CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    >> ครัวของมีนา : บทที่ 12 - แก้วที่มีน้ำล้น และ แก้วที่แตกร้าว ...

    Meena’s Kitchen : Chapter 12.

    -----------------------------------------------------------

    เพียงระยะเวลาพักเที่ยงที่ฉันเดินไปกินข้าวกับณัชเท่านั้น  กลับมาก็พบว่าเรื่องราวของฉันได้ถูกกระจายเล่าออกไปเป็นวงกว้างอย่างทั่วถึง   ดูได้จากสายตาบรรดาขาเม้าท์ที่พุ่งตรงมาทิ่มแทงทันทีที่มีนาและณัชชาเดินมาถึงตึกเรียน  

    จากสายตาที่แสนจะชื่นชม  อยากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มดาวคณะอย่างฉันบ้าง  มาบัดนี้เป็นกลับกลายเป็นสายตาเหยียดหยาม  ดูถูกดูแคลน  รวมถึงสายตาสงสารแกมสมเพชในชะตาชีวิตของฉัน    ยิ่งมากับคนมีข่าวลือเต็มไปหมดอย่างณัชด้วยแล้ว  เรื่องของคงจะมีอะไรให้จินตนาการปั้นเสริมเติมแต่งกันปากต่อปากกันไปจนเลยเถิด  …
     
    กลับมาฟังอีกทีอาจจะเป็นเรื่องราวแปลกพิสดาร  ซับซ้อนซ่อนเงื่อน   หรือโศกเศร้าเคล้าน้ำตา   จนสตีเวน สปีลเบิร์กต้องวิ่งรี่มาขอซื้อพลอตไปทำภาพยนตร์บลอคบัสเตอร์แทบไม่ทันก็เป็นได้

    … ฉันเพิ่งรู้ตอนนี้เองว่าโลกใบนี้มันช่างหนาวเหน็บเดียวดายซะจริง (TT_TT   )  …  


    “ เธอทนสายตาแบบนี้ทุกวันได้ยังไงเนี่ย  ฉันละนับถือเลย “  

    ฉันมองซ้ายมองขวาอย่างจิตตกก่อนจะรีบเดินจูงมือณัชเข้าไปนั่งโต๊ะตัวมุมที่อับสายตาที่สุด

    “ ปล่อยคนอื่นไปเถอะ   คนบางจำพวกชอบนึกคนอื่นว่ากดคนอื่นให้ต่ำลงได้แล้วจะทำให้ตัวเองสูงขึ้น “

    ณัชพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบราวกับว่าเป็นเรื่องปกติที่ต้องพบเจอทุกวัน  …  คงต้องคิดแบบณัชละมั้งถึงจะทนรับสถานการณ์กดดันแบบนี้ได้

    “ ทำไมวัยรุ่นอย่างเธอพูดจาเป็นยายแก่เลย  ธรรมะธรรมโมไปรึเปล่ายะ ”  

     ฉันพูดแขวะ  อารมณ์หงุดหงิดรุ่มร้อนแบบนี้ไม่ว่าใครจะสั่งสอนหรืออ้างหลักปรัชญาใส่ฉันเท่าไหร่ก็เหมือนตักน้ำรดแก้วที่มีน้ำล้นเต็มปรี่   มันไม่มีทางเข้าหัวไปได้หรอก

    “ ถ้าเห็นโลกมาซักพักก็คิดได้เองล่ะ ”

     ณัชหัวเราะกิ๊กกั๊กอย่างอารมณ์ดี  ที่จริงแล้วฉันว่าวันนี้ณัชชาอารมณ์ดีเป็นพิเศษจนน่าหมั่นไส้ด้วยซ้ำไป

    “ ต่อไปนี้ฉันจะทำยังไงดี  ที่พยายามมาทั้งหมดนี้เพื่ออะไรกันนะ “ ฉันรำพึงรำพันอย่างเจ็บใจ  

    “ ฉันออกจะดีใจ  ต่อไปนี้เธอจะได้อยู่กับฉันไง … เห็นนิสัยกันขนาดนั้น  น่าจะดีใจที่เลิกคบกับพวกนั้นได้นะ  “  

    ณัชพูด  หน้าตายิ้มแย้มลัลล้าร่าเริงเกินเหตุ  ไม่ได้สนใจความรู้สึกฉันซักนิดเล้ย ย (TT-TT    ) …




    “ มี่จ๋~า า  ฉันได้ยินเรื่องทั้งหมดแล้วล่ะ  โธ่ … น่าสงสารจังเลย “

    แคทเดินกรีดกรายเข้ามายิ้มหวานให้  แต่ฉันรู้สึกว่ามันเหมือนยาพิษเคลือบสีลูกกวาดมากกว่า

    “ เก็บคำสงสารไปใช้กับตัวเองเถอะ ”

    ฉันมองหน้าแคทอย่างดูถูก  นึกถึงตอนที่ตัวเองคล้อยตามคำพูดของแคท …  ถึงแม้จะแค่นิดเดียวก็ขนลุกเหลือทน  

    อะไรดลใจให้ฉันคิดไปว่าร่างกายตัวเองและศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงมีค่าเท่ากับ ( หรือน้อยกว่า ) ซากหนังสัตว์ที่ตายแล้วที่เขาเอามาเย็บเป็นกระเป๋าใส่ของนะ … อึ๋ย ย  ฉันละเกลียดตัวเองจริง ๆ

    “ เป็นสาวเสิร์ฟที่ร้านอาหารเนี่ย … หวังว่าจะเป็นแค่นั้นไม่มีอาชีพเสริมนะ   อยากสบายทางลัดมันไม่ดีหรอกขอเตือนด้วยความหวังดี   หน้าตาสวย ๆ อย่างพวกเธอด้วยเนี่ย ยิ่ง ง่ า ย ใหญ่เลย ”  



    ฉันตาโตมองแคทแบบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง

    “ แคท เธอพูดอะไรออกมา ! … เธอเองไม่ใช่เหรอที่ … “

    “ ว้าย~ย !  เธอจะบอกว่าฉันทำอาชีพอย่างว่าเหรอ   เลวมาก  อย่ามาใส่ความกันนะยะ … ฉันไม่ทำของไร้ศักดิ์ศรีแบบนั้นหรอก !  อย่าคิดว่าคนอื่นเป็นแบบเธอนะ …”   แคทตวาดโวยวาย  โปรเจคเสียงแปดหลอดของเธอให้ดังกังวานเหมือนเครื่องโทรโข่งราวกับว่าจะป่าวประกาศให้คนทั้งตึกได้ยิน

    แล้วเธอก็รีบเดินสะบัดสะบิ้งโวยวายกรีดน้ำตากับคนอื่นว่าโดนฉันใส่ความ  คนที่สวย  พ่อแม่รวยอย่างเธอ  เรียบร้อยราวกับผ้าพับไว้อย่างเธอไม่มี้ … ไม่มีทางทำเรื่องอับอายแบบนั้นเด็ด  ๆ

    .

    แก้ไขเมื่อ 30 เม.ย. 49 20:09:31

    จากคุณ : อันปังแนน - [ 30 เม.ย. 49 19:13:02 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป