CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    Trip & Love ตามรอยแห่งรัก:บนบาน(รัก)...ศาลกล่าว(ความคิดถึง) ตอนที่ 2 โดย อาทิตยา

    ธนัชเริ่มแน่ใจและมั่นใจในตนเองแล้วว่าน้องสาวของเพื่อนคงไม่ชอบขี้หน้าเขาเสียจริงๆ แล้วกระมัง ก็ตั้งแต่มาถึงโรงแรมเจ้าหล่อนก็เอาแต่นั่งมองหน้าเขาด้วยสายตาเคืองๆ อย่างกับว่าเขาไปก่อเรื่องหรือทำอะไรมาอย่างนั้นล่ะ เขาอุตส่าห์ส่งยิ้มกว้างพราวระยับอย่างต้องการจะผูกมิตรไมตรีไปให้แต่กลับถูกดวงตาคู่สวยตวัดมองกลับอย่างเอาเรื่อง มิหนำซ้ำ...เขายังรู้สึกได้อีกว่า ถ้าไม่ติดว่ามีพาแก้วเจ้าหล่อนคงอยากจะเดินมาชกหน้าเขาสักทีสองที เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ดวงหน้าเข้มของธนัชก็อดขำขึ้นมาไม่ได้ คงจะจริงอย่างที่เคยได้ยินมา...เจอหน้ากันครั้งแรกก็ไม่ถูกโฉลกกันเสียแล้ว

    “วันนี้นัชจะไปไหนหรือเปล่า”

    น้ำเสียงหวานใสดังกังวานชวนฟังของพาแก้วดังถามขึ้นอย่างห่วงใย ธนัชหันไปยิ้มสบตากับเพื่อนพร้อมกับวางแก้วกาแฟในมือลงบนโต๊ะ

    “ว่าจะไปไหว้ย่าโมเสียหน่อย แล้วเดินเล่นอยู่ในเมืองนั่นล่ะ”

    “อ้าว...เมื่อวานแก้วเจอนัชแถวหน้าย่าโม นั่นยังไม่ได้ไหว้อีกหรือ”

    ชายหนุ่มพยักหน้าหงึกหงักแทนคำตอบ

    “ก็พอเจอแก้วกับคุณน้องสาวของแก้ว...” ธนัชหันไปค้อมศีรษะให้หญิงสาวอีกคนด้วยท่าทีที่แสร้งทำเป็นขออนุญาตในการพูดถึง “เราก็อยู่แต่ในสตูดิโอถ่ายรูปแล้วพอออกมาก็ติดรถของแก้วมาโรงแรมเลย”

    พาแก้วนิ่งไปนิดอย่างจะใช้ความคิด แล้วเธอก็เอื้อมไปหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าขึ้นมาเรียกดูเบอร์

    “ทำอะไรน่ะ พี่แก้ว”

    คนคอยจับผิดเอ่ยถามขึ้นมาอย่างอดสงสัยไม่ได้

    “โทรไปลางาน พี่ว่าจะเป็นไกด์พานัชเที่ยวในเมืองโคราชเสียหน่อย”

    “ไม่ต้องหรอกแก้ว เราเที่ยวเองได้ ไม่ต้องถึงขั้นลางานหรอก”

    “นั่นน่ะสิ พี่แก้ว เจ้าตัวเค้าอยากมาเองก็เที่ยวเองสิ”

    “ได้ยังไง นัชเค้าไม่เคยมาโคราชนะ หลงขึ้นมาจะแย่”

    “โอ๊ย...พี่แก้วขา” มือเรียวของหญิงสาวยกขึ้นโบกไปมาด้วยท่าทางที่ชายหนุ่มเห็นแล้วอดนึกหมั่นไส้ไม่ได้ “ถนนเส้นในเมืองโคราชเนี่ย ตัดตรงกันไปตรงกันมา เดินยังไงก็ไม่หลงหรอกค่ะ”

    “ถึงอย่างนั้นก็เถอะ นานๆ พี่จะเจอเพื่อนทีนึง ลางานซักวันจะเป็นไรไป”

    “พี่แก้วเป็นข้าราชการนะ ไม่ใช่นึกอยากจะลาก็ลา...แค่เพื่อนเก่ามาไม่ได้สำคัญขนาดนั้นซักหน่อย เดี๋ยวอาทิตย์หน้าพี่แก้วแต่งงานก็ลางานไว้ทั้งอาทิตย์อยู่แล้ว ลางานบ่อยๆ เนี่ยมันไม่ดีนะคะ”

    ธนัชเริ่มอ่านได้ถึงสิ่งที่น้องสาวของพาแก้วกำลังคิด ทั้งจากน้ำเสียง ทั้งจากคำพูด และทั้งจากท่าทางที่เธอแสดงต่อเขา มันไม่ใช่แค่คนไม่ถูกโฉลกกันธรรมดาแต่มันเหมือนกับว่าเจ้าหล่อนเกลียดขี้หน้าเขาเสียเต็มประดา เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ดวงหน้าเข้มก็กระจ่างด้วยรอยยิ้มเล็กๆ ที่แฝงรอยเจ้าเล่ห์ไว้อย่างมากมาย

    ‘ถ้าเขาเดาไม่ผิด...นี่หล่อนคงจะคิดว่าการที่เขามางานแต่งงานแฟนเก่าอย่างพี่สาวหล่อนนั้นคงจะเป็นการมาที่มีอะไรแอบแฝงอย่างแน่นอน โธ่เอ้ย....เด็กหนอเด็ก’

    .......................

    พาขวัญวนรถขึ้นไปจอดบนห้างสรรพสินค้าที่เมื่อวานชายหนุ่มนั่งอ่านชื่อและจำได้ว่าชื่อห้างคลังพลาซ่า ผลสรุปสุดท้ายก็จบลงที่เธออาสาเป็นไกด์พาชายหนุ่มเที่ยวเสียเอง ถึงแม้มันจะไม่ใช่บทสรุปที่ดีนักแต่ก็คงดีกว่าการที่จะให้พี่สาวของเธอพาชายหนุ่มเที่ยวเป็นไหนๆ หลังจากที่ขับรถไปส่งพาแก้วที่ทำงาน ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากที่นี่มากนัก พาขวัญก็เลือกที่จะมาห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ด้วยเพราะอันที่จริงเธอไม่ได้คิดจะพาเขาเที่ยวอย่างที่รับปากกับพี่สาวไว้หรอก เธอจะเดินเล่นอยู่บนห้างต่างหาก เรื่องอะไรจะต้องไปเดินตากแดดให้ร้อน

    “เดี๋ยวฉันจะเดินไปส่งนายตรงประตูทางออกของห้างนะ จากตรงนั้นเดินไปอีกนิดเดียวก็ถึงสตูดิโอร้านเมื่อวาน แล้วเยื้องไปฝั่งตรงข้ามอีกนิดก็จะเจอลานย่าโมพอดี แล้วฉันก็คิดว่าคู่มือท่องเที่ยวที่อยู่ในกระเป๋าเป้ของนายคงช่วยได้” เธอว่าพลางชี้ไปยังหนังสือคู่มือการท่องเที่ยวที่เขาเสียบไว้ทางด้านหน้ากระเป๋าแล้วแถมด้วยอาการแย้มยิ้มที่ออกจะยวนๆ กวนประสาท “ส่วนฉันจะไปนั่งรอในร้านหนังสือที่อยู่ชั้น 2 ก็แล้วกัน”

    ‘แสบได้ใจจริงๆ เลยแม่คุณ คงจะหาทางกันไม่ให้เขาอยู่กับพี่สาวสองต่อสองล่ะสิ’

    ธนัชหรี่ตามองหญิงสาวด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจะตัดสินใจปลดกระเป๋าเป้ลงจากไหล่กว้างแล้วโยนมันกลับเข้าไปไว้ในรถ ปิดประตูรถฝั่งของตนดังโครม พาขวัญยืนมองท่าทางของชายหนุ่มด้วยอาการงงๆ

    “ทำอะไรน่ะ”

    “ไม่มีคู่มือ ไปไม่ถูก คุณคงต้องพาผมไปแล้วล่ะ”

    “ประสาทหรือเปล่า”

    พาขวัญว่าขึ้นอย่างอารมณ์เสีย เดินตรงไปเปิดประตูฝั่งของชายหนุ่มแล้วหยิบคู่มือเล่มนั้นออกมาถือไว้

    “แต่ตอนนี้มีแล้ว เชิญ!”

    ชายหนุ่มยักไหล่แบมือหราแสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจกับสิ่งที่หญิงสาวยื่นให้ ร่างสูงเดินนำเข้าไปในห้างสรรพสินค้าอย่างคนอารมณ์ดี พาขวัญช้อนตามองตามไปอย่างรู้สึกขัดใจยิ่งนัก เธอถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วเดินกระทืบเท้าตามไปอย่างเสียไม่ได้

    “จะไปไหน”

    เสียงหวานเอ่ยห้วนๆ ถามขึ้นจากทางด้านหลัง

    “ไปชั้น 2”

    เขาตอบโดยไม่หันมามองหน้าคนถามด้วยซ้ำ พาขวัญนิ่วหน้าไปนิดกับคำตอบที่ได้ยิน

    “ไปทำไม”

    “อ้าว ก็เมื่อครู่เห็นคุณบอกว่าจะไปนั่งเล่นร้านหนังสือที่ชั้น 2”

    “ฉันจะไปคนเดียว”

    คราวนี้เสียงหวานแหวขึ้นทันควัน ธนัชชะงักฝีเท้าลงโดยเร็วกำลังจะหันมาต่อปากต่อคำกับหญิงสาวต่ออีกยก โดยที่คนเดินตามไม่ทันระวังตัวจึงส่งให้ร่างบางที่กำลังรุดฝีเท้าตามอยู่ไม่ห่างนั้นชนเข้ากับแผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มเสียเต็มรัก มือเรียวยกขึ้นลูบที่จมูกปอยๆ อาการเจ็บทำเอาน้ำใสๆ เอ่อคลอที่ดวงตาโดยไม่รู้ตัว ชายหนุ่มเองก็ตกใจไม่น้อยกับสิ่งที่เกิดขึ้น ดวงหน้าเข้มซีดลงอย่างทำอะไรไม่ถูกแต่เมื่อหญิงสาวลดมือลง ภาพที่เห็นก็คือปลายจมูกโด่งที่เชิดรั้นขึ้นน้อยๆ นั้นแดงก่ำ เหมือนลูกตำลึง...ชายหนุ่มแทบจะหลุดเสียงหัวเราะออกมา หากแต่ยังดีที่เขาห้ามมันไว้ทัน

    “เป็นอะไรมากหรือเปล่าคุณ”

    เสียงทุ้มว่ากลั้วหัวเราะ พาขวัญสะบัดหน้าพรืดไปอีกทาง ทั้งเจ็บทั้งอาย!

    “แกล้งฉันเหรอ”

    เธอหันมาตะคอกใส่คนตัวสูงอย่างเอาเรื่อง ธนัชรีบโบกมือไปมาเป็นพัลวัน

    “เปล่าซักหน่อย คิดมากน่าคุณ”

    “ไม่ต้องเลย ฉันรู้ว่านายแกล้งฉัน ไปเลย...ไปเที่ยวเองเลยแล้วก็ไม่ต้องตามฉันไปร้านหนังสือด้วย”

    เธอว่าอย่างคาดโทษ ทำเอาชายหนุ่มต้องส่ายหน้าไปมาอย่างระอาใจ ก่อนจะสาวเท้าช้าๆ ทิ้งช่วงห่างพอสมควรแล้วเดินตามหญิงสาวเข้าไปในร้านหนังสือ

    .................................

    กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นทั้งร้อนและเย็นถูกนำมาวางลงตรงหน้าพร้อมกับขนมอีกสองสามชนิด พาขวัญเงยมองของทั้งหมดบนโต๊ะอย่างเสียไม่ได้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร...เธอละความสนใจจากแก้วกาแฟและขนม ก้มลงอ่านหนังสือในมือต่อ

    “ผมขอโทษ”

    เสียงทุ้มดังขึ้นอย่างอ่อนโยน พาขวัญลอบกระตุกยิ้มเพียงนิดจับได้ถึงความรู้สึกห่วงใยและรู้สึกผิดในน้ำเสียงนั้น แล้วเธอก็ต้องรีบเรียกสติของตัวเองให้กลับคืนมา อดแปลกใจไม่ได้ว่าแค่น้ำเสียงที่แสร้งทำเป็นว่าห่วงใยนั้น ทำไมเธอถึงต้องยิ้มออกมา

    “ผมขอโทษ”

    เขาพูดซ้ำประโยคเดิมและทำท่าว่าจะพูดซ้ำอีกครั้งหนึ่ง หากมือเรียวไม่ยกขึ้นมาห้ามไว้เสียก่อน

    “จะขอโทษอะไรนักหนาเล่า ฉันอายเค้า”

    “ก็คุณไม่ยอมรับคำขอโทษผมนี่”

    “กาแฟสองแก้วแทนคำขอโทษเนี่ยนะ โธ่ พ่อคุณ...คำขอโทษของพ่อคงทำเอาฉันตาค้างพอดี”

    เธอว่าประชดประชัน ร่างสูงถือวิสาสะนั่งลงตรงข้ามเธอโดยไม่ต้องรอให้เชิญ

    “ผมสั่งมอคค่ามาให้แต่ไม่แน่ใจว่าคุณจะชอบแบบไหน เลยเอามาทั้งร้อนแล้วก็เย็น”

    พาขวัญมองสบดวงตาคู่เข้มนิ่งอย่างไม่แน่ใจนัก

    “คุณรู้ได้ไงว่าฉันชอบมอคค่า”

    “พี่กับน้องคงชอบไม่ต่างกันนัก”

    คำตอบนั้นทำเอาพาขวัญหน้าเจื่อนลงเล็กน้อย

    “ฉันจะกินมอคค่าเย็น คุณเอาร้อนไปแล้วกัน”

    จากคุณ : samita - [ 3 พ.ค. 49 14:42:39 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป