ : พิราบเงิน - [ 6 พ.ค. 49 19:36:48 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ๒. เกี่ยวกับการนำลีลาโคลงดั้น มาประยุกต์ใช้กับโคลงสี่สุภาพ ขอรับ ( ยิ้ม ) บทนี้ว่าด้วยการเอาลีลาโคลงดั้นมาประยุกต์ใช้ในโคลงสี่สุภาพ การจะอธิบายให้เห็นภาพชัดเจน จำต้องมีตัวอย่างประกอบ แปลว่าต้องจับโคลงมายำใหม่ ซึ่งไม่มีของใครยำได้ถนัดเท่าของตัวเองอีกแล้ว บทนี้แต่งเล่นๆ แสดงให้เห็นตำแหน่งเอกโทของโคลงสี่สุภาพ เหลวเหลวลองแต่งให้              เล็งเห็น ตำแหน่งเอกโทเป็น                  เช่นนี้ เจ็ดเอกสี่โทเมน                      มีนนิ่ง         (main, meaning) ตำแหน่งถูกตามชี้                   ใช่แล้วคือโคลงฯ จากนี้เป็นตัวอย่างการประยุกต์ เท่าที่ดูมีแค่ ๒ ข้อหลัก แต่ข้อ ๒ มีข้อย่อย ไล่เรียงให้ดูเป็นข้อๆ จะได้คิดตามง่าย ๑. ลดคำในบาทท้ายให้เหลือเจ็ดคำเหมือนโคลงดั้น ลีลาโคลงฟังเร็วขึ้นอีกมาก ทั้งที่หายไปแค่ ๒ คำ ประโยชน์ข้อนี้คือเวลาแต่งโคลงติดกันหลายๆ บท แล้วต้องการให้ลีลาต่างกัน มีช้ามีเร็ว บทไหน ต้องการลีลาเร็วให้ใช้กลเม็ดข้อนี้ เหลวเหลวลองแต่งให้              เล็งเห็น ตำแหน่งเอกโทเป็น                  เช่นนี้ เจ็ดเอกสี่โทเมน                      มีนนิ่ง ตำแหน่งถูกตามชี้                   ใช่โคลงฯ สำหรับใครที่เคร่งโทคู่มาก อาจแก้บาทท้ายเป็น ตำแหน่งถูกแท้ชี้                     ใช่โคลงฯ ๒. เรื่องการเอาสร้อยบาทสี่มาใช้ ก. ถ้าบาทสี่ยังใช้โทแยกแบบโคลงสี่สุภาพ บาทนี้ใช้สร้อยโคลงดั้นไม่ได้ เพราะเสียงจะเยิ่น ต้องเอาไปใส่บาทสามหรือบาทแรก แต่ใส่บาทสามเสียงดีกว่าบาทแรก ลองทำให้ดูทั้งสองแบบ โดยเน้นเสียงมากกว่าเน้นความ ลองใส่บาทแรก เหลวเหลวลองแต่งให้              เล็งเห็น ลองเห็น ตำแหน่งเอกโทเป็น                  เช่นนี้ เจ็ดเอกสี่โทเมน                      มีนนิ่ง ตำแหน่งถูกตามชี้                   ใช่แล้วคือโคลงฯ ลองใส่บาทสาม เหลวเหลวลองแต่งให้              เล็งเห็น ตำแหน่งเอกโทเป็น                  เช่นนี้ เจ็ดเอกสี่โทเมน                      มีนนิ่ง มองนิ่ง ตำแหน่งถูกตามชี้                   ใช่แล้วคือโคลงฯ ข. ถ้าบาทสี่ใช้โทคู่ ใส่สร้อยบาทสี่ได้อีกแห่ง ตรงนี้มันส์พะย่ะค่ะ เหลวเหลวลองแต่งให้              เล็งเห็น ตำแหน่งเอกโทเป็น                  เช่นนี้ เจ็ดเอกสี่โทเมน                      มีนนิ่ง ตำแหน่งถูกตามชี้                   ใช่โคลง ชาญโคลงฯ ลองเปลี่ยนเสียงอักษรในคำสร้อยไม่ใช้เสียงเดียวกันก็ยังพอไปได้ แต่คนเคร่งตำราอาจไม่ชอบ เหลวเหลวลองแต่งให้              เล็งเห็น ตำแหน่งเอกโทเป็น                  เช่นนี้ เจ็ดเอกสี่โทเมน                      มีนนิ่ง ตำแหน่งถูกตามชี้                   ใช่โคลง คือโคลงฯ ลองแบบพิศดารขึ้นไปอีกคือใช้คำมีวรรณยุกต์แทนคำสุภาพก็ยังพอไหว เหลวเหลวลองแต่งให้              เล็งเห็น ตำแหน่งเอกโทเป็น                  เช่นนี้ เจ็ดเอกสี่โทเมน                      มีนนิ่ง ตำแหน่งถูกตามชี้                   ใช่โคลง แน่โคลงฯ ลองแบบพิศดารสุดๆ คือเปลี่ยนคำหน้าซ้ำคำหลัง อันนี้ชักจะโคลงเคลง เหลวเหลวลองแต่งให้              เล็งเห็น ตำแหน่งเอกโทเป็น                  เช่นนี้ เจ็ดเอกสี่โทเมน                      มีนนิ่ง ตำแหน่งถูกตามชี้                   ใช่โคลง ใช่เคลงฯ ประยุกต์ใช้ให้ดูแบบที่ไม่แหกกฎมากนัก ข้อ ๑ และ ข้อ ๒ ก. น่าจะเอาไปลองเล่นกันได้ไม่ยากนัก ส่วนข้อ ๒ ข. ควรระวังมากๆ หน่อย ถ้าใช้ไม่เป็นโคลงจะเคลงจนล่มแล จากคุณ : หนอนสุรา  - [3 พ.ค. 14:10:17]   . แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 49 20:51:51 แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 49 19:43:41 จากคุณ : พิราบเงิน - [ 6 พ.ค. 49 19:38:22 ]

ความคิดเห็นที่ 57 และ ๓. เกี่ยวกับ ขอรับ ( ยิ้ม ) วันนี้ไม่ค่อยว่าง พรุ่งนี้ก็ท่าจะไม่ว่างอีก แต่โหลดมาอ่านคร่าวๆ ครบหมดแล้ว ว่างเมื่อไรจะเข้ามาแสดงทัศนะ ตอนนี้ขอแปะโคลงลาวก่อนเด้อ สี่บทข้างล่างนี้จากจินดามณี ฉบับพระโหราธิบดี พระยางายลืมโคลงลาว ขรวงทองรองจ้อนฦๅ            โฉมคระ ขรวงทองรองเจ้ายะมะ          ทิพไหว้ ส้วนสาวภิมานพระ                ส่องโลก เฟือนแร ขรวงบวงเดือนจูลไหว้          ทั่วฟ้าเอนดูฯ อินทรเกี้ยวกลอนโคลงลาว คิดนักหอดหักแล้ว                  ในใจ คิดควบถึงใครใด                   ร่วมรู้ คิดนักคิดหิวไป                       ในมะ โนแฮ คิดบมีเจ้าชู้                            บ่เว้นพระวันยามฯ อินทรหลงห้องโคลงลาว ปลดคำบนี้ดั่ง                      เรียมจง ซั้นขอขอเทียมองค์               ชาติหน้า รักษ์ไปล่ชาติลุปลง               เจียรจาก ฉันนี้ เกอดในกับเกอดฟ้า              ร่วมท้องพิมานเดียวฯ ไหมพันยุ่งน้ำโคลงลาว เรียมแปลงบทบาทเบื้อง       โวหาร คือถือแถมสมภาร                ชูถ้อย ฝูงหญิงย่อมสาธารณ์          ทำโทษ นักแฮ บ้างพร้องผัวเอื้อมช้อย        ลอบเหล้นหลายชายฯ จากคุณ : หนอนสุรา  - [4 ก.พ. 45 18:56:01] ส่วน ๒ บทนี้มาจากเรื่องท้าวฮุ่งท้าวเจือง ภูไซท้าวเสด็จสู่                ปางทอง อรองค์นางม่วนเมือง        เทียมท้าว ซะบองเนื้อฮวายจัน          หอมฮื่น กะลันมักพ้าวสมคู้            ก่อนเสน พิมมะลื่นน้ำกองดอก        มาลา เป็นดวงหอมกิ่นกะจวน    เจือฟ้ง บาไทกั้วเสนหา               ฮักแจบ อกฝ่อฟ้งประสงค์ท้าว     ปวดกระสันต์ ลองอ่านเทียบกันเล่นเหล้น อิอิ แถมโคลงโองการแช่งน้ำอีก ๒ บท แต่ไม่เรียงเป็นรูปโคลงที่คุ้นกัน เพราะกลัวเรียงผิด นานาเอนกด้าวเดิมกัลป์ จักร่ำจักราพาฬเมื่อไหม้ กล่าวถึงตะวันเจ็ดอันพลุ่ง น้ำแล้งไข้ขอดหาย เจ็ดปลามันพุ่งหล้าเป็นไฟ วาบจัตุราบายแผ่นขว้ำ ชักไตรตรึงษ์เป็นเผ้า แลบล้ำสิลอง อ่านแล้วอาจจะมึนตึ้บ แม่ปูมาถึงแปะอะไรให้อ่านก็บ่ฮู้ เจตนาเป็นหยังหวา หรือว่าคิดฮอดสาวลาว ฮิฮิ   จากคุณ : หนอนสุรา  - [4 ก.พ. 45 19:09:23] ปัญญาเดินตรอก เดินตรอกคือคอกกั้น          ปัญญา จำกัดสายตาคน                 แค่ใกล้ ขวาซ้ายส่ายนัยนา             นึกแคบ เหตุบ่เห็นกว้างได้             ดั่งแดฯ ปัญญาออกถนน จากตรอกออกไกว่กว้าง    ทางถนน ย่อมเห็นหนแล                ห่างสล้าง (บาทนี้ต้นฉบับพิมพ์ตกหนึ่งคำ คงเป็น จะ - หนอนสุรา) ปัญญาจะพาดล              แดนสว่าง เหตุที่เห็นได้กว้าง            แกว่งตาฯ โคลงดั้นแฝดนี้แต่งทีหลังโคลงดั้นอื่นๆ ในหนังสือเล่มนี้ ได้ลองเพิ่มสัมผัสจัตวาทัณฑีเข้าไปอีกชั้นหนึ่งนอกตำรา ฟังไม่ขัด มีเสียอยู่ก็แต่ที่ทำให้แต่งยากขึ้น (ข้ามหนึ่งย่อหน้า - นสร.) การเพิ่มจัตวาทัณฑีหรือตรีพิธพรรณเข้ากับโคลงดั้นธรรมดาอีกชั้นหนึ่งนั้น ยากกว่าร้อยโคลง เพราะจำกัดไม่ให้ใช้คำเอกโทเป็นคำร้อย แต่ก็ไม่ยากขึ้นอีกกี่มากน้อย ถึงกระนั้นก็เห็นจะไม่คุ้มลำบากดอกกระมัง สามกรุง - น.ม.ส. จากคุณ : หนอนสุรา  - [7 ก.พ. 45 09:28:03] ด้นสด ศึกษาโดยไม่ยั้ง           หยุดคิด เอาแต่กอดตำรา         แน่นตู้ ปราชญ์ว่าทั้งชีวิต       สูญเปล่า ผลสุดท้ายม่ายรู้         อะไรเลยฯ (อิอิ) รับสัมผัสพาร์สาม+เกลานิดหน่อย ศึกษาโดยไม่ยั้ง         หยุดคิด มัวแต่ติดตำรา          แน่นตู้ ปราชญ์ว่าตลอดชีวิต เปล่าประโยชน์ เพราะสุดท้ายบ่เคยรู้ อะไรจริงฯ จากคุณ : หนอนสุรา  - [7 ก.พ. 45 09:31:41] . จากคุณ : พิราบเงิน - [ 6 พ.ค. 49 19:39:29 ]

ความคิดเห็นที่ 58 แว้บมาวางผัง ฝากเพื่อน ๆ ตามคำพี่หมีฯ ขอรับ (ว่าเฉพาะสุภาพนะครับ ส่วนดั้นไม่แน่ใจว่า ผังถูกต้องไหม อันนี้ นำมาจากเวบ  http://thaiarc.tu.ac.th/poetry/index.html ขอรับ ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้) เริ่มด้วย ร่ายสุภาพ แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 49 21:04:39 จากคุณ : พิราบเงิน - [ 6 พ.ค. 49 20:55:54 ]

ความคิดเห็นที่ 59 โคลง ๒ สุภาพ จากคุณ : พิราบเงิน - [ 6 พ.ค. 49 20:57:56 ]

ความคิดเห็นที่ 60 โคลง ๓ สุภาพ จากคุณ : พิราบเงิน - [ 6 พ.ค. 49 21:00:10 ]

ความคิดเห็นที่ 61 รำ    บ่ดีกล่าวโทษอ้าง         ปี่กลอง ลึก   ลึกแม้เด็กมอง             ย่อมรู้ ตำ    หนิสิ่งทั้งผอง              รายรอบ นาน  เนิ่นย่อมไร้ผู้               ร่วมสร้างร่วมฝัน จากคุณ : Little Red - [ 6 พ.ค. 49 22:23:54 ]

ความคิดเห็นที่ 62 กราบสวัสดีทั่นพี่ทั่นน้องทุกทั่นขอรับ.... ขอบคุณน้องเซ่อ. คคห.43ช่วยกระผมแก้สัมผัสโคลงสองขอรับและ... ..................๏๏กราบสวัสดี๏๏.................. ๑พี่วลีรี่รี้                                 ไหลโลม หมีเซอะคล้ายประโคม               ย่ำฆ้อง คัมภีร์พี่เธอโสม                        ธารสระ คุณพี่หมอวฤกร้อง                    ร่ายไม้ดอกสวย๚ ๒เซอเธอทำเซ่อให้                          ขำเสมอ สาระใจน้องเธอ                 เก่งกล้า(สาระใจแผลงจากศาลาไทย) นามมิตรมิอาจเจอ                            จดหมด อภัยนอ (คิดฮอด)อมยุทธ์พี่(วลี)ทั่นท้า              ท่วงถ้อยคารม๚ กระผมแอบชื่นชมความงามจากโคลงทุกทั่นเป็นเหตุให้ ตั้งใจฝึกเขียนร้อยกรองติดตาม ใคร่ถือโอกาสนี้...จำเป็นต้องกราบขออภัยข้อผิดพลาดไว้ด้วยขอรับ...... คคห. 47 ใคร่สนทนาฉันมิตรกับคุณนัทตี้ครับ            น้อมรับไว้      ใส่จิต          ตรงไหนผิด    ช่วยแก้          ลองนั่งคิด      คำเล่น          ยุ่งยากแท้    จริงเชียว          สามคำหน้า     หลังสอง          จับคล้องจอง   แจ่มแจ้ง          ยากกว่าลอง   ปอกกล้วย          หาใช่แกล้ง     บอกกัน( NATTI นัทตี้ ) ผิดถูกตรงไหนช่วยบอกช่วยแก้ด้วยจะเป็นพระคุณอย่างสูง แต่ยอมรับว่ายากเหมือนกันนะ เรียนตามตรงว่ากระผมมิได้มีความรู้ทางโคลงเลยครับ หากจะให้ช่วยแก้ไขคงจะทำไม่ได้อย่างผู้เป็นกวี... แต่ก็ใคร่สนทนาเป็นมิตรด้วยขอรับ...และเชิญมาแปะโคลงบ่อยๆนะครับ กระผมสนใจเขียน...เรียนร้อยกรองร้อยลัก..มักแต่งถูกแต่งผิด... ชนิดสนุกสนาน..สำราญสำเริงใจ..วัยวรรณนะนาฯ คงจะตรวจสอบได้ด้วยผังโคลงครับ กา ก่า ก้า...................................กา กา สามคำ(ก่า)หน้า........................หลังสอง กา กา กา...................................ก่า ก้า จับคล้องจอง............................แจ่มแจ้ง กา กา กา...................................กา ก่า ยากกว่าลอง.............................ปอกกล้วย( ก่า ) กา ก้า ก้า...................................ก่า กา หาใช่( ก้า)แกล้ง...............................บอกกัน ปล.แต่อย่างไรก็ตามผมอ่านโคลงคุณนัทตี้แล้วก็ได้รสชาติความหมาย และเสียงไพเราะครับ.....เข้าใจว่าจะเขียนเสียงโคลงได้ไพเราะกว่าผมอีก แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 49 07:31:23 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 49 07:28:22 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 49 07:21:50 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 49 07:19:40 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 6 พ.ค. 49 23:48:09 ]

ความคิดเห็นที่ 63 อา             หารจานเผ็ดร้อน           มากมี สม(ศรม)     ดั่งกุลสตรี                  เที่ยงแท้ ชาว            บ้านต่างอ้วนพี             กันหมด โครง(โตลง) ไก่ให้พี่แล้                  ขูดเนื้อกินนะหรือ จากคุณ : Little Red - [ 7 พ.ค. 49 01:14:19 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ตอบคุณนัทตี้/๓๙ ขอรับ ตัวอย่างที่นัทตี้ยกมานี่เขาเรียกว่าอะไรจำไม่ได้แล้ว จงจรเที่ยว เทียวบทไป พงพนไพร ไสลลำเนา ด่นบทด่วน ชวนจิตเรา แบ่งทุกขเบา เชาวนไว อ่านว่า จงจะระเที่ยว เทียวบททะไป พงพะนะไพร ไสละลำเนา ด่นบททะด่วน ชวนจิตตะเรา แบ่งทุกขะเบา เชาวะนะไวย ถ้าจำไม่ผิดนะรู้สึกจะอยู่ในนิทานเวตาล คือชอบลีลาการอ่านมาก แต่จำไม่ได้แล้วว่ามันคืออะไร พอรู้ไหมคะ เขาเรียก "มาณวกฉันท์" ขอรับ ตัวอย่างจากเวบ http://thaiarc.tu.ac.th/poetry/chan/index.html#08mana ครับ ( ยิ้ม ) จากคุณ : พิราบเงิน - [ 8 พ.ค. 49 11:02:15 ]

ความคิดเห็นที่ 65 และผัง ครุ ลหุ ลหุ ครุ ฯลฯ ครับ แก้ไขเมื่อ 08 พ.ค. 49 11:05:23 จากคุณ : พิราบเงิน - [ 8 พ.ค. 49 11:03:20 ]

ความคิดเห็นที่ 66 จุดธูปเรียกหลอกให้        เฝ้าอา ศรมฤๅ ไปท่องเที่ยวไหนหนา      บอกด้วย วันฉัตรฯผ่านวันวิสาฯ       ก็เฃยิบ ใกล้นา วันกลับฝากซื้อกล้วย       อบน้ำผึ้งละหนอ จากคุณ : Little Red - [ 8 พ.ค. 49 18:49:24 ]

ความคิดเห็นที่ 67 คคห.54....   ขอบคุณรำลึกเล็กเช่อของครูหนอนสุรา ที่ทั่นพี่พิราบเงินนำมาทบทวนขอรับ โคลง ๔ มี ๓ แบบ จากการตะลอนตะลุยพบว่า โคลงสี่ในวรรณคดีไทยมี ๓ แบบ ได้แก่ โคลงสี่สุภาพ, โคลงวิวิธมาลี, โคลงบาทกุญชร ขอเวลาทบทวนทำความเข้าแล้วจะนำการบ้านมาส่งขอรับ ปล.ตกหล่นขอขอบคุณ ผัง"มาณวกฉันท์"ด้วยอีกหนึ่งขอรับ แก้ไขเมื่อ 08 พ.ค. 49 22:48:57 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 8 พ.ค. 49 22:46:56 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เบียร์เหวยวานเจ้าเชื้อ       เชิญเขา มาที ดื่มแด่โดยเดียวกลืน                อ้างว้าง เพ็ญขึ้นต่างโคมเทียน             เวียนอยู่ พิมพ์ไม่กี่คำขว้าง              ทิ้งไป จากคุณ : สุปศกาล - [ 8 พ.ค. 49 22:57:34 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ดาวดับเดือนต่อหน้า    ฟ้าเทา ใยเร่งเต็มเดือนแรม       เจ้าฟ้า ฤาฝากเผื่อโคลงเคลง       ใจแกว่ง เชิญเสด็จแจ่มจ้า           ดวงเดียว จากคุณ : สุปศกาล - [ 8 พ.ค. 49 23:10:20 ]

ความคิดเห็นที่ 70 อัญเชิญสิงห์เจ้าเชื้อ       เชิญขวัญ  มาลา เร่งเอาดวงเดือนแทน         ไขว่ฟ้า สดับดั่งเรียกหา             ใครโศก วานผู้ก่อสนานหน้า         ยิ้มที จากคุณ : สุปศกาล - [ 8 พ.ค. 49 23:22:01 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ดึกหนออกองค์โอ้       เหวยกรู ใยเจ้าดวงเดือนเชิญ      ไม่ได้ เงียบเหงาช่างวังเวง        นานนัก   เจ้าเอย เจ้าไม่เคยรู้ร้าง           บ้างเลย จากคุณ : สุปศกาล - [ 8 พ.ค. 49 23:26:50 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เปลนอนนอกชานนี้        หนาวทรวง ใครรุ่มร้อนฝากลม          พัดไล้ แสงจันทร์ส่องจากดวง       จันทร์ครึ่ง ฝันใฝ่มิอาจไกล้               แต่เงา แก้ไขเมื่อ 08 พ.ค. 49 23:37:57 จากคุณ : สุปศกาล - [ 8 พ.ค. 49 23:32:39 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ... แก้ไขเมื่อ 08 พ.ค. 49 23:37:12 จากคุณ : สุปศกาล - [ 8 พ.ค. 49 23:35:01 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ฝนตกจางดาวไหม้      หม่นหมอง ตากแต่งกลืนคำเยาว์        เหยียบให้ แหลกราญป่นแต่เรา          เปียกคว่ำ  คว้าไหว คงไม่ยื้อรักไ ร้           เผื่อกลืน จากคุณ : สุปศกาล - [ 8 พ.ค. 49 23:54:51 ]

ความคิดเห็นที่ 75 กลิ่นแกมแก้มแก้วเจ้า           อาบจันทร์  อยู่ฤา ฤาร่ำอวดผิวพร้อง             ผู้เร้น หรือหาค่ำใครครอง           ใครสู่ หรือฝากใฝ่ใจเต้น            ต่อใคร จากคุณ : สุปศกาล - [ 9 พ.ค. 49 00:02:15 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ดึกนักเชิญที่หน้า       ในฝัน แวะว่าเป็นคนใคร        เผื่อรู้ หลับลึกย่อมรู้หาก            ยืนเศร้า เดินตื่นซัดสาดอู้             หาดทราย จากคุณ : สุปศกาล - [ 9 พ.ค. 49 00:12:59 ]

ความคิดเห็นที่ 77 หาดทรายช่างไกลฝัน          ฝั่งโอ้  อันเคย ใยมิมีสายลม                พัดเย้า ทะเลห่างหาใน            อกสั่ง อกสั่งอกเจ้าเฝ้า            เคียงกาย จากคุณ : สุปศกาล - [ 9 พ.ค. 49 00:19:31 ]

ความคิดเห็นที่ 78 วานจูบชิดแก้มนี้       ที่ครวญ ฝากเจ้าลมอัญเชิญ       ให้รู้ ว่าหอมก่อใครหวน        หาเท่า   คืนค่ำเนื้อน้องชู้          นิ่มใจ จากคุณ : สุปศกาล - [ 9 พ.ค. 49 00:29:27 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ห่มหากายอกเจ้า     อุ่นจันทร์ แสงส่องหนาวตากคำ      แต่งอ้าง นิ่มเนื้อนิ่มเบียดพลัน       ฝันคลื่น   ซัดสู่หาดทรายคว้าง        หวั่นร้าง ไหวไหว จากคุณ : สุปศกาล - [ 9 พ.ค. 49 00:46:43 ]

ความคิดเห็นที่ 80 คคห.68-69..สวัสดิ์ดีคุณสุปศกาลขอรับ... ร่วมสนุกด้วยนินิ.. เบียร์เหวยวานเจ้าเชื้อ       เชิญเขา มาที ดื่มแด่โดยเดียวกลืน                อ้างว้าง เพ็ญขึ้นต่างโคมเทียน             เวียนอยู่ พิมพ์ไม่กี่คำขว้าง              ทิ้งไป(สุปศกาล) บ่มเบียร์เย็นแช่ชั้น              ช่องฟิส รอมิตรมาเยือนพิศ             เพ่งเหน้า ดวงเหลืองมะเลืองฤทธิ์     เหลืองเลิศ ลออ ลิขิตเล่นเช่นเจ้า                   จรดจ้องเชยเชิญ(จันทร์แห้ง) ดาวดับเดือนต่อหน้า    ฟ้าเทา ใยเร่งเต็มเดือนแรม       เจ้าฟ้า ฤาฝากเผื่อโคลงเคลง       ใจแกว่ง เชิญเสด็จแจ่มจ้า           ดวงเดียว (สุปศกาล) เดือนลาดารดาษฟ้า          โกฏิดาว จำจากจำจรคราว               ลับฟ้า   เดือนเดียวเดี่ยวพราว        นภาพร่าง  เดียวดาย เช่นมิตรหมายท่องหล้า     แล่งรู้ลางโคลง(จันทร์แห้ง) อาจแต่งผิดถูกผังโคลงอย่างไรไม่รับประกันนะขอรับ.........ฮา จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 9 พ.ค. 49 07:13:33 ]

ความคิดเห็นที่ 81 พี่แดง คคห.๖๖ จุดธูปเรียกหลอกให้        เฝ้าอา ศรมฤๅ ไปท่องเที่ยวไหนหนา      บอกด้วย วันฉัตรฯผ่านวันวิสาฯ       ก็เฃยิบ ใกล้นา วันกลับฝากซื้อกล้วย       อบน้ำผึ้งละหนอ แหะแหะ..ขอโทษก๊าบบบ.. หมีติดภาระกุดเจงๆ ว่าจะต่อลิลิตไปเรื่อยๆ แต่มันนั่งนานบ่ได้ ใครว่างเข้ามาแจมหน่อย เด๋วหมีจะโดนค้อนควับๆๆ --------------------------- ยินดีต้อนรับคุณ สุปศกาล ครับ ชื่อแปลกจัง หมีลองเปิดดิกดูก็ไม่เจอความหมาย มีใกล้เคียงคือ ปศุ แต่คงไม่ใช่ เรื่องโคลง ยังไงลองดูผังแบบต่างๆจากเว็บเสียงไทยตามลิ้งก์ข้างล่างนะครับ (สามารถคลิ้กฟังเสียงในแบบทำนองเสนาะได้ด้วย) http://thaiarc.tu.ac.th/poetry --------------------------- ปล. ลิลิตแรกในชีวิตหมี เขียนร่ายตกเอกอ่ะ .. แฮ่ๆ ตอนแต่งหมีไม่ได้ดูผังจากเว็บอ่ะครับ แกะเอาจากหนังสือ ลิลิตหล้ากำสรวล ของคุณ กานติ ณ ศรัทธา หมีซื้อมานานแต่อ่านไม่จบซักที .. เอิ๊กกก แต่ตามประสาคนมีนักศึกษาสำนึก เมื่อเราได้รับความรู้จากของสิ่งหนึ่งคนใด เราก็ย่อมอยากตอบแทนของสิ่งนั้นคนนั้น ก็อยากโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่อว่า .. หนังสือเล่มนี้เป็นแบบเรียนที่ดีเล่มหนึ่งครับ จุดเด่นด้านความเคร่งครัดเรื่องการใช้คำรูปสามัญ และการร้อยโคลง เป็นที่อึ้งกิมกี่แก่ฤดีหมีมาก จากคุณ : หมีเซอะ - [ 9 พ.ค. 49 12:36:03 ]

ความคิดเห็นที่ 82 คคห81...สืบเนื่องว่าพี่หมีเซอะโฆษณาสรรพคุณ..... ...จนอยากอ่านลิลิตหล้ากำสรวลบ้างขอรับ..... ...........๏รำลึกโคลงดั้นวิวิธมาลี๏............... ๏เสียงลือเสียงดุ่ยดั้น             ดันมา เสียงพี่เสียงหมีเซอะ              เปรอะแว้ว จำกัดลัดเพลา                      เสียงบอก ยุ่งหลาย ยังส่งเสียงแจ้วจ้า                  ร่ายหรูฯ ๏สองขาเธอถีบจั้ก                กะยาน จะเข้ ปากร่ายลิลิตเห่                  โห่หั้น           เพลินขำท่าทางขาน            ขาปั่น  ล้มลา เสียหลักหักบั้นท้าย            จักรยานฯ ปล.เดี๋ยวต่อบาทกุญชรขอรับ และแต่งตามผังจากลิ้งค์ http://thaiarc.tu.ac.th/poetry/khloong/dun/index.html#k4dvivid แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 49 20:01:44 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 49 20:01:20 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 49 18:43:04 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 9 พ.ค. 49 18:42:42 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ต่อโคลงดั้นบาทกุญชรขอรับ ๏ร้องร่ายลิลิตแรกแล้ว          ไหมงาม หลายฮา นามภาษภาษาศิลป์               ศาสตร์พร้อง น้องไม้แหว่งแห้งถาม          ความที่ ลับแล ขอจดขอพี้ร้อง                      ร่ายเสมอฯ ๏คงขับควบขี่ซุ้ม                    เสียงใส เร็วรวดลมกรดเผลอ              เพลี่ยงพลั้ง น้องไม้แหว่งแห้งใจ               หายหด หมดเลย กลัวจะเข้ต้องยั้ง                      พี่เบาฯ และผังโคลง แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 49 19:04:44 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 9 พ.ค. 49 19:03:02 ]

ความคิดเห็นที่ 84 สืบสาวราวความแต่ คคห.53พี่หมีเซอะ ๙. ยังมีโคลงแสบแสบ      แต่งแบบคนส้าส์ส้าส์ มีชื่อว่าปูบ้า                   อยากบ้ามาซี มาขอลองรสชาติ...ขอรับ โคลงสองไม่สุภาพ (ปูบ้า) *ปล. - เล่นเฉพาะในอาศรม ๑๐. โคลงสองกรกฎเพี้ยน     ครรโลง หนึ่งบทสองบาทสี่               วรรคจ้า ๑๑. ท้ายวรรคหลังคอยโยง   สัมผัส รับที่ท้ายวรรคหน้า             บทหน้าบาทเดิม(หมีเซอะ) ๏สัปเหร่อบอกร้อง                 คืนโลง ผีดุผีตายตก                           หุบห้วยฯ ๏เชิญพระเฝ้าอยู่โยง               เองเถิด ข่อยกลัว ปาวประกาศช่วยด้วย              ดุ่ยดั้นดันโคลงฯ(ไม้แห้ง) รสชาติแสบมากหลายขอรับทั่นพี่หมี แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 49 05:16:01 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 9 พ.ค. 49 19:29:11 ]

ความคิดเห็นที่ 85 สืบเนื่องจากคคห. 45 ......น้อมศึกษาจากพี่ด้วยคับ พี่คัมภีร์โบราณ   - [ วันฉัตรมงคล 15:20:45 ]   .................... รับขวัญ ครูหนอนฯ ................... ๑. บายศรีขวัญพ่อเอ้ย                    ขวัญมา คืนสู่อ้อมอกสา-                        นุศิษย์เพี้ยน หมีเซอะ วฤก อา                       พี ทิ-   วาแล เสพสุขสังวาสเสี้ยน                    เสื่อมข้อเข่าหลาย ขวัญหายเพราะเจอะพี้                ผีมา ชมพี่คัมภีร์สา                               นุศิษย์เพี้ยน หลงไหลแล่งโคลงคลา               ครั้งเก่า ก่อนแล หวังไม่สิ้นสวาดเสี้ยน                  เข่าข้อพี่ขา(จันทร์เหี่ยว) ๒. ขวัญเอยขวัญถึกเทื้อ                   ทึนทึก ขวัญอย่าหลงป่าลึก                     หลืบเร้น อาศรมมิสร่างศึก                        โคลงศาสตร์ รู้ถ่อมรู้เจียมเน้น                         แต่เนื้อมณีหอม ขวัญเอยขวัญถึกเทื้อ                   ทึนทึก ชมพี่ไหนใคร่นึก                          หนุ่มเหน้า พี่หมีมากศาสตร์ศึก                      กลกล่อม  ใจนา น้อมถ่อมน้อมเรียนเฝ้า                 ใฝ่ฟื้นฝึกบูรณ์(จันทร์แรม) ๓. ศิษย์เก่าศิษย์แก่พู้น                   พรรษา เดินตกไหสุรา                           เสพค้าง ดับขวัญเสื่อมโคลงคา-                รวะปราชญ์ อมทุกข์อมโศกอ้าง                    ธุระโอ้โอฬาร เก่าแก่เหงือกล่นแล้ว                 ยังหนา แขวนเต่าเต้าสุรา                        เลิกร้าง ดับขันธ์ดับเครื่องหา                  ครูปราชญ์ นิราศแรมลาค้าง                         ค่ำนี้หงอยเหงา(จันเอม่อน) ๔. หนึ่งจอกหมื่นจิบน้อม                 คำนับ คุกเข่าร่ายโคลงขับ                   กล่อมแก้ว หมื่นจิบหนึ่งรสจับ                     ดวงจิต คือหนึ่งพระคุณแผ้ว                   ผ่องน้ำใจครู   จิบทีละจอกน้อม                         หมื่นถึง ขวดเขย่าเล่าหมดจึง                    หลับแล้ว หมื่นจอกหมื่นจิบคนึง                 ครูคับ  คับครู คารวะพี่ผู้แผ้ว                              ผ่องน้ำโคลงฉันท์ (จันทร์ดับ)               ๕. ขวัญโคลงคือหนึ่งน้อง               ศาลา   ไทยแล ขวัญแม่ปริ่มห้วงมหา                 สมุทรกว้าง โมโน นิรนาม จา-                     ริกโลก เอ๊กส์เฒ่า หูบวมข้าง                  หนึ่งด้วยเมียดึง เกล้าขวัญโกนจุกแล้ว               สาระ    ใจแล ขวัญแม่หายหลายจะ                 จุ่งแจ้ง มากมายพี่ข้าคะ                          เปรี่ยมสุข  หวังเฮย โคลงแบบฝนดับแล้ง                   แล่งเร้าสู่ฝัน(จันทร์กระจ่างฟ้า) ๖. บายศรีขวัญสู่ห้อง                    อาศรม เชิญเทพยักษ์มหาพรหม            ผ่านหล้า ได้โปรดท่านพญายม                จงอย่า  มานา เว้นหนุ่มคัมภีร์กล้า                    แก่นเซี้ยวเสียวกระสัน ชวนทาสีห้องใหม่                     อาศรม เชิญพ่อแม่พี่ผม                          อยู่เย้า แม้นหากชวนทั่นยม                   ผมเผ่น หายนา เชิญพี่คัมภีร์เฝ้า                           อยู่ห้องอีกหน นะนะ  (จันทร์เหลืองลออ) ปล.สังเกตุว่าความอยากเขียนร้อยกรองเกิดจากความประทับใจ....ในรสโคลง.....หรือเปล่า....ขอรับ แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 49 16:48:03 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 9 พ.ค. 49 20:47:55 ]

ความคิดเห็นที่ 86 สวัสดีทุกทั่นอีกรอบขอรับ ขอรำลึกตำนานอาศรมขอรับ โคลงดั้นวิวิธมาลี ๑ ลำ ไผ่ซอเสียดไม้         ไกวลม ลึก ออดเอียดเบียดบน     พฤกษ์พร้อย ตำ  เนตรไล่เลี้ยวพรม      พริ้วพร่าง นาน ขับโคลงร้อยลี้          เรื่องเขญ ๒ อา  เศียรวาทคุรุผู้               รู้โคลง กาพท์ก่อน ศรม  สุขสมสืบเยน            เจตเคื้อ           ชาว  กวีกระวาดโยง          ใจสู่ กันนา โคลง บ่งทุกข์เอื้อเฟื้อ        เผื่อผอง โคลงดั้นบาทกุญชร ๓ ฝนสาดยอดดอกหญ้า          หักพับ ซบยอดกับโคนคน               ย่ำต้น เหตุเพราะอ่อนโอนรับ       เขญขื่น  ประจำ ช้ำแห่งเราล้นพ้น           เท่าเทียม ๔ อาศัยเสียงรื่นล้น         สายลม หรีดหริ่งร้องเพลงรงม      ซิ่นเศร้า ลมพรายพัดผ่านตบม         ให้ชื่น คำกาพท์หอมเร้ารื้น         เสน่หา วิวิธมาลี ๕ กระแสชลเชี่ยวล้น               ไหลวน ดิ่งลึกอาจคะเน                       นับได้ ใจวกลดเลี้ยวคน                      แสนยาก ค้อมคดขอบคุ้งไซร้                 บ่เทียม ๖ ยามยากหลากเรื่องร้าย            กรายกรู ยังสติตรองก่อนเตรียม                  ตอบตั้ง ยามแย้มยิ่งสุขสู                       ทุกข์ติด ตามมา ล้วนอนิจจังยั้งไว้                 ก่อนใจ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 49 05:06:30 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 49 22:48:11 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 49 21:56:14 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 9 พ.ค. 49 21:54:23 ]

ความคิดเห็นที่ 87 จักอุ้มอัญเชิญหน้าเหน้า      องค์ใด ริบหรี่ถ่านเถ้าแสงไฟ      ซ่อนเร้น เมฆเปียกห่มฟ้าเคยใส      เป็นค่ำ ไอกลิ่นก็หอมใจเต้น      ทั่วเนื้อจรดใจ จากคุณ : สุปศกาล - [ 9 พ.ค. 49 21:57:08 ]

ความคิดเห็นที่ 88 เคยนั่งแนบชิดหน้า      แสงนวล กอดคลึงเคล้ารัญจวน      แผ่วเนื้อ กระซิบค่อยใครครวญ      กรุ่นกู่ เผลอพรั่นรินปากเชื้อ      ช่างคล้ายไอฝัน จากคุณ : สุปศกาล - [ 9 พ.ค. 49 22:04:48 ]

ความคิดเห็นที่ 89 หาดาวมิพบเพ้อ      คว้างฟ้า แสงเกลื่อนเมืองกลบตา      ยิ่งไร้ ก็รู้นี่มายา      เป็นเหยื่อ ใจไขว่กายคว้าไว้      แต่เงา จากคุณ : สุปศกาล - [ 9 พ.ค. 49 22:10:08 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ลมเอยโลมใจไล้      ปลอบร้อน ซบกรุ่นแก้มแนบกร      อยู่ไกล้ ยามร่วมค่ำเคียงหมอน      ใบหนึ่ง ตรึงหมื่นแสนศรไหม้      ก่อร้อนทรวงเกรียม จากคุณ : สุปศกาล - [ 9 พ.ค. 49 22:18:06 ]

ความคิดเห็นที่ 91 อาศรมโคลงเรื่อยเลื้อย           เรียงเรียง หลายท่านช่วยส่งเสียง            เรียกร้อง กระวีเก่าพร้อมเพรียง              นำก่อน คนใหม่ตามพวกพ้อง               เพิ่มล้นพันทวี จากคุณ : เจียวต้าย - [ 10 พ.ค. 49 06:14:45 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ทำดีทำเด่นด้วย                       ควรชม เขียนอ่านน่านิยม                     จิตคล้อย มากมายค่าคำคม                     คิดอยู่ ล้วนแต่งามใช่น้อย                   แง่เงื้อมงวยงง จากคุณ : เจียวต้าย - [ 10 พ.ค. 49 06:26:16 ]

ความคิดเห็นที่ 93 +++ ราชาวดี +++ ๏ อรุณแดดอุ่นไล้..............โอ้โลม วอนชื่นเชยชมโฉม.............ฉะอ้อน ยอมพรากจากโพยม...........เพื่ออยู่ เพียงครู่ผาดพรรณซ้อน.......สักครั้งหวังเชย ฯ ๏ รำเพยลมพัดพลิ้ว............พลิกไกว กระทุ่มกระเทือนใบ............บิดสะท้าน ราชาวดีไหว......................หวามหวั่น ว่าพรั่นคำพลอดคร้าน.........ผ่อนคร้ามความหวาน ฯ ๏ รุ่งกาลเหลืองเรื่อฟ้า........ราวฝัน เรียมฝากคำรำพัน.............พากย์ไว้ พร่ำวอนฉะอ้อนกรรณ........อ้างก่อน อาบกรุ่นแดดอุ่นไล้...........ลูบไซร้ใครถนอม ฯ ๏ อย่ายอมแดดอุ่นอ้อน......อรรถชม อย่าปล่อยโฉมประโลมลม...ลูบเร้า อย่าหลงเรื่องนิยม..............นิยายหลอก อย่านอกใจผู้เฝ้า...............ใฝ่เจ้าจอมขวัญ ๚๛ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๔๙ ========================================== ด้วยความที่ไม่รู้จะเขียนอะไร ก็หยิบเอาดอกไม้ใบหญ้า มาเขียนไปเรื่อย ๆ พยายามจะเขียนเป็นโคลงดั้นแล้วนะ แต่ก็ทำไม่สำเร็จ ..... สงสัยติดกลโคลงสุภาพไปซะแล้ว รูปดอกราชาวดีที่บ้าน ... ดอกสั้นไปหน่อย ไม่เป็นพวงสวยงามเหมือนที่เขาขายในร้านต้นไม้ ไม่รู้ว่าเค้าบำรุงกันอย่างไร หลังจากซื้อมาปลูกที่บ้าน ต้นไม้บ้านวฤกออกแต่ใบ ไม่ค่อยออกดอกให้เห็นกะเค้าเลย จากคุณ : วฤก - [ 10 พ.ค. 49 13:31:20 ]

ความคิดเห็นที่ 94 รำ     ไม่ดีแน่แท้             หมูเมิน ลาน   หย่อนนาฬิกาเดิน    เนิบช้า ตำ     รับตำราเพลิน         หนุนหลับ นึก     นึกเออเองอ้า         โลกนี้อัศจรรย์ อา     ศรมฯสรรสรรพแสร้ง  รังสรรค์ เองฤๅ โสง   กะสัยเพลินฝัน          ฮึกห้วน ชาว   โคลงย่อมยึดฉัน-      ทลักษณ์แห่ง โคลงแฮ คม     ทื่อหากถูกถ้วน         ย่อมล้วนคือโคลง จากคุณ : หมีเซอะ - [ 10 พ.ค. 49 16:21:07 ]

ความคิดเห็นที่ 95 รำ.......ยกหนึ่งเริ่มรู้...............ลีลา ลึก......ลับขยับเขื้อนคา..........ค่อยค้าง รำ.......ยกต่อสองตา..............ประหลักประเหลือก ตื้น......ขยักชักสนุกบ้าง..........นับถ้วนสามยก แม่เอยฯ แหะ แหะ ขอรับ โฮ่ ๆ ๆ ๆ ๔ โฮ่ บารนี ข้าพเจ้ามาโคลง-เคลง นับ ๓ ขอรับ แหะ แหะ ขอรับ มาแล้ว ไปแล้ว ชะแวบ ล่ะ จากคุณ : นายทิวา - [ 10 พ.ค. 49 20:31:13 ]

ความคิดเห็นที่ 96 อรุณสวัสดิ์ขอรับทุกทั่น เห็นแล้วพี่เจียวต้ายมาแปะสองโคลง....... พี่เจียวต้ายนี่ผมคิดถึงพี่เสมอ พี่อย่าห่างหายนะครับ...... ขอบอกว่ารออ่านโคลงพี่ด้วยความตั้งใจ.... รสโคลงพี่เจียวใต้คล้ายคุยกัน....นั่งคุยกัน... แบบว่าเบาเบา...ดีขอรับ...ใช่ไหมนะครับ และลิ้งพี่เจียวต้ายเชิญทุกทั่นแวะชมครับ **วันวิสาขะ** http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4353449/W4353449.html รำลึก...ต่อครับ คคห.33กลอนทั่นน้องเซ่อ .                                  สวัสดีครับทุกท่าน สวัสดีแบบรวมๆ เหมือนกันครับ                     ฟ้าเคี่ยวเมฆ      มุ่งเฝ้า   ผลิตฝน(สลับ)                     คนคิดค้น          จักรกล  ผลิตฝัน(รับ)                     คืนเปลี่ยนวน    ค่ำเช้า    ผลิตวัน(รอง)                     เราคิดสรร         วาดคำ   ผลิตใจ...(ส่ง)Xers กระผมชอบตั้งแต่แรกอ่านแล้วขอครับ....... คิดแต่ยังหาเพลาเจาะลึกใจตนว่าชอบตรงไหนอยู่ครับ..... จึงขอย้อนสังเกตุขอรับ....... จากการค้นเวปสถาบันสุนทรภู่ขอรับและรูปผังกลอน http://www.sunthornphu.org/poemkrong3.html คำกลอนวรรคหนึ่งเรียกว่า " กลอนหนึ่ง " สองวรรคหรือสองกลอนเรียกว่า " บาทหนึ่ง " หรือ " คำหนึ่ง " สองคำหรือสองบาท หรือสี่วรรคหรือสี่กลอนเรียกว่า " บทหนึ่ง " วรรคทั้งสี่ของกลอนยังมีชื่อเรียกต่าง ๆ กันและนิยมใช้เสียงต่าง ๆ กันอีก คือ ๑ กลอนสลับ  ได้แก่กลอนวรรคต้น คำสุดท้ายใช้คำเต้น คือนอกจากเสียงสามัญ แต่ถ้าจะใช้ก็ไม่ห้าม ๒ กลอนรับ    ได้แก่กลอนวรรคที่ ๒ คำสุดท้ายนิยมใช้เสียงจัตวา ห้ามใช้เสียงโท , สามัญ , ตรี , และวรรณยุกต์เอกไม่มีรูป ไม่ห้าม แต่ต้อง                ให้คำสุดท้ายของกลอนรองเป็นเสียงตรี ๓ กลอนรอง  ได้แก่กลอนวรรคที่ ๓ คำสุดท้ายนิยมใช้เสียงสามัญ ห้ามใช้เสียงจัตวาหรือ คำที่มีรูปวรรณยุกต์ ๔ กลอนส่ง    ได้แก่กลอนวรรคที่ ๔ คำสุดท้ายไม่นิยมใช้เสียงสามัญ ห้ามใช้คำตายและคำที่มีรูปวรรณยุกต์ ซึ่งอาจจะใช้คำตายเสียงตรีบ้าง                ก็ได้ ตัวอย่างกลอน ๘      ถึงบางบอน ย้อนคิด ถึงเรื่องเก่า           โบราณเล่า ว่าบอน ซ่อนไม่ได้ มันคันยิบ คันยับ จับหัวใจ                 ถ้าพูดออก บอกได้ ก็หายคัน รู้อะไร นิ่งอั้น มันคันปาก                  ให้นึกอยาก พูดยิ่ง ทุกสิ่งสรรพ์ ขยายออก บอกใคร ได้ทุกวัน            หายอัดอั้น คันปาก เพราะอยากบอน                           - จากนิราศวัดสิงห์ : อ.กำชัย ทองหล่อ - ปล.ว่าแต่ทั่นน้องเซ่อครับพี่รออ่าน..คำโคลง...เมื่อไปเที่ยวเขาใหญ่อยู่นะทั่นน้อง .....ด้วยความคิดถึง แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 49 07:07:23 แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 49 07:03:57 แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 49 05:55:41 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 11 พ.ค. 49 05:54:14 ]

ความคิดเห็นที่ 97 สวัสดีครับ  คุณจันทร์แห้ง  (85) ว่าจะเสวนาโคลงกันก็หาเวลาเหมาะ ๆ ยากจริง มีประชุมเมื่อวาน  วันนี้เก็บงานยังไม่เสร็จ คงต้องพรุ่งนี้ อีกวัน  เสาร์-อาทิตย์ ก็จะโดนลากไปต่างจังหวัดอีก มาขอผลัดเฝ้าอาศรมฯ ไปอีกหน่อย  หวังว่าจะว่างช่วง ปลายเดือนนี้ วางโคลงหนึ่งบทตามธรรมเนียม   มือหนึ่งฉกฉีกเวิ้ง                  ชิงตะวัน มือหนึ่งปลิดดาวจันทร์            ดับหล้า สองตีนเยียบกระดูกสัน          หลังพ่อ  แม่เวย ถุยถ่มชาวรากหญ้า               กราบก้นวิชาการ (ป.ล. ฝากลั่นทมให้คุณหมอวฤกดูว่าพันธุ์อะไร ?) แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 49 17:31:40 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ - [ 11 พ.ค. 49 17:29:53 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ลองโคลงสองลีลา "ปูบ้า" บ้าง ขอรับ ( ยิ้ม ) เดินตามชายหาดจ้อง            ดูปู ปูไต่มากมายจู่                    หาดช้ำ พลันคลื่นสาดสะบัดดู           ดังดุ เราเพ่งปูสายน้ำ                  หาดแล้วพอใจ ฯ อิ อิ สวัสดี มิตรสหายทุกท่าน ในวันพืชมงคล คร้าบ แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 49 21:16:14 จากคุณ : พิราบเงิน - [ 11 พ.ค. 49 21:11:27 ]

ความคิดเห็นที่ 99 คคห.97   สวัสดีครับ  คุณจันทร์แห้ง  (85) ว่าจะเสวนาโคลงกันก็หาเวลาเหมาะ ๆ ยากจริง มีประชุมเมื่อวาน  วันนี้เก็บงานยังไม่เสร็จ คงต้องพรุ่งนี้ อีกวัน  เสาร์-อาทิตย์ ก็จะโดนลากไปต่างจังหวัดอีก มาขอผลัดเฝ้าอาศรมฯ ไปอีกหน่อย  หวังว่าจะว่างช่วง ปลายเดือนนี้ วางโคลงหนึ่งบทตามธรรมเนียม   มือหนึ่งฉกฉีกเวิ้ง                  ชิงตะวัน มือหนึ่งปลิดดาวจันทร์            ดับหล้า สองตีนเยียบกระดูกสัน          หลังพ่อ  แม่เวย ถุยถ่มชาวรากหญ้า               กราบก้นวิชาการ (ป.ล. ฝากลั่นทมให้คุณหมอวฤกดูว่าพันธุ์อะไร ?) แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 49 17:31:40 จากคุณ : คัมภีร์โบราณ   - [ 11 พ.ค. 49 17:29:53 ] สวัสดีขอรับคุณพี่คัมภีร์โบราณ....กระผมขออณุญาติเรียกคุณพี่...ด้วยความประทับใจในรสโคลงแห่งอาศรมชาวโคลงขอรับ..... กระผมมิได้มีความรู้ใดๆทางร้อยกรองก่อนหน้านี้ จนกระทั่งได้มาอ่านบทกวีต่างๆที่อาศรมชาวโคลงกล่าวขวัญถึง  จึงพยายามติดตามเรียนรู้ด้วยความประทับใจทุกครั้งที่เข้ามาอ่านบทกวีในอาศรมชาวโคลงนี้ โอกาศนี้กระผมน้อมรับการติติง..ตักเตือน..แนะนำทุกประการขอรับ....ด้วยความเคารพ บทกวีและครูกวี เป็นที่ตั้ง ท้ายนี้ดีใจมากมายขอรับที่ได้อ่านบทโคลงของพี่คัมภีร์โบราญอีกครั้ง....และหวังใจจดจ่อคอยอ่านในครั้งต่อๆไปขอรับ.... ๏หวังเรียนเขียนอ่านให้          สุขสรร น้อมรับคำครูพลัน               ผลิรู้ หลงเหลิงใคร่คลายครัน        คำสติ   ฉันทลักษณ์ประจักษ์ใจลี้      ลับไห้ห่างเขลาฯ จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 11 พ.ค. 49 22:45:12 ]

ความคิดเห็นที่ 100 อรุณสวัสดิ์ทุกทั่นขอรับ.... ขอบคุณคคห.56...รำลึกเล็กเฉ้อครูหนอนจากพี่พิราบเงินมากขอรับ และทดลองเขียนขอรับ รำ  ไทยไหวอ่อนช้อย                   วงแขน ลึก  ศาสตร์สืบหวงแหน           มรดกสร้าง ตำ   รากาพท์เก่าแสดง                กวีบท นาน เนิ่นวรรณศิลป์อ้าง             เอ่ยให้นึกถึง       อา   หารกินแต่น้อย                  ชีพยืน  ยาวนา สม(ศรม)  สุขลูกไม้กลืน                    คล่องท้อง ชาว ต่างประเทศขืน                   กินเผ็ด   โคลง  เอ่ยเอกโทร้อง                 ถูกต้องตามผัง ลีลาศแรกเร่งแล้ว                      แข็งขืน โยงเอกวางโทยืน                        นี่นี้ เจ็ดเอกสี่โทฟืน                           ไฟสืบ สร้อยสืบ ตรองตรวจถูกผังชี้                      ช่องชั้นโคลงครูฯ   ลีลาศแรกเร่งแล้ว                      ขืนขืน โยงเอกวางโทยืน                        ที่นี้ เจ็ดเอกสี่โทฟืน                           ไฟสืบ แสงสืบ ตรองตรวจถูกแท้ชี้                      ช่องโคลง ลำนำกลอนคล้ายเช่น                  ใบพฤกษ์ เพลงกาพย์เกลาจิตนึก                 แมกไม้ ฉันท์โคลงช่อดอกดึก                   งามเด่น หอมร่ายหวานไหว้ไว้                      เวี่ยใจ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 49 16:05:10 จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ วันวิสาขบูชา 07:04:45 ]

ความคิดเห็นที่ 101 เรียนคุณจันทร์แห้ง และมิตรสหาย ขอรับ เอ่อ กระทู้ครบร้อยแย้ว ใครว่าง และสะดวก เชิญ ตั้งกระทู้ใหม่ ขอรับ ( ยิ้ม ) อาศรม ๑๖๕                   สุขใจ ครูใหญ่แวะมาเยือน          อีกครั้ง ศาลาฯแม่ทุ่มใจ               ต้อนรับ ศิษย์รวมพลังอีกครั้ง        ครึกครื้นจริงเจียว ฯ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 49 14:34:52 จากคุณ : พิราบเงิน - [ 13 พ.ค. 49 14:31:33 ]

ความคิดเห็นที่ 102 อ่า มาช้า ครบร้อยอีกแล้ว ช่วงนี้ผมอยู่บ้านนอก หนองคายข้ามไปฝั่งลาวบ้าง  ไม่ค่อยได้เข้ามาร่วมอาศรมครับ ฮือๆ สี่สุภาพ ๏ โกฏิฯไปอยู่บ้านนอก       ขอกนา เข้าวัดนบครูบา                 จบไหว้ ไกลคอมฯห่างอรรถอา       -ศรมอ่าน โคลงนอ สุดเบื่อพยาธิไส้                ร่ำร้องคิดถึง   จึงเข้าเมืองเปิดเฝ้า         หน้าจอ ลากอ่านน้ำลายสอ            เกือบเพี้ยน กระทู้ครบร้อยขอ              อ่านอีก เปิดไล่ให้หมดเหี้ยน           จวบสิ้นกระหายโคลง๚ วิวิธมาลี   ๏ ครูหนอนมาแวะแล้ว         แวะอีก บ้างเนอ ขอฝากเป็นศิษย์โยง            อยู่ยั้ง ทั้งลุงพี่น้าอีก                     ป้าครบ โกฏิฯนบมือน้อมตั้ง             ติดตาม    ศาลาไทยอะคร้าว           คำไทย หมีเซอะคัมภีร์ฯงาม             อรรถถ้วน ซอมพอฯพิราบฯไว              ลุงวฤก เซอร์สนา ณ มิตรจันทร์แห้งล้วน           ร่วมเรียง บาทกุญชร ๏ กลโคลงอธึกถ้อย             อาศรม พราวเพริศพิลาศเพียง           เพชรแพร้ว ตามติดสถิตชม                    กวีวาท ถึงห่างแดนม้งแม้ว                ระลึกคะนึง   ทุกบททุกบาทท้า              ทบทวน เกลี้ยงเก็จมิต้องกลึง             กล่อมสร้าง ยั่วแย้งอย่างยียวน                บางบท บางบทเพียงน้ำค้าง               พิสุทธิ์ใส๚ สี่สุภาพ                      ๏ เอ่ยใครขาดตกต้อง      ขอโทษ ท่านนอ อย่าเพ่อพาลถือโกรธ           โกฏิฯน้อย ช่วยแจ้งชื่อออกโหวต           โดยด่วน ความผิดเพียงจิดจ้อย            จักแก้ตามพลัน๚ ฮุๆๆๆ จากคุณ : โกฏิดารา - [ 13 พ.ค. 49 18:05:10 ]

ความคิดเห็นที่ 103 สวัสดีขอรับทุกทั่นใคร่เชิญร่วมเฝ้ากระทู้ขอรับ.... และหรือชอบกระทู้คำงามใดวานเอ่ยเอื่อนโอษฐ์.... กระผมทราบซึ้ง คคห.35 ลิลิตทั่นพี่หมีเซอะขอรับ ลิลิตอาศรมภาค ๑๖๕ ร่ายสุภาพ ๑. กรานเกศราบกราบกร  อมรอภิยศโคลงบา หนอนสุรานามศักดิ์ ผู้สลักอาศรม สมาคมโคลงสกล บนถนนนักเขียน สถิตเสถียรพันทิป พริบพรรณรายโคลงแก้ว ส่งศิลป์สล้างแล้ว เสกกล้ากวีสมัย โคลงสี่สุภาพ ๒. ในภาคหนึ่งหกห้า       อาศรม โคลงแฮ รำลึกตำนานภิรมย์          พิลาสพร้อง เนื่องหนอนสุราบรม         ครูเอก ย้อนเยี่ยมห้วงสวาสดิ์ห้อง  สวัสดิ์ห้อมสโมสร ๓. สองกรหมีเซอะน้อม         เสนอลิลิต เชิญพี่น้องผองมิตร              ร่วมชั้น ร่วมเชื้อป่วนกระบวนกระบิด    แก้เบื่อ ร่ายลิลิตด้นดั้น                    ดุ่ยดู ๔. บูรณาขนบเบื้อง          บุราณแบบ ให้เด่นเดิ้นเดินแยบ           ยุคได้ เผื่อเด็กซ่าส์เด็กแซ็ป          ดูสนุก ลุกแต่งแข่งโคลงให้          โลกง้ำคะมำหงาย โคลงสองสุภาพ ๕. หมายเรขลิลิตรื้น      ลิขิตเล่นโดยคำพื้น ซ่อนเพี้ยนแซมขำ ๖. นำขนบนบเด่นหิ้ง      คุณลักษณ์วิเศษพริ้ง กราบไหว้เฉยเฉย          ควรฤๅ ๗. ไฉนเลยเชิญพี่น้อง    อย่าจรดจรดจ้องจ้อง รีบแจ้นจรรโลง โคลงสามสุภาพ ๘. โคลงสุภาพชวนลอง    ทั้งสองสามสี่ห้า อีกร่ายสุภาพจ้า              สี่ดั้นก็ดี  มันส์ดี ๙. ยังมีโคลงแสบแสบ      แต่งแบบคนส้าส์ส้าส์ มีชื่อว่าปูบ้า                   อยากบ้ามาซี โคลงสองไม่สุภาพ (ปูบ้า) *ปล. - เล่นเฉพาะในอาศรม ๑๐. โคลงสองกรกฎเพี้ยน     ครรโลง หนึ่งบทสองบาทสี่               วรรคจ้า ๑๑. ท้ายวรรคหลังคอยโยง   สัมผัส รับที่ท้ายวรรคหน้า             บทหน้าบาทเดิม โคลงห้าพัฒนา ๑๒. เชิญพี่น้อง       อาศรม อย่ามัวอม              ปากเม้ม ปล่อยกระผม          ปากฉีก ร่วมคล้องเข้ม         โคลงครัน มาแอบเกลา + แก้คำสะกดผิด .. อิอิ ------------------------- ว่าแล้วก็ ปล. ซะเลย .. ฮิฮิ ขอเชิญร่วมร่ายลิลิตกันนะครับ เผื่อครูหนอน ครูเล็ก และผู้เฒ่าผู้แก่(วิชานะ) ทั้งหลายอ่านแล้วคันมือคันไม้ จะได้อดใจไม่ไหว โดดงานมาดอดโคลงด้วย .. แฮ่ แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 49 16:35:31 แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 49 14:36:52 จากคุณ : หมีเซอะ   - [ 4 พ.ค. 49 13:42:52 ] ปล.โดยเฉพาะโคลงสองผมชอบเป็นพิเศษเสียงโดนใจผมมากขอรับ โคลงสองสุภาพ ๕. หมายเรขลิลิตรื้น      ลิขิตเล่นโดยคำพื้น ซ่อนเพี้ยนแซมขำ ๖. นำขนบนบเด่นหิ้ง      คุณลักษณ์วิเศษพริ้ง กราบไหว้เฉยเฉย          ควรฤๅ ๗. ไฉนเลยเชิญพี่น้อง    อย่าจรดจรดจ้องจ้อง รีบแจ้นจรรโลง จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 13 พ.ค. 49 23:29:54 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ขอเอามาฝากขอรับ....... หัวข้อบทกวีในดวงใจขอรับ จากhttp://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=jomyutmerai&group=8 กระผมแอบเข้าไปลื้อสมบัติทั่นพี่จอมยุทธ์เมรัยขอรับได้กล่องดวงใจพี่มาขอรับ ลืมฉันทลักษณ์บ้างก็ได้ (สุจิตต์ วงษ์เทศ) ๏ ความดีมิได้มีแต่ในวัด หรือจำกัดอยู่ในกรอบราชฐาน ในหุบห้วยตรวยโตรกตรอกโซรกธาร เป็นหนึ่งในย่อมย่านของความดี ๏ คนดีใช่จะมีแต่ผ้าเหลือง หรือทรงเครื่องเรืองจำรัสรัศมี ที่ร่องแร่งรุ่มร่ามตามพงพี ก็มากมีธรรมครองอย่างทองคำ ๏ ของดีใช่จะมีแต่ในโบสถ์ หรือรุ่งโรจน์เรืองอยู่ราชูปถัมภ์ ใต้สมุทรสุดลึกอันดึกดำ ในเถื่อนถ้ำของดีก็มีมูล ๏ คำดีๆ มีในสมุดข่อย มากน้อยก็ยังอยู่ไม่รู้สูญ ทั้งคำคล้องจองกันอันจำรูญ ทั้งคำพูดพร้อมพูนเป็นคำคน ๏ คำดีๆ มีแสดงบนแท่งหิน บ้างขาดวิ่นอ่านกลับกันสับสน ก็เป็นคำงามงอนไม่ซ่อนกล เป็นนิพนธ์คำๆ ก็งามดี ๏ ไม่มีกรอบกรองคำก็งามได้ อยู่แต่ใครจะไปถึงซึ่งได้ที่ เมื่อสำนึกลึกซึ้งถึงกวี มีไม่มีฉันทลักษณ์ไม่รู้แล้ว ๚ะ Last Update : 8 พฤษภาคม 2549 14:50:35 น.   3 comments จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 13 พ.ค. 49 23:42:35 ]

ความคิดเห็นที่ 105 แวะเวียนมาเยี่ยมจ้อง                มองดู เห็นศิษย์เห็นคุณครู                 มากหน้า ..วาวา..แค่ลูกปู                 ตัวหนึ่ง จึ่งมิอาจชักช้า                    ช่วยซ้ำคำขาน แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 49 14:11:09 แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 49 14:10:33 จากคุณ : ..วาวา.. - [ 14 พ.ค. 49 14:09:28 ]

ความคิดเห็นที่ 106 เดี๋ยวนี้คนแยะแฮะ มะได้แวะมานาน แปะผิดแปะถูก แหะๆ จากคุณ : ..วาวา.. - [ 14 พ.ค. 49 14:12:32 ]

ความคิดเห็นที่ 107 .                                        สวัสดีครับทุกท่าน -- ช่วงใจ -- ๑. คล้ายกายสลายแหลกซ้ำ     หลายหน คล้ายสิ่งอันสลายบน              จิตบ้า ลางรักผลักสลายจน               เจียนดับ เลือนลิขิตชีวิตล้า                   ร่างล้าลิขิตฝัน ๚ ๒. เหมือนกายพลันก่ายข้าง      ขอนไฟ ลืมสุขอันอ่อนใส                    ปราศรื้น ความตายตื่นกลืนใจ                จนจุก สนุกแหลกชำแรกพื้น              พสุธา  เพลิงทา ๚ ๓. อาหารอันเลิศล้ำ                 รสหรู เข้าปากปานถู กรวด                 ที่ลิ้น คอตีบลีบตันดู                        ดังซาก กลืนสิ่งไหนบ่ได้สิ้น                 นอกน้ำลายตน ๚ ๔. วังวนอันลึกล้ำ                  ไพศาล ใครผ่านยากต้านแรง              สวาทไหม้ เหล็กยังละลายปาน                จะหยด วนอยู่เหวไร้ห้วง                     หมดทาง ๚ ๕. เพียงอยากยินแค่น้ำ           เสียงเธอ ยามหลับยังครวญคราง            ชื่อนั้น ไม่อยากตื่นมาเจอ                  อรุณรุ่ง ความสุขอันสั้นสั้น                   แอบฝัน ๚ มาแบบรีบๆ อ่านแบบรีบไม่ค่อยได้เข้ามา ช่วงนี้สัญจร และสภาพแวดล้อมทางเน็ตไม่ค่อยดี แฮะ เห็นพี่พิราบเงินโพสต์ วิทยายุทธ์ ครูหนอนฯ เคยอ่าน แต่ไม่ค่อยได้พิจารณา ตอนนี้เลยตั้งใจจับความให้ได้ อีกที เลยเขียนแบบ รวมๆ มาแปะ อาจจะเศร้าหน่อย เพราะตอนเขียนนึกถึง ช่วงหนึ่ง พอดีมา จี๊ด แฮะๆ ตอนแรกตั้งใจจะต่อดั้นบาทกุญชร ต่อท้ายอีกที กลัวออกมาแนวมั่ว เลยพอแค่ห้า เนื้อหาเลยกุดๆ ครับ ลุงหมอวฤก '93 เรื่องไม้ดอกครับ เห็นคนทำสวนเขาบอกว่าไม้ดอก ถ้าอยากให้ออกดอกไม่ต้องรดน้ำมากครับ ถ้าให้น้ำเยอะ มันจะงอกใบแทนดอกครับ ได้ฟังมางี้ครับ น้าจันทร์แห้ง '96 กลอนของผมครับ ขอบคุณที่ชอบครับ ตอนแรกที่แต่งตั้ง ใจเล่นคำลงท้ายวรรค ไม่เน้นสัมผัสในครับ เลยออกมาแข็งๆ ครับ เรื่องเฝ้ากระทู้ตอนแรกคิดไว้ว่าจะเฝ้าต่อ หนู ศ. แต่เห็นตัวเองไม่ค่อยอยู่เป็นที่ เลยไม่อยากเฝ้าต่อแล้ว ขอเป็นอาศรมหน้าๆ จะรับต่อให้ครับ รอให้กลับรังก่อน.. อ่าน '97 ของพี่คัมภีร์ เลือดสูบฉีดดีแท้ขอรับ ฮี่ๆๆ เซ่อ... น้อมบันทึก ------------------------------------------------------------- จากคุณ : xers - [ 14 พ.ค. 49 17:13:02 ]

ความคิดเห็นที่ 108 อัญเชิญทุกทั่นขึ้นเครื่องบินโดยสารสู่โคลงกระทู้นครต่อไปขอรับ..... อาศรมชาวโคลง ภาค ๑๖๖ ๏ ๏ ๏ลิลิตลออรอรัก๏ ๏ ๏ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4368531/W4368531.html จากคุณ : จันทร์แห้ง - [ 15 พ.ค. 49 06:53:56 ]

ความคิดเห็นที่ 109 อาศรมโคลงลงเอยที่ร้อยเจ็ด รวมเบ็ดเสร็จยี่สิบเก้าเข้ามาเขียน ทั้งครูใหญ่หนอนสุรายิ่งกว่าเซียน เหล่าศิษย์เวียนเอาโคลงแปะแวะเรื่อยไป คุณจันทร์แห้งครองแช้มป์แจ่มหนักหนา พิราบเงิน โกฏิดารา สู้ไม่ไหว อีกนายเซอร์ไปบ้านนอกบอกว่าไกล คงปล่อยให้ หมีเซอะ เข็นลงเล่นแทน ศาลาไทยคนนำก็จำห่าง ไม่ค่อยว่างงานมากยากเหลือแสน หายร่วมเดือนเพื่อนห่วงหามาทิ้งแฟน ปล่อยให้แหงนคอคอยน่าน้อยใจ แต่เดือนนี้ก็มีวันสำคัญอยู่ เป็นวันคู่คงไม่เหงาสักเท่าไหร่ เธอคนดังเพื่อนจะลืมได้อย่างไร ศาลาไทยจงสุขสันต์วันนั้นเอย. จากคุณ : เจียวต้าย - [ 15 พ.ค. 49 07:29:40 ]