วันนี้ผมมีเหตุต้องมาพบแพทย์เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี สาเหตุมาจากการใช้ปากจนได้เรื่อง อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าผมเป็นคนประเภทปากชอบหาเรื่องนะครับ เพราะจริงๆแล้วอาชีพของผมก็คือทนายความ เป็นอาชีพที่ต้องใช้ปากมากกว่าอวัยวะอย่างอื่น แล้วก็เพราะปากนี่แหละเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้ผมต้องระเห็จมาโรงพยาบาลศูนย์แห่งนี้ตั้งแต่ไก่โห่ ด้วยอาการไอเรื้อรังและเจ็บคอจนพูดแทบไม่ออก
อันที่จริง ผมเคยไปตรวจที่คลินิกมาแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ก็ไม่ดีขึ้น จะโทษหมอคงไม่ถูกนักเพราะผมผิดเองที่ไม่ยอมหยุดใช้ปากตามที่หมอสั่ง ยังดันทุรังไปว่าความต่ออีกหลายคดี ครั้นจะกลับไปพบหมอคนเดิมก็เกรงจะโดนด่า เลยตัดสินใจมาที่โรงพยาบาลศูนย์แห่งนี้แทน ซึ่งมีเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัยกว่า แม้ว่าจะต้องทนรอคิวนานหน่อยแต่ก็นับว่าคุ้ม เพราะหมอที่นี่ล้วนแล้วแต่เป็นอาจารย์หมอผู้เชี่ยวชาญ
ผมขับรถเก๋งคู่ชีพ ฝ่าคลื่นจราจรที่เริ่มหนาตา มาถึงโรงพยาบาลในเวลาเกือบเจ็ดนาฬิกาหลังจากเข้าแถวรับบัตรคิว ตรวจอาการเบื้องต้นยังศูนย์คัดกรองผู้ป่วยที่อยู่ชั้นล่างสุดของตึกสูงราวยี่สิบชั้นแล้ว ผมก็ถูกส่งตัวไปยังห้องตรวจเพื่อรอพบแพทย์
ห้องตรวจชั้นที่ 13 ผมอ่านบัตรคนไข้ในมือ เพื่อเป็นการทบทวน ก่อนเดินออกจากลิฟท์มาหยุดอยู่ที่หน้าห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ภายในมีห้องตรวจเล็กๆเรียงรายนับสิบห้อง มีคนไข้สองสามคนนั่งรออยู่ ด้านหน้ามีพยาบาลสาวนั่งหน้าหวานอยู่ที่เคาท์เตอร์ ผมรีบยื่นบัตรให้เธอ จากนั้นก็ไปนั่งรอ ไม่นานเธอก็เรียกผมไปซักประวัติ
ถือบัตรนี้ไปนั่งรอที่หน้าห้องตรวจหมายเลข 10 ที่อยู่ริมสุดนั่นเลยค่ะ พยาบาลคนเดิมยื่นบัตรสีขาวให้ผมปึกหนึ่ง ก่อนหันไปบันทึกข้อมูลในคอมพิวเตอร์ ผมพยักหน้าส่งยิ้มแทนคำขอบคุณ อยากจะพูดแต่พูดไม่ออก มันเจ็บเหมือนกับมีหนามเป็นกำขวางอยู่ที่ลำคอเลยทีเดียว
ผมเดินมาถึงหน้าห้องตรวจหมายเลข 10 ไม่ทันจะได้หย่อนก้นลงบนเก้าอี้ ก็มีเสียงเรียกดังมาจากข้างใน เป็นเสียงผู้หญิง ที่สำคัญหวานเสียด้วย
เชิญข้างในเลยค่ะ
ผมไม่รอช้า ผลักประตูที่แง้มอยู่แล้วเข้าไปข้างใน ภาพที่เห็นตรงหน้าคือหญิงสาวหน้าตาสวยหมดจดในชุดเสื้อกาวน์สีขาวคลุมเข่า นั่งรออยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์
ผมชักลังเล วันนี้ตั้งใจจะมาหาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่ดูจากหน้าตาแล้วคาดว่าเธอคงจะเป็นแพทย์จบใหม่เสียมากกว่า ผมเริ่มไม่มั่นใจ แต่พอเห็นรอยยิ้มของเธอ ผมก็ชักใจอ่อน หากคนไข้ทุกคนคิดอย่างผม ก็เหมือนกับไม่ให้โอกาสหมอมือใหม่อย่างเธอ แล้วอีกเมื่อไหร่จะมีหมอมืออาชีพเกิดขึ้นละ ขนาดผมเอง ตอนออกว่าความใหม่ๆ ยังต้องลองผิดลองถูกอยู่นานกว่าจะเป็นงาน ไม่เป็นไร อาการป่วยไข้ของผม คิดว่าคงไม่ได้ร้ายแรงนักหนา ไม่จำเป็นต้องอาจารย์หมอก็ได้
เชิญนั่งก่อนสิคะ น้ำเสียงของหวานปานระฆังแก้วของเธอ ทำเอาผมอึ้ง ตะลึงพรึงเพริด ออกอาการเขินไม่รู้ตัว ก่อนจะยื่นบัตรคนไข้ให้เธอ
ไม่ทราบว่าคุณชาติชายเป็นอะไรคะ เธอรับใบประวัติคนไข้ในมือผมไปเปิดอ่าน
เป็นทนายความครับ ผมเค้นเสียงอันแหบแห้งตอบไปโดยอัตโนมัติ
หมอหมายความว่า วันนี้คุณไม่สบาย เป็นอะไรต่างหาก เธอหัวเราะคิก เท่านั้นผมก็รู้สึกร้อนวาบไปทั้งหน้า ด้วยความอาย
เอ่อ..ไอแล้วก็เจ็บคอครับ
เป็นมากี่วันแล้วคะ เธอยิ้มให้ผม เริ่มต้นซักประวัติผมอย่างละเอียด
ก็
ตั้งแต่วันที่ผมไปว่าความคดีสุดท้ายนั่นแหละครับหมอ
ผมพยายามเปิดฉากอารัมภบทอย่างยากเย็น กำลังจะร่ายรายละเอียดต่อ เธอก็เงยหน้าขึ้นยิ้มแปลกๆ ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
วันที่อะไรจำได้มั้ยคะคุณลุง
คุณลุง ! ? ผมรู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้าไล่ขึ้นไปจนถึงศีรษะลงมาหาท้ายทอย พิโธ่..หมอนะหมอ..ปีนี้ผมเพิ่ง 38 เอง ส่วนผมที่มันเริ่มร่นลึกเข้าไปค่อนศีรษะก็เป็นเพราะใช้สมองคิดคดีความมากไปหน่อย อีกริ้วรอยตามใบหน้าในวันนี้ก็เป็นเพราะอาการเจ็บไข้ต่างหาก
วันที่ 15 ครับ
ฟันธง ผมเปล่งเสียงที่แหบแห้งออกไป ก่อนจะไอโขลกๆอีกชุดใหญ่
อืม
นอกจากไอ เจ็บคอแล้วมีอาการอะไรอีกมั้ยคะ เช่น ถ่ายเหลว หรือปวดหัวตัวร้อน นอนไม่หลับ
ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ เริ่มพูดไม่ไหวแล้ว
ขอหมอดูคอนิดนึงนะคะ..ไหนลองอ้าปากแล้วก็พูดตามหมอนะคะ
.อ้าาาาา
เธอยื่นหน้าเข้ามาใกล้ใช้ไฟฉายส่องเข้าไปในปาก พร้อมกับใช้แผ่นไม้แบนๆสอดเข้าไปกดโคนลิ้น กลิ่นกายหอมละมุนโชยมาปะทะจมูก มันหอมรัญจวนใจจนผมชักจะเคลิ้ม
คอแดงนิดหน่อยนะ
เดี๋ยวขอหมอฟังเสียงปอดหน่อยละกัน เธอพูดเสียงอ่อนหวาน ลุกขึ้นยืน หยิบหูฟังมาจิ้มตามเนื้อตัวจนจั๊กกะจี้ไปหมด
อืม..ปอดก็ปกติดี แล้วปกติชอบสูบบุหรี่มั้ยคะคุณลุง
ลุงอีกแล้ว ผมชักเริ่มหงุดหงิด แต่พอสบสายตาหวานฉ่ำภายใต้กรอบแว่นสีชมพูคู่นั้น ใจผมก็เริ่มอ่อน
เอ้า
ลุงก็ลุง
เปล่าครับหมอ
เธอโคลงศรีษะรับ กลับไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม จดรายละเอียดต่างๆลงในกระดาษแผ่นเดิม ซึ่งผมอ่านไม่ออกหรอก ส่วนใหญ่มันจะเป็นภาษาอังกฤษ แถมลายมือของเธอยังหวัดยิ่งกว่าลายเซ็นต์ยุ่งๆที่ผมเคยเห็นเสียอีก
รู้สึกน้ำหนักตัวจะมากไปนิดนะคะ ไม่ทราบว่าออกกำลังกายบ้างมั้ยเอ่ย
ผมยิ้มแหยๆแทนคำตอบ หลายปีมานี้ผมกับฟิตเนสแทบจะไม่ได้เจอะเจอกันเลยทีเดียว เพราะงานที่รัดตัว ทำให้ผมแทบหาเวลาปลีกตัวไปออกกำลังกายไม่ได้ จากหุ่นที่ทั้งฟิตและเฟิร์มจนสาวๆเหลียวหลัง บัดนี้มีไขมันก้อนโตขึ้นเป็นลอนอยู่รอบเอวและต้นขา
คนเราพออายุมากขึ้น หากไม่ออกกำลังก็จะไม่ค่อยมีภูมิต้านทานจึงมักเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น จากที่หมอดูอาการของคุณลุง เอ๊ย คุณชาติชายแล้ว สาเหตุหลักคงมาจากการใช้เสียงมากไปหน่อย ประจวบกับช่วงนี้อยู่ในช่วงอากาศเปลี่ยน เลยไปกันใหญ่ เดี๋ยวหมอจะจัดยาให้ไปกินที่บ้าน หมั่นทานน้ำอุ่น แล้วก็พักผ่อนให้มาก ลดการใช้เสียงสัก 1-2 สัปดาห์ ก็คงจะหายเป็นปกติค่ะ
เธอจดรายละเอียดลงในใบสั่งยาก่อนยื่นให้ผม
เอาใบสั่งยานี้ไปยื่นที่ห้องเบอร์ 3 ชั้น 1 เพื่อชำระเงินแล้วไปรอรับยาที่ห้องเบอร์ 19 นะคะ
ผมลุกขึ้นยืน ยกมือไหว้ขอบคุณ พลางชำเลืองมองป้ายชื่อที่อกเสื้อของเธอ ก่อนจะเปิดประตูเดินออกมายังนอกห้อง ซึ่งขณะนี้มีคนไข้นั่งรออยู่หลายคน ผมรีบจ้ำพรวดๆเข้าไปในลิฟท์ มุ่งหน้าลงมายังห้องจ่ายยาที่อยู่ชั้น 1 ทันที
* * * * *
คุณยังไม่ผ่านการตรวจนี่คะ คำพูดของเจ้าหน้าที่หน้าห้องจ่ายยา ทำเอาผมแปลกใจ
ตรวจแล้วนี่ครับ
ผมยืนยันด้วยเสียงอันแหบพร่า
แต่ไม่มีข้อมูลการสั่งยาจากเครื่องคอมพิวเตอร์เลยนี่คะ ที่นี่เราใช้ระบบการสั่งยาแบบออนไลน์ จะปรากฏชื่อแพทย์และชื่อยาที่สั่งมาพร้อมกัน อีกอย่างแพทย์ของที่นี่จะลงตรวจคนไข้ประมาณเก้าโมงกว่าๆ แต่นี่เพิ่งจะแปดโมงเอง เข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่าคะ เธอยังคงยืนกรานด้วยสีหน้ามั่นใจ
เฮ้ย..ผมตรวจเป็นคนแรกเลยนะครับ ผมเถียง ลืมอาการเจ็บคอไปชั่วขณะ
ที่ห้องไหนคะ
ก็ห้องตรวจชั้นที่ 13 กับหมออะไรนะ
อ้อ
นึกออกแล้วเธอชื่อวันวิสาข์ ครับ สงสัยจะเป็นหมอเอ็กส์เทิร์น ผมอวดภูมิรู้ แหงละ ทนายความมืออาชีพอย่างผมมีหรือจะไม่ทราบเรื่องพวกนี้
อีกรายแล้วหรือนี่ ..เฮ้อ
สีหน้าของเจ้าหน้าที่สาวเปลี่ยนเป็นเครียดขึ้นทันตาเห็น จนผมชักใจคอไม่ดี ผมพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า
ดิฉันต้องขอโทษแทนทางโรงพยาบาลด้วยนะคะ เธอสบตาผม พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ยกมือขึ้นไหว้ สีหน้ามีแววกังวล จนผมชักแปลกใจ
วันวิสาข์เคยเป็นนักศึกษาแพทย์ของที่นี่ จู่ๆเธอก็เกิดอาการทางประสาท จนไม่สามารถเรียนต่อได้ ทางมหาวิทยาลัยจึงจำเป็นต้องรีไทน์เธอออกไปขณะที่เธอกำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 6 เอ่อ
เธอไม่ใช่หมอหรอกค่ะ เธอเป็นคนไข้ของที่นี่มาเกือบสองปีแล้ว
.
ผมอ้าปากค้าง เรียงลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย แทบจะไม่อยากเชื่อหูตัวเองด้วยซ้ำ
ห้องตรวจหมายเลข 10 ใช่ไหมคะ เธอหันมาถามผมซึ่งยืนจังงังอยู่ในท่าเดิม
ครับ ผมครางน้ำเสียงเหมือนคนจะร้องไห้
ว่าแล้วเชียว เธอมักจะแอบไปตรวจคนไข้ที่ห้องนั้นเสมอแหละค่ะ เพราะห้องนั้นคือห้องที่เธอใช้ฝึกงานในฐานะแพทย์ฝึกหัดก่อนที่เธอจะป่วย
อย่าโกรธเธอเลยนะคะ
เธอคงไม่ได้ทำให้คุณเสียเวลามากนัก ยังไงรบกวนคุณชาติชายไปรับบัตรคิวแล้วยื่นตามลำดับขั้นตอนใหม่อีกครั้งก็แล้วกันนะคะ
* * * * *
จากคุณ :
กีรติมา
- [
6 พ.ค. 49 18:31:46
A:203.150.86.80 X:
]