ธนัชเริ่มแน่ใจและมั่นใจในตนเองแล้วว่าน้องสาวของเพื่อนคงไม่ชอบขี้หน้าเขาเสียจริงๆ แล้วกระมัง ก็ตั้งแต่มาถึงโรงแรมเจ้าหล่อนก็เอาแต่นั่งมองหน้าเขาด้วยสายตาเคืองๆ อย่างกับว่าเขาไปก่อเรื่องหรือทำอะไรมาอย่างนั้นล่ะ เขาอุตส่าห์ส่งยิ้มกว้างพราวระยับอย่างต้องการจะผูกมิตรไมตรีไปให้แต่กลับถูกดวงตาคู่สวยตวัดมองกลับอย่างเอาเรื่อง มิหนำซ้ำ...เขายังรู้สึกได้อีกว่า ถ้าไม่ติดว่ามีพาแก้วเจ้าหล่อนคงอยากจะเดินมาชกหน้าเขาสักทีสองที เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ดวงหน้าเข้มของธนัชก็อดขำขึ้นมาไม่ได้ คงจะจริงอย่างที่เคยได้ยินมา...เจอหน้ากันครั้งแรกก็ไม่ถูกโฉลกกันเสียแล้ว
วันนี้นัชจะไปไหนหรือเปล่า
น้ำเสียงหวานใสดังกังวานชวนฟังของพาแก้วดังถามขึ้นอย่างห่วงใย ธนัชหันไปยิ้มสบตากับเพื่อนพร้อมกับวางแก้วกาแฟในมือลงบนโต๊ะ
ว่าจะไปไหว้ย่าโมเสียหน่อย แล้วเดินเล่นอยู่ในเมืองนั่นล่ะ
อ้าว...เมื่อวานแก้วเจอนัชแถวหน้าย่าโม นั่นยังไม่ได้ไหว้อีกหรือ
ชายหนุ่มพยักหน้าหงึกหงักแทนคำตอบ
ก็พอเจอแก้วกับคุณน้องสาวของแก้ว... ธนัชหันไปค้อมศีรษะให้หญิงสาวอีกคนด้วยท่าทีที่แสร้งทำเป็นขออนุญาตในการพูดถึง เราก็อยู่แต่ในสตูดิโอถ่ายรูปแล้วพอออกมาก็ติดรถของแก้วมาโรงแรมเลย
พาแก้วนิ่งไปนิดอย่างจะใช้ความคิด แล้วเธอก็เอื้อมไปหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าขึ้นมาเรียกดูเบอร์
ทำอะไรน่ะ พี่แก้ว
คนคอยจับผิดเอ่ยถามขึ้นมาอย่างอดสงสัยไม่ได้
โทรไปลางาน พี่ว่าจะเป็นไกด์พานัชเที่ยวในเมืองโคราชเสียหน่อย
ไม่ต้องหรอกแก้ว เราเที่ยวเองได้ ไม่ต้องถึงขั้นลางานหรอก
นั่นน่ะสิ พี่แก้ว เจ้าตัวเค้าอยากมาเองก็เที่ยวเองสิ
ได้ยังไง นัชเค้าไม่เคยมาโคราชนะ หลงขึ้นมาจะแย่
โอ๊ย...พี่แก้วขา มือเรียวของหญิงสาวยกขึ้นโบกไปมาด้วยท่าทางที่ชายหนุ่มเห็นแล้วอดนึกหมั่นไส้ไม่ได้ ถนนเส้นในเมืองโคราชเนี่ย ตัดตรงกันไปตรงกันมา เดินยังไงก็ไม่หลงหรอกค่ะ
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ นานๆ พี่จะเจอเพื่อนทีนึง ลางานซักวันจะเป็นไรไป
พี่แก้วเป็นข้าราชการนะ ไม่ใช่นึกอยากจะลาก็ลา...แค่เพื่อนเก่ามาไม่ได้สำคัญขนาดนั้นซักหน่อย เดี๋ยวอาทิตย์หน้าพี่แก้วแต่งงานก็ลางานไว้ทั้งอาทิตย์อยู่แล้ว ลางานบ่อยๆ เนี่ยมันไม่ดีนะคะ
ธนัชเริ่มอ่านได้ถึงสิ่งที่น้องสาวของพาแก้วกำลังคิด ทั้งจากน้ำเสียง ทั้งจากคำพูด และทั้งจากท่าทางที่เธอแสดงต่อเขา มันไม่ใช่แค่คนไม่ถูกโฉลกกันธรรมดาแต่มันเหมือนกับว่าเจ้าหล่อนเกลียดขี้หน้าเขาเสียเต็มประดา เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ดวงหน้าเข้มก็กระจ่างด้วยรอยยิ้มเล็กๆ ที่แฝงรอยเจ้าเล่ห์ไว้อย่างมากมาย
ถ้าเขาเดาไม่ผิด...นี่หล่อนคงจะคิดว่าการที่เขามางานแต่งงานแฟนเก่าอย่างพี่สาวหล่อนนั้นคงจะเป็นการมาที่มีอะไรแอบแฝงอย่างแน่นอน โธ่เอ้ย....เด็กหนอเด็ก
.......................
พาขวัญวนรถขึ้นไปจอดบนห้างสรรพสินค้าที่เมื่อวานชายหนุ่มนั่งอ่านชื่อและจำได้ว่าชื่อห้างคลังพลาซ่า ผลสรุปสุดท้ายก็จบลงที่เธออาสาเป็นไกด์พาชายหนุ่มเที่ยวเสียเอง ถึงแม้มันจะไม่ใช่บทสรุปที่ดีนักแต่ก็คงดีกว่าการที่จะให้พี่สาวของเธอพาชายหนุ่มเที่ยวเป็นไหนๆ หลังจากที่ขับรถไปส่งพาแก้วที่ทำงาน ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากที่นี่มากนัก พาขวัญก็เลือกที่จะมาห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ด้วยเพราะอันที่จริงเธอไม่ได้คิดจะพาเขาเที่ยวอย่างที่รับปากกับพี่สาวไว้หรอก เธอจะเดินเล่นอยู่บนห้างต่างหาก เรื่องอะไรจะต้องไปเดินตากแดดให้ร้อน
เดี๋ยวฉันจะเดินไปส่งนายตรงประตูทางออกของห้างนะ จากตรงนั้นเดินไปอีกนิดเดียวก็ถึงสตูดิโอร้านเมื่อวาน แล้วเยื้องไปฝั่งตรงข้ามอีกนิดก็จะเจอลานย่าโมพอดี แล้วฉันก็คิดว่าคู่มือท่องเที่ยวที่อยู่ในกระเป๋าเป้ของนายคงช่วยได้ เธอว่าพลางชี้ไปยังหนังสือคู่มือการท่องเที่ยวที่เขาเสียบไว้ทางด้านหน้ากระเป๋าแล้วแถมด้วยอาการแย้มยิ้มที่ออกจะยวนๆ กวนประสาท ส่วนฉันจะไปนั่งรอในร้านหนังสือที่อยู่ชั้น 2 ก็แล้วกัน
แสบได้ใจจริงๆ เลยแม่คุณ คงจะหาทางกันไม่ให้เขาอยู่กับพี่สาวสองต่อสองล่ะสิ
ธนัชหรี่ตามองหญิงสาวด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจะตัดสินใจปลดกระเป๋าเป้ลงจากไหล่กว้างแล้วโยนมันกลับเข้าไปไว้ในรถ ปิดประตูรถฝั่งของตนดังโครม พาขวัญยืนมองท่าทางของชายหนุ่มด้วยอาการงงๆ
ทำอะไรน่ะ
ไม่มีคู่มือ ไปไม่ถูก คุณคงต้องพาผมไปแล้วล่ะ
ประสาทหรือเปล่า
พาขวัญว่าขึ้นอย่างอารมณ์เสีย เดินตรงไปเปิดประตูฝั่งของชายหนุ่มแล้วหยิบคู่มือเล่มนั้นออกมาถือไว้
แต่ตอนนี้มีแล้ว เชิญ!
ชายหนุ่มยักไหล่แบมือหราแสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจกับสิ่งที่หญิงสาวยื่นให้ ร่างสูงเดินนำเข้าไปในห้างสรรพสินค้าอย่างคนอารมณ์ดี พาขวัญช้อนตามองตามไปอย่างรู้สึกขัดใจยิ่งนัก เธอถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วเดินกระทืบเท้าตามไปอย่างเสียไม่ได้
จะไปไหน
เสียงหวานเอ่ยห้วนๆ ถามขึ้นจากทางด้านหลัง
ไปชั้น 2
เขาตอบโดยไม่หันมามองหน้าคนถามด้วยซ้ำ พาขวัญนิ่วหน้าไปนิดกับคำตอบที่ได้ยิน
ไปทำไม
อ้าว ก็เมื่อครู่เห็นคุณบอกว่าจะไปนั่งเล่นร้านหนังสือที่ชั้น 2
ฉันจะไปคนเดียว
คราวนี้เสียงหวานแหวขึ้นทันควัน ธนัชชะงักฝีเท้าลงโดยเร็วกำลังจะหันมาต่อปากต่อคำกับหญิงสาวต่ออีกยก โดยที่คนเดินตามไม่ทันระวังตัวจึงส่งให้ร่างบางที่กำลังรุดฝีเท้าตามอยู่ไม่ห่างนั้นชนเข้ากับแผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มเสียเต็มรัก มือเรียวยกขึ้นลูบที่จมูกปอยๆ อาการเจ็บทำเอาน้ำใสๆ เอ่อคลอที่ดวงตาโดยไม่รู้ตัว ชายหนุ่มเองก็ตกใจไม่น้อยกับสิ่งที่เกิดขึ้น ดวงหน้าเข้มซีดลงอย่างทำอะไรไม่ถูกแต่เมื่อหญิงสาวลดมือลง ภาพที่เห็นก็คือปลายจมูกโด่งที่เชิดรั้นขึ้นน้อยๆ นั้นแดงก่ำ เหมือนลูกตำลึง...ชายหนุ่มแทบจะหลุดเสียงหัวเราะออกมา หากแต่ยังดีที่เขาห้ามมันไว้ทัน
เป็นอะไรมากหรือเปล่าคุณ
เสียงทุ้มว่ากลั้วหัวเราะ พาขวัญสะบัดหน้าพรืดไปอีกทาง ทั้งเจ็บทั้งอาย!
แกล้งฉันเหรอ
เธอหันมาตะคอกใส่คนตัวสูงอย่างเอาเรื่อง ธนัชรีบโบกมือไปมาเป็นพัลวัน
เปล่าซักหน่อย คิดมากน่าคุณ
ไม่ต้องเลย ฉันรู้ว่านายแกล้งฉัน ไปเลย...ไปเที่ยวเองเลยแล้วก็ไม่ต้องตามฉันไปร้านหนังสือด้วย
เธอว่าอย่างคาดโทษ ทำเอาชายหนุ่มต้องส่ายหน้าไปมาอย่างระอาใจ ก่อนจะสาวเท้าช้าๆ ทิ้งช่วงห่างพอสมควรแล้วเดินตามหญิงสาวเข้าไปในร้านหนังสือ
.................................
กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นทั้งร้อนและเย็นถูกนำมาวางลงตรงหน้าพร้อมกับขนมอีกสองสามชนิด พาขวัญเงยมองของทั้งหมดบนโต๊ะอย่างเสียไม่ได้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร...เธอละความสนใจจากแก้วกาแฟและขนม ก้มลงอ่านหนังสือในมือต่อ
ผมขอโทษ
เสียงทุ้มดังขึ้นอย่างอ่อนโยน พาขวัญลอบกระตุกยิ้มเพียงนิดจับได้ถึงความรู้สึกห่วงใยและรู้สึกผิดในน้ำเสียงนั้น แล้วเธอก็ต้องรีบเรียกสติของตัวเองให้กลับคืนมา อดแปลกใจไม่ได้ว่าแค่น้ำเสียงที่แสร้งทำเป็นว่าห่วงใยนั้น ทำไมเธอถึงต้องยิ้มออกมา
ผมขอโทษ
เขาพูดซ้ำประโยคเดิมและทำท่าว่าจะพูดซ้ำอีกครั้งหนึ่ง หากมือเรียวไม่ยกขึ้นมาห้ามไว้เสียก่อน
จะขอโทษอะไรนักหนาเล่า ฉันอายเค้า
ก็คุณไม่ยอมรับคำขอโทษผมนี่
กาแฟสองแก้วแทนคำขอโทษเนี่ยนะ โธ่ พ่อคุณ...คำขอโทษของพ่อคงทำเอาฉันตาค้างพอดี
เธอว่าประชดประชัน ร่างสูงถือวิสาสะนั่งลงตรงข้ามเธอโดยไม่ต้องรอให้เชิญ
ผมสั่งมอคค่ามาให้แต่ไม่แน่ใจว่าคุณจะชอบแบบไหน เลยเอามาทั้งร้อนแล้วก็เย็น
พาขวัญมองสบดวงตาคู่เข้มนิ่งอย่างไม่แน่ใจนัก
คุณรู้ได้ไงว่าฉันชอบมอคค่า
พี่กับน้องคงชอบไม่ต่างกันนัก
คำตอบนั้นทำเอาพาขวัญหน้าเจื่อนลงเล็กน้อย
ฉันจะกินมอคค่าเย็น คุณเอาร้อนไปแล้วกัน
จากคุณ :
samita
- [
3 พ.ค. 49 14:42:39
]