CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ทริปหฤหรรษ์ ตอน สองล้อ...สู่ภูชี้ฟ้า

    คือว่า...ไม่รู้จะเอาไปไว้ในหัวข้อไหนดีอ่ะค่ะ เลยเอามาแปะไว้ที่นี่ อ่านกันเล่นๆ ขำๆ นะคะ ^ ^

    >> ปฐมบทแห่งการเดินทาง <<

    "ไปภูชี้ฟ้ากันมั้ย ?"
    คำถามนี้เกิดขึ้นเมื่อก่อนจบเทอมหนึ่งของปีการศึกษา 2545 ซึ่งเป็นเทอมสุดท้ายของคนพูด 'พี่อาร์ม' อดีตประธานชมรมซึ่งตอนที่พูดประโยคนี้นั้นมีศักดิ์เป็นพี่ปี 5 แล้ว เรากับไอ้พวกนั้นพยักหน้าหงึกหงัก ด้วยความที่ภูชี้ฟ้าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่เราตั้งใจไว้ว่าชีวิตนี้ต้องไปให้ได้ ก็เลยสนับสนุนเต็มที่
    "เอามอ'ไซค์ไปนะ"
    พี่อาร์มทำท่าเหมือนพูดเล่น แต่เปล่าเลย…พี่แกพูดจริง พวกเรามองหน้ากันเลิ่กลั่กในโต๊ะประชุมเล็ก ๆ กลางร้านนม
    "เอาดิพี่"
    'ไอ่ซัม' สนับสนุนขึ้นมาเป็นคนแรก เนื่องจากเคยเป็นหนึ่งในสมาชิกแก๊งมอเตอร์ไซค์ที่ขี่จากเชียงใหม่ไปลำพูนตอนสี่ทุ่มมาแล้วในสมัยที่แก๊งซามูไรยังไม่ออกอาละวาด ซึ่งการเดินทางครั้งนั้นก็นำโดยพี่อาร์มนี่แหละ แน่นอนว่าเราก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยเช่นกัน
    แล้วในที่สุดเสียงสนับสนุนของคนอื่น ๆ ก็เริ่มตามมา พี่อาร์มเลยกำหนดวันเวลาเดินทางอย่างคร่าว ๆ แล้วกลับมาประชุมในรายละเอียดกันต่อที่ชมรม และได้ข้อสรุปว่าเราจะเดินทางกันไปสามวันสองคืน และกลับมาถึงเชียงใหม่ก่อนเปิดเทอมสองวันเพื่อพักฟื้นร่างกายที่คาดว่าจะต้องสะบักสะบอมจากการเดินทางเป็นแน่ เมื่อได้กำหนดการแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือหาแนวร่วม เพราะโดยปกติแล้วชมรมเราจะไปไหนไปกันทั้งชมรมจึงต้องมีการป่าวประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน พี่อาร์มเลยเขียนประกาศบนบอร์ดในชมรมให้ผู้ที่สนใจมาร่วมลงชื่อ

    "พวกเอ็งจะบ้ากันเหรอวะ ขี่มอ'ไซค์ไปเนี่ยนะ"
    เสียงด่าดังลั่นมาจากโทรศัพท์ เมื่อเราโทรไปเล่าให้พ่อนนท์ฟัง เราก็ไม่รอช้ารีบโยนโทรศัพท์ให้พี่อาร์มและบอกว่า "พ่อนนท์อยากคุยด้วย" พี่อาร์มรับโทรศัพท์ไป แล้วก็ทำหน้าเหยเก พวกเราได้ยินพี่อาร์มพูดมาประโยคหนึ่งว่า
    "โธ่พี่…ผมไม่ขี่ไปชนใครเค้าหรอก"
    เรากะไอ้พวกที่เหลือ จึงพอจะจับใจความได้ว่าพ่อนนท์คงเป็นห่วงพวกเรานั่นเอง พอพี่อาร์มวางโทรศัพท์พวกเราก็รอฟังกันตาปริบ ๆ
    "เป็นไงมั่ง" เรารีบถามก่อนคนแรก
    "โดนด่าอ่ะดิ” พี่อาร์มแหวใส่ในทันใด “แต่ก็ไม่เชิงหรอก พี่นนท์บอกว่ารถมันเยอะ เอามอเตอร์ไซค์ไปมันอันตราย ถึงเราไม่ไปชนเค้า เค้าก็อาจจะมาชนเราก็ได้"
    "แล้วจะเอาไงกันดีล่ะ"
    ทุกคนเริ่มเห็นแววล่มมาราง ๆ แต่แกนนำของพวกเราก็ยังคงหนักแน่นในอุดมการณ์อันแรงกล้า
    "เอามอเตอร์ไซค์ไป"

    พวกเราเริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับภูชี้ฟ้า ทั้งหาหนังสือมาอ่าน ทั้งเปิดเวบไซต์ท่องเที่ยว พี่อาร์มถึงขนาดไปหาหนังสือเชียงรายจากร้านหนังสือเก่ามาดูเลยทีเดียว เราได้ข้อมูลการเดินทางและที่เที่ยวมาพอสมควร จึงลงมือร่างกำหนดการอย่างคร่าว ๆ ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างและพักที่ไหน ก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้านในช่วงปิดเทอม และกลับมาเจอกันใหม่ก่อนวันเดินทาง
    สรุปแล้วทริปนี้เราได้ผู้ร่วมอุดมการณ์ทั้งสิ้น 8 ชีวิตด้วยกัน
    พี่อาร์ม - - ผู้ซึ่งได้เลื่อนขั้นจากพี่ปี 5 เป็นว่าที่พี่บัณฑิตไปแล้ว
    คุณกอล์ฟ - -  ประธานชมรมในขณะนั้น
    อีนุ - - หนุ่มหล่อ มาดนิ่ง (มันคิดว่าตัวเองเป็นอย่างงั้นอ่ะนะ)
    กฤษณ์ - - หนุ่มพะเยา ผู้ถือคติ ไปไหนไปด้วย
    ไอ่ซัม - - น้องปี 3 หนุ่มสระบุรีผู้มีดีกรีเป็นถึงลีดเดอร์ของคณะ
    แอน - - สาวน้อยร่างใหญ่จากปทุมธานี เพื่อนซี้เราเอง
    ไอ่กบ - - สโมฯ ที่จู่ ๆ ก็มาขอไปด้วยหน้าตาเฉย เนื่องจากห้องชมรมอยู่ติดกันมันจึงมักจะแวะเวียนเข้ามาอ่านการ์ตูน หรือไม่ก็หาของกินอยู่เสมอ จนมันมาเห็นข้อความบนบอร์ดเข้าในที่สุด และ…
    เราเอง - - สาวสวยจากนครปฐม (ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ)

    เมื่อได้ผู้ร่วมเดินทางเป็นที่แน่นอนแล้ว พี่อาร์มก็ไปจัดการเช่ารถมอเตอร์ไซค์ ฮอนด้าดรีม คือรถที่พวกเราเลือกเพราะคิดว่าประหยัดน้ำมันที่สุด ส่วนอีนุก็หาวิธีจับคู่ที่คิดว่ายุติธรรมที่สุด ไม่มีการเลือกที่รักมักที่ชัง ด้วยการเขียนชื่อคนขี่เป็นหลักไว้ก่อนสี่คน แล้วก็ขีดเส้นอะไรของมันก็ไม่รู้แล้วก็ลากไปตามเส้นจนได้คู่กันครบ ช่างเป็นวิธีที่น่าอัศจรรย์มาก ๆ เพราะจนป่านนี้เราก็ยังไม่เข้าใจหลักการของวิธีนี้เลยซักนิด
    เมื่อทำการจับคู่กันเรียบร้อยก็ได้ผลการจับคู่ออกมาเป็นดังนี้ - -
    คันที่หนึ่ง >>พี่อาร์มกับไอ่กบ  
    คันที่สอง >> กฤษณ์กับไอ่ซัม  
    คันที่สาม >> คุณกอล์ฟกับแอน และ
    คันสุดท้าย >> อีนุกับเรา

    การเดินทางครั้งนี้พี่อาร์มคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ ในการประชุมครั้งสุดท้าย พี่อาร์มกำชับว่าให้ขี่รถด้วยความระมัดระวังมากที่สุดโดยขี่บนไหล่ทางเท่านั้นและให้เกาะกลุ่มกันไว้ พยายามอย่าให้ทิ้งช่วงห่างกันจนมองไม่เห็นหลัง และให้พกเอาหมวกกันน็อคไปด้วยคันละใบ นอกจากความปลอดภัยของคนแล้ว ความปลอดภัยของรถก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน คืนก่อนวันเดินทาง พี่อาร์ม อีนุและคุณกอล์ฟก็เลยไปยืมโซ่ที่ใช้คล้องรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดในที่ห้ามจอดของหอพักชายมาหนึ่งเส้น เพื่อมาคล้องรถของพวกเราไว้กันขโมย วิธีการยืมนั้นก็เป็นการยืมแบบเงียบ ๆ คือไปยืมตอนดึก ๆ แล้วก็อุ้มออกมาโดยไม่ให้ยามเห็น แต่พวกเราก็สัญญากันเป็นมั่นเหมาะเมื่อคล้อยหลังยามมาแล้ว ว่าจะเอามาคืนอย่างแน่นอน ขอยืมแค่สามวันเท่านั้น

    แล้ววันเดินทางก็มาถึง... กำหนดการเดินทางของเราคือเช้าวันที่ 17 ตุลาคม 2545 พวกเรานัดเวลาให้มาพร้อมกันที่ชมรมหกโมงเช้า เผื่อว่าไอ่กบมันมาไม่ทันก็จะได้ทิ้งมันไว้ที่นี่เลย แต่พวกเราก็ต้องผิดหวังไปตาม ๆ กันเมื่อกบมันเดินยิ้มเผล่เข้ามาแต่เช้า แถมยังบอกอีกด้วยว่าเก็บเสื้อผ้าใส่เป้มานอนที่สโมฯ ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
    แต่ละคนแต่งตัวด้วยชุดที่คิดว่าสามารถกันได้ทั้งอากาศเย็น ๆ ในตอนเช้าและกันแดดได้ในตอนบ่าย พี่อาร์มเท่ห์สุดในชุดเสื้อแขนยาวแนบเนื้อสีดำแบบที่นักขี่จักรยานใส่กัน สวมทับด้วยเสื้อกั๊ก กางเกงขายาว รองเท้าผ้าใบ ถุงมือขี่จักรยาน แว่นดำและผ้าเช็ดหน้าสีเจ็บเอามาผูกคาดไว้ครึ่งหน้า คุณกอล์ฟก็ไม่แพ้กัน เสื้อแขนยาว กางเกงยีนส์ขาด ๆ กับรองเท้าผ้าใบเยิน ๆ  ถุงมือเก็บชะอมและผ้าเช็ดหน้าแบบเดียวกับพี่อาร์ม ส่วนกฤษณ์ก็มาแนวเดียวกัน ขาดแค่ผ้าเช็ดหน้ากับถุงมือเท่านั้น อ้อ เปลี่ยนจากรองเท้าผ้าใบเป็นรองเท้าแตะด้วย ส่วนแอนนั้นใส่เสื้อยืด สวมทับด้วยเสื้อกันหนาว กางเกงขายาว รองเท้าแตะ และหมวกคู่ใจ มีแต่เรา อีนุ แล้วก็ไอ่ซัมที่แต่งตัวกันเหมือนจะไปเที่ยวทะเล กล่าวคือ เสื้อยืด กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ และหมวก จะมีที่เข้ากับสถานการณ์หน่อยก็เสื้อกันหนาวนี่แหละ แต่ไอ่กบนี่สิ หนักกว่าเพื่อน เสื้อกันหนาวก็ไม่มี หมวกก็ไม่มี เราไม่แน่ใจว่ามันไม่มี หรือว่ามันขี้เกียจเอามากันแน่
    สัมภาระของพวกเรานั้นก็ไม่มีอะไรมาก เป้คนละหนึ่งใบ เต็นท์สามหลัง ถุงนอนและกระเป๋ากล้องของใครของมัน  ขาตั้งกล้องทั้งส่วนตัวและส่วนรวม น้ำดื่มคนละขวด หมวกกันน็อคคันละใบ แล้วก็ไอ้เจ้าโซ่ล็อครถที่หนักร่วม ๆ 5 กิโล ที่ใส่ถุงพลาสติกไว้
    ก่อนออกเดินทางพวกเราก็ไปกินข้าวเช้าเติมพลังกันก่อนที่ อมช. ที่เปิดขายตั้งแต่ตีสี่แม้จะเป็นช่วงปิดเทอมก็ตาม แล้วก็กลับมารวมตัวกันที่ชมรมอีกครั้ง เพื่อไปไหว้พระวิษณุกรรมที่พวกเราเคารพสักการะซึ่งประดิษฐานอยู่หลังคณะ ขอพรให้พวกเราเดินทางโดยสวัสดิภาพ เสร็จแล้วก็แยกสัมภาระส่วนรวมแบ่งกันไปไว้ที่รถแต่ละคันเพื่อเฉลี่ยน้ำหนักกันไป คันของเรากับอีนุได้เต็นท์มาหนึ่งหลังและไอ้โซ่ 5 กิโล นั่น

    แล้วพวกเราก็ได้ฤกษ์ออกเดินทาง เราเดินทางออกจากเชียงใหม่ประมาณแปดโมงเช้า มุ่งหน้าไปทางอำเภอดอยสะเก็ด ผ่านอำเภอเวียงป่าเป้าและเข้าสู่อำเภอเมืองเชียงราย ระยะทางจากเชียงใหม่ถึงตัวเมืองเชียงราย 183 กิโลเมตร เส้นทางที่พวกเราเลือกไปนั้นตัดผ่านภูเขาและป่า เลยไม่ค่อยมีรถรามากนัก เราขี่กันแบบสบาย ๆ ด้วยความเร็วประมาณ 40-50 กิโลเมตร/ชั่วโมง บางช่วงที่เป็นทางลงเขาเราก็ปล่อยเกียร์ว่างเพื่อประหยัดน้ำมัน ช่วงเช้าแดดยังไม่ร้อน เราก็เลยรู้สึกเริงร่าเป็นพิเศษ ชวนอีนุคุยแล้วก็ร้องเพลงกันไปตลอดทาง ไม่รู้ว่ารถคันอื่นจะครื้นเครงเหมือนคันของเราหรือเปล่า แต่ที่มารู้ทีหลังก็คือ ทุกคนบ่นเหมือนกันหมดว่าขี่ไปแล้วพานจะหลับเอา เพราะคนนั่งข้างหลังไม่ยอมชวนคุยเลย มีแต่อีนุคนเดียวที่บอกว่า "พี่สู้คันผมไม่ได้ หนวกหูมาตลอดทางเลย" เราเลยเริ่มไม่แน่ใจว่ามันดีหรือไม่ดีกันแน่
    พอเริ่มสาย แดดก็เริ่มแรงขึ้น เสียงที่เคยเจี้อยแจ้วของเราก็ชักเงียบลง จนอีนุทักว่า "เฮ้ย แดดออกแล้วเฉาเลยเหรอวะ" ก็อาจจะจริงอย่างที่นุมันว่า กอปรกับการนั่งบนมอเตอร์ไซค์มาเป็นเวลากว่าสองชั่วโมง มันเริ่มทำให้รู้สึกไม่ค่อยสบายก้นเท่าไหร่ เวลาที่พักเติมน้ำมันพวกเราจะรู้สึกดีใจเป็นพิเศษ เพราะจะได้พักยืดเส้นยืดสายและได้ปล่อยก้นให้เป็นอิสระ แต่ก็สบายอยู่ได้แค่แป๊บเดียว พอจะออกเดินทางต่อ ทุกคนต่างก็อิดออด ไม่ค่อยอยากขึ้นนั่งกันซักเท่าไหร่นัก  และในการพักเติมน้ำมันแต่ละครั้ง เราก็จะได้พบกับสายตาที่มองมาแปลก ๆ และคำถามซ้ำ ๆ กันทุกครั้งไป
    "จะไปไหนกันเหรอ" เด็กปั๊มถามเราด้วยอดสงสัยไม่ได้
    "ภูชี้ฟ้าครับ" พี่อาร์มทำหน้าที่เป็นโฆษกของคณะเดินทาง
    "แล้วมาจากไหนกันล่ะ"
    "เชียงใหม่ครับ"
    เมื่อได้รับคำตอบแล้ว เราเห็นแทบทุกคนทำหน้างง ๆ แล้วก็เดินไปหาพวกเพื่อซุบซิบ เค้าคงคิดว่าพวกเราเพี้ยนแน่ ๆ ที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์จากเชียงใหม่ไปภูชี้ฟ้า (อย่าว่าแต่เค้าเลย พวกเราเองก็เพิ่งมาสำนึกตัวหลังจากที่กลับมาอย่างปลอดภัยนั่นล่ะ)

    แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 49 18:29:53

    แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 49 18:28:48

    แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 49 17:25:59

    จากคุณ : เพลงกระบี่ใบไม้ร่วง - [ 6 พ.ค. 49 17:19:24 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป