พระราชากับพระราชินีมีพระธิดาอยู่เพียงพระองค์เดียว
ตั้งแต่เล็กจนโตเธอใช้เวลาหมดไปกับห้องสมุดปะจำเมืองมากกว่างานเต้นรำ
ในตอนแรกพระราชากับพระราชินีก็ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรนักหรอก
จนพระธิดาแสนสวยของพระองค์ไม่มีคู่ครองสักทีทั้งที่อายุของพระธิดานั้น
เลยวัยที่น่าจะได้แต่งานไปเป็นปีที่สามแล้ว
อีกทั้งเจ้าชายเมืองต่างๆค่างก็พากันแต่งงานไปจนหมดแล้ว
รวมไปถึงเจ้าหญิงของเมืองข้างเคียงด้วย
นั่นเป็นสัญญาณอันตรายว่าเจ้าหญิงจะเป็นสาวทึนทึกในไม่ช้า
นอกจากพระราชาและพระราชินีจะยอมให้เจ้าหญิงแต่งงานกับชาวบ้านธรรมดา
พระราชาคิดหนักว่าพระธิดาของพระองค์จะยอมทำตามหรือไม่
ก็ขนาดเจ้าชายไม่รู้จะกี่พระองค์ต่อกี่พระองค์ เจ้าหญิงยังไม่เอาเลย
พระราชากับพระราชินีลองถามเรื่องการแต่งงานกับเจ้าหญิงดู
เจ้าหญิงถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะตอบว่า
ลูกจะแต่งก็ได้ แต่มีข้อแม้ว่าผู้ชายคนนั้น
ต้องหาของขวัญมาให้ลูกหนึ่งอย่าง
พระราชาได้ฟังก็ยิ้มพลางคิดว่า
ง่ายนิดเดียวเองของขวัญแค่นี้
พวกลูกชายเสนาบดีแล้วก็พวกคหบดี
คงมีของขวัญสวยๆมาให้ลูกหญิงเป็นแน่ทีเดียว
แล้วเจ้าหญิงก็พูดต่อไปว่า
แต่ต้องเป็นของขวัญที่หาไม่ได้จากหนังสือเล่มไหนๆที่ลูกเคยอ่าน
พระราชาและพระราชินีต่างก็มองหน้ากัน
ด้วยความที่รู้ว่าเจ้าหญิงอ่านหนังสือมากมายขนาดไหน
คงจะเป็นพันเล่มได้ ไม่สิน่าจะเป็นหมื่นๆเล่มมากกว่า
หรืออาจจะมากกว่านั้นก็เป็นได้
แล้วอะไรล่ะที่จะไม่มีในหนังสือ
เอาแค่มันมีอะไรอยู่ในหนังสือบ้างยังไม่ค่อยจะมีคนรู้เลย
วันต่อมาพระราชาก็ให้ทำประกาศออกไปว่า
ชายผู้ใดก็ตามที่สามารถหาของขวัญที่ไม่มีในหนังสือที่เจ้าหญิงเคยอ่านได้
ชายผู้นั้นจะได้แต่งงานกับเจ้าหญิง
ในเดือนแรกนับจากมีประกาศออกไป
ผู้ชายเป็นพันๆคนต่อแถวยาวตั้งแต่หน้าตลาดยาวไปจนถึงตลาด
แต่ทุกคนล้วนแต่ผิดหวังกลับไป
ทั้งที่หลายคนมั่นใจในของขวัญของตนเองเป็นนักหนา
ตัวอย่าเช่นชายผู้หนึ่งที่ปีนไปเก็บดอกไม้จากยอดเขามาให้เจ้าหญิง
แต่คำตอบของเจ้าหญิงก็คือ
ในหนังสือที่ข้าอ่านมีดอกไม้งดงามที่ไม่มีวันโรยรา
ชายอีกคนอุ้มห่านตัวอ้วนเป็นของขวัญให้เจ้าหญิง
เจ้าหญิงก็ตอบกลับไปว่า
ในหนังสือที่ข้าอ่านมีห่านที่ออกไข่เป็นทองคำ
อย่างไรก็ตามในเดือนที่สองก็ยังมีผูชายหลายร้อยคนมารอมอบของขวัญให้เจ้าหญิง
แต่เจ้าหญิงก็ยังปฏิเสธไปเสียทุกราย
ของขวัญที่ปราสาทเพิ่มมากขึ้น
ความกลุ้มใจของพระราชาและพระราชินีก็เพิ่มมากขึ้น
พระองค์ต่างก็ไม่รู้ว่าอะไรที่ไม่มีในหนังสือ
พวกขุนนางก็ไม่รู้ ทหารก็ไม่รู้ ชาวบ้านก็ไม่รู้
คงจะมีแต่พระเจ้ากับเจ้าหญิงเท่านั้นที่รู้
พระราชาโกรธแค้นตัวเองที่ไม่เห็นความสำคัญของหนังสือมาก่อน
พระราชินีตั้งใจว่าจะปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้กับคนทุกคนในเมือง
เสียงโจษจันของชาวบ้านหนาหูขึ้นทุกที
ว่าที่จริงแล้วพระราชาไม่ได้ต้องการให้เจ้าหญิงแต่งงานหรอก
พระองค์อาจจะแค่อยากได้ของขวัญเพราะช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี
และพระองค์ก็ไม่กล้าขึ้นภาษี
จนเดือนที่สาม
มีผู้ชายที่มายืนรอเพื่อมอบของขวัญแก่เจ้าหญิงอยู่เพียงไม่กี่สิบคนท่านั้น
หลังจากเจ้าหญิงปฏิเสธผู้ชายคนแล้วคนเล่า
จนกระทั่งถึงคนสุดท้าย
เขาเป็นผู้ชายร่างเล็ก ตัวผอม ใส่แว่นหนาเตอะ
พระราชา พระราชินี เสนาบดีและขุนนางทั้งหลาย
รวมทั้งคนอื่นๆไม่มีใครรู้จักเขาหรอก
และไม่มีใครใส่ใจจะรู้จักเขาด้วย
พระราชาถามชายผู้นั้นว่า
ไหนล่ะของขวัญที่เจ้าเอามา ข้ามองไม่เห็น
ของขวัญของข้าพระองค์ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าพระเจ้าค่ะ
แล้วมันคืออะไรล่ะ
มันคือชีวิตที่จงรักและหัวใจที่ภักดีต่อเจ้าหญิง
พระราชาหันไปสบตาเจ้าหญิง แทนที่จะเป็นคำปฏิเสธเหมือนเคย
แต่เจ้าหญิงกลับยิ้มกว้างออกมา
ทันใดนั้นเสียงแตรก็ระงมทั่วท้องพระโรงไปหมด
ใครๆจึงเริ่มสนใจเขาขึ้นมา เสียงกระซิบกระซาบดังแข่งกับเสียงแตร
เขาเป็นใครน่ะ
เขาเป็นใครกัน
เขาเป็นชาวเมืองของเราหรือเปล่า
เขามาจากต่างเมืองใช่ไหม
อ๋อ! บรรณารักษ์ของห้องสมุดประจำเมืองนั่นเอง
อ๋อ! เป็นบรรณารักษ์นี่เอง
หลังจากเสียงแตรพร้อมด้วยเสียงกระซิบเงียบลง
พระราชาจึงถามบรรณารักษ์ว่า
"เจ้าหาของขวัญชิ้นนี้เจอได้อย่างไร"
เขาเล่าให้พระราชาฟังว่าในเดือนแรก
เขาค้นหาของทุกชิ้นในบ้าน
ที่น่าจะไม่มีในหนังสือที่เจ้าหญิงเคยอ่านแต่ก็ไม่พบ
ตลอดเดือนเขาไปทั่วทั้งเมืองแต่ก็ไม่พบของขวัญที่ว่า
ในเดือนที่สองเขาจึงตัดสินใจไปยังเมืองอื่น
เมืองแล้ว เมืองเล่า แต่เขาก็ยังไม่พบอะไรอยู่ดี
ในเดือนที่สามเขาจึงเดินทางกลับบ้านด้วยความผิดหวัง
เขาเลิกนึกถึงของขวัญ เลิกนึกถึงอะไรทุกอย่างนอกจากเจ้าหญิง
ในที่สุดเขาจึงพบสิ่งที่เขาจะมอบเป็นของขวัญแก่เจ้าหญิง
ของขวัญที่ซึ่งจะไม่มีในหนังสือเล่มไหนที่เจ้าหญิงเคยอ่าน
หนังสืออาจพูดถึงความรัก พูดถึงความภักดี
แต่ความภักดีที่เขาเทิดทูนสูงสุดในชีวิต
กับความรักของเขาที่มีต่อเจ้าหญิงอย่างยินยอมมอบกายถวายหัวใจให้
ย่อมไม่เคยปรากฎในหนังสือเล่มใดมาก่อน
และแล้วบรรณารักษ์กับเจ้าหญิงก็แต่งงานและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
นั่นคือเรื่องที่ใครๆก็รู้กันทั้งเมือง
แต่เรื่องที่ไม่มีใครรู้ก็คือ
เจ้าหญิงรักบรรณารักษ์มาตลอด
เจ้าหญิงตั้งใจว่าไม่ว่าขาจะนำของขวัญอะไรมาให้ก็ตาม
เจ้าหญิงก็จะบอกว่ามันไม่อยู่ในหนังสือ
ก็เรื่องหนังสือจะมีใครรู้ดีไปกว่าบรรณารักษ์กับเจ้าหญิงล่ะ
จากคุณ :
wormearth
- [
2 พ.ค. 49 17:45:48
]