คนพันธุ์นี้มีอยู่จริง
ผมว่าผมเป็นคนชอบเที่ยวและติดลมจนเลยเถิดจนบางครั้งมันส่งผลให้นาฬิกาแถ็ก ฮอยเออร์ (Tag Heuer) ของผมต้องกระเด็นกระดอนไปอยู่โรงจำนำ ถึงขนาดนี้ก็ยังว่าตัวเองแย่แล้วเชียวแต่มีคนอื่นแย่ไปกว่าผมอีก รายแรกคือลุงของผมเอง คุณลุง แทรี่ รายนี้เมียฟ้องหย่าจนต้องขายบ้านขายช่องแบ่งสมบัติกัน อังเคิลแทรี่ขนเงินสดส่วนแบ่งบินไปลาสเวกัส เพลินอยู่คาสิโนได้ไม่กี่สัปดาห์ก็หมดตูดแม้แต่ตั๋วเครื่องบินขากลับก็ยังไม่มีปัญญาซื้อ เดือดร้อนไปถึงหน่วยงานการกุศลบ้านคริสเตียนที่ต้องหาเงินค่าตั๋วให้ โชคดีอย่างหนึ่งคือว่าพอกลับมาถึงบ้านได้ไม่นานแกก็เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจซึ่งหลายๆ คนก็พูดเป็นเชิงตลกว่า เหมือนจะรู้วันตายของตัวเองถึงรีบไปใช้เงินก่อน
ผมเล่าเรื่องลุงผมให้เพื่อนฟังระหว่างที่เราอยู่ในรถกำลังจะไปเยี่ยมพี่ชายของเค้า โดยที่เราสองคนแวะซื้อผัดไทยใส่ห่อโฟมติดไม้ติดมือไปฝากด้วย ลุงผมยังไม่เท่าไหร่หรอกเมื่อเปรียบเทียบกับอีกรายนี่สิซึ่งยังหนุ่มแน่นท่าทางอนาคตก็กำลังจะไปได้รุ่งทีเดียว ดอน พี่ชายของเพื่อนผมเอง เค้าเป็นเซลแมนหน้าตาดีพูดจาเป็นมิตรกำลังประสบความสำเร็จกับงานขายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอย่างท่วมท้น ดอนเพิ่งกลับจากเที่ยวเมืองไทยได้ไม่นานนี้เอง เค้าไปแค่สามสัปดาห์แต่ว่าใช้จ่ายไปทั้งหมดหกหมื่นกว่าดอลล่าร์หรือประมาณสองล้านบาท!
ระหว่างทางเพื่อนเล่าว่านายดอนพี่ชายเจ้าสำราญคนนี้ดอดไปเมืองไทยคนเดียวทันทีที่ไปถึงเค้าจัดแจงพักที่โรงแรมหรูระดับห้าดาวที่กรุงเทพ และทุกคืนเค้าจะสั่งสาวสวยจากแคตตาล็อกมาอยู่เป็นเพื่อนกินเพื่อนดื่มและเพื่อนร่วมหลับนอนด้วย ดอนเลือกภัตรคารระดับห้าดาวเช่นกันและเพื่อการันตีรสชาดเหล้าที่ถูกคอทุกคืนดอนจะเลือกดื่มแต่จอห์นนี่ฉลากน้ำเงินเท่านั้น คืนไหนที่เพื่อนสาวพาเพื่อนมาด้วยจอห์นนี่บลูเลเบิลก็หมดไปหลายขวดอยู่เหมือนกัน
ดอนแจกทิปหนัก ดื่มหนัก และจ่ายไม่อั้นให้กับบรรดาสาวๆ ที่เค้าคัดเลือกมาเสพสุขด้วย บางครั้งดอนก็อยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง เคยสั่งสาวทรงผมออกเปรี้ยวหลากสีจากเอเย่นต์เจ้าประจำที่เสาะหาให้ แต่พอดอนสำรวจแบบใกล้ชิดแล้วก็เปลี่ยนใจไม่แตะต้องแม่นางคนนั้นเลย จ่ายค่าตัวพร้อมแจกทิปแล้วก็เรียกคนใหม่มาแทน ดอนเล่าว่าคงจะได้อารมณ์อยู่หรอกถ้าปอยผมบนหัวเท่านั้นที่ย้อมเป็นสีเขียว
ดอนเที่ยวกรุงเทพและพัทยาอยู่เกือบสิบวันก็เปลี่ยนบรรยากาศขึ้นไปทางเหนือ ดอนจ้างไกด์ จ้างผู้หญิง และกินอยู่แบบไม่อั้นท่ามกลางบรรยากาศขุนเขาล้อมรอบ จากเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ดอนเดินทางทะลุไปนอนกินถึงฝั่งพม่า และเย็นวันหนึ่งดอนต้องได้จ่ายค่าเบิกทางให้กับเจ้าหน้าที่สองคนเพื่อแลกกับอิสรภาพ เมื่อดอนเจอข้อหามีฝิ่นไว้ในครอบครองเพื่อเสพ และเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจไปรอบๆ ที่พักก็เจอกัญชาต้นเล็กๆ อีกหลายต้น ถึงแม้เจ้าของที่พักพยายามไกล่เกลี่ยว่ามันขึ้นเองตามธรรมชาติแต่ก็ไม่เป็นผล ด้วยความสงสารและเห็นใจเจ้าของที่พักดอนจึงยอมจ่ายเงินหลายหมื่นบาทเพื่อให้ต้นกัญชาเล็กๆ ที่ขึ้นเป็นทิวแถวและถูกดายหญ้าไว้รอบๆ ต้นกลายเป็นต้นกัญชาที่ขึ้นเองตามธรรมชาติไปในที่สุด
ดอนย้อนกลับเข้าฝั่งไทยแล้วบินลงไปภาคใต้ทันทีเพื่อชื่นชมธรรมชาติทะเลฝั่งอันดามัน ดอนสมมติตัวเองราวกับว่าเป็นเจมส์ บอนด์ ไปได้อีกหลายคืนทีเดียว เหล้าแพงๆ อาหารทะเลดีๆ ผู้หญิงสวยๆ ห้อมล้อมหลายๆ คน บรรยากาศมีแต่เสียงหัวเราะ พนักงานโรงแรมก็สุภาพนอบน้อม ยิ่งฟังเพื่อนผมเล่าผมก็ยิ่งอิจฉาอยากมีโอกาสจับจ่ายใช้เงินแบบนั้นบ้าง อยากได้อะไรอยากกินอะไรก็แค่ชี้นิ้ว ควักเงินจ่ายทุกอย่างก็ถูกเนรมิตได้ดั่งใจกองรอไว้อยู่ตรงหน้า ชีวิตแบบนี้คงจะเท่ห์น่าดู
ก่อนกลับเมืองไทยดอนตกหลุมรักกับสาวสวยคนหนึ่ง ดอนซื้อแหวนเพชรวงเล็กๆ ให้กับสาวเจ้าเพื่อไว้ให้ดูต่างหน้า Diamonds are forever! อีตาแก่คนหนึ่งพูดเอาไว้ เลยกลายเป็นสโลแกนตกทอดไปถึงสาวๆ ในประเทศไทยด้วย เพชร เลอค่าอมตะ เพราะอีตาบ้านี่แหละ เลยทำให้หนุ่มๆ พลอยเหนื่อยหาเงินหนักเข้าไปกันใหญ่ และที่ดอนให้แหวนเพชรก็น่าจะสมเหตุผลสมผลแล้ว ขอให้มันเลอค่าอยู่แบบนั้นไปอีกนานๆ เพราะต่อจากนี้อีกหลายปีกว่าที่ดอนจะมีโอกาสไปหาน้องนางคนนั้นอีก
----- ----- -----
แล้วเราก็มาถึงจุดหมายปลายทางเพื่อเอาข้าวผัดกุ้งมาฝากดอนเจ้าสำราญ เราจอดรถไว้ที่ลานข้างหน้าและส่งห่อข้าวผัดให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรวจสอบเสร็จเราก็เดินผ่านเข้าไปประตูชั้นใน เจ้าหน้าที่เรือนจำตรวจบัตรประจำตัวเราแล้วก็โทรศัพท์นัดดอนให้ไปรอที่ห้องพบญาติ
ภายในเรือนจำระหว่างที่เราเดินผ่านเซ็ลคุมขังย่อยแต่ละจุดนั้น สังเกตว่าภายในมีทีวี ตู้เย็น คอมพิวเตอร์ไว้อำนวยความสะดวกให้บรรดานักโทษทั้งหลาย ส่วนกลางในนั้นยังมีโรงยิมและคอร์ตเทนนิสอีกตะหาก ผมบอกกับเพื่อนว่า โห นี่มันเรือนจำรึว่าฮอลิเดย์รีสอร์ทว่ะเนี่ย ดีที่มันไม่มีสนามกอล์ฟด้วย....
ดอนอ้วนกว่าเดิมนิดหน่อยคงจะเป็นผลมาจากที่อยู่ดีกินดีในนี้ ดอนเล่าต่อว่าหลังจากที่รวบรวมเก็บเงินจากตัวแทนจำหน่ายแล้ว ดอนไม่ได้เข้าบริษัทแต่ดอนรวบรวมเงินเข้าบัญชีตัวเองแล้วบินตรงไปเมืองไทยเลย พอหมดงบประมาณแล้วดอนก็กลับมาผลัดวันประกันพรุ่ง หาข้ออ้างต่างๆ กับทางบริษัท ยืดเวลาได้ไม่นานตำรวจก็มาที่บ้านพร้อมกับหมายจับในข้อหายักยอกทรัพย์ ในศาลดอนให้การรับสารภาพทุกอย่างและศาลได้ตัดสินลงโทษจำคุกหนึ่งปีหกเดือน!
ดอนทำตาละห้อยขอบคุณสำหรับห่อข้าวผัดและพริกน้ำปลา..... และผมกับเพื่อนก็สัญญาอีกว่าจะหาเวลามาเยี่ยมอีก พูดคุยกันได้สักพักเราก็หมดเวลาเยี่ยม ออกมาข้างนอกแล้วผมคิดเอาเองนะว่า อย่างดอนนี้ก็ดีไปอย่างมันยังรู้จักกลับไปรับโทษแต่โจรอีกหลายๆ คนที่ก่อคดีปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์หรือปล้นธนาคารใหญ่ๆ เมื่อออกนอกประเทศแล้วคงไม่คิดย้อนกลับมาอีก ป่านนี้อาจจะปลูกแมนชั่นอยู่ข้างๆ บ้านท่านก็ได้นะครับ
----------------------------------------
แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 49 08:03:49
จากคุณ :
K L YUTA
- [
2 พ.ค. 49 17:55:53
]